ตอนที่แล้วเล่ม1 : บทที่ 54 – หุบเขาอสรพิษ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม1 : บทที่ 56 – สหายเลือด

เล่ม1 : บทที่ 55 – โกเล็ม


กำเนิดดาบปีศาจ(BDS) เล่ม1 : บทที่ 55โกเล็ม

โนอาห์ใช้เวลาพักผ่อนไปครึ่งวัน หลังจากที่เขาตื่นขึ้นมา เขาก็กินอาหารรองท้องเล็กน้อยและกางแผนที่ออก แผนที่บอกรายละเอียดได้ชัดเจนไม่ซับซ้อน บอกรายละเอียดภูมิประเทศขนาดใหญ่ของยูทราซึ่งเป็นแผนที่ที่ดีที่สุดที่จะทำให้โนอาห์หาพบจากเขตนอก

‘ฉันต้องไปทิศตรงข้ามกับคฤหาสน์บัลวันแต่บางทีที่นั่นอาจจะเป็นเส้นทางที่พาขึ้นไปข้างบน’

เขาจากจุดที่มีความหนาแน่นของ “ลมหายใจ” ต่ำระหว่างการต่อสู้ซึ่งเป็นทิศทางตรงกันข้ามกับคฤหาสน์

‘ต้องไปสำรวจพื้นที่ก่อน ไม่อยากเผชิญหน้าไม่ว่ากับสัตว์แบบไหนอีกแล้ว เว้นแต่จะจนหนทางจริงๆ’

เขาลุกขึ้นและออกจากถ้ำ ในที่สุดเขาก็มีเวลาได้มองดูสภาพแวดล้อมโดยรอบหุบเขาได้อย่างละเอียดเต็มตา พื้นปกคลุมด้วยหญ้าสีเขียวและแสงสว่างสาดส่องลงมาจากข้างบนผ่านม่านหมอก

‘แปลกมาก ผ่านไปครึ่งวันแล้วแต่ยังไม่ตกกลางคืนเลย บางทีอาจจะเป็นเพราะหมอกก็ได้’

หมอกจางๆ ที่ปกคลุมพื้นที่ได้บดบังแสงอาทิตย์บางส่วนทำให้ทุกทั่วบริเวณของหุบเขาสดใสและชัดเจน โอนห์ยังคงสำรวจพื้นที่ที่มีความเข้มข้นของ “ลมหายใจ” ต่ำ

สัตว์เวทมนตร์ประเภทงูที่ซ่อนตัวไม่ให้เขาเห็น กลับมายังถ้ำและขู่เพื่อไข่เขา กำแพงรอบๆ เขาชันมากและไม่เหมาะกับการปี โนอาห์เกือบคิดที่จะล้มเลิกให้กับการสำรวจฟากนี้ของหุบเขา และจู่ๆ เขาก็สังเกตเห็นบางสิ่งผิดปกติ

สุดขอบหุบเขาแทบจะไม่มีสัตว์เวทมนตร์เลย กำแพงก็ยังคงสูงชันเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม บนพื้นยังมีร่องรอยสิ่งปลูกสร้างที่มนุษย์สร้างขึ้นหลงเหลืออยู่

‘เป็นไปได้ยังไง?’

โนอาห์เข้าไปใกล้ซากปรักหักพังเพื่อตรวจสอบแต่จากนั้นร่างยักษ์ของบางสิ่งก็ปรากฏตัวขึ้นมาตรงที่เขาอยู่

โนอาห์รีบชักดาบออกมาป้องกันการโจมตีทันทีและกระเด็นออกไปหลายเมตร เขาตั้งท่าป้องกันและรอการโจมตีที่จะเข้ามาอีกครั้งแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขามองร่างที่ไม่ขัยเขยื้อนตรงหน้าสิ่งปลูกสร้าง มันเป็นร่างที่สูงสามเมตรอยู่ในชุดเกราะและปรากฏใบหน้าระหว่างช่องหมวก มีแสงเรืองรองสีฟ้าประกายออกมาจากร่างกายของมันทำให้ทั่วทั้งร่างกายเป็นสีฟ้าอ่อนๆ บนชุดเกราะมีร่องรอยของการต่อสู้มากมายเต็มไปด้วยรอยฟันและรู

เมื่อเห็นชุดเกราะไม่ขยับ โนอาห์ก็คลายป้องกันและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

‘มันปกป้องสถานที่แห่งนี้หรือ? แล้วจะกำจัดมันยังไง?’

เขาฟันลมเพื่อปล่อยคลื่นลมไปยังทิศทางที่โกเล็มยืนอยู่ โกเล็มยกแขนขึ้นมาป้องกัน ทิ้งไว้เพียงแค่รอยข่วนเล็กๆ จากการโจมตีของโนอาห์เท่านั้น

‘หึม ฉันน่าจะทำลายมันได้ถ้าใส่เต็ม แต่มันจะสูบพลังฉันจนหมด แถมยังไม่รู้ด้วยว่ามีแค่ตัวเดียวหรือเปล่า’

ความสนใจของเขาเลื่อนไปที่อักษรรูนสีฟ้า ‘นั่นน่าจะเป็นแก่นพลังงานของมัน ถ้าทำลายมันได้ฉันอาจจะโค่นมันลงได้ก็ได้’

หลังจากเขาวางแผนแล้ว เขาก็ไม่รีรออีกต่อไป เขากระโดดตรงไปหาโกเล็มพร้อมปล่อยคลื่นลมสามคลื่นและเคลื่อนหลบไปด้านข้าง

โกเล็มต้องป้องกันการโจมตีจนไม่สามารถมุ่งเป้าไปที่การโจมตีจากภายในการตั้งป้องกันของโนอาห์ได้

ดาบตัดผ่านรูนที่อยู่กลางหน้าอกบนเกราะทำให้แสงสีฟ้าดับลง

‘ดับไปหนึ่ง เหลืออีกเก้าจุด’

โนอาห์และโกเล็มต่อสู้กันอยู่ครู่หนึ่งโดยใช้วิธีโจมตีใส่และเปลี่ยนตำแหน่งเพื่อป้องกันอันตรายจากการต่อสู้

‘ดับไปสิบ’

เมื่ออักษรรูนอันสุดท้ายดับลง โกเล็มก็ล้มลงกับพื้น โนอาห์ตรวจสอบเกราะเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าและดูดเข้าไปในแหวนปริภูมิ

‘ไม่เข้าใจจารึกนี่เลย แต่เก็บไว้ก่อนแล้วกัน อาจจะมีประโยชน์ก็ได้’

จากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปยังซากปรักหักพังและตั้งสมาธิ เขาเดินไปอย่างระมัดระวังกับสภาพแวดล้อมที่เขาไม่รู้เลยว่าจะมีโกเล็มอีกตัวปรากฏออกมาหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างเงียบสงัดและไม่มีอันตรายใดๆ เกิดขึ้นกับเขา โนอาห์ผ่อนคลายและเริ่มการคาดเดา

‘ที่นี่ใหญ่พอๆ กับคฤหาสน์บัลวันเลย น่าจะเป็นของตระกูลขุนนางขนาดกลางที่เข้ามาสำรวจหุบเขาแห่งนี้’

ดวงตาเขาเบิกโพลงเมื่อนึกขึ้นได้ว่าถ้าตระกูลขุนนางย้ายมาที่นี่ พวกเขาก็ต้องย้ายทรัพย์สมบัติมาที่นี่ด้วยเช่นกัน!

โนอาห์เริ่มสำรวจอย่างรวดเร็ว โดยค้นหาทุกซอกทุกมุมทั่วอาคาร บางครั้งเขาก็พบโครงกระดูกหรือกะโหลกศีรษะเก่าๆ บางครั้งก็พบข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ

ขณะเดียวกันนั้น ความแครงใจบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในความคิดของเขา

‘ถ้าตระกูลนี้อยู่ในระดับเดียวกันกับตระกูลฉัน แล้วมันจะเป็นไปได้ยังไงที่สถานที่ที่ปลอดภัยเช่นนี้ถึงถูกทำลายลงได้?’

มีร่องรอยของการต่อสู้ตามจุดต่างๆ แต่โนอาห์ไม่เข้าใจว่าใครหรืออะไรที่แข็งแกร่งพอที่จะโค่นล้มพวกเขาได้

‘แม้แต่ฝูงงูดินก็ไม่น่าจะถึงกับทำลายที่นี่ได้ แล้วพวกเขาตายได้ยังไงกัน?’

เขามาถึงส่วนที่เป็นเขตในของคฤหาสน์พลางคิดไปเรื่องนั้นไปด้วย มีประตูใหญ่บานหนึ่งแบ่งพื้นที่และมีโกเล็มขนาดสี่เมตรสามตัวแหลกเป็นชิ้นอยู่บนพื้น

โนอาห์ตรวจดูรอยบนชุดเกราะของพวกมันและสรุปว่ามันน่าจะเป็นฝีมือของสัตว์เวทมนตร์

‘ที่นี่อันตรายกว่าสัตว์เวทมนตร์อันดับสามเสียอีก’

เขาเริ่มเกิดความรู้สึกกระสับกระส่ายภายในร่างกายเมื่อเขาตั้งใจที่จะออกจากหุบเขาแห่งนี้โดยเร็วที่สุด

เขาผ่านประตูบานใหญ่และเข้าไปยังเขตในของคฤหาสน์ ภายในไม่ร่องรอยของความเสียหายน้อยกว่าภายนอกเล็กน้อยและจากข้าวของที่เหลืออยู่ก็ทำให้คุณจินตนาการถึงความหรูหราของที่นี่ได้เลย

โนอาห์เดินอย่างรวดเร็วและหยุดหลังจากที่พบประตูเหลกบานใหญ่ที่ยังคงถูกปิดไว้อยู่บานเดียวในห้อง เขาเริ่มตื่นเต้นและผลักประตูเปิดพร้อมถือดาบในมือ

ประตูหนักมากและเกิดเสียงครูดไปตามพื้นเมื่อเปิด

โนอาห์มองไปยังอีกฝั่งและสังเกตเห็นห้องเล็กๆ ห้องหนึ่งที่เกือบจะว่างเปล่ามีเพียงโครงกระดูกหนึ่งที่ตั้งอยู่บนบัลลังก์ในท่าไขว่ห้าง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด