ตอนที่แล้วตอนที่ 127 สำนักงานขี้งก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 129 คุณลูกค้าแน่ใจหรอครับ

ตอนที่ 128 ตำแหน่งใหม่


เหนือภพคว้าเอกสารมาอ่านรายละเอียดทุกข้ออย่างตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นเวลาทำงาน วันหยุด หรือลักษณะตำแหน่งงานที่เขาได้รับ เขาล้วนไม่มีปัญหา ยกเว้นเพียงข้อเดียวเท่านั้น

“แบบนี้ข้าว่าเอาเปรียบกันเกินไปหรือเปล่า เวลาทำงานคิดเป็นชั่วโมงละ 10 เหรียญทองแดง ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้รับเงิน ส่วนข้อบังคับที่ว่าต้องทำงานภายในสำนักงาน 4 ชั่วโมงต่อวัน อันนี้ข้าไม่ถือว่าเป็นปัญหา  แต่ที่ระบุว่าในแต่ละวันต้องจัดการภารกิจแรงค์ F 1 ภารกิจ ทุกเดือนต้องจัดการภารกิจแรงค์ E อย่างน้อย 10 ภารกิจและภารกิจแรงค์ D อีก 1 ภารกิจ ที่จริงมันก็ไม่ยากหรอก แต่จะให้ข้าทำโดยไม่ได้รับเงินค่าจ้าง ข้ารับไม่ได้ ให้ข้าไปทำงานร้านอาหารยังดีกว่าอีก”

เหนือภพถอนหายใจหลังจากพูดเสียยืดยาว จากนั้นเขาก็เลื่อนเอกสารกลับไปให้บงกต เมื่อเหนือภพเห็นบงกตจ้องเขม็ง เขาก็ยกมือกอดอกแหงนหน้ามองเพดานไปเสีย

“มันอาจจะดูไม่ยุติธรรมกับเจ้า แต่ว่ามันต้องมีคนอย่างพวกเราคอยจัดการภารกิจของผู้ยากไร้ เพราะยังมีคนอีกมากที่ประสบปัญหาต่าง ๆ นานา แต่ไม่มีเงินว่าจ้าง ดังนั้นข้าหวังว่าเจ้าจะเป็นฮันเตอร์ที่มีจิตใจสาธารณะ”

“อ้อ ข้าเป็นคนเห็นแก่ตัวน่ะ”

เหนือภพปฏิเสธทันควัน

“งั้นก็ตามใจเจ้า วารีเอาเงินนี่ไปเก็บที”

“ค่ะ”

เจ้าหน้าที่หญิงเดินเข้ามาหมายเก็บถุงเงินรางวัลภารกิจของเหนือภพ แม้มันจะไม่ใช่เงินมากมายอะไรนัก แต่ถึงอย่างไรเงินก็คือเงิน

“เดี๋ยว !”

เหนือภพรีบคว้าหมับไปที่ถุงเงิน แล้วก็มองไปทางบงกตอย่างไม่พอใจ

“เงินนี่ไม่เกี่ยวกันสิ อย่าโมเม รางวัลของข้าก็คือของข้า”

“หึ หึ”

บงกตเห็นท่าทางงกเงินเช่นนั้น เขาก็มั่นใจว่าสิ่งที่ได้ยินมาเกี่ยวกับเหนือภพนั้นถูกต้องแล้ว เจ้านี่มันงกเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด จะว่าเป็นจุดเด่นมันก็เด่นอยู่ แต่หากมองเป็นจุดด้อย มันก็เป็นจุดด้อยที่สามารถลากเหนือภพลงนรกได้ง่ายอย่างน่าเหลือเชื่อ

บงกตยิ้มมุมปาก ก่อนจะพูดช้า ๆ ด้วยเสียงปลอมประโลม

“ช้าก่อน ข้าลืมบอกเจ้าเกี่ยวกับสวัสดิการของเจ้าหน้าที่แผนกเฉพาะกิจที่ไม่ได้ระบุอยู่ในเอกสาร หากเจ้ารู้ เจ้าอาจจะเปลี่ยนใจ”

เหนือภพยื่นหน้าเข้ามามองอย่างตั้งใจ เมื่อเห็นว่าเหนือภพไม่คัดค้านอะไรบงกตก็พูดต่อ

“หากเจ้ามีตราสัญลักษณ์เจ้าหน้าที่แผนกเฉพาะกิจเจ้าจะได้รับสวัสดิการรักษาตัวฟรีตลอดการทำงาน ไม่ว่าเจ้าจะได้รับบาดเจ็บอยู่ที่เมืองไหน แคว้นไหน ไม่ว่าจะไกลแสนไกลเพียงใด ค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดสำนักงานฮันเตอร์จะเป็นผู้รับผิดชอบเอง นอกเหนือจากนั้นเจ้ายังจะได้รับเบี้ยเลี้ยงรายวันเป็นค่าอาหารรวมกับค่าที่พักวันได้ละ 1 เหรียญเงิน อะ อะ ช้าก่อน เจ้าอาจจะคิดว่ามันเป็นเงินจำนวนน้อยนิด แต่อย่าลืมว่าเจ้าจะได้รับเบี้ยเลี้ยงทุกวันไม่เว้นแม้แต่วันหยุด”

บงกตหยุดพักหายใจ พลางสังเกตท่าทีของเหนือภพ เมื่อเห็นว่าเหนือภพเหมือนจะมีท่าทางลังเล เขาก็รีบพูดต่อทันที ก่อนที่เหนือภพจะมีเวลาได้คิด

“ช้าก่อน ถึงเจ้าจะมารับตำแหน่งนี้ แต่เจ้าก็ยังสามารถอยู่ในสังกัดบ้านฮันเตอร์ข้างนอก และสามารถรับงานในนามเอกชนได้ตามปกติ แถมเจ้ายังจะได้รับสิทธิ์ให้เลือกสัตว์พาหนะประจำตำแหน่งได้หนึ่งตัว และเจ้าไม่ต้องกลัวการผูกมัดใดใด ในเอกสารระบุสัญญาจ้างงานแค่หนึ่งปี หลังจากครบหนึ่งปีไปแล้วเจ้าก็จะเป็นอิสระ สามารถเลือกได้ว่าจะทำงานกับเราต่อหรือไม่ เป็นไง ข้อเสนอนี้ดีเยี่ยมเลยใช่มั๊ยล่ะ”

เหนือภพมองหน้าบงกตอย่างลังเล ในขณะที่บงกตนั้นจ้องตาเหนือภพอย่างไม่วางตา ราวกับว่าเขากำลังเพ่งพลังสะกดจิตเหนือภพอยู่ จากนั้นบงกตก็พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำลง มันช่างแผ่วเบาชวนให้ตกอยู่ในภวังค์

“เงินไม่มาก แต่รายได้มั่นคง สามารถเก็บออมไปได้เรื่อย ๆ ไม่มีวันหมด งานดี รายได้มั่นคง ลดรายจ่ายแบบนี้หายากนะ เซ็นเลยตรงนี้ เหนือภพ เซ็นตรงนี้”

เหนือภพตาลอยขณะเซ็นชื่อลงบนกระดาษ เขาไม่ได้ถูกพลังอะไรครอบงำทั้งนั้น นอกจากคำที่ก้องวนไปวนมาในหัวของเขา

‘งานดี รายได้มั่นคง ลดรายจ่าย’

ไม่รู้ว่าในสามคำนี้ คำไหนที่โดนใจเหนือภพมากที่สุด เหนือภพรู้ตัวอีกที เขาก็ได้ยินประโยคแสดงความยินดีจากเหล่าเจ้าหน้าที่ ที่รู้สึกจะดีอกดีใจกันเป็นพิเศษ

จากนั้นเหนือภพก็เดินตามบงกตไปตามเส้นทางภายในสำนักงานที่สงวนสิทธิ์เพียงเจ้าหน้าที่เท่านั้น

“เอาล่ะ ในเมื่อเจ้าตัดสินใจทำงานในตำแหน่งนี้ เราก็จะมาพูดถึงหน้าที่หลัก ๆ ของหน่วยเฉพาะกิจเป็นอันดับแรก งานของหน่วยเฉพาะกิจ เราจะเน้นทำงานเป็นทีมและภารกิจที่รับทำส่วนใหญ่จะเป็นภารกิจที่มีความยุ่งยาก ส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์อสูรระดับสูงที่จัดการได้ยาก ส่วนภารกิจอย่างอื่นที่เกินกว่ากำลังของพวกเราจะทำได้ ก็ต้องโอนให้หน่วยงานของราชสำนักเป็นคนจัดการ ส่วนใหญ่จะเป็นภารกิจที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย คดีความ หรือเกี่ยวกับความมั่นคงของแผ่นดินโดยตรง และยังมีอีกหลาย ๆ อย่าง เดี๋ยวข้าจะค่อย ๆ อธิบายให้เจ้าฟังอย่างละเอียด”

“อืม”

“เจ้าเห็นห้องข้างหน้านั่นหรือเปล่า”

เหนือภพพยักหน้า

“ตรงนั้นเป็นแผนกอุปกรณ์ภาคสนาม ทุกครั้งที่เจ้าจะออกไปทำภารกิจ เจ้าสามารถมาแจ้งรับอุปกรณ์ยังชีพและเป้สนามที่มีอุปกรณ์เครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับภารกิจนั้น ๆ คนจากแผนกอุปกรณ์จะจัดการให้เจ้าเอง เจ้าแค่แจ้งชื่อภารกิจแล้วก็เซ็นชื่อรับของ”

“นี่คือเจ้าหน้าที่ษา  เป็นผู้ดูแลแผนกอุปกรณ์ภาคสนาม”

บงกตแนะนำหญิงสาวในชุดเจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่ข้างหลังบานกระจกให้เหนือภพรู้จัก แผนกนี้จะมีลักษณะแตกต่างจากแผนกอื่นคือ ที่นี่จะไม่มีประตูทางเข้า เจ้าหน้าที่แผนกอื่นจะไม่สามารถเข้าไปในห้องแผนกอุปกรณ์ภาคสนามได้เลย ด้านหน้าแผนกเป็นกำแพงหินอ่อนสีขาวเรียบและทึบตลอดแนว มีเพียงช่องหน้าต่างกระจกใสขนาดประมาณ 1 ตารางเมตรเท่านั้น และนี่ก็เป็นช่องเดียวที่คนนอกแผนกสามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่แผนกอุปกรณ์ภาคสนามได้

“สวัสดีครับพี่คนสวย ผมพิภพครับ”

เหนือภพยังคงแสร้งเป็นพิภพอยู่ หากมีคนที่ยังไม่รู้ความจริง เขาก็คาดหวังจะให้พวกนั้นเข้าใจผิดกันต่อไป

“อ๋อ เป็นเจ้านี่เอง เหนือภพ”

ษายิ้มกว้าง ทำให้เหนือภพยิ้มแห้ง ๆ ไม่คิดว่าจะมีคนรู้จักตัวตนจริง ๆ ของเขาอยู่

“ษา ขอเบิกชุดเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานระดับหนึ่งให้เหนือภพชุดหนึ่ง”

บงกตพูดขัดก่อนที่การสนทนาจะไปไกลกว่านี้ เหนือภพต้องมาทำงานประจำสำนักงาน ดังนั้นเขาจึงต้องใส่เครื่องแบบของเจ้าหน้าที่สำนักงานให้เรียบร้อย ดูดี และสวยงาม ซึ่งเหนือภพถูกนับเป็นเจ้าหน้าที่ระดับล่างสุด ส่วนบงกตที่เป็นหัวหน้าแผนกวิเคราะห์และจัดสรรภารกิจ ซึ่งเป็นระดับหัวหน้าแผนกถึงจะได้เลื่อนขั้นเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสอง

“ได้ค่ะ”

ษารับคำก่อนจะก้มลงไปใต้โต๊ะตัวยาวของเธอ แล้วหยิบเอาเสื้อผ้าขึ้นมาให้เหนือภพหนึ่งชุด

“เซ็นชื่อตรงนี้จ่ะ นี่เหนือภพ หากมีเรื่องอะไร หรือต้องการความช่วยเหลือก็บอกพี่ได้เลยนะจ๊ะ”

ษาขยิบตาให้เหนือภพหนึ่งครั้ง แม้ษาจะเป็นสาวโสดที่อายุย่างเข้าเลขสามไปแล้ว ซึ่งนับเป็นช่างอายุที่เลยวัยแต่งงานไปไกลโข แต่เธอยังคงความสวย และรูปอวบอั๋นได้อย่างคงเส้นคงวา นับว่ามีเสน่ห์ดึงดูดต่อเพศตรงข้ามไม่น้อย

“ครับ”

เหนือภพยิ้มตอบอย่างเต็มใจ เขาคิดว่าการผูกมิตรไว้มาก ๆ ก็น่าจะดี เผื่อเวลาที่เขามาขอเบิกอุปกรณ์จากเธอ เธอจะได้จัดของดี ๆ มาให้เขาใช้ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ บงกตก็ลากเหนือภพจากไปด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์นัก

“อะไรของท่าน หวงนางรึไง นางไม่ใช่เมียท่านสักหน่อย”

“เอาล่ะ อย่าพูดมาก ข้าไม่ได้มีเวลามากขนาดนั้น ต่อไปเป็นเรื่องของสวัสดิการ แต่ส่วนใหญ่ข้าก็อธิบายไปแล้ว ยังงั้นข้าจะพาเจ้าไปเลือกสัตว์อสูรประจำตำแหน่งก็แล้วกัน”

เหนือภพพยักหน้าอย่างว่าง่าย จากนั้นพวกเขาทั้งสองก็มาถึงแผนกปศุสัตว์และพาหนะของสำนักงานฮันเตอร์ แผนกที่เชี่ยวชาญเรื่องสัตว์อสูรประเภทใช้งานเป็นพิเศษ

ที่นี่เป็นแผนกเพาะเลี้ยงและฝึกฝนสัตว์อสูรที่สามารถใช้งานและช่วยทำภารกิจบางภารกิจที่จำเป็นต้องใช้สัตว์อสูร อย่างเช่นม้าอสูรสำหรับเดินทางไกล ช้างอสูรสำหรับขนสินค้า อีกทั้งยังมีสัตว์อสูรที่สนับสนุนในด้านอื่น ๆ อีก เช่นการต่อสู้ การสอดแนม และการค้นหา แม้แผนกนี้จะเป็นแผนกฝ่ายในของสำนักงานฮันเตอร์ ที่ใช้แจกจ่ายสัตว์อสูรให้เจ้าหน้าที่ แต่ก็นับว่าแผนกนี้ค่อนข้างเป็นสาธารณะ เพราะประชาชนและฮันเตอร์อิสระทั่วไปสามารถเข้ามาเลือกซื้อหาสัตว์อสูรประเภทใช้งานจากแผนกนี้ได้โดยตรง หากจะพูดกันอย่างตรงไปตรงมา แผนกนี้ก็นับว่าเป็นแผนกที่สร้างรายได้ให้สำนักงานได้อย่างดีเลยทีเดียว

เหนือภพยืนมองแผนกปศุสัตว์และพาหนะอย่างประหลาดใจ เขาไม่เคยเข้ามาในนี้มาก่อน เพราะเขาไม่เคยสนใจจะเสียเงินซื้อสัตว์อสูรประเภทใช้งาน แผนกนี้ตั้งอยู่ข้างหลังสำนักงานฮันเตอร์ด้านที่ติดกับทุ่งนากว้าง และมีบรรยากาศคล้ายกับฟาร์มปศุสัตว์ ที่มีทั้งโรงนา อาคารสูง อาคารชั้นเดียว คอกสัตว์ในอาคารและกลางแจ้ง สระน้ำขนาดใหญ่ แถมยังมีไร่ปลูกพืชสุดลูกหูลูกตา พืชพวกนี้ที่น่าจะเอาไว้ใช้ทำเป็นอาหารสัตว์

บรรยากาศของแผนกนี้ค่อนข้างครึกครื้น มีทั้งเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน ประชาชนทั่วไป และฮันเตอร์อิสระหน้าละอ่อนหลายคนเข้ามาเยี่ยมชมเลือกสรรสัตว์อสูร เท่าที่เหนือภพสังเกตดู ที่นี่จะไม่มีฮันเตอร์ยอดฝีมือหรือฮันเตอร์มากประสบการณ์มาปรากฏตัวอยู่เลย อาจเป็นเพราะพวกเขาเก่งกาจจนถึงขั้นที่ไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อสัตว์อสูรมาช่วยเหลืออีกแล้ว

“เจ้ามีสิทธิ์เลือกสัตว์อสูรได้หนึ่งตัว เอาไว้เป็นสัตว์เลี้ยงประจำตำแหน่งเพื่อความสะดวกในการทำงานที่หลากหลายมากขึ้น แต่เจ้าไม่จำเป็นต้องเลือกในวันนี้ เอาไว้ว่าง ๆ เจ้าค่อยมาเลือกเอง ข้าขอแนะนำให้เจ้าเลือกสัตว์อสูรที่สามารถชดเชยจุดด้อยของเจ้าได้ นั่นจะเป็นการดีที่สุด”

บงกตพูดกับเหนือภพเสร็จ ก็ชี้ไปที่ชายวัยกลางคนที่กำลังป้อนหญ้าให้สัตว์อสูรในระยะไกล

“นั่นคือเจ้าหน้าที่ยศ เป็นคนดูแลที่นี่ เจ้าก็มาติดต่อเขาละกัน เอาล่ะ ตามข้ามา เดี๋ยวข้าจะพาไปที่แผนกสุดท้ายที่เป็นประโยชน์ต่อหน้าที่การงานของเจ้า”

จากนั้นบงกตก็พาเหนือภพเดินลัดเลาะลึกเข้ามาด้านในอาคารหลักของสำนักงาน ตรงกลางสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่นี้มีลานกว้างตั้งอยู่ ลานในอาคารนี้มีลักษณะคล้ายโถงโล่งสูงทะลุไปจนถึงหลังคาครอบแก้วใส ที่ปล่อยให้แสงสว่างจากภายนอกสาดส่องเข้ามาได้ เหนือภพภพมองเห็นเจ้าหน้าที่หลายคนกำลังฝึกวิชากันอยู่ในพื้นที่ลานหลายคน นอกจากนี้เหนือภพยังเห็นฮันเตอร์อิสระหลาย ๆ คนได้เข้ามาฝึกที่นี่ด้วย แสดงว่าแผนกการต่อสู้นี้ก็เป็นอีกแผนกที่สามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมบริการจากบุคคลภายนอกได้

“ที่นี่คือแผนกการต่อสู้ ที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ทุกแขนงของสำนักงาน ในระหว่างที่เจ้ายังอยู่ในฐานะเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน เจ้าสามารถใช้งานที่นี่ได้อย่างอิสระ และหากมีปัญหาเกี่ยวกับวิชาการต่อสู้ ไม่ว่าด้านอาคมหรือ การต่อสู้อื่น ๆ ล่ะก็ไม่ต้องเป็นกังวล ที่นี่มีอาจารย์มากมายหลายท่านที่พร้อมให้คำตอบแก่เจ้า อีกทั้งยังมีเจ้าหน้าที่สำหรับการตรวจวัดระดับของเจ้าหน้าที่ฟรีอีกด้วย ถ้ามีโอกาสเจ้าก็ควรมาลองสักครั้ง มันเป็นประโยชน์แก่ตัวเจ้าเอง ก็ไม่มีอะไรแล้ว ถ้ามีข้อสงสัยอะไรสามารถมาถามข้าโดยตรง หรือถามเจ้าหน้าที่รุ่นพี่คนอื่น ๆ ได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ”

“ขอบคุณมากครับพี่ แล้วพบกันครับ”

“ใครพี่เจ้า”

“เอ่อ ขอบคุณมากครับเจ้านาย”

“อืม แล้วพบกัน อ้อเกือบลืม เรื่องเวลางานเจ้าก็เลือกเอาที่สะดวกละกันนะ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด