ตอนที่แล้วบทที่ 191
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 193

บทที่ 192


เนี่ยฟงหันไปสบตากับเสี่ยวจูพร้อมกับยกยิ้ม เสี่ยวจูพยักหน้าตอบรับ สะบัดมือขวาสร้างวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีเขียวขนาดใหญ่ขึ้นที่บ้านพัก ไม่นานก็กลายเป็นม่านพลังมีเขียว ดาบสีดำในมือถูกกวัดแกว่งเข้าปะทะ จูเซียะฟงสะบัดมือขวากำชับดาบในมือเข้าฟาดฟันด้วยเช่นกัน เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง แรงลมจากแรงปะทะพัดพาหิมะฟุ้งกระจาย ชาวยุทธ์ทั้งหลายถอยออกมาเฝ้าดูรอบนอก เนี่ยฟงหรี่ตามองรอบด้านในเมื่อผู้คนเริ่มถอยหนีจึงเร่งโคจรลมปราณ พร้อมกับใช้ทักษะอาภรณ์สายลมและท่าเท้าเหยียบนภาเข้าประชิด เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง

จูเซียะฟงขมวดคิ้วทั้งสองขึ้นเพิ่มพลังถึงหกส่วนแต่ไม่สามารถกดดันเด็กหนุ่มด้านหน้าได้ จึงแอบสะบัดมือซ้ายกำผงพิษซ่อนเอาไว้ ทันทีที่เด็กหนุ่มด้านหน้าพุ่งเข้ามาประชิดจึงซัดฝ่ามือซ้ายออกมา เนี่ยฟงเองเมื่อเห็นฝ่ามือซ้ายซัดเข้ามาจึงใช้ฝ่ามือซ้ายต้านรับเช่นกัน เปรี้ยง เลือดสีแดงพุ่งกระฉูดออกจากฝ่ามือไม่นานก็กลายเป็นสีม่วง เนี่ยฟงแสยะยิ้มเร่งโคจรลมปราณฟาดฟันดาบในมืออย่างรวดเร็ว จูเซียะฟงตื่นตกใจไม่น้อยตัวเองถูกพิษร้ายของตนทำร้าย คิดถีบเท้าถอยหลบหนีแต่ก็ไม่สามารถทำได้ ถูกเด็กหนุ่มด้านหน้าใช้คมดาบฟาดฟันกันหลบหนี

ผู้คนด้านนอกส่งเสียงอื้ออึงผู้อาวุโสที่ปรึกษาของสำนักถูกเด็กหนุ่มรุ่นหลานกดดันจนแทบทำอะไรไม่ได้ เนี่ยฟงแสยะยิ้มเพิ่มแรงกดดันเข้าไปอีก เสียงเหนื่อยหอบดังแว่วออกมา จูเซียะฟงระเบิดพลังปราณหวังคิดหลบหนี ตูม เกราะสายฟ้าปรากฏออกมาต้านรับแรงปะทะ เถาวัลย์สีฟ้าพุ่งเข้ารัดตัวอย่างรวดเร็ว ดาบสีดำในมือถูกตวัดวาดผ่านแขนขวาขาดหลุดกระเด็นร่วงลงพื้นพร้อมกับดาบ เนี่ยฟงถีบเท้าซ้ายเบี่ยงตัวออกไปทางขวาซัดฝ่ามือซ้ายเข้าที่หน้าอก เปรี้ยง จูเซียะฟงกระอักเลือดออกมา

การต่อปะทะจบลงอย่างรวดเร็ว จูเซียะฟงถูกจัดการลงภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งเค่อเพราะความประมาณ เนี่ยฟงใช้ดาบสีดำในมือจ้วงแทงไปที่ขาซ้ายปักตรึงเอาไว้บนพื้น สะบัดมือขวาวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าปรากฏขึ้นที่พื้นดิน ไม่ถึงสามลมหายใจก็กลายเป็นแสงพุ่งหายเข้าไปที่จุดตันเถียน ในระหว่างนั้นเองเนี่ยฟงได้ให้ลุ่ยกงตรวจสอบโดยรอบไม่มีสิ่งใดผิดปกติ น่าแปลกใจไม่น้อยที่ไม่มีสิ่งใดผิดปกติ แน่นอนว่าทันทีที่จูเซียะฟงถูกจัดการ มีชาวยุทธจำนวนไม่น้อยก้าวเดินเข้ามาหาจูเซียะฟง สิ่งที่เนี่ยฟงและพรรคพวกเห็นก็คน คนที่เดินเข้ามาล้วนถุยน้ำลายลงไปที่จูเซียะฟงพร้อมกับตะโกนด่าทอ

เกือบสองเค่อฝูงคนก็แหวกเป็นทาง ชายชราสวมชุดสีฟ้าหน้าตาหล่อเหลาผมสีดอกเลา รูปร่างสูงโปร่ง เดินนำหน้าเข้ามาพร้อมผู้อาวุโสติดตามอีกนับสิบคน กลุ่มของเนี่ยฟงเองทันทีที่ได้ยินเสียงกล่าวเรียกจึงต้องคารวะตาม เพราะชายชราผู้นั้นมีนามว่าหลิวปังเป็นเจ้าสำนักพยัคฆ์ขาว

“คารวะเจ้าสำนัก”

“ผู้ใดคือเนี่ยฟง”

เสียงเอ่ยถามจากหลิวปังสอบถามหาเนี่ยฟง

“เป็นข้าเองขอรับ”

เนี่ยฟงเองเมื่อกล่าวตอบรับก็ก้าวเดินออกมาด้านหน้า

“ดี ดี ยังหนุ่มยังแน่นแต่มากด้วยฝีมือดี ข้าได้รับจดหมายแนะนำของเจ้าแล้ว ข้าให้สิทธิ์เจ้าเต็มที่สำหรับจัดตั้งกลุ่มที่เจ้าต้องการ แต่ต้องหลังจากงานสังหารสัตว์อสูรเสียก่อน ส่วนเรื่องในวันนี้ข้าจะขอจัดการเอง ฟูเซียะฟงคงหนีความผิดไม่รอดเป็นแน่เพราะหลักฐานเอาผิดทุกคนเห็นได้ชัด ผู้อาวุโสเหยินสง ควบคุมตัวฟูเซียะฟงเอาไว้รอการสอบสวนจากข้า”

“ขอรับ”

ไม่นานฟูเซียะฟงก็ถูกควบคุมตัวกลับไป ฝูงคนเริ่มจางหายออกไปจากบริเวณ ทั้งสามจึงออกไปในเมืองเพื่อหาอาหารทาน ระหว่างทางมีแต่ชาวบ้านกล่าวถึงเรื่อวของฟูเซียะฟง หลายคนสบถด่าทอ หัวเราะชอบใจสนุกสนาน บรรดาพ่อค้าบางคนที่จดจำเนี่ยฟงได้ ต่างนำขนมและอาหารมาให้จนหยางเวยและเสี่ยวจูตื่นตกใจ ทันทีที่เข้ามาในโรงเตี๊ยมทั้งสามถูกต้อนรับอย่างดีโดยเถ้าแก่ร้านและเสี่ยวเอ้อ เมื่อมานั่งที่โต๊ะหยางเวยจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“เถ้าแก่ เกิดสิ่งใดขึ้นที่นี่”

“พวกเจ้าทั้งสามยังไม่รู้ตัวหรืออย่างไร ว่าพวกเจ้าทั้งสามได้กระทำสิ่งใดไป ตาแก่แซ่จูบัดซบนั้น ใช้อำนาจเข้าจัดการกับเมืองหลวง จัดการส่งคนมารีดไถเงินไม่เว้นแต่ละวัน อีกอย่างยังส่งคนมาจัดการกับผู้ไม่เห็นด้วยเพราะอำนาจในมือ แม้แต่เจ้าสำนักหลิวปังก็หาได้จัดการได้ เพราะความเกรงใจและระดับพลังที่ต่างกัน เอาเถอะมื้อนี้พวกเจ้าจะทานสิ่งใดแจ้งต่อเสี่ยวเอ้อเถอะ มื้อนี้ข้าขอเลี้ยงพวกเจ้าก็แล้วกัน”

หยางเวยเองยกยิ้มอย่างดีใจเอ่ยวาจาสั่งอาหารมาห้าหกอย่างเต็มโต๊ะ ในระหว่างที่ทั้งสามทานอาหารก็มีชาวยุทธจำนวนไม่น้อยเดินมาแวะเวียนกล่าววาจาขอบคุณ เกือบชั่วยามที่ทั้งสามทานอาหารอยู่ก็ได้ยินเสียงตะโกนดังลั่นไปตามทางเดินเพื่อแจ้งข่าวที่เกิดขึ้นที่หน้าเมือง

“จูเซียะฟงถูกประหารนำศีรษะขึ้นแขวนที่หน้าประตูเมืองหลวง”

เสียงตะโกนโห่ร้องดังยิ่งขึ้นกว่าเดิม หลายคนขึ้นมากล่าวขอบคุณพวกเนี่ยฟงอีกรอบ ทั้งสามได้แต่ยกยิ้มตอบรับ หลังจากทานอาหารเสร็จสิ้น จงเหรินป้าและหยางเฟยก็เดินเข้ามาพบที่ด้านหน้าของโรงเตี๊ยม

“ศิษย์น้องยินดีกับพวกเจ้าด้วย ตอนนี้หลายกลุ่มเริ่มที่จะรวมกลุ่มคิดเข้าร่วมกับเจ้าแล้ว”

หยางเวยขมวดคิ้วเอ่ยถาม

“เหตุใดถึงเป็นเช่นนั้นขอรับ”

“เหอะ ยังจะกล่าวสิ่งใดอีกก็เรื่องที่พวกเจ้าทั้งสามกระทำ เป็นที่ถูกอกถูกใจหลายกลุ่มไม่น้อย”

“เป็นเช่นนั้น”

“ว่าแต่อีกไม่กี่วันก็ถึงวันภารกิจแล้ว พวกเจ้าเตรียมตัวอย่างไรบ้าง”

“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงขอรับศิษย์พี่”

“เช่นนั้นก็ดี”

เมื่อกล่าวเสร็จสิ้นจงเหรินป้าก็ไม่ออกไปไหนทำสีหน้าครุ่นคิดบางอย่างจนเนี่ยฟงผิดสังเกต

“หากพวกท่านยังไม่ได้ไปที่ใด เช่นนั้นเชิญที่บ้านขอข้าก่อนข้ามีบางอย่างจะสอบถาม”

ระหว่างทางกลับบ้านพัก มีผู้คนจำนวนไม่น้อยนำสิ่งมาของให้ทั้งสาม ทันทีที่กลับมาถึงบ้านพัก มีคนหลายสิบคนมายืนรอที่ด้านหน้า ทั้งหมดเมื่อเห็นจงเหรินป้าก็พากันหลบถอยออกไป แน่นอนว่าเรื่องนี้เนี่ยฟงก็สังเกตเห็นเช่นกัน เมื่อทั้งหมดเข้ามาด้านในบ้าน เนี่ยฟงรีบสะบัดมือขวาวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ปรากฏออกมากลายเป็นโดมขนาดใหญ่ปกคลุมทั่วบ้านพัก จงเหรินป้าเมื่อเห็นเช่นนั้นก็รีบเอ่ยวาจาออกมา

“ขอบใจเจ้ามากเนี่ยฟง”

หยางเวยรีบหันมามองทั้งสอง

“เกิดสิ่งใดขึ้น”

“ข้ามีเรื่องที่จะต้องเตือนพวกเจ้า ให้ระวังเจ้าสำนักหลิวปังเอาไว้ ไม่แน่เรื่องทั้งหมดอาจเป็นแผนการที่หลอกใช้พวกเจ้าจัดการกับจูเซียะฟงก็เป็นได้”

จงเหรินป้าหันไปมองหยางเฟยที่ยืนอยู่ข้างๆ

“หยางเฟยนำบันทึกที่เราได้มาจากบ้านพักตาแก่กังเปียก”

หยางเฟยรีบนำสะบัดมือนำบันทึกยืนให้แก่หยางเวย

“นั้นเป็นบันทึกที่ข้าและหยางเฟยแอบลอบเข้าไปตรวจค้นที่บ้านของตาแก่นั้น มีข้อมูลบางอย่างน่าสนใจเชื่อมโยงไปที่เจ้าสำนักหลิวปัง”

“เหตุใดพวกท่านจึงต้องแอบเข้าไปตรวจค้นที่นั่น”

“ข้าเพียงแต่ตามหาคนที่สังหารบิดาข้า และคนที่ลงมือก็คือตาแก่แซ่จู ข้าเองต้องขอบใจพวกเจ้าไม่น้อยสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น”

เนี่ยฟงทำได้เพียงพยักหน้าให้ ไม่ถึงสามลมหายใจก็เอ่ยถามจงเหรินป้าอีกครั้ง

“ว่าแต่คนที่ถอยหลบหนีไปเมื่อเจอท่านคือกลุ่มของผู้ใด”

“คนพวกนั้นเป็นคนของเจ้าสำนักหลิวปัง เป็นคนของกลุ่มพยัคฆ์ขาวกลุ่มใหญ่ที่สุดที่นี่ โดยส่วนมากจะรวบรวมพวกระดับหัวกะทิและคนที่มากฝีมือของแต่ละกลุ่มเอาไว้ ข้าไม่แน่ใจเช่นกันว่าคนพวกนั้นมาที่นี่ทำไม พวกเจ้าก็ระวังตัวหน่อยก็แล้วกัน”

หลังจากนั้นทั้งห้าก็นั่งคุยกันอยู่นานเกือบชั่วยามจงเหรินป้าและหยางเฟยก็ขอตัวกลับ เป็นหยางเวยที่เอ่ยวาจาออกมา

“เนี่ยฟง เจ้าคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น”

“ข้าคิดว่ามันแปลกเกินไป แล้วเหตุใดเจ้าสำนักถึงไม่คิดลงมือเอง หากไม่มีความสามารถเข้าปะทะเหตุใดไม่ใช้อำนาจที่มีอยู่สั่งการจับกุม อีกอย่างเหตุใดถึงปล่อยให้มีการรีดไถกันเกิดขึ้นในเมือง ยิ่งคิดยิ่งแปลกกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่”

“แล้วเจ้าจะทำอย่างไรอีกไม่กี่วันก็ถึงงานล่าสังหารสัตว์อสูรแล้ว”

“เวลาอีกสี่วันที่เหลือ พวกเจ้าเร่งเพิ่มระดับพลังปราณเถอะ หากงานล่าเกิดขึ้นเมื่อไร เราคงไม่ได้รับมือเพียงแค่สัตว์อสูรเป็นแน่ อีกอย่างหากเรื่องที่จงเหรินป้ากล่าวมา เราคงต้องระวังตัวไม่น้อย”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด