ตอนที่ 207-208
ตอนที่ 207 : โชค
เหยาซือหยานถอดหมวกออกก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก
รอยยิ้มบางปรากฏที่ใบหน้างดงาม
“เถ้าแก่กล่าวได้ถูกต้องยิ่งนัก”
นางรับรู้ถึงการฝึกฝนตนเองที่เพิ่มขึ้น ขณะนี้อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออก
“ข้ากล่าวอะไรหรือ?” เสียงดังขึ้นจากทางด้านข้าง
เหยาซือหยานตกใจ
พบเห็นผู้พูดกล่าว นางค่อยถอนหายใจโล่งอก
ด้วยเพราะอะไรไม่ทราบ ลั่วฉวนเข้ามานั่งใกล้กับเหยาซือหยาน
เหยาซือหยานมองทางลั่วฉวน
ลั่วฉวนอดไม่ได้ที่จะนิ่งงันไปเพราะความรู้สึกแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นชั่วครู่
“ข้าหมายความถึงโหมดทั่วไป มันถึงกับทำให้ข้าเพิ่มพูนกำลังได้ไม่ใช่น้อยเลย”
นางคล้ายพึงพอใจต่อการตอบกลับของลั่วฉวน อารมณ์ขณะนี้จึงอารมณ์ดีขนาดเผยยิ้มออก
“โอ้?” เมื่อนึกย้อนการกระทำ ลั่วฉวนกระแอมไอแก้เขินก่อนจะกล่าว “แล้วได้อะไรมา?”
แม้เหยาซือหยานเป็นเสมียนประจำร้าน แต่ลั่วฉวนเชื่อว่าตัวเขาไม่มีทางสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้แก่นางได้เพราะตัวตนของเขาเอง
ขณะนี้เป็นเถียงเถ้าแก่ที่อีกฝ่ายเคารพ
ความเชื่อใจไม่ใช่สิ่งที่สร้างได้ง่าย!
“ภูมิต้านทานพิษ พลังจิตเพิ่มขึ้น และเพิ่มความเร็ว ความอดทน กำลังกาย และทักษะอื่นอีกหลายอย่างที่เพิ่มขึ้น”
เหยาซือหยานอ้าริมฝีปากแดงของนาง ก่อนจะเริ่มบอกกล่าวถึงรางวัลที่ได้รับจากโหมดทั่วไป
รับฟังคำตอบของเหยาซือหยาน หางตาลั่วฉวนต้องกระตุกเล็กน้อย
เพียงไม่กี่ชั่วโมง นางถึงกับได้รับรางวัลมากมาย
หากเป็นผู้อื่นจะได้มากมายเช่นนี้หรือไม่?
ด้วยเหตุผลใดไม่ทราบ ลั่วฉวนพลันนึกถึงตนเองที่ได้รับโอกาสสุ่มโชค
เป็นไปได้ว่านางคือผู้โชคดีมากล้น?
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ยากนำมาเปรียบเทียบต่อกันได้
ลั่วฉวนเกิดแผนการขึ้นภายใน เป็นไปได้ว่าเขาจะให้เหยาซือหยานเป็นผู้ทำการสุ่มโชคที่ระบบมอบให้ภายหน้า?
เรื่องราวที่ไม่อาจมองเห็นเช่นนี้ เชื่อหรือไม่นั้นมีแต่ต้องทดลองดู
ขณะลั่วฉวนคิดอยู่ภายในใจ เสียงระบบพลันดังขึ้น
“ขอย้ำเตือนเจ้าของร้าน ระบบสุ่มโชคทำงานได้โดยเจ้าของร้านเท่านั้น ไม่สามารถให้ผู้อื่นกระทำแทนได้!”
ลั่วฉวนลอบกลอกตาพลางบ่นต่อระบบที่อ่านใจตนเอง “เข้าใจแล้วน่า”
ตอบกลับสิ้นคำ ระบบก็เงียบหาย
“เถ้าแก่ เป็นอะไรไปแล้ว?”
แม้สีหน้าลั่วฉวนยังเรียบเฉยเหมือนเช่นเคย ทว่าเหยาซือหยานตระหนักทราบได้ถึงอารมณ์ภายในที่แปรเปลี่ยน ขณะนี้จึงกล่าวถามด้วยความกังวล
“ไม่มีอะไร” ลั่วฉวนส่ายศีรษะ “เพียงคิดเรื่องที่ไม่ค่อยน่ายินดีเท่าใดนัก”
กลายเป็นว่าโลกใบนี้ถึงกับมีเรื่องร้ายแรง!
ร้ายแรงขนาดทำเถ้าแก่ไม่ยินดีได้!
ลั่วฉวนรับรู้ได้ถึงความคิดในใจเหยาซือหยาน
ในช่วงเวลาปกติ น้อยครั้งนักที่จะเห็นเถ้าแก่มีอารมณ์แปรเปลี่ยน! เหยาซือหยานคิดเช่นนี้อยู่ภายใน
“อย่างนั้นข้าขอตัวไปทำอาหาร!”
เหยาซือหยานกล่าวคำจบจึงพุ่งตัวขึ้นชั้นที่สอง
เหยาซือหยานจดจำถ้อยคำหนึ่ง่ได้ อาหารคือวิธีการทำให้ผู้คนมีความสุข
เห็นแผ่นหลังเหยาซือหยานหายเข้าครัว ลั่วฉวนจึงมองตามอย่างเหม่อลอย
หลังเล่นเกมเสร็จ เหยาซือหยานก็เตรียมมื้อเย็นไว้เรียบร้อยแล้ว
มื้อเย็นอร่อยเหมือนเช่นเคย เป็นนางพยายามทำอย่างสุดฝีมือ
แน่นอนว่าเหล่านี้เป็นผลจากวัตถุดิบที่ระบบมอบมาให้ด้วย
ลั่วฉวนค่อยมีความประทับใจต่อระบบเพิ่มขึ้นราวหนึ่งในสิบ
เสร็จสิ้นมื้อเย็น ทั้งสองจึงไปเล่นเกมเพื่อฆ่าเวลาประจำวัน
ถัดจากนั้นจึงชำระกายก่อนจะแยกย้ายกลับห้องนอน
เวลาหนึ่งวันก็เรียบง่ายและอิ่มเอมเช่นนี้
ตอนที่ 208 : ปรุงยา
ด้วยฐานะศิษย์ของหุบเขาโอสถ เหว่ยอี้จึงพักอาศัยในตำหนักหมื่นโอสถตั้งแต่มาเยือนนครจิ่วเหยา
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะตำหนักหมื่นโอสถคือผู้อยู่ภายใต้หุบเขาโอสถ อีกทั้งความเป็นอยู่ที่นี่ยังดีชนิดโรงเตี๊ยมทั่วไปไม่อาจเทียบได้
อย่างไรแล้วหากคิดอยากเปิดร้านเม็ดยาหรือโอสถ รวมถึงอุปกรณ์หลากหลายจำนวนมาก และยังมีค่ายอาคม เหล่านี้ล้วนถูกจัดจำหน่ายโดยตำหนักหมื่นโอสถ
ค่ายอาคมที่นี่สามารถเก็บงำออร่าไว้ไม่ให้หลุดรั่วออกไปได้ มันส่งผลดีต่อการสกัดเม็ดยา
และเหว่ยอี้ก็คือนักปรุงยา
เพื่อเสริมความสามารถสกัดเม็ดยา เขาไม่เคยหย่อนยาน แต่เป็นฝึกฝนอย่างไม่คิดพลาดทุกโอกาสความเป็นไปได้
เหว่ยอี้ขณะนี้สะดวกสบาย ทว่าเจ้าของตำหนักหมื่นโอสถไม่ใช่ดีเท่าใดนัก
เขารู้สึกว่าตนเองกลายเป็นรอง
เถ้าแก่แห่งตำหนักหมื่นโอสถคาดหวังทุกเมื่อชั่วขณะให้เหว่ยอี้เดินทางกลับ
อย่างไรแล้วคิดขับไล่นั้นทำไม่ได้ สถานะของทั้งสองแตกต่างกันเกินไป
สิ่งสำคัญยิ่งไปกว่านั้นที่เถ้าแก่กังวล คือเรื่องที่เขาก่อไว้อาจถูกเปิดโปง เช่นนั้นเขาอาจต้องแบกรับความผิด
……
เหว่ยอี้ขณะนี้อารมณ์ดี เพียงคิดถึงวิญญาณอัคคีที่ตนได้รับมาก็ทำเขาแทบอดใจไม่ไหวที่จะทดสอบว่าควบคุมอัคคีเพลิงได้ดีขึ้นเพียงใด
ดังนั้นตลอดทางกลับ เหว่ยอี้จึงเผยยิ้มแย้มเปื้อนใบหน้า
“จงลุกโชน!”
“จงลุกโชน!”
……
เมื่อเหว่ยอี้กลับมาถึงตำหนักหมื่นโอสถ พนักงานภายในร้านจึงกล่าวต้อนรับด้วยความนอบน้อม
“ไม่เป็นไร” เหว่ยอี้พยักหน้ารับ
หากเป็นตามปกติ เขาคงไม่คิดใส่ใจพนักงานตัวจ้อยเหล่านี้ด้วยซ้ำ
กระนั้นวันนี้ไม่ใช่ เพราะเขาอารมณ์ดีมาก
“เถ้าแก่อยู่ที่ใดกัน?” เหว่ยอี้หันมองรอบตำหนักหมื่นโอสถ ขณะนี้ตะโกนถามเพราะไม่พบเห็นร่างที่คุ้นเคย
“ทางนี้!” เสียงหนึ่งดังขึ้น
ถัดจากนั้นร่างจึงปรากฏออกจากห้องด้วยท่าทีแตกตื่น กระทั่งว่าเดินเตะโต๊ะจนเกิดเสียงของล้ม
“นายท่านต้องการพบข้าหรือ?”
เถ้าแก่อดกลั้นความเจ็บปวด ขณะนี้หยุดยืนตรงหน้าเหว่ยอี้กล่าวถามด้วยความระมัดระวัง
เหว่ยอี้มองที่เถ้าแก่ด้วยความสับสน คล้ายว่าครั้งนี้เขาจะเป็นต้นเหตุจึงทำให้เกิดความรู้สึกผิดเล็กน้อย
กระนั้นเหว่ยอี้ไม่คิดเก็บมาใส่ใจ “ขอห้องให้ข้า! ข้าคิดสกัดเม็ดยา!”
“รับทราบขอรับ! นายท่านรอประเดี๋ยว!”
เถ้าแก่ถอนหายใจโล่งอกอยู่ภายในพร้อมรับคำวนซ้ำ
……
ห้องใต้ดิน
ที่ตรงกลางห้องคือหม้อปรุงยาทองแดงสูงราวตัวคน บรรยากาศที่นี่ดูมีมนต์ขลัง
เบื้องใต้หม้อปรุงยา มันมีอัคคีเพลิงสีน้ำเงินดูไม่ทราบว่าร้อนหรือเย็นลุกโชนอยู่
อัคคีเพลิงนี้เป็นอัคคีต้นกำเนิดของเหว่ยอี้ อัคคีห้วงสมุทรน้ำแข็ง
อุณหภูมิของมันสามารถแปรเปลี่ยนได้โดยใช้พลังจิตควบคุม กระทั่งว่าสามารถแช่แข็งสรรพสิ่งได้!
ขณะนี้ด้วยอัคคีห้วงสมุทรน้ำแข็งที่ร้อนแรง มันเป็นผลให้ก้นหม้อปรุงยาต้องแดงร้อน
ที่บนผนังโดยรอบ มันมีแสงสว่างเจือจางปรากฏ เป็นค่ายอาคม!
ผลลัพธ์ของค่ายอาคมนี้คือการสกัดพลังวิญญาณไม่ให้หลุดรั่ว!
เหว่ยอี้ยืนเคียงข้างหม้อปรุงยาด้วยสมาธิมั่นคง ขณะนี้เขากำลังควบคุมอุณหภูมิของอัคคีห้วงสมุทรน้ำแข็ง
หากคิดอยากสกัดปรุงยาให้สำเร็จ เช่นนั้นก็ต้องเชี่ยวชาญการควบคุมอุณหภูมิสำหรับแต่ละตัวยา นั่นคือการใช้พลังจิตอย่างมหาศาลและต้องแม่นยำ!
ตัวยาสารพัดชนิดได้ถูกโยนใส่หม้อปรุงยา ไม่ช้าพวกมันจึงเริ่มกลายเป็นยาเหลว กลิ่นหอมขณะนี้ฟุ้งกระจายในอากาศ
ผ่านไปครู่หนึ่งเหว่ยอี้ค่อยเผยดวงตาแน่วแน่พร้อมตบเข้าที่หม้อปรุงยาอย่างแรง
ตึง!
เสียงดังขึ้น หม้อปรุงยาสะท้านอย่างรุนแรง