ตอนที่แล้วบทที่ 12 การแก้แค้นของซูหม่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 14 ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 13 ทดสอบความสามารถ


บทที่ 13 ทดสอบความสามารถ

ย้อนกลับไปเมื่อตอนเช้า ซูหม่าเห็นจี้เฟิงและถงเล่ยสบตาและส่งยิ้มให้กัน ทำให้ภายในใจของซูหม่าครุกรุ่นไปด้วยความโกรธ ตอนนั้นเขาทำได้แต่เพียงสาปแช่งจี้เฟิงอยู่ในใจ

“แม่งเอ้ย จี้เฟิงแกกล้าทำหูทวนลมกับคำพูดฉันงั้นเหรอ!” เมื่อเห็นภาพบาดตาบาดใจ ซูหม่ารู้สึกโกรธมาก เขาตัดสินใจในทันที หากเตือนดีๆแล้วยังไม่ฟัง เขาจะทำให้จี้เฟิงได้รู้จักถึงความน่ากลัวของเขา

หลังเลิกเรียนในช่วงบ่าย ซูหม่าเดินมาที่ประตูโรงเรียน มีชายหัวโล้นร่างกำยำใส่แว่นดำเดินออกมาจากรถ BMW X6 เขาทักทายซูหม่าด้วยความเคารพ “คุณซูหม่า มองหาผมด้วยความรีบร้อนแบบนี้ มีอะไรหรือเปล่าครับ?”

ซูหม่าตะคอกด้วยความเย็นชาเขาพูดว่า “พี่จ้าวช่วยฉันเก็บกวาดใครสักคนให้ทีสิ!”

ชายหัวโล้นผู้มีร่างกายกำยำที่ซูหม่าเรียกว่าพี่จ้าวสบถทันที “ไอ้โง่คนไหน? มันกล้ามายั่วโมโหคุณซูหม่า สงสัยเหนื่อยกับการมีชีวิตอยู่!”

ซูหม่าตอบ “เป็นนักเรียนในชั้นเรียนของฉันคนหนึ่ง เราสนิทกันม๊ากกก ฉันอยากให้มันจำเพื่อนคนนี้ได้อย่างไม่มีวันลืม!”

เฉินจ้าวพยักหน้าทันที “ไม่มีปัญหา คุณอยากให้ผมจัดการกับมันยังไง?”

ซูหม่าคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ถ้าพี่จ้าวเข้าไปจัดการมันในโรงเรียนตอนนี้ ถ้ามีคนอื่นเห็นเราจะซวยเอา มันอาจจะส่งผลกระทบไปถึงพ่อ ฉันไม่อยากสร้างความเดือดร้อนในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ฉันว่าเรารอเวลาที่เหมาะสมตอนโรงเรียนเลิกดีกว่า ระหว่างทางกลับบ้านพี่จ้าวพาลูกน้องมาซักสองสามคน แกล้งเป็นโจรไปปล้นมัน มันไม่มีเงินจ่ายแน่นอน เพราะมันเป็นเพียงแค่เด็กยากจน ถึงเวลานั้นจะได้ซ้อมมันถนัดๆหน่อย!”

ชายหัวโล้นนามว่า เฉินจ้าว พยักหน้าทันทีและพูดว่า “ไม่ต้องห่วงผมจะทำให้มันจำไม่ได้แม้แต่แม่ของตัวเองด้วยซ้ำ!”

“ฉันจะคอยดูว่ามันจะทนได้นานสักแค่ไหน!” ดวงตาของซูหม่าฉายแววเย็นชา มุมปากของเขาโค้งงอขึ้นเล็กน้อย มันเป็นรอยยิ้มแห่งชัยชนะ!!

………

จี้เฟิงมองไปที่ชายสามคนที่อยู่ตรงหน้า เขาเริ่มระมัดระวังตัว

การรักษาความปลอดภัยของเขตนี้ไม่ดีนัก เนื่องจากการพัฒนาด้านการรักษาความปลอดภัยยังไม่ค่อยพัฒนามากนัก ไม่มีแม้กระทั่งไฟบนถนนในหลายๆสาย แถมรถตำรวจลาดตระเวนก็มีน้อยลง เพราะต้องไปตามจับโจรที่ก่อเหตุอาชญากรรมที่กำลังมีเพิ่มมากขึ้นทุกวัน

เห็นได้ชัดว่า ชายสามคนที่มายืนดักรอคงไม่ได้หวังดีที่จะพาจี้เฟิงไปส่งที่บ้านอย่างปลอดภัยด้วยความมีน้ำใจ แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้มาดีหรืออาจจะมาปล้น

ดวงตาของจี้เฟิงหรี่ลง เขาพยายามคิดหาวิธีที่จะตอบโต้ในใจอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันเขาก็เริ่มถอยหลังอย่างช้าๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกทั้งสามคนล้อมไว้ได้ ถึงตอนนี้เขาจะอยากวิ่งหนีมากก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถทำได้

“กร๊อบ!”

ทันใดนั้นก็มีเสียงกิ่งไม้หัก จี้เฟิงหันขวับไปตามเสียงที่ดังมาจากด้านหลัง เขาพบว่ามีชายอีกสามคน ปรากฏอยู่ข้างหลังเขา

ในเวลานี้จี้เฟิงไม่มีทางให้หนีรอดไปได้เลย เขาโดนล้อมโดยผู้ชายถึงหกคน

“ฝีมือซูหม่าสินะ!” จี้เฟิงพูดกับตัวเอง จี้เฟิงพอจะเข้าใจได้หากเป็นการปล้น ก็ไม่น่าจะต้องใช้คนเยอะขนาดนี้มากที่สุดก็ไม่น่าจะเกินสามคน แต่มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมาดักปล้นคนๆเดียวโดยใช้คนตั้งหกคน

ดังนั้น จี้เฟิงจึงสรุปได้อย่างรวดเร็ว เพราะนอกจากซูหม่าที่ต้องการแก้แค้นเขาแล้ว ก็ไม่มีความเป็นไปได้อื่นอีก!

ดวงตาของจี้เฟิงเหม่อลอย เขาพยายามคิดวิธีการที่จะรับมืออย่างรวดเร็ว

ในตอนนี้ชายทั้งหกคน ยืนอยู่ด้านหน้าและด้านหลังของจี้เฟิง ส่วนด้านข้างทั้งสองฝั่งเป็นแนวกำแพงขอบบ้านบริเวณนั้น จี้เฟิงไม่สามารถวิ่งหนีได้อย่างแน่นอน เว้นแต่เขาจะมีความสามารถในการบินเหมือนในภาพยนตร์ แต่เห็นได้ชัดว่า มันเป็นได้แค่เพียงจินตนาการ

จี้เฟิงไม่ทันได้สังเกตเห็น ห่างไปไม่ไกลนัก มีรถ BMW X6 จอดอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ หากมองโดยใช้แสงจันทร์ช่วยก็จะพอเห็นได้ว่า มีคนสองคนในรถกำลังสูบบุหรี่

“ให้ตายเถอะ อยากจะนั่งสูบบุหรี่สบายๆที่บ้านชะมัด พวกคนแก่ที่บ้านก็ยอมทุกอย่างยกเว้นเรื่องฉันสูบบุหรี่เนี่ย เซ็งชิบเป๋ง!” ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นซูหม่านั่นเอง

ชายหัวโล้นที่นั่งอยู่เบาะคนขับหัวเราะแล้วพูดว่า “คุณซูหม่า ถ้าคุณต้องการสูบบุหรี่เวลาไหน ให้ออกคำสั่งกับผมได้เลย ผมจะไปรับคุณทันที!”

“พี่ชายพี่ก็พูดสุภาพกับฉันเกินไป ฮ่าฮ่า!” ซูหม่าหัวเราะอย่างอารมณ์ดีและสูบบุหรี่ต่อ

“จะไม่ให้ผมสุภาพกับคุณได้ยังไง!” ชายหัวโล้นยิ้มและพูดต่อ “เมื่อต้นเดือนที่แล้ว คุณถงไค่เต๋อ เลขาธิการคณะกรรมการพรรคประจำเขต สั่งให้สำนักความมั่นคงด้านสาธารณะดำเนินการตรวจสอบสถานบันเทิงและสถานที่เล่นเกมทั่วเมืองอย่างเร่งด่วน ถ้าผมไม่ได้รองผู้บริหารเขต ท่านซูเฉาคุณพ่อของคุณแจ้งให้รู้ล่วงหน้า ผมเกรงว่าร้านของผมคงถูกปิดไปนานแล้ว เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ผมยิ่งต้องขอบคุณท่านรองผู้บริหารเขตสำหรับการดูแลที่ผ่านมา”

ซูหม่า รู้สึกสบายใจมากกับคำเยินยอนี้ เขาโบกมือและพูดว่า “ก็พี่ช่วยสนับสนุนตลอดแบบนี้ แล้วจะไม่ให้ช่วยเหลือพี่ได้ยังไง”

“ถึงจะไม่ได้มากมายอะไร แต่มันก็เป็นเกียรติของผมมากกว่าที่ได้สนับสนุนท่านรองผู้บริหารเขตแห่งหมางซือ ไม่เคยต้องการอะไรตอบแทนเลย” เฉินจ้าว กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“เอ้อ ว่าแต่คุณซูหม่า เมื่อไหร่จะไปเที่ยวเล่นร้านของผมล่ะครับ พอดีมีสาวงามสองคนเพิ่งมาใหม่อาบน้ำและเอาใจเก่งมากนะครับ”

ทันใดนั้นแววตาของซูหม่าดูกระตือรือร้น สนใจขึ้นมาทันทีแล้วเขาก็พูดว่า “เอาล่ะงั้นคืนนี้หลังจาก ที่เราสั่งสอนเจ้าจี้เฟิงเสร็จ เราไปต่อกันดีกว่ากลัวแต่ว่าพวกเขาจะทำไม่สำเร็จ”

ชายหัวโล้นยิ้มและกล่าวว่า “คุณไม่ต้องกังวลไปคนของผมจะสั่งสอนเขาเป็นอย่างดี”

………

เมื่อเห็นคนทั้งหกคนค่อยๆย่างก้าวเข้ามา หัวใจของจี้เฟิงก็จมดิ่งลงเรื่อยๆ

ฉันจะทำยังไงดี? สมองของจี้เฟิงคิดหาวิธีอย่างรวดเร็ว!

“มาสเตอร์คุณเจออะไรที่สำคัญหรือไม่?” ในตอนนั้นเอง จู่ๆเสียงของสมองหมายเลข 1ก็ดังขึ้นในความคิดของจี้เฟิง เขาตกใจและรีบถาม “ทำไมอยู่ดีๆ คุณพูดขึ้นมาได้ล่ะ?”

สมองหมายเลข 1 ตอบ “เป็นเพราะตอนนี้จิตใจมาสเตอร์มีสมาธิสูงและด้วยการเปลี่ยนแปลงร่างกายมาสเตอร์ด้วยกระแสไฟฟ้าชีวภาพดังนั้นมาสเตอร์จึงสื่อสารกับสมองโดยอัตโนมัติ”

จี้เฟิงเข้าใจแล้วและพูดว่า “คุณกลับเข้าไปก่อน ตอนนี้ผมยังไม่ว่างคุย ผมกำลังเจอกับปัญหาใหญ่เลยล่ะ”

สมองหมายเลข 1 ถามกลับทันที “มาสเตอร์ คุณเจอปัญหาอะไร?” จี้เฟิงเล่าถึงเหตุการณ์ตรงหน้าให้ฟังอย่างรวดเร็วและสั่งให้สมองกลับไปก่อน

“มาสเตอร์ สมองสามารถช่วยคุณได้!” จู่ๆสมองหมายเลข 1 ก็พูดขึ้นว่า “มาสเตอร์ลืมไปแล้วหรือว่าสมองเป็นสมองอัจริยะที่เป็นระบบในการฝึกสายลับระดับสูง สมองมีหลักสูตรพิเศษสำหรับการตู่สู้ทุกรูปแบบ!”

แว่บนึงจี้เฟิงยิ้มอย่างมีความหวัง แต่แล้วรอยยิ้มของเขาก็กลายเป็นรอยยิ้มแห่งความขมขื่น “หลักสูตรพวกนั้นมันไม่มีประโยชน์กับผมในตอนนี้หรอก นอกเสียจากว่าคุณสมองจะสามารถทำให้ผมเรียนรู้และใช้มันได้ในทันที!”

สมองหมายเลข 1 กล่าวว่า “มาสเตอร์ ตามระเบียบของระบบ หากมาสเตอร์ยังไม่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรแต่อยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญหรืออันตราย สมองสามารถใช้กระแสไฟฟ้าชีวภาพเพื่อช่วยมาสเตอร์ให้พ้นจากอันตรายได้ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ต้องใช้ความร่วมมือจากมาสเตอร์!”

จี้เฟิงได้ยินคำพูดนี้เขาดีใจมากและรีบถาม “จะให้ความร่วมมือยังไงล่ะ?”

“มาสเตอร์ต้องได้รับกระแสไฟฟ้าชีวภาพอย่างเพียงพอ” สมองหมายเลข 1 กล่าว

ทันใดนั้นจี้เฟิงก็พูดด้วยความรำคาญ “กระแสไฟฟ้าชีวภาพคืออะไร แล้วผมจะหาได้จากที่ไหน?!”

สมองหมายเลข 1 กล่าวว่า “มาสเตอร์ กระแสไฟฟ้าชีวภาพเป็นกระแสที่เกิดจากการทำกิจกรรมของร่างกายของสิ่งมีชีวิตซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของสิ่งมีชีวิต มาสเตอร์ต้องออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงเท่านั้น มันถึงจะสามารถสร้างกระแสไฟฟ้าชีวภาพที่แข็งแกร่งได้!”

“ออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง?” จี้เฟิงสะดุ้ง อยู่ดีๆเขาก็เริ่มกระโดดอย่างรวดเร็วและรุนแรง ตัวของเขาแกว่งไปมาจนดูเหมือน ลูกแกะที่บ้าคลั่ง

การกระทำที่แปลกประหลาดของจี้เฟิง ทำให้คนทั้งหกที่ยืนล้อมเขาอยู่ถึงกับตกตะลึงในเวลาเดียวกัน ในขณะนั้นเสียงของสมองดังขึ้น “ได้รับกระแสไฟฟ้าชีวภาพ.!! กระแสไฟฟ้าชีวภาพเพียงพอ!! เริ่มโจมตี!!”

วินาทีต่อมา จี้เฟิงรู้สึกเหมือนกับว่าขาของเขาถูกไฟช็อตกะทันหัน เขาจึงกระโดดขึ้นและเตะเท้าทั้งสองข้างพร้อมกัน

ผัวะ! ตุ้บ!

ชายสองคนที่อยู่หน้าสุด ถูกเตะเข้าที่คางล้มลง ทันทีที่หลังของเขาถึงพื้น ร่างกายของพวกเขากระตุกสองครั้งและแน่นิ่งไป

ผู้ชายอีกสี่คนที่เหลือตกตะลึงในเวลาเดียวกัน เมื่อพวกเขาคิดได้ว่าต้องทำอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นจี้เฟิงก็ก้มตัวลงนั่งยองๆ และเตะออกไปสามสี่ครั้งอย่างรวดเร็ว

ปึก! ปึก! ปึก! ปั๊กก!!

ท่าเตะของจี้เฟิงพุ่งตรงไปที่เข่าของชายทั้งสี่คนอย่างแม่นยำและรุนแรง จนเหมือนจะได้ยินเสียงแตกของกระดูก ชายทั้งสี่คนกรีดร้องพร้อมกันอย่างมิได้นัดหมายและล้มลงไปกับพื้น

จี้เฟิงยืนหอบแฮ่กๆ ได้ยินเสียงกรีดร้องดังมาจากชายทั้งหกคนที่ล้มลงอยู่บนพื้น เขาตกใจและไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะทำได้

ในไม่ช้าชายทั้งหกคนก็เริ่มพยุงพากันลุกขึ้นและรีบหนีเข้าไปใจตรอกเล็กๆและหายไป

......จบบทที่ 13~❤️

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด