ตอนที่แล้วบทนำ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 2 การใช้ชีวิตบนภูเขา 2

ตอนที่ 1 การใช้ชีวิตบนภูเขา 1


ในป่ารกร้าง ท้องฟ้าหม่นหมอง ภูเขาตั้งสูงตระหง่าน เมฆสีเทาดูเหมือนจะกดทับลงมาจากฟ้า สิ่งที่ท้าทายอำนาจมันคือต้นไทรสีดำที่อยู่บนยอดเขา ทันทีที่ฝนหนักหยุดตก หยดฝนสามารถเห็นได้ทั่วบนพืชกลายพันธ์ุบนภูเขา มีเถาวัลย์งอกท่ามกลางป่าหนาทึบ

เสียงหยดน้ำทำลายความเงียบ ก่อให้เกิดเป็นแอ่งน้ำ

ฮู่ ฮู่… ในป่าทึบ มีเสียงหายใจ เสียงนั้นหนา หนัก และถี่มาก แม้พืชกลายพันธุ์จะน่ากลัว มันก็ไม่มีเสียงหายใจ

นี่คือหมีน้ำตาลที่กำลังบาดเจ็บ ร่างมันยาว3ถึง4เมตร สูง1.8เมตร หนักถึง750กิโลกรัม มันมีน้ำหนักเกินหมีน้ำตาลตัวผู้ในยุคอารยธรรม มันมีแขนขาคล้ายกับหมีสีน้ำตาล ขนหนาบนตัวที่สามารถต้านทานคมดาบทั่วไปได้ ร่วมกับผิวหนา กรงเล็บเหล็กที่สามารถทำลายหินได้ง่ายๆ และแรงกัดของฟันที่มากพอจะกัดต้นไทรดำต้นใหญ่บนยอดเขา สิ่งเหล่านี้ทำให้มันได้ชื่อว่าหมีน้ำตาลหุ้มเหล็ก แม้จะเป็นในป่ากลายพันธุ์แห่งนี้ ที่เต็มไปด้วยแบคทีเรีย แมลง สัตว์และพืชกลายพันธ์นับไม่ถ้วน มันยังเป็นเผ่ากลายพันธุ์ที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารบนหุบเขาแห่งนี้

แต่ตอนนี้ มีรอยแผลยาวประมาณสองฟุตบนหลังมัน เนื้อของมันแหวกเปิด และก็มีแบคทีเรียกลายพันธุ์แทรกซึมเข้าไป มันพาร่างใหญ่โตเดินไปตามทาง แขนขาก้าวไปบนรากของต้นไม้ เผยให้เห็นรอยบนดิน และเสียงลมหายใจหนักหน่วงก็มาจากปากที่สามารถกัดเหล็กได้

มันมีดวงตาสีเหลืองคู่เล็ก สะท้อนทุกอย่างในป่า ทอประกายทรงอำนาจและสร้างความกลัวให้สัตว์ในป่า

"ซวบ"เงาร่างงดงามทะยานแหวกว่ายในอากาศ ร่างนั้นทะยานไปตามกิ่งไม้ ทำให้เกิดลมแรงพัดพาดอกไม้ ใบไม้ และฝุ่นในป่าให้ลอยขึ้น

เงาร่างดงามเหยียบบนกิ่งไม้กิ่งหนึ่ง สิ่งแรกที่เข้ามาในสายตาของหมีน้ำตาลหุ้มเหล็กคือดวงตาคู่งามที่เหมือนท้องทะเล แต่ดวงตาคู่นั้นก็เปรียบเสมือนหนามที่เจาะไปในตาของหมีน้ำตาลหุ้มเหล็ก

ร่างเพรียวนี้คือหญิงสาวสูง1.7เมตร เธอสวมชุดคลุมที่ทำจากเถาวัลย์ตั้งแต่หัวจรดเท้า พื้นที่ที่ไม่ปกคลุมด้วยชุดคลุมคือรองเท้าที่ทำจากเถาวัลย์เหมือนกันและแจ็คเก็ตหนังดำที่สีซีดจากอายุการใช้งาน

ใบหน้าเธออยู่ใต้ฮู้ด เผยให้เห็นเพียงดวงตาคู่หนึ่ง แขนขวาเธอยื่นออกมา และนิ้วทั้งห้าจับดาบยาวสีดำไว้ แม้ดาบจะเต็มไปด้วยคราบเลือดและโคลน มันก็ไม่ได้บดบังความคมของมัน

ขาขวาของหมีน้ำตาลหุ้มเหล็กก้าวถอยและรูม่านตาก็เต็มไปด้วยความกลัว มันคือราชาแห่งหุบเขา อยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร แต่ก็ยังบาดเจ็บสาหัสโดยมนุษย์ที่มีกลิ่นของอาหารชั้นต่ำ

หมีน้ำตาลคำราม ทำการดิ้นรนครั้งสุดท้ายให้สมฐานะราชา แต่มนุษย์ตรงหน้ากลับยืนนิ่งบนกิ่งไม้และไม่กลัวเลย ทันใดนั้น หมีน้ำตาลก็ยกกรงเล็บเหล็กมันขึ้น ทะยานใส่ต้นนุ่นที่หญิงสาวยืนอยู่

ในฐานะราชานักล่า มันรู้ว่าความเร็วนี้ไม่อาจหลบหนีมนุษย์ตรงหน้าได้และตัดสินใจสู้จนตัวตาย

บูม!

ต้นนุ่นถูกโค่น พลังกล้ามเนื้อและกระดูกของหมีน้ำตาลนับว่าแกร่งสุดในระบบนิเวศของป่านี้ หญิงสาวเสียที่ยืนและกระโดดลงพื้น จากนั้นหมีก็ยกตัว ร่างใหญ่โตมันกระโจนไปทางหญิงสาว เหวี่ยงแขนหน้าและกรงเล็บเหล็กใส่ส่วนที่บอบบางสุดของมนุษย์ซึ่งก็คือใบหน้า

มีเสียงเท้ากระทบพื้น เสียงดาบเฉือนผ่านอากาศ เสียงของผิวถูกฟัน และเสียงของร่างกายที่ล้มกระแทกพื้น

การล่ายุติลงหลังการปะทะระหว่างเหยื่อและนักล่า

หญิงสาวนำผ้าสีเทาออกมาและปาดเลือดบนตัวดาบ เธอเก็บดาวยาวลงบนซองดาบบนหลังและเดินไปทางศพของหมีน้ำตาล เธอหยิบตะขอเหล็กออกมา เจาะผ่านขาของมัน จากนั้นก็ค่อยๆลากมันไปทางใต้ด้วยพลังเหนือมนุษย์

รอยเลือดลากเป็นทางยาวไป ผสมกับหินและดินชื้น

หลังเดินอยู่นาน หญิงสาวก็กลับมายังถ้ำที่ด้านนอกเปียกแต่ด้านในแห้งแปลกๆ รูใหญ่แค่พอให้คนเดินเข้า แต่กระโดดไม่ได้ หญิงสาวลากศพหมีน้ำตาลไปในถ้ำ จากนั้นก็นั่งลงข้างๆกองไฟที่ทำจากแท่งไม้ หินและแท่งเหล็ก

ร่างตึงเครียดค่อยๆผ่อนคลายขณะนั่งลงบนหิน เธอถอดชุดคลุมที่กลิ่นเหมือนป่าและปล่อยผมที่มัดลงมา ร่างเพรียวบางและส่วนโค้งได้รูปเผยออกมาภายใต้แจ็คเก็ตหนัง มันยังเผยใบหน้าเกลี้ยงเกลา ใบหน้าที่งามทั้งแบบตะวันออกและตะวันตก มันคือใบหน้าที่ไม่สมควรจะมาอยู่ในสภาพป่าเถื่อนเช่นนี้

เธอนำมีดตัดแต่งขนาดเล็กออกมา เริ่มเฉือนเนื้อและขนของหมีน้ำตาล เธอจุดกองไฟเล็กๆที่สว่างพอจะส่องแสงให้ถ้ำเล็กๆรวมถึงให้ความอุ่น จากนั้นเงาร่างของเด็กชายอายุ7ขวบก็ปรากฏท่ามกลางความมืด

เด็กชายมีดวงตาสีดำสนิทเหมือนหินอ็อบซิเดียนที่ระบุว่ามีเชื้อสายชาวเอเชีย ดวงตาเขาใหญ่มาก เขามีผมสั้นดำ ผิวอ่อนนุ่มและหน้าตาน่ารัก หากชายธรรมดาจากยุคสมัยนี้เห็นเขา พวกเขาจะเชื่อว่าเขาคือพวกเลือดฟ้า ซึ่งหมายถึง’ตระกูลขุนนาง’

มันเพราะยุคสมัยนี้มนุษย์นั้นถูกปฏิบัติเหมือนขยะ

เด็กชายเงียบ ไม่ถามหญิงสาวว่าเธอไปไหนมา ทำไมเธอถึงหายไปนานและเธอนำอะไรกลับมา มันเพราะเขาชินกับการรอแล้ว

ทั้งหมดที่เขาต้องทำคืออยู่เงียบๆ และไม่ดึงดูดสิ่งมีชีวิตอันตรายทั้งหมด จับตาดูหญิงสาวทำอาหารจากเนื้ออสูรและจากนั้นก็กินดื่ม

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด