ตอนที่แล้ว20.ทำอาหาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป22.หาเงินเลี้ยงชีพ

21.เงินสองตำลึงในกำมือ


ลายมือนั้นดีเลิศระดับปรมาจารย์  มันพริ้วไหวเป็นธรรมชาติ ประหนึ่งเมฆซึ่งล่องลอยเป็นอิสระ ท่ามกลางท้องนภา

หลิ่วเจินเฝ้ามองกู้หรูเฟิงเงียบ ๆ  อีกฝ่ายแทบไม่หายใจเพราะใจจดจ่ออยู่ ข้อมืออันนทรงพลัง สะบัดปลายพู่กันป้ายน้ำหมึก ดวงตาฉายแววจริงจังเต็มเปี่ยม ทันใดนั้น มีแสงจากภายนอกส่องลงบนร่างเขา  ทำให้เขามองดูคล้ายเทพเซียนซึ่งเปล่งรัศมีเรืองรอง แยกตัวออกจากมนุษย์ทั้งหลายโดยสิ้นเชิง

หลิ่วเจินนั้นภูมิใจในตัวเองไม่น้อย ถึงนางมาจากโลกสมัยใหม่ ทว่ากลับปรับตัวให้เข้ากับชีวิตที่นี่ได้อย่างรวดเร็วนัก หญิงสาวดูแลจัดการทุกสิ่งได้หมดจดเป็นระเบียบเรียบร้อย เรียกได้ว่าคือผู้แข็งแกร่งปานเหล็กกล้า  และเวลาคนในยุคโบราณเผชิญหน้ากับบันฑิต พวกเขาต่างรู้สึกถึงความต่ำต้อยด้อยค่า ทว่านางหาเป็นเช่นนั้นไม่ เหนืออื่นใด หากไม่ใช่เพราะไม่รู้ตัวอักษรของคนในยุคนี้  ก็นับได้ว่านางเป็นหนอนหนังสือตัวยงคนหนึ่ง ผ่านการอ่านหนังสือยาก ๆ มานักต่อนักแล้ว

ทว่ายามที่อีกฝ่ายสะบัดพู่กันเขียนตัวอักษร คล้ายว่านางดูจะถูกทิ้งไว้เบื้องหลังไม่เห็นฝุ่น

คงเพราะมาจากโลกที่แตกต่างกันสินะ แม้แต่แสงอาทิตย์ที่สาดลงบนร่างก็ยังมีสีสันต่างกัน

“หลิ่วเจิน? ไยถึงเหม่อลอยเช่นนี้?” กู้หรูเฟิงยื่นมือมาโบกตรงหน้าอีกฝ่าย  เมื่อชายหนุ่มรู้สึกว่าอีกฝ่ายใจลอย จึงเรียกนางให้คืนสติ

หญิงสาวรู้สึกตัวฉับพลัน ครั้นแล้วจึงเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “เมื่อคืนข้าฝันร้ายน่ะ ก็เลยนอนไม่พอ จึงค่อนข้างเหม่อน่ะ”

“เช่นนั้น เจ้าก็รีบไปนอนพักเถอะ” เขากลัวหญิงสาวไม่ยินยอม จึงเอ่ยเสริม “พวกข้าวของน่ะ ประเดี๋ยวข้าจะเช็ดให้สะอาดเอง บ้านมิใช่หลังใหญ่เสียหน่อย ทำไม่นานก็เสร็จแล้ว”

นางเพียงหาข้อแก้ตัวไปเท่านั้นเอง มิได้ง่วงจริง ๆเสียหน่อย หญิงสาวสั่นหัวอย่างแรง กลางวันแสก ๆ ไม่มีโทรศัพท์มือถือให้เล่น  มีแต่ผีเท่านั้นแหละที่สมควรนอน

ขณะที่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน  ก็ได้ยินเสียงดังจากด้านนอก

“อาหลิ่ว...เจ้าอยู่บ้านหรือเปล่า?”

หลิ่วเจินเมื่อได้ยินเสียง ก็รีบสาวเท้าออกไปอย่างไว พอเห็นพี่ไช่กำลังตะโกนเสียงดังในลานนอกบ้าน หญิงสาวจึงเดินไปเปิดประตู “”พี่ไช่..ไฉนถึงมาได้เล่า?

พี่ไช่เอ่ยพร้อมรอยยิ้ม ดวงตากวาดมองไปรอบ ๆ  ครั้นแล้วก็หยุดลงบนสิ่งที่แปะอยู่บนประตูนั่น

หญิงสาวจึงเข้าใจและเอ่ยขึ้น “อันนี้หรูเฟิงเป็นผู้เขียนน่ะ มีอันไดรึ?”

“ไอ้หยา มีเซี่ยงกง(สามี)เป็นบัณฑิตมันดีอย่างนี้นี่เอง” พี่ไช่พูดขึ้นด้วยความอิจฉา และเอ่ยต่อ “ในเมืองน่ะ ชุนเหลียน[1] และฝูจื้อ[2] ราคาแพงนัก ชุดหนึ่งมีราคา 100 อีแปะ ข้าจึงคิดมาขอร้อง เจ้าช่วยเขียนให้บ้านข้าสักหนึ่งชุดหนึ่งสิ”

หนึ่งพันอีแปะมีค่าเท่ากับหนึ่งตำลึง ชุนเหลียนหนึ่งชุด มีค่าเท่ากับฟืนหนึ่งมัด แล้วฟืนหนึ่งมัด ก็สามารถเอาไปใช้ได้ตั้งครึ่งเดือน

หลิ่วเจินแลบลิ้นเลียในใจ  บัณฑิตเขียนอักษรช่างมีค่าตัวแพงนัก ครั้นแล้วจึงเอ่ย “ได้สิ  ทว่าผ้าแดงที่ซื้อมาจากในเมือง ข้าใช้ไปหมดแล้ว หากท่านอยากได้ ก็ต้องซื้อผ้าแดงกลับมาสักหน่อย”

พี่ไช่ย่อมรับปาก แล้วจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ข้าจะจ่าย 50 อีแปะ ให้ผู้ชายบ้านเจ้าเป็นค่าเหนื่อยนะ”

หลิ่วเจินขบคิดชั่วครู่ แล้วเอ่ยขึ้น “ไม่ต้องหรอก หากพี่ไช่ช่วยนำผ้าแดงกลับมาให้ข้าสักหน่อย ก็จะดีมาก”

พี่ไช่ชอบเอาเปรียบเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ซ้ำยังหัวไวในเรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้ง พอได้ยินก็เข้าใจทันที “เจ้าคิดจะขายคนในหมู่บ้านรึ?”

นางไม่ใช่คนที่นี่โดยกำเนิด จึงไม่แน่ใจในบางเรื่อง ครั้นแล้วจึงถามขึ้น “ท่านคิดว่าเป็นไปได้หรือไม่?”

“ขายได้แน่อยู่แล้ว!” พี่ไช่แทบอยากกระโดดจนตัวลอย ครั้นแล้วจึงเล่าแผนการ “ยังมีเวลาอีกสี่ถึงห้ากว่าจะถึงวันฉลองปีใหม่  เมื่อปีก่อน มีตลาดนัดในเมือง แล้วทุกคนก็รอไปซื้อเอาตอนนั้น ตอนนี้ทุกคนล้วนยังไม่ได้ตระเตรียมเรื่องนี้เลย นั่นเป็นจังหวะดีของเจ้า ตราบใดที่ให้ราคาถูกกว่า ใครมันยังจะละทิ้งของใกล้มือ ไปเที่ยวหาซื้อใกลๆเล่า?”

พูดมาเสียขนาดนี้ หลิ่วเจินจึงเริ่มมีความหวังในใจ

พี่ไช่พูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด “อันที่จริง ผู้ชายบ้านเจ้าเขียนตัวอักษรงามมากนะ มีคนมากมายอยากได้ตัวอักษรเขียนสักตัว  พวกเขาล้วนต้องเข้าไปในเมือง แค่ตัวอักษรบนไม้ไผ่แท่งหนึ่ง ก็แพงหฤโหดแล้ว! น่าเสียดายที่ผู้ชายบ้านจ้าเป็นคุณชายที่ชอบทำหน้าบึ้งหน่อย ๆ ทุก ๆคนก็ลยไม่กล้าเข้าไปวอแว  เมื่อตอนเขาเข้ามาในหมู่บ้านเป็นครั้งแรก เขาสวมชุดผ้าไหมเนื้อดี  ที่เอวห้อยหยกพกหรูหรามากเลย โชคร้ายนักที่เจ้าไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ไม่นึกเลยว่าจะขายพวกมันไปในราคาเพียง 10 ตำลึง ข้าเดาว่าอย่างน้อยราคาก็น่าจะสัก 20 ตำลึงน่ะ”

**

[1] 春联 [chūnlián /// ชุนเหลียน] --- คือ การเขียนโคลงกลอนคู่ลงบนกระดาษสีแดง ผ้าแดง หรือแกะสลักบนไม้ไผ่ บนไม้ หรือบนเสา ตามปกติแล้วนั้น ชุนเหลียนจะเขียนเป็นโคลงกลอนคู่กัน บ้างก็เขียนเป็นคำโดดเช่น “春”,“福” ก็ได้

[2] 福 fú ฮก ( แต้จิ๋ว ) การติดตัวฮกกลับหัว เป็นวัฒนธรรมของชาวฮั่น ในวันตรุษจีนของทุกปี ทุกบ้านจะต้องเอากระดาษแดงเขียนอักษร福 fú ฮก ขนาดเล็กบ้างใหญ่บ้าง มาติดไว้บนประตู , หน้าต่าง หรือข้างบนของประตูใหญ่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด