ตอนที่แล้วตอนที่ 28 รีบหย่าซะเถอะ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 30 ฉันชอบอยู่กับเธอ

ตอนที่ 29 ทางออกของความสัมพันธ์


ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm

คืนนั้นหลินเฉี่ยนนอนพลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงแข็งๆ ในหอพัก เธอไม่สามารถข่มตาหลับลงได้ สาวน้อยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ท้ายที่สุดก็วางมันลงทุกครั้ง มีบางครั้งที่เธอเลื่อนหน้าจอมาจนถึงเบอร์ของเขาแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้กดโทรออก

 

-- เธอไม่รู้จริงๆว่าควรจะพูดว่าอะไร --

 

บอกตามตรงเลยว่าตอนที่ถูกฉู่โม่เฟิงสารภาพรักเธอรู้สึกเคร่งเครียดปนขมขื่น เพราะหลินเฉี่ยนไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าเธอเองก็มีความรู้สึกดีๆให้อีกฝ่ายอยู่บ้าง ฉู่โม่เฟิงทั้งหล่อ ทั้งนิสัยดี แถมการเรียนก็ยอดเยี่ยม จะมีใครผู้หญิงสักกี่คนที่ไม่สนใจเขา?...แล้วใครบ้างที่จะไม่หวั่นไหวไปกับคำสารภาพรักจากผู้ชายเพอร์เฟคแบบนั้น

 

ในเวลานั้น ตอนที่ถูกฉู่โม่เฟิงบอกความในใจ หลินเฉี่ยนรู้สึกเสียใจขึ้นมาอย่างจริงจังที่เธอตัดสินใจแต่งงานไปซะแล้ว แถมยังแต่งกับคนที่เพิ่งเคยเจอกันเป็นครั้งแรก

 

ถ้าหากเธอยังโสด ถ้าหากเธอยังสามารถเลือกความรักด้วยตัวเองได้อย่างอิสระ เธอไม่มีทางปฏิเสธฉู่โม่เฟิงแน่และเธอก็อาจจะมีความสุขกว่าตอนนี้

 

ใช่ นั่นเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นภายในใจของเธอ ณ ตอนนั้น และเธอไม่สามารถหลอกตัวเองได้ว่ามันไม่จริง

 

แม้จะถูกกู้เฉิงเซียวเจอเข้าอย่างจังแบบนั้น แต่ถ้าจะกล่าวหากันเธอก็คงจะไม่ยอมรับ เพราะยังไงซะเธอก็ไม่เคยคิดสวมเขาให้เขาอยู่แล้ว ทว่าเรื่องไม่คาดฝันก็คือ การที่เธอได้ยินฉู่โม่เฟิงเรียกกู้เฉิงเซียวว่า ‘อาสอง’ นี่แหละ แล้วก็เห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขาคงจะสนิทสนมกันค่อนข้างมากด้วย นั่นทำให้หลินเฉี่ยนรู้สึกเหมือนเห็นประตูยมโลกอยู่รำไรแล้ว

 

อาสองงั้นเหรอ? อาสองผีอะไรหว่า!? ถ้าเป็นแบบนั้นจริงเธอก็ต้องกลายเป็นน้าสะใภ้สองของฉู่โม่เฟิงงั้นสิ?!

 

‘ให้ตายเถอะ ความสัมพันธ์แบบนี้ชวนกระอักกระอ่วนสิ้นดี….แล้วนี่ก็ไม่รู้กู้เฉิงเซียวจะบอกความจริงทั้งหมดกับฉู่โม่เฟิงไปรึยังด้วย….แล้วหลังจากนี้เธอจะทำหน้ายังไงเวลาเจอฉู่โม่เฟิงล่ะ?…..แล้วเราสองคนยังจะเป็นเพื่อนกันได้อยู่อีกเหรอ?....เฮ้อ~’

 

หลังจากนอนคิดวนไปวนมาจนเกือบเที่ยงคืนในที่สุดหลินเฉี่ยนก็เริ่มง่วง ทว่าในตอนนั้นเองก็มีเสียงแจ้งเตือนจาก wechat ดังขึ้น---เป็นข้อความจากหลินหยี ทันทีที่หลินเฉี่ยนในสภาพใกล้หลับได้อ่านก็ทำให้เธอสะดุ้งตื่นเต็มตา คุณชายเฉี่ยนหัวร้อนจนแทบจะระเบิดออกมาในนาทีนั้น

 

ข้อความของหลินหยีใน wechat : <<เมื่อเช้าที่ฉันที่บอกเธอ ฉันยังพูดไม่จบ พอได้หลับไปงีบนึงก็นึกขึ้นมาได้ว่าอยากจะแนะนำแนวทางให้เธอ ฉันว่าคุณกู้อาจจะมีโรคอื่นแอบแฝงอยู่แน่ๆ และเขาก็คงจะพึ่งพาเรื่องนี้ไม่ได้ ฉันแนะนำให้เธอแอบไปทำเรื่องลับๆ  กับฉู่โม่เฟิงดูสิ อาจจะเจอเส้นทางแห่งความสุขก็ได้นะ >>

 

‘เชี่ยยยยย! ยัยบ้าหลินหยี อย่าให้เจอนะ...แม่จะหักคอหมกส้วมซะให้เข็ด!’

 

หลินเฉี่ยนรีบตอบกลับไปโหดร้าย: <<ไปตายซะยัยบ้า!>>

 

นั่นยังไม่พอ! ต้องเสริมไปอีกหนึ่งคำ  <<อุบาทว์!>>

 

ทว่าหลินหยีกลับไม่ได้รู้สึกผิดอะไรแม้แต่น้อย แถมยังส่งสติ๊กเกอร์ยิ้มล้อเลียนกลับมาซะอย่างนั้น

 

‘นี่ลูกพี่ลูกน้องเธอเป็นคนลามกแบบนี้เรอะ?’ หลินเฉี่ยนโมโหจนควันออกหู ‘หน็อย บ้าบอจริงๆ ยัยเพี้ยน!’

 

ในที่สุดเที่ยงคืนก็เลยผ่านไป เวลาล่วงเข้าสู่วันใหม่แล้วแต่ความรู้สึกที่ต้องรอให้ถึงยามฟ้าสางด้วยดวงตาที่แข็งค้างเปิดกว้างแบบนี้มันช่างทรมานเหลือเกิน หลินเฉี่ยนดูโทรศัพท์ของตัวเองอยู่อีกหลายครั้ง ทางด้านของกู้เฉิงเซียวยังคงเงียบสนิท ไม่มีการโทรมา ส่งข้อความ หรือการติดต่อใดๆ ราวกับว่าคนผู้นี้ไม่ได้มีตัวตนอยู่

 

วันนั้นเขาดุเธอแถมยังเดินจากไปด้วยความโมโห แล้วหลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลยเป็นเวลาถึงสามวันเต็ม และเธอก็ไม่รู้ด้วยว่าที่เขาทำแบบนี้เพราะเหตุผลอะไร….เขาโกรธจนไม่อยากจะเห็นหน้าเธออีกหรือเป็นเพราะผิดหวังจนคิดจะตัดขาดจากเธอไปแล้ว

 

ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะมีความสุขที่ได้เป็นอิสระเพราะการเป็นคุณชายเฉี่ยนไม่จำเป็นที่จะต้องมีใครคอยกำกับดูแล ไม่มีคนกำหนดกฎเกณฑ์ มีชีวิตอิสรเสรี อยากทำอะไรก็ได้ อยากไปไหนก็ไป เป็นแบบนี้แหละน่าจะดีที่สุด...

 

——

 

เช้าวันรุ่งขึ้น ฉู่โม่เฟิงมายืนรอหน้าหอพักหญิง ชุดกีฬาสีขาว หมวกไหมพรมสีขาว แว่นกันแดดสีเงินสะท้อนแสงยามเช้าวาววับ บวกรวมกับจักรยานสปอร์ตดูมีราคา ทำให้หนุ่มหล่อร่างสูงและดูดีทุกอณูคนนี้กลายเป็นจุดสนใจของสาวๆ ทั้งหลายในหอพักทันที

 

ตอนเช้าตรู่ของฤดูใบไม้ร่วงที่เช้าจนหมอกยังไม่ทันจะจางหายไปและบนใบไม้ใบหญ้าก็ยังมีน้ำแข็งเกาะพราวอยู่ อุณหภูมิในเวลาแบบนี้ไม่ใช่เล่นๆ เลย ทว่าฉู่โม่เฟิงกลับยังสามารถตื่นแต่เช้าเพื่อออกไปสรรหามื้อเช้าอร่อยๆ แล้วเอามารอส่งให้กับสาวที่เขาชอบได้

 

มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีชายหนุ่มมารออยู่หน้าหอหญิง และการส่งข้าวส่งน้ำทำคะแนนกับสาวๆ ก็ไม่แปลกอีกเหมือนกัน เรื่องพวกนี้มีให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ แต่ครั้งนี้สิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องประหลาดใจก็คือชายหนุ่มคนนี้คือ ฉู่โม่เฟิง หนุ่มหล่อสุดฮอต หนึ่งในดาวเด่นของมหาลัย

 

-- ฝันหวานแห่งฤดูใบไม้ผลิของสาวๆ ทั้งหลายพังทลายลงไม่เป็นท่า --

 

“เชี่ย! นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหมเนี่ย? เทพบุตรฉู่ลงมาเยือนโลกมนุษย์แล้ว!”

 

“ไม่ผิดแน่ ตัวจริงเสียงจริงชัวร์ จึจึจึ ดูเขาสิ หล่อจริงๆ หล่อไปทั้งตัวเลยอ๊ะ~”

 

“ไอ้เรื่องหล่อมันก็หล่อจริงๆ นั่นแหละ ต่อให้มองทุกวันก็ไม่มีเบื่อ แต่คนที่คนหล่อมากกกก หล่อลากกกกแบบเขาจะสนใจก็คงจะมีแต่คนสวยมากๆ เท่านั้นแหละ ไม่มีทางตกมาถึงมือพวกเราหรอก”

 

“อ้า...แล้วผู้หญิงคนไหนกันที่ฉู่โม่เฟิงกำลังรออยู่หว่า?”

 

“ใครจะไปรู้ล่ะ”

 

หลินเฉี่ยนตื่นขึ้นมาเพราะเสียงซุบซิบกันอย่างออกรสของบรรดารูมเมท เวลาที่ควรจะนอนก็ไม่ได้นอน เวลาที่ควรจะตื่นก็ดันตื่นไม่ไหวอีก...นี่มันคุณชายเฉี่ยนชัดๆ

 

เธอขยี้ตาพร้อมกับงัวเงียถามเพื่อน “ฟ่านฟ่าน พวกเธอกำลังดูอะไรอยู่น่ะ?”

 

“ตื่นแล้วเหรอคุณชาย มาดูนี่เร็ว ฉู่โม่เฟิงคนนั้นมาอยู่หน้าหอเราล่ะ แต่ไม่รู้มารอสาวคนไหน พวกเราเลยกำลังเดากันอยู่ว่าใครคือสาวโชคดีคนนั้นอ่ะ”

 

“……” หลินเฉี่ยนตื่นเต็มตา เธออึ้งไป 3 วิ แล้วดีดตัวขึ้นจากเตียงเร็วยิ่งกว่ารู้ว่าจะไปเข้าสอบสาย ‘พระเจ้า! นี่หมอนั่นบ้าไปแล้วเร๊อะ?!’

 

หลินเฉี่ยนรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนที่จะกดเบอร์โทรหาฉู่โม่เฟิงเธอพยายามไม่ให้ใครรู้จึงต้องเอาผ้าห่มคลุมหัวไว้

 

“ฮัลโหล นี่แกมาทำอะไรหน้าหอหญิงเนี่ย เป็นบ้าไปแล้วเหรอ?”

 

“หลินเฉี่ยน ฉันซื้อข้าวเช้ามาให้”

 

“อย่าเรียกชื่อฉันนะ!” หลินเฉี่ยนขู่ฟ่อ แต่ก็ลดเสียงลงให้เบาที่สุด ก่อนจะกระซิบลอดไรฟันตอบกลับไปอีก “ไสหัวไปเลย รีบไปเดี๋ยวนี้!”

 

ทว่าฉู่โม่เฟิงกลับตอบกลับมาด้วยเสียงจริงจังที่ดังชัดเจน “หลินเฉี่ยน นับตั้งแต่วันนี้ไปฉันจะตามจีบเธออย่างจริงจัง ฉันจะทำให้เธอเห็นว่าฉันจริงจังจริงๆ และฉันก็จริงใจกับเธอมากด้วย”

 

ประโยคที่มีแต่คำว่าจริงจังยาวๆ นั่นทำให้หลินเฉี่ยนอยากกัดลิ้นตาย เธอสำลักลมหายใจไปรอบหนึ่ง “แค่กๆๆๆ”

“เธอเป็นอะไรรึเปล่า?” เขารีบถามเสียงนุ่มนวลด้วยความเป็นห่วงเป็นใย “ไม่สบายเหรอ? ให้ฉันพาไปหาหมอไหม?”

 

“…….” หลินเฉี่ยนใจอ่อนยวบจนแทบจะละลายไปกับคำพูดของเขาตรงนั้น ‘อยู่สูงส่งเป็นเทพบุตรบนท้องฟ้าเหมือนเดิมมันไม่ดีรึไงแว๊? ทำไมต้องลงมาคลุกคลีกับมนุษย์ด้วย?’

 

“ฉู่โม่เฟิง” หลินเฉี่ยนสูดลมหายใจ เธอไม่มีทางเลือกเหลืออีกแล้วนอกจากจะต้องใช้ ‘ไม้ตายสุดท้าย’ “...เมื่อวานอาสองของนายไม่ได้พูดอะไรกับนายใช่ไหม?”

 

“พูด? พูดอะไรไม่มีหรอก นอกจากห้ามฉันเรื่องความรัก บอกไม่ให้ฉันเหลวไหลเรื่องเรียนแค่นั้นแหละ แต่ฉันก็อายุขนาดนี้แล้ว มันก็ต้องมีเรื่องแบบนี้กันบ้างเป็นธรรมดา”

“……”

 

“หลินเฉี่ยน ฉันหวังว่าเธอจะเปลี่ยนใจและมองฉันใหม่ ที่จริงแล้วฉันไม่ได้เป็นคนเย็นชาอย่างที่เคยแสดงออกให้เธอเห็นนะ”

 

“ไม่! นายเรียกอาสองของนายออกมาแล้วค่อยมาคุยกับฉัน!”

 

รอบนี้เป็นฝ่ายฉู่โม่เฟิงที่งุนงงแทน “หา? แล้วมันเกี่ยวอะไรกับอาสองของฉัน?”

 

“เกี่ยวสิ มากเลยด้วย! เรียกเขาออกมาแล้วพวกเราค่อยมาคุยกัน!”

 

“อย่าเลย อาสองยุ่งมาก ไม่ใช่ว่าจะบอกให้เขามาแล้วเขาจะออกมาง่ายๆ ได้นะ เมื่อวานที่เจอกันแล้วเขาพาฉันไปส่งก็เพราะเขาบังเอิญผ่านมาพอดีเท่านั้นแหละ”

 

“หยุดเฉไฉ อ้างนั่นนี่เวิ่นเว้อได้แล้ว ถ้าเขามาพวกเราค่อยมาคุยกัน แต่ถ้าเขาไม่มาก็-เชิญ-นาย-ไส-หัว-ไป!-ตอนนี้เลย..ยิ่งไกลยิ่งดี!!!”

 

โดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบอะไรกลับมาหลินเฉี่ยนก็รีบวางสายก่อนจะพ่นลมหายใจออกอย่างแรง เธอเปิดผ้าห่มที่คลุมโปงออกแล้วสูดหายใจให้ลึกที่สุดเพื่อเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด ในตอนนั้นเองคุณชายของเพื่อนๆ ก็ค้นพบว่า มีสายตาหกคู่ของสามสาวน้อยกำลังมองจ้องมาที่เธอ...อย่างจับผิด!

 

พานพาน “คุณชายเฉี่ยนมีไรเหรอ?”

 

ฟ่านฟ่าน “เธอตะคอกใส่ใครอ่ะ? บอกมานะ!”

 

ซ่งอี๋มองออกไปนอกหน้าต่างและพูด “อ้าว! ฉู่โม่เฟิงไปแล้วจริงๆด้วย นี่คุณชายเฉี่ยน...หรือว่า...เขาถูกเธอไล่กลับไปเหรอเนี่ย!?”

 

หลินเฉี่ยนเอาหน้าซุกกลับเข้าไปใต้ผ้าห่มตามเดิมแล้วกัดฟันพูดด้วยความโมโห “ฉันกับหมอนั่นก็เป็นศัตรูกันเหมือนเมื่อก่อนนั่นแหละ เมื่อก่อนเป็นยังไงตอนนี้ก็ยังเป็นแบบนั้น อนาคตก็จะเป็นแบบนี้ต่อไปด้วย ข้าวนั่นก็น่าจะเป็นสัญญาณของการประกาศศึก ฟ่าน! เธอเช็กชื่อให้ฉันด้วยนะวันนี้ฉันไม่เข้าเรียนช่วงเช้า”

 

จู้ฟ่านฟ่าน “หืมมม ไม่ไปเรียนแล้วเหรอ? เมื่อวานเธอเพิ่งจะบอกว่าจะเป็นเด็กดีอยู่เลยนี่”

 

“เด็กดีโดดเรียนไม่ได้รึไง? ฉันง่วง ฉันอยากนอน ป่วย ห้ามรบกวน!”

 

——

 

ตอนที่รับสายฉู่โม่เฟิง กู้เฉิงเซียวกำลังตั้งใจอ่านประวัติแบบละเอียดของหลินเฉี่ยนอยู่ในห้องทำงาน เขาใช้เวลาอ่านอยู่นาน และค่อยๆ อ่านทุกบรรทัดโดยไม่ยอมพลาดไปแม้แต่อักษรเดียว

 

“อาสองครับคือว่า...เอ่อ…” ฉู่โม่เฟิงอ้ำๆอึ้งๆ เขาอดกระอักกระอ่วนไม่ได้เมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังขอเรื่องที่มันดูงี่เง่า “คือ...หลินเฉี่ยนคนที่ผมชอบเขาบอกว่า เอ่อ...อยากจะคุยกับผมต่อหน้าอาน่ะครับ”

 

“ได้”

 

“ห๊ะ อาตกลงเหรอครับ?” ฉู่โม่เฟิงถามอย่างตกใจ เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะง่ายดายขนาดนี้

 

“อืม”

.

.

.

ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด