ตอนที่แล้วตอนที่ 179-180
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 183-184

ตอนที่ 181-182


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 181 : จักรพรรดิเทียนชิงปวดเศียร

พระราชวังหลวง

ด้วยสีหน้าร้อนใจ หัวหน้าทหารยามเร่งรีบมาเยือนพร้อมเผยเสียงบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้จี้อู๋ฮุยได้ทราบ

รับทราบรายงานจากผู้ใต้บัญชา จี้อู๋ฮุยจึงต้องเผยทั้งความยินดีและโทสะออกอย่างแปรปรวน

นิ้วของจี้อู๋ฮุยกำลังเคาะกับเก้าอี้อย่างเบามือ คิ้วหนานั้นขมวดจนมุ่น อารมณ์ขณะนี้คล้ายยังไม่ค่อยคงที่เท่าใดนัก

“หมายความถึงจ้าวตำหนักจันทราสีเงินมาเยือนนครจิ่วเหยาด้วยตนเอง?”

“ขอรับฝ่าบาท! ผู้น้อยได้พบเห็นกับตาตนเอง! อีกทั้งยังมาพร้อมคณะคนทั้งสี่ เหล่านั้นเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตทดสอบเต๋า!”

หัวหน้าทหารยามกล่าวบอกด้วยน้ำเสียงลุ่มลึก เหงื่อกาฬขณะนี้ไหลหลั่งที่หน้าผากจนกระทั่งถึงดวงตา ทว่าตัวเขานั้นคล้ายไม่ทราบ

เพราะพลังที่จี้อู๋ฮุยเผยออกอย่างไม่ทันรู้ตัวขณะนี้ไม่ใช่อะไรที่ผู้น้อยเช่นเขาจะต้านรับ!

จี้อู๋ฮุยรู้สึกปวดศีรษะ

แม้ลั่วฉวนสังหารฉู่หยุนเฟย และยังทำลายภาพฉายจิตวิญญาณของฉู่หยางผิงไปแล้ว แต่ทางตำหนักจันทราสีเงินคล้ายยังไม่คิดปล่อยวาง

ที่เขาไม่คาดคิด คือตำหนักจันทราสีเงินจะมาแสวงการล้างแค้นรวดเร็วถึงเพียงนี้

ทั้งยังเป็นฉู่หยางผิงมาเยือนด้วยตนเอง

ยอดฝีมือขอบเขตทดสอบเต๋าห้าคน เกรงว่าคณะผู้อาวุโสของตำหนักจันทราสีเงินขณะนี้คงยกมากันหมดสิ้นแล้วกระมัง?

“ถ่ายทอดคำสั่งลงไป! ข้าจะตัดสินใจเรื่องนี้เอง!” จี้อู๋ฮุยโบกมือ

“รับบัญชา!” หัวหน้าทหารยามค่อยถอนหายใจโล่งอก องค์เหนือหัวกล่าวเองเช่นนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องแบกรับผลที่จะตามมา

เมื่อกลับออกมาแล้ว ร่างเหล่าไป่จึงเผยตัวเคียงข้างจี้อู๋ฮุย

“เหล่าไป เรื่องนี้คิดเห็นอย่างไร?” จี้อู๋ฮุยกล่าวถาม

“ตามความเห็นข้า เป็นไปได้สูงมากที่ฉู่หยางผิงจะมายังพระราชวังหลวง” เหล่าไป่หรี่ดวงตาลงเล็กพร้อมกล่าวตอบ

ฉู่หยางผิงเป็นผู้ไม่หวั่นเกรงฟ้าดิน

อย่างไรแล้วภาพฉายจิตวิญญาณขอบเขตทดสอบเต๋าก็ถูกทำลายที่นครจิ่วเหยา ดังนั้นคิดมาหาข้อมูลที่นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก

ฉู่หยางผิงเพียงทราบตำแหน่งที่ภาพฉายจิตวิญญาณถูกทำลายโดยคร่าว

ส่วนว่าเป็นที่ใดของนครจิ่วเหยา เรื่องนี้ต้องสืบหา

ด้วยเป็นนครหลวงแห่งจักรวรรดิเทียนชิง นครจิ่วเหยาย่อมต้องทราบเรื่องราวใหญ่โตที่เกิดขึ้นภายใน!

ด้วยเหตุนี้ฉู่หยางผิงย่อมต้องมาสืบหาจากจี้อู๋ฮุยโดยตรง!

จี้อู๋ฮุยถอนหายใจ “นั่นคือเรื่องที่ข้ากังวล ขอบเขตทดสอบเต๋าห้าคน แม้ข้าไม่หวั่นเกรง กระนั้นหากต้องเผชิญหน้าต่อกันจริง นครจิ่วเหยาจะไม่อาจแบกรับได้ไหว”

ศึกปะทะระหว่างผู้ฝึกตนขอบเขตทดสอบเต๋า มันย่อมต้องกินรัศมีเป็นวงกว้างหลายร้อยลี้!

ไม่เกินเลยนักหากจะกล่าว ว่าหากสู้ในเมืองนั่นคือกาลล่มสลาย!

และขณะนี้คณะของฉู่หยางผิงทั้งห้ามาเยือนนครจิ่วเหยาแล้ว ดังนั้นคิดเปิดค่ายอาคมคุ้มกันก็ไม่อาจช่วยอะไรได้!

ส่วนจะให้บอกว่าบุคคลที่สังหารฉู่หยุนเฟยแท้จริงคือเถ้าแก่ร้านต้นตำรับ จี้อู๋ฮุยยิ่งไม่กล้า!

ด้วยกำลังของเถ้าแก่ หากทราบว่าขายข้อมูลตนเองไป เช่นนั้นผลที่ตามมาจะยิ่งหนักหนากว่าแบกรับศึกผู้ฝึกตนขอบเขตทดสอบเต๋าทั้งห้า!

ในโลกการฝึกฝน บุคคลช่างฟ้องถือเป็นเรื่องน่ารังเกียจ!

“บอกเถ้าแก่ถึงเรื่องนี้และสอบถามว่าควรทำอะไรดีหรือไม่?” เหล่าไป่เสนอความเห็น

จี้อู๋ฮุยจึงเผยดวงตาเป็นประกายพร้อมรอยยิ้ม “วิธีการที่ดี!”

นี่คือหนทางดีที่สุดแล้ว เพราะให้เถ้าแก่ตัดสินใจเองถือเป็นดีที่สุด!

จี้อู๋ฮุยจึงสูดลมหายใจเข้าลึกพร้อมนำจี้ห้อยคอหยกออกมา

จี้ห้อยคอหยกนี้มีความสามารถในการส่งถ่ายข้อมูล

ถัดจากนั้น จี้อู๋ฮุยจึงถ่ายเทจิตนึกคิดลงไป ไม่ช้าจี้หยกจึงเผยประกายแสงลุกโชน...

ที่ร้านต้นตำรับ

ลั่วฉวนยังคงนอนเอกเขนกรับแสงตะวันเหมือนเช่นเคย แต่แล้วขณะนี้กลับรับรู้ได้ถึงความเคลื่อนไหวผ่านระบบมิติ

ด้วยเหตุนี้จึงเปิดมันออกพร้อมนำเอาจี้ห้อยคอหยกที่ส่องแสงออกมา

“นี่มันอะไรกัน?” ลั่วฉวนกล่าวออกด้วยความสงสัย

มันทำเขาต้องครุ่นคิด

และไม่ช้าลั่วฉวนจึงนึกออก

เขาจดจำได้ ว่าจี้ห้อยคอหยกนี้เป็นจี้อู๋ฮุยให้ไว้ตั้งแต่ครั้งแรกมาเยือนร้านต้นตำรับ

เดิมลั่วฉวนไม่ต้องการ ทว่าจี้อู๋ฮุยคะยั้นคะยอไม่ปล่อยวาง กระทั่งคุกเข่าร้องขอ ดังนั้นเขาจึงเก็บมันเอาไว้

ตามที่จี้อู๋ฮุยเคยบอกกล่าว จี้ห้อยคอหยกนี้มีความสามารถในการส่งถ่ายข้อมูล

ลั่วฉวนครานั้นหาได้สนใจไม่ ดังนั้นจึงโยนมันเก็บไว้ในระบบมิติ

“จี้อู๋ฮุยส่งข้อความมา? มีเรื่องอะไรกัน?” ลั่วฉวนเผยความสงสัย

ตอนที่ 182 : เป็นราชองครักษ์ไม่ใช่เรื่องง่าย

การทำงานของจี้หยกนั้นเข้าใจง่าย

ลั่วฉวนเพียงใส่ความนึกคิดเข้าไป ไม่ช้าก็รับรู้ได้ถึงข้อความที่จี้อู๋ฮุยส่งมา

“คนของตำหนักจันทราสีเงิน?”

คราแรกลั่วฉวนงุนงง แต่ไม่ช้าก็พยักหน้ารับ

ภาพฉายจิตวิญญาณที่เขาทำลายไปก่อนหน้า คล้ายว่าจะเป็นจ้าวตำหนักจันทราสีเงิน

“จี้อู๋ฮุยถามว่าควรบอกฉู่หยางผิงเรื่องร้านต้นตำรับงั้นหรือ...”

ลั่วฉวนใช้มือจรดปลายคางพลางครุ่นคิด

หากเป็นผู้ฝึกตนธรรมดาเผชิญหน้ากับฉู่หยางผิง เกรงว่าจี้อู๋ฮุยคงตัดสินใจโดยง่ายไปแล้ว

นับเป็นโชคร้ายที่ตัวละครของเรื่องราวครั้งนี้คือลั่วฉวน

อีกฝ่ายคือผู้อาวุโสขนาดที่ไม่ทราบว่าระดับสูงส่งเพียงใด

“ผลักเรื่องการตัดสินมาให้เรางั้นสิ?” ลั่วฉวนรู้สึกขบขัน

คิดถึงตรงนี้เขาก็ตัดสินใจได้

ลั่วฉวนจึงส่งข้อความตอบกลับผ่านทางจี้หยก “ตามแต่เจ้า”

อย่างไรภายในระยะสิบกิโลเมตรจากร้านต้นตำรับ ตัวเขาก็ไร้เทียมทานอยู่แล้ว

แม้เป็นทั้งตำหนักจันทราสีเงินมาเยือน สำหรับเขาก็ไม่ต่างอะไรกับมดให้บดขยี้

ถัดจากนั้นลั่วฉวนจึงค่อยโยนจี้หยกกลับเข้าระบบมิติเก็บของ

เรื่องนี้โยนกลับไปให้อีกฝ่ายตัดสินใจเอาเอง!

……

พบเห็นจี้หยกเผยแสง จี้อู๋ฮุยที่รอคอยอยู่กลายเป็นยินดี

ขณะนี้จึงเร่งรีบตรวจสอบข้อความที่ได้รับ

แต่แล้วสีหน้านั้นไม่ช้าก็ต้องกลับกลายเป็นนิ่งงัน

“องค์เหนือหัว เป็นอะไรไปแล้ว?” เหล่าไป่กล่าวถาม

“รับชมด้วยตัวเจ้า” จี้อู๋ฮุยส่งจี้หยกให้เหล่าไป่

ด้วยความสงสัย เหล่าไป่จึงรับมาตรวจสอบ

ยามอ่านข้อความสั้น “ตามแต่เจ้า” เขาก็ไม่ทราบแล้วว่าควรตอบสนองอย่างไรดี

เหล่าไป่นิ่งค้างพลางส่ายศีรษะ “สมกับเป็นเถ้าแก่”

จี้อู๋ฮุยต้องถอนหายใจ

คำถามโยนออกไปยังเถ้าแก่ แทนที่จะได้รับคำตอบ แต่ที่ได้รับกลับกลายเป็นคำถามเช่นเดิม

“ดูจากเวลา ฉู่หยางผิงและคณะอีกไม่ช้าสมควรมาถึงแล้ว” จี้อู๋ฮุยอับจน

เหล่าไป่จึงพยักหน้ารับ “เป็นเช่นนั้น องค์เหนือหัวคิดทำอย่างไร? หากคิดเปิดศึก เช่นนั้นเหล่าไป่ผู้นี้กล้ารับปากว่าจะไม่มีคนของตำหนักจันทราสีเงินผู้ใดรอดพ้นจากนครจิ่วเหยา!”

ขณะพูดกล่าวออกเช่นนี้ ออร่าเทพแห่งสงครามจึงปรากฏจากร่างเหล่าไป่

ด้วยเป็นขอบเขตทดสอบเต๋าระดับที่เก้า ทั้งยังฟื้นคืนความเยาว์วัยแก่ร่างกาย เหล่าไป่คิดอยากปลดปล่อยความอัดอั้นทดสอบพลังออกเสียบ้าง!

“ข้าทราบดี” จี้อู๋ฮุยรับคำ “ตำหนักจันทราสีเงินนั้นไม่เท่าไหร่ แต่ที่ข้าเกรงคือหากสู้กันจริงจะเป็นการทำลายนครจิ่วเหยา”

จี้อู๋ฮุยไม่อาจแบกรับขนาดนั้นได้ไหว

“อย่างนั้นบอกเรื่องร้านต้นตำรับไป” เหล่าไป่เผยยิ้ม ทั้งนี้มันเป็นรอยยิ้มอันซุกซนของผู้เฒ่าชรา “ข้าคิดอยากได้เห็น ว่าเมื่อใดพวกมันพบเจอเถ้าแก่จะทำอย่างไร”

จี้อู๋ฮุยจึงพยักหน้ารับพลางถอนหายใจ “ให้เป็นเช่นนั้น! หวังว่าเถ้าแก่คงไม่ใส่ใจเอาความ...”

หน้าประตูพระราชวังหลวง

คณะคนทั้งห้าของฉู่หยางผิงมาเยือนแล้ว

“ขอผู้มาเยือนหยุดฝีเท้า!”

ทหารยามร้องกล่าว

“จ้าวตำหนักจันทราสีเงินฉู่หยางผิงขอเข้าพบจักรพรรดิแห่งเทียนชิง” น้ำเสียงฉู่หยางผิงกล่าวออกอย่างเฉยชา

พร้อมกันนี้ออร่าขอบเขตทดสอบเต๋าของคนทั้งห้าจึงเผยออกกดดันผู้คน

เซี่ยเทียนอวี่รับรู้ถึงออร่าพลันต้องฝืนยิ้มต้านรับ

ไม่นานมานี้ก็มีมาคนหนึ่ง ไฉนคราวนี้จึงกลายเป็นหลายคนเสียแล้ว?

อีกฝ่ายไม่ใช่อะไรที่ราชองครักษณ์จะสามารถแบกรับได้ไหว!

“ขอท่านรอสักครู่ ข้าจะรีบไปรายงาน!” เซี่ยเทียนอวี่กล่าวรับอย่างนอบน้อม

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด