ตอนที่แล้วตอนที่ 19 - เรื่องธรรมดาในโคลอสเซียม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 21 - ข้อเสนอที่น่าสนใจจากออเรเลีย

ตอนที่ 20 - ไม่อยากปล่อยไป, ทั้งปีเลยยังได้


*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*

------------------------------------------------------------------------------------------------------------

“ไงจ๊ะ ซีซาร์, ไม่นึกเลยนะว่าจะเจอกันที่นี่…”

 

พอนั่งลงได้ไม่นานก็มีสตรี2นางเข้ามา. คนหนึ่งอายุ36ปีอีกคน14ปี. คนที่แก่กว่าดีใจมากที่ได้เห็นซีซาร์พร้อมก้มตัวมาหยิกแก้มซีซาร์เล็กน้อย.

 

“สวัสดีครับท่านป้า. สวัสดีครับท่านพี่…”

 

ซีซาร์พูดอะไรไม่ออกเพราะเธอหยิกแก้มเขาอยู่.

 

ป้าของซีซาร์หรอ?

 

ภรรยาของนักปฏิรูปการทหารมาโลรี่งั้นเหรอ? ชั้นคิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะสาวขนาดนี้!

 

มาโลรี่แต่งงานที่อายุ40 และมันไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีภรรยาเด็ก. เพราะผู้หญิงยุคนี้แต่งงานในช่วงอายุยังน้อย.

 

เย่เทียนตกใจเล็กน้อย.

 

มาโลรี่ตอนนี้น่าจะเป็นชายแก่อายุ60แล้ว. เวลานี้เขาคงจะโดดเดี่ยวเรื่องการเมือง แต่ถึงอย่างงั้นในวุฒิสภา, มาโลรี่ก็ยังอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญอยู่ดี.

 

เขาได้สร้างความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ด้านการทหารแก่สาธารณรัฐโรมัน.

เขาเคยได้นั่งเก้าอี้อยู่5สมัย, เป็นผู้รักษาการคลังอยู่6ครั้ง และถูกเรียกว่าท่านพ่อจากพวกทหารโรมันหลายคน.

 

เดาไม่ยากเลยว่าเกียรติศักดิ์ของเขาในหมู่ทหารโรมันนั้นสูงเอามากๆ.

แม้ว่าตอนนี้เขาจะเริ่มแก่ตัวและอ่อนแอลง ยังไงอูฐผอมๆก็ยังตัวใหญ่กว่าม้าอยู่ดี.

 

แต่ในช่วงปีหลังๆมานี้มาโลรี่โชคไม่ค่อยดีนัก. ไม่กี่ปีมานี้เขาเริ่มติดๆขัดๆ.

ด้วยความล้มเหลวจากการเปลี่ยนแปลงในหลายปีก่อนทำให้ประชาชนผิดหวัง และผลเสียจากการปฏิรูปทางทหารก็เริ่มจะมีมากขึ้นในช่วงนี้. ระหว่างสงคราม พวกทหารก็เริ่มจะไม่มีงานทำกลายเป็นว่าชื่อเสียงระหว่างพวกทหารของเขาแย่ลงกว่าเดิม.

 

เพื่อที่จะเรียกชื่อเสียงเขากลับมาเขาเคยเสนอเมืองและเงินบำนาญให้พวกทหาร แต่ก็โดนทางสภาค้านไปอย่างหนัก.

 

แต่ปัจจุบันตอนนี้อยู่ใน ‘ช่วงสงครามพันธมิตร’ และมาโลรี่กลับมามีบทบาททางการเมืองและชี้นำสงครามภายนอกอีกครั้ง.

 

ในภายหน้าเย่เทียนรู้ดีว่ามาโลรี่แก่มากแล้ว. ต่อให้เขาพยายามแค่ไหนเขาก็ไม่มีวันเปลี่ยนอะไรได้. เขาถูกชะตาลิขิตมาให้โดดเดี่ยว.

 

ในอีก2ปีเขาจะก่อสงครามกลางเมืองกับคู่ต่อสู้ยักษ์ใหญ่ของเขา, ทรราชซูระ แต่เขาก็จะพ่ายแพ้จนถูกขับไล่ออกจากประเทศไป.

 

เย่เทียนเคยคิดว่าจะร่วมมือกับมาโลรี่ดีหรือป่าว แต่พอคิดดีๆแล้วเขาเลือกไม่ดีกว่า.

มาโลรี่ทำอะไรไม่ได้แล้ว มันอาจจะเป็นการแย่ถ้าเขาไปร่วมมือด้วย.

 

ต่อให้ช่วงก่อนตายที่เขาได้อำนาจกลับคืนมานั้น มันก็เป็นแค่แสงชั่วขณะก่อนที่เขาจะตายลง.

 

“ออเรเลีย, พ่อหนุ่มสุดล่ำข้างๆเจ้าเป็นใครกันรึ?”

 

พอหันมาทางออเรเลีย ภรรยาของมาโลรี่ก็สังเกตุเห็นชายหนุ่มแปลกหน้าข้างๆออเรเลีย และอดไม่ได้ที่จะถาม. มีความสงสัยอยู่ในตาเธอเต็มไปหมด.

 

เนื่องจากพ่อของซีซาร์ไม่อยู่ทั้งปี นางจึงกังวลว่าออเรเลียอาจจะทนเหงาไม่ไหวแล้วทำอะไรที่จะทำให้พ่อของซีซาร์เสียใจ.

 

“ท่านพี่จูเลีย, ระวังหน่อยค่ะ, นี่คือท่านซาตาน อาจารย์สอนวิชาดาบของซีซาร์!”

 

ออเรเลียพูดอย่างสุภาพแต่พอเย่เทียนได้ยินดังนั้นคิ้วเขาก็ขมวดเล็กน้อย. เขาไปเป็นอาจารย์สอนวิชาดาบให้ซีซาร์ตอนไหน?

 

นางอยากจะให้เขามีตัวตนขึ้นมาต่อหน้าพวกผู้ดีเหล่านี้งั้นหรอ?

แน่นอนว่าเธอเป็นผู้หญิงที่มีความคิดและคงเดาไว้แล้วว่าเย่เทียนต้องปฏิเสธคำขอ ให้เป็นอาจารย์ของซีซาร์แน่ๆ เธอจึงพูดออกไปแบบนั้นต่อหน้าคนอื่น.

 

นางยังคิดไว้แล้วอีกว่าเย่เทียนคงไม่กล้าฉีกหน้าเธอตรงนี้แน่ เพราะไม่อย่างงั้นเขาอาจจะทำให้เธอไม่พอใจและนั่นหมายถึงการทำให้ทั้งตระกูลซีซาร์และตระกูลออเรเลียส ค็อตต้าไม่พอใจเอาได้เหมือนกัน.

 

มันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยที่ชาวเมืองที่เป็นนายทาสธรรมดาจะทำให้ชนชั้นสูงไม่พอใจ.

 

เรื่องนี้มันจะดีอยู่หรอกถ้าตระกูลซีซาร์กับมาโลรี่นั้นลอยลำไปได้ด้วยดี แต่เย่เทียนรู้ว่าอีกไม่กี่ปี ตระกูลของซีซาร์ก็จะมีเพียงแค่ซีซาร์ที่เหลืออยู่ และพอมาโลรี่ตายไป บวกกับซูระที่มีอำนาจกลับมาเป็นทรราชอีกครั้ง พวกคนของมาโลรี่ทั้งหมดก็จะถูกฆ่าตายไป.

 

แม้แต่ออเรเลียส ค็อตต้าก็คุ้มกันซีซาร์ไม่ได้.

 

ในประวัติศาสตร์นั้น ซีซาร์รอดมาได้โดยบังเอิญ จากการถูกเนรทศและการลอบสังหาร แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ถูกทิ้งไว้หลายปีอยู่ดี.

 

“......”

 

ตอนเย่เทียนกำลังจะเปิดปากพูด ออเรเลียจับมือเขาไว้อย่างลับๆ. ความหมายก็ชัดเจนอยู่.

 

“ท่านหญิงยูเลียผู้งดงามและสูงส่ง, ข้าเป็นเกียรตินักที่ได้พบท่าน ข้าคิดว่านี้คงเป็นลิขิตของพระเจ้าแน่!”

 

เย่เทียนเปิดปากพูดไป. แม้จะไม่แฮปปี้เล็กน้อย แต่เย่เทียนก็ไม่กล้าฉีกหน้าเธอ. เพราะว่าถ้าเขาอยากจะเกาะแข้งเธอไว้ตลอด เรื่องแค่นี้ก็ไม่น่าจะเป็นอะไร.

 

แม้ว่าจะติดแหงกอยู่กับซีซาร์ที่อาจจะเป็นก้างขวางเขาในอนาคต แต่อีกไม่กี่ปีก็จะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแน่.

 

หลังจากวางแผนมาหลายปีถ้าเขาไม่มีพลังที่มั่นคงไว้ยึดเกาะล่ะก็ มันก็เป็นความด้อยค่าของตัวเขาและสมควรจะถูกฆ่า.

 

เย่เทียนยิ้มอย่างสดใสแต่มือเขาก็จับมือของออเรเลียแน่นขึ้นและบีบมันเบาๆ, ร่างกายของเธอหวั่นไหวเล็กน้อยแต่ใบหน้าของเธอยังดูนิ่งอยู่.

 

“ครูฝึกวิชาดาบของซีซาร์งั้นรึ? นี่เขาอายุเยอะพอขนาดจะมีความสามารถแล้วรึ?”

 

คำชมของเย่เทียนทำให้ยูเลียดีใจจริงๆ แต่นางก็ยังสงสัยอยู่.

 

“ท่านป้าครับ ท่านอาจารย์เป็นนักดาบที่แข็งแกร่งที่สุดจริงๆ. พละกำลังของเขาไม่สามารถวัดได้จากอายุเลยครับ!”

 

ซีซาร์รีบตอบและเขาก็ยังคว้าโอกาสนี้ที่จะทำให้เย่เทียนเป็นอาจารย์. พอถูกเย่เทียนจ้องมา เขาก็แลบลิ้นใส่และหลบหน้าไป.

 

ภาพเด็กโดนตื้บแว่บมาในหัวของเขาเลย.

 

“ข้าจะไปเยี่ยมชมวันหลังแล้วกัน, แล้วพบกันนะ…”

 

รอยยิ้มเล็กๆโผล่ขึ้นมาที่ใบหน้าของยูเลียและเธอจ้องไปทางเย่เทียนดีๆอีกครั้ง ราวกับว่าเธอพยายามจะนึกหน้าเขาให้ออก. แล้วพาลูกสาวไปนั่งที่ที่ไม่ห่างจากพวกเขานัก.

 

“มือเจ้า!”

 

พอยูเลียจากไป ออเรเลียกระซิบที่หูของเย่เทียน.

 

“เอ่อ…โปรดอย่าเข้าใจผิด….”

 

เย่เทียนปล่อยมือนางไปแล้วยิ้มพร้อมพูดอย่างอินโนเซ้นส์.

 

“ความรู้สึกที่ได้จับมือข้าเป็นยังไงบ้าง?”

 

ใบหน้าของออเรเลียแดงออกมาพักหนึ่ง ต่อว่าเย่เทียนที่กล้าจับมือนางอย่างไร้ยางอายแล้วถามเขาด้วยรอยยิ้ม.

 

“ข้าชอบมันมาก ขนาดว่าไม่อยากให้มันจากไปและอยากจับมันไว้ทั้งปีเลย”

 

เย่เทียนพูดความจริงออกไป.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด