ตอนที่แล้วเธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ บทที่ 22: นี่คือลูกอม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ บทที่ 24: เข้าเรียน

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ บทที่ 23: ขอให้ครูตรวจสอบ


大姐大 บทที่ 23: ขอให้ครูตรวจสอบ

หัวหน้าแผนกการสอนรู้สึกรำคาญมาก ทำไมเธอจึงนำลูกอมแบบนี้มาโรงเรียน ต้องการความแปลกใหม่รึไง  เจี่ยนอีหลิงนี่ช่างเป็นคนใจร้ายจริงๆ

หลังจากผ่านไปนาน หัวหน้าแผนกการสอนก็กัดฟัน พูดว่า “ในเมื่อนี่เป็นความเข้าใจผิด ดังนั้นทุกคนก็ควรแยกย้ายกันไปได้ หัวหน้าชั้นอยู่ไหน รีบจัดระเบียบการอ่านหนังสือในตอนเช้า

นอกจากแยกย้ายกันไป ก็ไม่มีอะไรให้ทำอีกแล้ว

โรงเรียนมัธยมเชิงหัวไม่ได้ห้ามนักเรียนไม่ให้เอาน้ำตาลมาโรงเรียน

หัวหน้าฝ่ายการศึกษาต้องการที่จะจากไป แต่เจี่ยนอีหลิงยังคงมีบางอย่างที่จะพูด

“หนังสือฉันถูกโยนทิ้งด้านหลัง”

เสียงของเจี่ยนอีหลิงนั้นนุ่มนวลและพูดช้า  ไม่เหมือนกับว่าเธอร้องเรียน แต่เพียงแค่พูดความจริง

เมื่อหัวหน้าฝ่ายการสอนได้ยินคำพูด เขาก็เหลือบมองไปเห็นหนังสือที่กระจัดกระจายอยู่ด้านหลังของห้องเรียน เขาไม่ต้องการที่จะยุ่งเกี่ยว แต่ก็ไม่สามารถที่จะเพิกเฉยได้

ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะถูกมองว่าไร้ความรับผิดชอบ ต่อหน้านักเรียนทั้งชั้น

ถ้าเขายังไม่ได้อยู่ที่นี่ในวันนี้ เขาอาจจะเลือกไม่มาที่นี่ก็ได้ แต่ทั้งหมดนี้กลับอยู่ต่อหน้าต่อตาเขา ถ้าหากว่าเขาหันกายจากไปทำเหมือนกับว่าไม่เห็น นั่นดูเหมือนจะไม่สมเหตุผล

ไม่ว่าอย่างไร พฤติกรรมโยนหนังสือของเพื่อนร่วมห้องเรียนแบบนี้เป็นเรื่องที่แย่มาก และไม่ควรจะเกิดขึ้นในโรงเรียนที่มีกฏระเบียบเข้มงวดอย่างเช่นโรงเรียนมัธยมเชิ่งหัว

ดังนั้นหัวหน้าฝ่ายการสอนจึงได้แต่ต้องถามคำถามกับนักเรียนทั้งชั้น “ใครที่ทำแบบนี้ สำนึกตัวยอมรับโทษด้วยตนเองซะ อย่ารอให้ครูพบเห็น เธอจะถูกลงโทษอย่างหนักถ้าเธอถูกพบตัว”

ทั้งห้องเรียนเงียบกริบ ทุกคนต่างก็รู้ว่าชิวหยีเจนเป็นคนทำ

ตอนที่ชิวหยีเจนกำลังทำเรื่องนี้อยู่ นักเรียนจากห้องเรียนที่แปดเกือบทั้งห้องต่างก็อยู่ที่นี่

ชิวหยีเจนยืนอยู่ข้างหลังหัวหน้าฝ่ายการสอน ส่งสายตาเขม่นไปยังนักเรียนในห้องเป็นการคุกคาม

ถ้าใครกล้าพูด เธอจะทำให้คนผู้นั้นเห็นดีแน่

ทั้งชั้นเรียนต่างพากันเงียบ แม้กระทั่งเพื่อนร่วมโต๊ะที่เป็นคนบอกเจี่ยนอีหลิงในตอนต้นยังก้มหน้าของเธอลงอย่างเงียบๆ เธอไม่กล้าที่จะล่วงเกินชิวหยีเจนจริงๆ

หัวหน้าฝ่ายการสอนไม่อยากยุ่งเกี่ยวเรื่องนี้อีกต่อไปเช่นกัน เขากล่าวว่า “ในเมื่อไม่มีใครรู้ งั้นก็ต้องปล่อยเรื่องนี้ไว้ก่อน หากว่าใครจำได้หรือว่าพบเห็นเบาะแสก็ให้ไปแจ้งครูที่สำนักงาน”

ปกติแล้วเป็นไปไม่ได้ที่จะมีเรื่องราวตามหลัง

มุมปากของชิวหยีเจนยกขึ้น มองดูเจี่ยนอีหลิงอย่างยั่วยุ

เจี่ยนอีหลิงยังคงพูดต่อกับหัวหน้าฝ่ายการศึกษาอย่างใจเย็นว่า “เวลาที่เกิดเหตุอยู่ในช่วงเจ็ดวันนี้ กล้องวงจรปิดเก็บไว้นานกว่าหนึ่งเดือน สามารถดูกล้องวงจรปิดหาคนทำผิดได้”

ความคิดของเจี่ยนอีหลิงนั้นชัดเจน เธอไม่ได้ชักช้าหรือเร่งร้อน ไม่โกรธและไม่หวาดกลัว

เมื่อได้ยินแบบนี้ ก้นชิวหยีเจนก็ลุกเป็นไฟ ถ้าหัวหน้าฝ่ายการสอนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดจริง เธอย่อมถูกเปิดโปงอย่างแน่นอน

ในขณะที่กำลังกระวนกระวาย เธอก็ด่าเจี่ยนอีหลิงเงียบๆในใจ “ยัยตัวเล็กร้ายกาจนี้มีตาเยอะจริงๆ”

เธอรู้กระทั่งการตรวจดูกล้องวงจรปิด ดูเธอจะเอาจริง

หัวหน้าฝ่ายการสอนรู้วิธีที่เจี่ยนอีหลิงพูด แต่เขาไม่ได้กล่าวถึงเมื่อกี้นี้เพราะว่าเขาไม่ต้องการที่จะเสียเวลาเสียแรงกับเรื่องเล็กน้อยแบบนั้น

ยิ่งไปกว่านั้นนี่เป็นเจี่ยนอีหลิง นักเรียนเลวที่ไม่มีค่าพอที่จะเป็นนักเรียนของโรงเรียนมัธยมเชิ่งหัว

เดิมทีเขาต้องการที่จะลืมเรื่องนี้ แต่เขาไม่คิดว่าเจี่ยนอีหลิงจะมีความคิดที่ชัดเจนแบบนั้นบอกให้เขารู้ว่าเขาจำเป็นจะต้องไปตรวจกล้องวงจรปิด

ต่อหน้านักเรียนทั้งชั้น หัวหน้าฝ่ายการศึกษารู้สึกเหมือนกับว่าเจี่ยนอีหลิงทำให้เขาอับอาย

หัวหน้าฝ่ายการศึกษาทำหน้าตาเฉยกล่าวว่า “ครูต้องการให้เธอพูดเรื่องนั้นด้วยรึไง แน่นอนว่าครูรู้เรื่องการตรวจสอบกล้องวงจรปิด แต่ครูต้องการที่จะให้โอกาสเพื่อนนักเรียนคนที่ทำผิดให้มีโอกาสแก้ไขตนเองและสารภาพความผิดออกมา”

เจี่ยนอีหลิงพยักหน้า “ถ้าเพื่อนนักเรียนคนนั้นไม่แสดงตัว ครูอย่าลืมตรวจกล้องวงจรปิด”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด