ตอนที่แล้วตอนที่ 14 คดีพลิก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 16 เขาก็คือผู้ชายรวย ๆ โง่ ๆ คนนั้นแหละ

ตอนที่ 15 ยัยนั่นแค่ขี้มโนเท่านั้นเอง


ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm

หลินเฉี่ยนตบปุๆไปบนบ่าของหลินหยี คนเก๊กยกยิ้มมุมปาก หรี่ตาลงเพื่อส่งสายตาเจ้าเล่ห์ให้สาวสวยตรงหน้าก่อนที่จะยักคิ้วให้อีกหนึ่งครั้ง หลังจากนั้นเท้าทั้งคู่ก็ค่อยๆเยื้องย่างไปด้านหน้า ทำท่าทางให้องอาจสุดๆเหมือนตัวเองเป็นมาเฟียใหญ่

 

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า แหมเรานี่ก็เท่เหมือนกันแฮะ เฮ้อ คนอะไรจะเท่กระชากใจได้เบอร์นี้ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”

 

“ชิ! หลงตัวเอง” หลินหยีเบ้ปากใส่อย่างหมั่นไส้  “แต่โคตรสะใจเลยว่ะ เมื่อกี้ยัยหนานอินนั่นหน้าเจื่อนไปเลย คนแบบยัยนั่นสมควรโดนแบบนี้แหละ เป็นไงล่ะกรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมตามสนอง!”

 

“หึ! หมั่นไส้มานานล่ะ ชอบทำตัวเรียกร้องความสนใจ รู้ทั้งรู้ว่าสู้ฉันไม่ได้ก็ยังชอบเอาตัวเองมาเทียบกับฉันอยู่เรื่อย คงอยากเอาชนะมากล่ะสิ ฉันล่ะเบื่อออ เห็นหน้านางวันนี้แล้วสะใจเป็นบ้าเลย”

 

“หืมมม เดี๋ยวนะแม่สาวน้อย…คนอย่างเธอนี่มีอะไรที่ยัยนั่นต้องอยากเอาชนะด้วยเรอะ?” หลินเฉี่ยนขมวดคิ้วถามแต่ก็ยังเก๊กท่าต่อไป

 

“ก็นางชอบเรียกร้องความสนใจจากฉันบ่อยๆอ้ะ คิดดูสิ ขนาดเข้าเรียนยังชอบเสนอหน้าหนาๆโบกรองพื้นสิบชั้นนั่นเข้ามาอยู่ในสายตาฉันตลอดเลย แบบนี้ถ้าไม่เรียกร้องความสนใจเพราะอยากแข่งกับฉันจะเรียกอะไร?” หลินหยีเถียง

 

“แต่ยัยนั่นเป็นถึงดอกไม้มหาลัยเลยนะ จะอยากแข่งไปทำไม… อ้อ ฉันรู้ล่ะ เธอคงจะอิจฉาล่ะสิเนี่ย?”

 

หลินหยีเถียงทันทีด้วยสีหน้าเหยียดหยาม “เหอๆ ดอกไม้มหาลัยเรอะ? คนขี้ตู่ที่มโนเอาเองว่าตัวเองเป็นดอกไม้มหาลัยนี่ถูกนับว่าเป็นดอกไม้มหาลัยจริงๆได้ด้วยเหรอเนี่ย?”

 

หลินเฉี่ยนหัวเราะก่อนจะพูดด้วยโทนเสียงทุ้มต่ำพร้อมกับใช้สายตากรุ้มกริ่มจ้องลึกเข้าไปในตาหลินหยี “อย่างยัยนั่นก็แค่คนขี้มโน ต้องอย่างเธอสิถึงจะเรียกว่าของจริง ใช่ไหม?”

 

หลินหยีเบิกตากว้างก่อนที่จะใช้มือลูบไหล่ตัวเอง “อี๋! ทำบ้าบออะไรของเธอเนี่ย ขนลุกชะมัด”

 

“ขนลุกอะไรเล่า  ฉันออกจากน่ารักขนาดนี้...เจอเสน่ห์คนน่ารักอย่างฉันไม่หวั่นไหวหน่อยเหรอจ๊ะถามจริง? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”

“…..” หลินหยีได้แต่ถอนหายใจอย่างเอือมระอา

 

หลินเฉียนมองลูกพี่ลูกน้องอย่างขำๆก่อนจะถาม “นี่ คุณดอกไม้มหาลัยหลิน นี่ก็เย็นมากแล้วถ้าเธอยังไม่กลับบ้าน มีหวังแม่เธอได้อาละวาดแน่ๆ  ไงล่ะ ก่อนหน้านี้ชอบใช้ฉันเป็นไม้กัน ‘หมา’ ดีนัก ตอนนี้ดูเหมือนเธอจะต้องถูก ‘หมา’ กัดตูดแล้วล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า”

 

หลินหยีกลอกตามองบน เห็นๆอยู่ว่าเป็นห่วงเธอแท้ๆแต่ทำเป็นปากร้ายกลบเกลื่อน นี่แหละนะหลินเฉี่ยน

 

“นี่หลินเฉี่ยน บอกฉันมาตามตรงว่านายกู้นั่นอายุเท่าไหร่?”

 

“อยากรู้เรื่องสามีคนอื่นทำไมเนี่ย?”

“……”

 

หลินเฉี่ยนหรี่ตามอง “อ้ออออ รู้ล่ะ! เมื่อวานฉันเห็นนะว่าเธอมองหมอนั่นด้วยสายตาบ้าผู้ชาย แหนะ คิดอะไรกับเขาล่ะสิท่า ไม่ดีม้างงงง หมอนั่นเป็นน้องเขยเธอเลยนะเว้ย”

 

หลินหยีขมวดคิ้ว “น้องเขยอะไร ฉันไม่มีน้องสาวสักหน่อย!”

 

“อ่าว ก็ฉันไงน้องเธอ...นี่พี่คิดจะเป็นเมียน้อยผัวหนูเหรอคะ?” หลินเฉี่ยนแกล้งทำท่าไม่พอใจ เธอบีบเสียงให้สูงปรี๊ดและพูดดังลั่นจนคนอื่นๆเริ่มหันมามอง

 

“.......หลินเฉี่ยน ฉันจะฉีกปากเธอให้ไปถึงหูเลยคอยดู!” หลินหยีโมโห

 

หลินเฉี่ยนหัวเราะแล้วแลบลิ้นใส่ “แปร่ ดูปากนะคะ ฉัน-ไม่-เชื่อ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”

“หยุดเลยนะ” หลินเฉี่ยนวิ่งหนีขณะที่หลินหยีวิ่งไล่

 

สองพี่น้องวิ่งไล่กันสักพักก่อนจะเปลี่ยนเป็นเดิน เสียงพูดคุยและหัวเราะของทั้งสองดังขึ้นมาเป็นระยะจนกระทั่งทั้งคู่ออกมาจากประตูมหา’ลัย ในตอนที่สองสาวแยกย้ายกันเดินกลับบ้านของตัวเองก็เป็นเวลาที่ท้องฟ้าใกล้จะมืดเต็มทีแล้ว

 

หลินเฉี่ยนที่กำลังจะเดินไปที่สถานีรถไฟ จู่ๆก็รู้สึกได้ว่ามีรถขับตามมาก่อนที่จะขับมาจอดด้านหน้าเธอ

 

“คุณผู้หญิง” ผู้ชายคนหนึ่งตะโกนออกมาจากรถหรู ก่อนที่จะจอดรถตรงหน้าหลินเฉี่ยน แล้วรีบเดินลงมาเปิดประตูให้ “คุณผู้หญิงเชิญขึ้นรถครับ”

 

หลินเฉี่ยนชะงัก ที่แท้ก็เป็นจางคาย คนขับรถคนเดียวกับที่มาส่งเธอที่มหา’ลัยเมื่อเช้านั่นเอง ‘สังสัยคุณกู้จะให้มารับฉันกลับบ้าน’ หลินเฉี่ยนคิด

 

“อ้าวพี่ชาย ดีเลยๆ ขอบใจมากนะ ฉันกำลังหาทางกลับอยู่พอดี แหะๆ พอดีฉันไม่ค่อยคุ้นเส้นน่ะ”

 

“คุณผู้หญิงไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว เชิญคุณผู้หญิงขึ้นรถก่อนครับ”

 

คำพูดของจางคาย ทำให้หลินเฉี่ยนหยุดและหันไปพูดตอบเขาอย่างรวดเร็วในขณะที่กำลังก้าวขึ้นรถ “ไม่ได้ๆ ยังไงก็ต้องขอบใจอยู่ดี อืม..เอางี้เลยดีกว่าให้ฉันเลี้ยงสุกี้สักมื้อแล้วกันดีป้ะ?”

 

“เกรงว่าจะไม่เหมาะครับคุณผู้หญิง คุณชายกำลังรอทานข้าวอยู่ครับ”

 

หลินเฉี่ยนรู้สึกเสียวสันหลังวาบในทันทีที่ได้ยินจางคายเอ่ยถึงคุณผู้ชายของเขา เธอได้แต่ยิ้มแห้งๆให้และตกลงก่อนจะขึ้นไปนั่งในรถอย่างสงบเสงี่ยม

 

ปกติหลินเฉี่ยนใช้ชีวิตเร่ร่อนไปวันๆโดยไม่เคยมีใครมาสนใจ เธอจึงทำทุกอย่างด้วยตัวเองคนเดียวโดยไม่ต้องสนใจใคร แต่จู่ๆวันนี้กลับมีรถมาคอยรับส่ง แถมยังมีคนรออยู่ที่บ้านอีก นี่เป็นเรื่องที่เธอไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยจริงๆ ‘ให้ตายเถอะ! ความรู้สึกแบบนี้มันจะประหลาดเกินไปแล้ว!’

 

‘อย่างนี่เขาเรียกว่าอะไรนะ บุญหล่นทับรึเปล่า? ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่สนุกไปกับมัน แล้วก็ไม่ผิดนี่ถ้าเราอยากจะเก็บรักษามันเอาไว้’ หลินเฉี่ยนคิดในใจ จนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องพวกนี้จะเกิดขึ้นกับเธอ

 

ระหว่างที่รถกำลังขับไปเรื่อยๆ หลินเฉี่ยนก็คอยมองสองข้างทางเพื่อจำเส้นทางกลับบ้านหลังใหม่

 

ยิ่งรถแล่นมาได้ไกลขึ้นก็ยิ่งทำให้เธอได้รู้ว่า บ้านของ ‘เขา’ หรือบ้านใหม่ของเธอ ตั้งอยู่ในย่านที่พักของพวกคนรวยล้นฟ้า ด้วยทำเลที่ตั้งที่นับได้ว่าเป็นทำเลทองจึงทำให้ที่ดินแถวนี้ไม่ใช่แค่มีราคาแพงลิบลิ่วแต่มันแทบจะประเมินค่าไม่ได้ด้วยซ้ำ คงจะมีแต่คนที่มีทั้งอิทธิพลและมีเงินทองมหาศาลเท่านั้นถึงจะมีปัญญาครอบครองบ้านละแวกนี้ได้

 

‘ถ้าจะให้เปรียบเทียบที่นี่ก็คงเป็นเหมือนรังของหงส์ แล้วอีกา ไม่สิ นกกระจอกอย่างเธอถึงจะบินมาเกาะบนกิ่งไม้เดียวกันกับหงส์พวกนี้ได้แต่เธอคู่ควรจะอยู่ที่นี่จริงๆเหรอ? ยังไงซะนกกระจอกก็คือนกกระจอกอยู่ดี ไม่มีวันกลายเป็นหงส์ไปได้หรอก’

 

หลินเฉี่ยนคิดเรื่อยเปื่อยในขณะที่รถแล่นไปเรื่อยๆด้วยความเร็วไม่มากนัก ทันใดนั้นสายตาของเธอก็สะดุดกับภาพของหญิงชราผมขาวคนหนึ่งที่กำลังจะเดินข้ามถนน คุณยายคนนั้นยกมือขึ้นช้าๆเพื่อเป็นสัญญาณให้รถชะลอความเร็วลง ดูเหมือนว่าคุณยายผมขาวจะเคลื่อนไหวได้ค่อนข้างช้า

 

ในตอนที่รถที่เธอนั่งกำลังขับผ่านไป บริเวณกระโปรงหลังรถก็เกิดเสียงดังขึ้น หลินเฉี่ยนหันไปมองและเห็นว่าหญิงชราที่กำลังจะข้ามถนนล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น

 

“จอดก่อน!” เธอตะโกนขึ้น พร้อมกับรีบปลดสายนิรภัยออกจากตัว “ฉันขอลงไปดูแป๊บนึง”

 

จางคายรู้สึกไม่ไว้ใจจึงพูดห้าม “คุณผู้หญิงรถเราไม่ได้ชนคุณยายคนนั้นเลยนะครับ แล้วพวกสิบแปดมงกุฎที่ทำแสร้งว่าถูกรถชนแล้วเรียกร้องค่าเสียหายก็มีอยู่เยอะด้วย ปล่อยไปเถอะครับ”

 

“ในเมื่อเราไม่ได้ขับชนก็แสดงว่าเราไม่ผิด แล้วจะต้องกลัวอะไรล่ะจริงไหม ขอฉันลงไปดูแป๊บนึง”

 

หลินเฉี่ยนเปิดประตูรถก่อนที่จะเดินลงมาดูหญิงชราที่ล้มอยู่ด้านหลังรถคันหรูที่เธอนั่งมา

 

ในตอนแรกหญิงชราไม่ได้คาดหวังว่าจะมีคนลงจากรถมาดูเธอ เพราะรถขับห่างออกไปไกลแล้ว แต่ทว่าเธอก็เห็นรถคันนั้นค่อยๆ ถอยกลับมา ก่อนที่จะมีคนเปิดประตูออกจากรถ

 

ทันทีที่เห็นว่ามีคนลงรถมา หญิงชราผมขาวก็รีบร้องครวญครางเสียงดัง “โอ๊ย กระดูกฉัน...สงสัยจะอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว โอ๊ยยย”

 

ถึงแม้จะคิดว่าคนแก่คนนี้ไม่น่าจะใช่มิจฉาชีพ แต่หลินเฉี่ยนก็ไม่พลาดที่จับสังเกตคุณยายตรงหน้าโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว

 

“คุณย่า เป็นยังไงบ้าง?”

 

ยายคนนั้นชี้ไปที่รถของพวกเธอ “แม่หนูมีตารึเปล่า ไม่เห็นรึไง?”

 

หลินเฉี่ยนแสร้งทำเป็นงุนงง “หา? เห็นอะไรเหรอย่า?”

 

คนแก่ชี้ให้ดูตรงที่เธอเจ็บ“รถของเธอชนฉันน่ะสิ กระดูกฉันหักแน่ๆเลย คงอยู่ไม่พ้นคืนนี้แน่ๆเลย โอ้ยยยย”

 

หลินเฉี่ยนย่อตัวลงพร้อมกับยิ้ม “ย่า รถพวกหนูขับผ่านไปข้างหน้าแล้วนะ จะไปชนย่าที่เดินอยู่ด้านหลังได้ไงอ่ะ?”

 

แม้ว่าผมบนหัวของคุณยายตรงหน้าจะเป็นสีเทาจนหมดแล้วแต่แววตาทั้งคู่ก็ยังดูแจ่มใสและเป็นประกาย ในแวบแรกที่เห็นหญิงชราคนนี้หลินเฉี่ยนก็นึกถึงย่าของตัวเองขึ้นมาทันที และยิ่งได้มองใกล้ๆเธอก็ยิ่งทำให้เธออดคิดถึงย่าของตัวเองไม่ได้

 

“ฉันก็เดินอยู่บนถนนอยู่ดีๆ แต่รถพวกเธอผ่านมาเร็ว ลมมันก็ปะทะเข้ากับตัวฉันจนล้มลงไปน่ะสิ ยังไงเรื่องนี้เธอก็ต้องรับผิดชอบ”

 

หลินเฉี่ยนได้ยินแบบนั้นก็รู้ทันทีว่าเป็นแผน แต่เธอก็ยังคงเออออกลับไป “โอเคได้ๆ เดี๋ยวหนูรับผิดชอบเอง งั้นหนูพาย่าไปหาหมอแล้วกันนะ”

 

ยายแก่คนนั้นรีบโบกไม้โบกมือเป็นพัลวันเพื่อห้ามปราม “ไม่ไม่ไม่ ฉันไม่ไปโรงพยาบาลนะ ไม่เอาโรง’บาล เข้าไปแล้วออกไม่ได้”

 

“แล้วย่าจะเอายังไงอ่ะ?”

 

“แม่หนูฉันอยากจะไปข้างหน้านู้นนนนน่ะ เธอช่วยพาฉันไปส่งหน่อยได้ไหมล่ะ?”

 

“ย่าจะไปข้างหน้านั่นเหรอ? แต่เมื่อกี้ย่ากำลังเดินข้ามถนนไปอีกฝั่งไม่ใช่เหรอ?”

 

หลังจากได้ยินหลินเฉี่ยนพูดคุณยายผมขาวก็เกิดอาการอ้ำอึ้งขึ้นมา หลินเฉี่ยนได้แต่ยิ้มขำก่อนจะตอบกลับไป “เอาสิย่า ว่าแต่ย่าจะไปไหนล่ะ?”

 

“พูดจริงเหรอ?”

 

“จริงสิ”

 

“ดีจริงๆเลย ขอบใจมากนะแม่หนู”

 

“หนูชื่อหลินเฉี่ยนนะ มา...เดี๋ยวหนูช่วยประคองนะย่า”

 

“อื้อ...ขอบใจมากนะเสี่ยวเฉี่ยน”

 

หลินเฉี่ยนประคองคุณยายผมขาวขึ้นมา เมื่อเห็นภาพแบบนั้น จางคายที่เฝ้าดูก็รีบเข้ามาห้าม “คุณผู้หญิง ก็เห็นอยู่ว่าอีกฝ่ายจงใจล้มเอง ทำไมคุณผู้หญิงถึง.......”

 

“จงใจก็จงใจไปสิ จะไปใส่ใจทำไมนักหนากับอีแค่แผนคนแก่ล่ะพี่ชาย”

 

“คุณผู้หญิง.....”

 

“พอๆ ไปเถอะขับรถไปส่งย่าก่อนแล้วกัน” พูดจบหลินเฉี่ยนก็ประคองร่างของคุณยายคนนั้นไว้ด้วยความระมัดระวัง “ย่าค่อยๆก้าวเท้านะ ระวังหัวด้วย”

.

.

.

ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด