ตอนที่แล้ว29.เจอพิรุธ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป31.ขอตรวจร่างกาย

30.โดนกล่าวหา


เซียงเช่าย่อมเข้าใจได้ เหตุผลที่นางไม่ได้พูดอะไรออกไปก่อน เพราะกลัวว่าพูดไปแล้วอาจเผยพิรุธ ตอนนี้แม่นางมาช่วยนางแล้ว นางจึงมีความกล้าเพียงพอจะพูดทุกอย่างตามที่ใจปรารถนา

“พี่หรูเฟิง เขาเมา แล้วก็ครอบครองข้า...”

เด็กสาวพูดไปสะอื้นไป น้ำตาเอ่อคลอเต็มสองหน่วยตา  เด็กสาวผู้น่าสงสารกวาดตามองดูผู้คนตรงหน้า ยกเว้นเพียงกู้หรูเฟิง ด้วยเพราะความรู้สึกผิดในใจ

ภรรยาผู้ใหญ่บ้านลอบยิ้ม เคราะห์ดีที่ลูกสาวนางฉลาดพอจะเข้าใจและตามคำพูดของนางทัน

“อะไรนะ?” ภรรยาผู้ใหญ่บ้านทำท่าทางประหลาดใจเป็นล้นพ้น “เจ้าว่าอะไรนะ?  เขาครอบครองเจ้ารึ?

บางคนในกลุ่มคนที่ยืนเป็นพยานอยู่ ไม่รู้ว่าสภาพเซียงเข่าเป็นอย่างไรในครั้งแรกที่ลงจากเตียง ดังนั้นจึงคิดว่าที่ภรรยาผู้ใหญ่บ้านพูดเป็นเรื่องจริงไปโดยปริยาย อย่างไรก็ตามภรรยาเสี่ยวซาน อีกทั้งหลิ่วเจินผู้ซึ่งเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด มาตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้  พบว่ามันช่างเหลวไหลจนน่าขัน

ภรรยาเสี่ยวซานเป็นสตรีที่แต่งงานแล้ว แน่นอนย่อมรู้ดีว่าผู้หญิงหลังผ่านสัมพันธ์มาจะมีสภาพอย่างไร นางนึกบ่นในใจว่า “แหกตาชาวบ้านชัด ๆ ช่างโกหกสิ้นดี!”

“ใช่เจ้าค่ะ... ท่านแม่ ได้โปรดช่วยเซียงเช่าด้วย...” พอกล่าวจบ น้ำตาที่เอ่อคลออยู่ก็ไหลรินลงมา

หลิ่วเจินซึ่งยืนอยู่อีกฟากยกยิ้มหยัน

ฝีมือการแสดงช่างเข้าถึงบทบาทอะไรเยี่ยงนี้! หากอยู่ในโลกยุคสมัยใหม่  ต้องได้รางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำฝ่ายหญิงยอดเยี่ยมไปครองเป็นแน่แท้

“หรูเฟิง เจ้าบอกมาสิ ว่าจะแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร?” ภรรยาผู้ใหญ่บ้านชี้นิ้วไปที่กู้หรูเฟิง

นางหมายความว่า หากเจ้าไม่มีคำตอบที่น่าพอใจให้ข้าในวันนี้  ชีวิตเจ้าคงตกที่นั่งลำบากแน่

หลิ่วเจินพยายามหัวเราะเบา ๆในลำคอ  แต่มิคาดว่าเสียงหัวเราะดันออกมาดังลั่น

การที่หลิ่วเจินหัวเราะ พาให้ทุกคนอึ้งไปตาม ๆ กัน  ที่หัวเราะนี่คืออันใด?  เจ้าไม่เสียใจหรือไร ที่สามีทำเรื่องอย่างว่ากับผู้หญิงอื่น? หากเป็นเมื่อก่อน นางควรร้องแรกแหกกระเชอ หรือไม่ก็อาละวาดยกใหญ่สิ ทำแบบนี้สิถึงจะถูกต้อง แล้วไหงตอนนี้อาแต่หัวเราะเล่า?”

“ฮูหยิน อาเจินเพิ่งเห็นชายผู้หนึ่งเข้าไปในห้องเซียงเช่าโดยบังเอิญ ดูจากรูปร่างแล้วไม่เหมือนสามีข้าเลย เกรงว่าเซียงเช่าคงจะจำคนผิดกระมัง?  และนอกจากนี้ สามีข้าสุขภาพไม่ค่อยดี ยังจะมีแรงไปฉกตัวใครได้รึ? เกรงว่ายังไม่ทันฉกตัวใครเลย คงได้ม่องเท่งไปก่อนเสียแล้ว” ประโยคสุดท้ายดูจะซ่อนความหมายลึก ๆไว้

ยามที่หลิ่วเจินกล่าววาจาออกไป หางตาก็เหลือบมองกู้หรูเฟิงซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ ครั้นแล้วก็สลัดมือออกจากอุ้งมือของกู้หรูเฟิง

ความหมายก็คือ  ระวังตัวเจ้าไว้ให้ดี...!

คำพูดของหลิ่วเจินพาให้ผู้คนมึนงง ทว่าความหมายในคำพูดกล่าวได้ว่า เกรงว่าเซียงเช่าคงถูกชายอื่นขอร้องไว้ ทว่าดันเอาความเสื่อมเสียนี้ไปโยนให้กู้หรูเฟิง

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร? ตอนนี้ลูกสาวข้าถูกเขาครอบครองไปแล้ว เขาจะหนีความรับผิดชอบนี้ได้รึ? เขาเดินออกจากห้อง ทุก ๆคนก็เห็นว่าลูกสาวข้าก็ไม่ได้สวมเสื้อผ้าเรียบร้อย ชาวบ้านก็เห็น หลิ่วเจินเจ้ายังมีอะไรจะพูดอีกรึ!” ภรรยาผู้ใหญ่บ้านท้าวสะเอว ตวาดลั่นดูคล้ายผู้หญิงปากตลาด

หลิ่วเจินไม่ได้ตั้งใจพูดประเด็นนี้ออกไป นางแค่รู้สึกว่าหากกู้หรูเฟิงโดนผูกมัดด้วยเรื่องนี้ แล้วไม่ยอมรับผิดชอบ ภายหน้าเกรงว่าคงยากจะหนีอีก

กู้หรูเฟิงสับสนในใจ ชายหนุ่มเอาแต่ครุ่นคิดว่าเหตุใดหลิ่วเจินถึงปล่อยมือจากเขา

“อาเจิน...ข้า” กู้หรูเฟิงพลันเงยหน้ามองหลิ่วเจิน ดูเหมือนเขาจะคิดอะไรขึ้นมาได้เหมือนกัน

“หุบปาก ไม่เกี่ยวอะไรกับท่าน” หลิ่วเจินเอ่ยเสียงเย็น โดยไม่เหลียวมองเขาเลย ท่าทางนางน่าเกรงขามขึ้นมาทันใด

คนที่อยู่รายรอบพลันสัมผัสได้ถึงบรรยากาศกดดันที่แผ่ออกมาจากตัวหลิ่วเจิน

กู้หรูเฟิงนิ่งงันไป ถ้อยคำที่คิดจะเอ่ยออกมาติดคาอยู่ในลำคอ แล้วโดนกลืนกลับลงไป

หลิ่วเจินทำหน้าเฉยชา แต่ผู้อื่นกลับมองว่านางครุ่นคิดจนคิ้วขมวด ดูร้ายมาก

และนี่คือสงครามระหว่างภรรยาเอกกับผู้หญิงอีกคนของสามีสินะ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด