ตอนที่แล้วตอนที่ 8 เฉียวเฉินถูกย้ายวอร์ด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 10 ไม่ได้นัดไว้ จะเข้าพบกับท่านประธานเหมาไมได้

ตอนที่ 9 นี่เหรอ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล


เฉียวเฉินยังไม่รู้เรื่องราวการเลิกราระหว่างเฉียวเมียนเมียนกับซูเจ๋อ

"ไม่ใช่เขาหรอก”

เฉียวเมียนเมียนขมวดคิ้วด้วยความสับสน เธอไม่เข้าใจสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า

ซูเจ๋อเลิกกับเธอแล้ว คนที่จัดการเรื่องนี้ให้กับเธอ คงไม่ใช่เขา พ่อของเธอกับเฉียวเฉินก็คงเป็นไปไม่ได้

ห้องพิเศษของที่นี่ดูจะแพงเอาเรื่อง การเข้าพักที่นี่คงจะใช้เงินไม่ใช่น้อย หากไม่ใช่คนจากตระกูลเฉียวจ่ายให้ แล้วใครจะจัดการให้กันนะ

ใครกันที่ใจดีช่วยน้องชายของเธอโดยไม่มีเหตุผลแบบนี้

ยิ่งคิดเฉียวเมียนเมียนก็ยิ่งคิดไม่ออก

“ก๊อก ก๊อก” เสียงเคาะประตูห้องพักดังขึ้น

เฉียวเมียนเมียนเดินออกไปเปิดประตู

พยาบาลยืนรออยู่หน้าห้อง เมื่อเห็นเธอ หล่อนจึงพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

“คุณเฉียวคะ ท่านผู้อำนวยการของเราต้องการพูดคุยกับคุณเกี่ยวกับอาการของน้องชายคุณค่ะ กรุณาตามฉันมาด้วยค่ะ”

ดวงตาเฉียวเมียนเมียนเปิดกว้างด้วยความประหลาดใจ “ผู้อำนวยการเรียกหาฉันเหรอคะ”

“ใช่ค่ะ”

...

ที่ออฟฟิศของสำนักท่านประธาน

พยาบาลคนเดิมเดินนำหล่อนไปยังหน้าประตู ก่อนจะเอื้อมมือขึ้นเคาะประตูเบา ๆ

ประตูห้องของเขาเปิดแง้มไว้อยู่ก่อนหน้า เสียงเจ้าของห้องดังลอดออกมาจากภายในห้อง

“เข้ามาได้”

เสียงหนุ่มกว่าที่คิดแฮะ เฉียวเมียนเมียนคิดอยู่ในใจ เธอเอื้อมมือขึ้นเปิดประตูออกเบา ๆ

เมื่อหล่อนเดินเข้าไปในห้อง ก็ได้พบกับหนุ่มหล่อหน้าตาดีนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงาน ดูแล้วเขาน่าจะอายุประมาณ 25ปีได้ล่ะมั้ง เขาดูอ่อนโยน ใบหน้าหล่อเหลารับกับแว่นตาสีทอง ยิ่งทำให้เขาดูเป็นสุภาพบุรุษเพิ่มมากขึ้น

นี่เหรอ ท่านผู้อำนวยการ?

ดวงตาของเฉียวเมียนเมียนเปิดกว้างแสดงให้เห็นความประหลาดใจและลังเลอย่างเห็นได้ชัด

ผู้อำนวยการยังหนุ่มอยู่เลย

ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าเขาจะมีอายุราว ๆ 55-60 ปีซะอีก

“สวัสดีครับคุณเฉียว เชิญนั่งก่อนสิครับ”

เฉียวเมียนเมียนถูกลู่เหยาเพ่งพิศ เขามองหล่อนด้วยความสนใจอย่างเห็นได้ชัด

ผู้หญิงคนนี้เหรอที่เหมาเยซือสนใจ ดู ๆ ไปแล้ว เธอก็สวยใช้ได้เลยนี่ ขนาดไม่ได้แต่งตัวนะเนี้ย

เธอเป็นสาวรุ่น อายุ 20ต้น ๆ ใบหน้า ผิวพรรณเปล่งปลั่ง แม้จะเคยเจอผู้หญิงสวย ๆ มานักต่อนักแล้ว เสน่ห์ของเธอยังทำให้เขาทึ่งได้

หลังจากที่มองหล่อนเพียงครู่ เขาก็ยิ้มและกล่าวขึ้น

“คุณเฉียวครับ ไม่จำเป็นต้องพิธีรีตองอะไรหรอกครับ พวกเราก็ไม่ได้อายุห่างกันเยอะ ทำตัวสบาย ๆ เหมือนเพื่อกันทั่วไปก็ได้ครับ”

เฉียวเมียนเมียนรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะพยักหน้าแล้วนั่งลงด้วยรอยยิ้ม

“ผอ.คะ ฉันได้ยินว่าคุณต้องการจะคุยกับฉันเรื่องการของน้องชายฉัน”

เฉียวเมียนเมียนถามเขาอย่างตรงไปตรงมา

“อาการของเขามีอะไรเปลี่ยนแปลงงั้นเหรอคะ”

ลู่เหยายกกาแฟขึ้นจบ “มันมีอะไรเปลี่ยนไปเล็กน้อยครับ”

เฉียวเมียนเมียนรู้สึกเครียดขึ้นมาทันทีทันใด “ยังไงเหรอคะ”

“จากอาการของน้องคุณ เขาควรได้รับการผ่าตัดที่เร็วกว่านี้ เขาพลาดช่วงเวลาผ่าตัดที่ดีที่สุดไปแล้วน่ะสิครับ”

ใบหน้าของเฉียวเมียนเมียนเปลี่ยนไปกะทันหัน น้ำเสียงของหล่อนสั่น ๆ

“หมายความว่ายังไงคะที่บอกว่า พลาดช่วงเวลาผ่าตัดที่ดีที่สุดไปแล้ว? เขาจะผ่าตัดอีกไม่ได้แล้วเหรอคะ”

“ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ครับ แต่ผลจากการผ่าตัดอาจจะไม่ดีเท่าช่วงเวลานั้น คุณเฉียวการผ่าตัดของน้องชายคุณ ไม่ควรที่จะล่าช้าอีกต่อไปแล้วนะครับ”

ฉันรู้ค่ะ...”

เฉียวเมียนเมียนกำหมัดแน่น

“ฉัน...ฉันจะหาทางดำเนินการให้เร็วที่สุดเองค่ะ แต่เมื่อกี้คุณเพิ่งบอกเองนี่ค่ะว่าหากผ่าตัด ผลลัพธ์อาจจะไม่ดีนัก...”

“มันขึ้นอยู่กับหมอที่จะผ่าตัดให้เขาครับ”

ลู่เหยาพูดขึ้น

“ผมพอจะรู้จักหมอที่เก่งอยู่บ้างครับ จะทำให้น้องคุณมีโอกาสหายได้ 90%”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด