ตอนที่แล้ว27.วางแผนการณ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป29.เจอพิรุธ

28.จับชายหญิงได้คาเตียง


ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้ว หลิ่วเจินรู้สึกคอแห้งเป็นผง สุราเพียงนิดเดียวก็ทำให้ผู้คนกระหายน้ำมากจริง ๆ  นางโซเซลุกขึ้นมาหาน้ำดื่ม  หญิงสาวยังรู้สึกมึนเมาอยู่บ้าง ทว่าหลังจากได้น้ำเย็นเข้าไป  จึงสร่างเมาเป็นปลิดทิ้ง

หลังจากตื่นขึ้นมา หญิงสาวถึงพบความผิดปกติ  นั่นคือมีคนหายไป

ท้องฟ้าข้างนอกมืดมิดสลัว ดวงจันทร์แขวนอยู่กลางนภามานานแล้ว โลกทั้งใบดูเงียบสงัด  ชัดเจนว่ายามนี้เป็นเวลาดึกมาก

อย่างไรก็ดี กู้หรูเฟิงยังไม่กลับ หญิงสาวไม่ได้คิดมากอันใด เพียงรู้สึกไม่สบายใจเท่านั้น ดังนั้นโดยไม่ต้องคิด หญิงสาวจึงสวมเสื้อนวมกันหนาว และเดินฝ่าออกไปในความมืดมิด

ที่บ้านไม่มีโคมไฟ ดังนั้น นางจึงต้องอาศัยเพียงแสงจันทร์สลัวเพื่อส่องทาง บ่อยครั้งที่เห็นทางไม่ชัด เท้าข้างหนึ่งย่ำลงบนพื้นที่ลึก อีกข้างย่ำเพียงตื้น ๆ  สุดท้ายก็ย่ำเท้าผลุบลงไปในหล่มหิมะจนได้  ทั้งเท้าเย็นจัดแทบเป็นน้ำแข็ง

ใบหูของหญิงสาวย้อมเป็นสีแดงเพราะความหนาว มือทั้งคู่ก็แห้งและแตกจนรู้สึกเจ็บ หญิงสาวล้มลุกคลุกคลานคลำทางมา ในที่สุดก็บรรลุถึงบ้านผู้ใหญ่บ้าน ครั้นแล้วจึงตรงเข้าไปเคาะประตูเรียกโดยไว “นี่ข้าเอง..หลิ่วเจิน เปิดประตูให้ข้าด้วย!”

นางตะเบ็งเสียงดังขึ้นกว่าปกติ จนสุนัขที่อยู่ในลานบ้านตื่นขึ้นมาเห่าเสียงขรม ห้องที่เดิมมืดสนิทอยู่พลันมีแสงสว่างรำไร จากเทียนที่ถูกจุดสว่างขึ้น

แรกสุดมีสตรีเดินออกมาจากห้องเสี่ยวซาน นางอ้าปากหาวด้วยความง่วงงุน “นี่มันกลางดึกแล้ว....”  ทว่านางก็ยังเปิดประตูออกมา  พลันเห็นหลิ่วเจินพร้อมใบหน้าแดงเรื่อเพราะลมหนาว นางจึงตื่นตัวขึ้นอีกนิด แล้วเอ่ยอย่างกังขา “เซียงเช่ามิได้บอกเจ้ารึว่ากู้หรูเฟิงเมาหนักมาก วันนี้ยังกลับไปไม่ได้?”

หลิ่วเจินสั่นศีรษะ หากอีกฝ่ายบอกนาง นางคงไม่ต้องเป็นกังวลมากเยี่ยงนี้ ทว่านางก็รู้สึกโล่งอกที่เขาไม่เป็นอันใด ตอนที่หญิงสาวกำลังจะผละกลับไป  ทันใดนั้นก็มีเสียงบุรุษตะโกนโวยวายลั่น “เจ้าเป็นใคร?”

เสียงนั้นทำให้ผู้คนตกใจในฉับพลัน

หลิ่วเจินตระหนักได้ว่านั่นคือเสียงกู้หรูเฟิง โดยไม่ต้องคิด หญิงสาวรีบรุดเข้าไปด้านใน พลางร้องตะโกน “กู้หรูเฟิง ท่านอยู่ไหน?”

ด้วยเสียงตะโกนโหวกเหวกเช่นนั้นย่อมปลุกให้คนที่เหลือในบ้านตื่นขึ้น ทั้งหมดเดินออกมาโดยมีเสื้อคลุมคลุมอยู่บนไหล่ หลิ่วเจินพบด้วยว่า เสียงดังมาจากห้องเล็ก นางผลักประตูเข้าไป จึงเห็นกู้หรูเฟิงซึ่งอยู่ในชุดที่ถอดเสื้อคลุมตัวนอกไปแล้ว ยืนเท้าเปล่าอยู่บนพื้น  ด้วยสีหน้าตกใจปนงัวเงีย

ส่วนบนเตียงในห้อง ที่ฟากหนึ่งของเตียง มีคนผู้หนึ่งนอนหันหลังให้อยู่ ทว่าเผยแผ่นหลังเปลือยเปล่างดงามและเส้นผมที่ดกหนา

นี่นับว่านางจับชู้ได้คาเตียงใช่หรือไม่?

หลิ่วเจินรู้สึกหน้ามืดคล้ายจะเป็นลมคงเนื่องจากสัมผัสอากาศเย็นจัดและรีบวิ่งเข้ามาครู่นี้ ในวินาทีนั้น นางถึงกับสะดุดเกือบจะล้มคะมำ ดีทีลูกสะใภ้ผู้ใหญ่บ้านคว้าตัวไว้ทัน

“อาหลิ่ว เจ้าไม่เป็นไรนะ?” ภรรยาเสี่ยวซานถามขึ้นทันใด เมื่อนางรู้สึกว่าเหลิ่วเจินดูไร้เรี่ยวแรงที่จะทรงกายยืน คล้ายว่าหากนางปล่อยมือ อีกฝ่ายอาจจะล้มลงไปกองกับพื้นได้ทุกเมื่อ

หลิ่วเจินพยายามฝืนยืนตัวตรงสุดฤทธิ์  ทว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง? จู่ ๆ ก็รู้สึกไม่มีเรี่ยวแรงและกระทั่งรู้สึกถึงความเจ็บปวดสายหนึ่งผุดวาบขึ้นมาในใจชั่วขณะ ทว่าความรู้สึกแบบนี้ยังคงทิ้งร่องรอยอยู่ในใจไม่ไปไหน

บางทีอาจเป็นเพราะอากาศที่เย็นขึ้นมากะทันหัน  ทำให้สมองมึนงงหน่อย ๆ  จึงส่งผลต่อจิตใจ มันต้องเป็นเหตุผลนี้แน่

กู้หรูเฟิงรู้สึกร้อนรนเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ข้างประตู เขาสาวเท้าตรงมาหาหลิ่วเจินผู้ซึ่งยังคงอ่อนแรงอยู่มาก  ทว่ามันทำให้เขารู้สึกเสียใจมาก

“อาเจิน ข้า..”กู้หรูเฟิงอยากอธิบายทว่าไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นตรงไหน เพราะใครมักกล่าวว่าเห็นกับตาถึงจะเชื่อ   ถึงได้ยินกับหูก็ไม่มีผล

ยามนี้แม้ว่าสิ่งที่หลิ่วเจินเห็นจะเป็นเพียงการจัดฉากหลอกลวง แต่หากเขาพยายามอธิบายออกไป อาจยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก

เด็กสาวบนเตียงรีบเก็บเสื้อผ้าที่เกลื่อนกลาดบนพื้น ขึ้นมาสวมใส่ ในฤดูหนาวเช่นนี้ ทันทีที่ประตูเปิด อากาศอันหนาวเย็นก็ไหลทะลักเข้ามาในห้อง  เซียงเช่าเพิ่งจะสวมเสื้อผ้าเสร็จ ประตูห้องก็พลันเปิดออกอีก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด