ตอนที่แล้วตอนที่ 11 วีรกรรมคุณชายเฉี่ยน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 13 เหยียบหลินเฉี่ยนให้จมดิน

ตอนที่ 12 เหมือนได้เกิดใหม่


ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm

เป็นธรรมดาที่ข่าวลือจะแพร่สะพัดออกไปเร็วกว่าโรคระบาด และดังยิ่งกว่าเสียงออดเปลี่ยนคาบเรียนของโรงเรียนมัธยม คนมากมายต่างก็พูดถึงเรื่องของ ‘คุณชายเฉี่ยนมีเสี่ยเลี้ยง’ กันอย่างสนุกปาก

 

และแน่นอนว่ามันก็ดังมาถึงหูของฉู่โม่เฟิงด้วย

 

เมื่อเวลาพักกลางวันมาถึง ทุกคนในห้องเรียนต่างกรูกันออกนอกห้องเพื่อไปจับจ้องที่นั่งในโรงอาหาร หลินเฉี่ยนยกมือขึ้นเช็ดน้ำลายตรงข้างแก้วที่ไหลยืดตอนเธอฟุบหลับในคาบก่อนจะหยิบกระเป๋าเพื่อเตรียมตัวออกจากห้อง

 

“เดี๋ยวก่อน”

 

หลินเฉี่ยนขยี้ตาแล้วหันไปตามเสียงเรียกด้วยท่าทางสลึมสลือ เธอพบว่าฉู่โม่เฟิงนั้นอยู่ห่างจากเธอแค่สามก้าวและกำลังจ้องมองเธออยู่

 

“เรียกฉัน?”

 

คนตัวโตก้าวเท้าเข้ามาใกล้ขึ้นอีกก่อนจะถาม “แผลบนหน้าเธอไม่ได้เป็นอะไรมากใช่ไหม?”

 

“ไม่หนิ”

 

ฉู่โม่เฟิงก้มลงมองหน้าหลินเฉี่ยนใกล้ๆ ก่อนที่จะพบว่าใบหน้าฝั่งซ้ายของเธอดูบวมเป่งมากกว่าฝั่งขวาเสียอีก เมื่อนึกถึงสาเหตุที่ทำให้เธอต้องเป็นแบบนี้ เขาก็รู้สึกผิดขึ้นมา “เมื่อวานเธอน่าจะบอกฉัน เธอก็มีเบอร์ฉันไม่ใช่เหรอ?”

 

“บอกแกทำไมอ่ะ? ฉันก็ไม่ได้แพ้พวกนั้นซะหน่อย”

 

“ก็ใช่ที่เธอไม่ได้แพ้คนพวกนั้น แต่ที่ทำให้มีคนต้องเข้าโรง’บาลถึงสามคน เธอต้องถูกเรียกไปอบรมนะ”

 

“อบรมก็อบรมไปดิ นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อย ฉันชินแล้วแหละ”

 

“เดี๋ยวฉันจะไปอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นเอง”

 

หลินเฉี่ยนหัวเราะแล้วถามขึ้นอย่างสงสัย “ฮ่าฮ่าฮ่า แกจะอธิบายอะไร? ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยซะหน่อย”

 

“หนานอินทำแบบนั้นก็เพราะฉันไม่ใช่เหรอ?”

 

หลินเฉี่ยนยิ้มปนหัวเราะ แล้วส่ายหน้า “มันเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีของสาวๆอย่างพวกฉัน ผู้ชายไม่ต้องเข้ามายุ่งหรอกหน่า”

 

“......” ฉู่โม่เฟิงได้ยินเช่นนั้นก็เงียบไปเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่หลินเฉี่ยนยอมรับว่าเธอเป็นผู้หญิงโดยไม่ปฏิเสธอะไร

 

“ถอยไปๆ ฉันจะไปกินข้าวแล้ว ช้ากว่านี้เดี๋ยวก็ไม่มีที่นั่งกันพอดี”

 

แต่หลังจากก้าวเท้าไปได้แค่ก้าวเดียว ฉู่โม่เฟิงก็เดินมาขวางทางเธอไว้

 

“เมื่อวานที่เธอถามฉัน ฉันกลับไปคิดมาแล้วนะ เอาเป็นว่าฉันตกลง”

 

“หือ? ถามอะไร?” หลินเฉี่ยนถามด้วยสีหน้างุนงง

 

ช่วงสองวันที่ผ่านมานี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมายและมันก็วุ่นวายเสียจนทำให้เธอเองก็ยังจดจำรายละเอียดอะไรไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

 

ฉู่โม่เฟิงไม่ได้ตอบคำถามหลินเฉี่ยนแต่กลับเปลี่ยนเรื่องคุย “ข่าวลือของเธอวันนี้ ฉันไม่เชื่อหรอกนะเพราะฉันเชื่อว่าเธอไม่ได้เป็นแบบนั้น”

 

หลินเฉี่ยนงุนงงอีกครั้ง “หือ? ข่าวลืออะไร?”

 

“เน้~ ฉู่โม่เฟิง…เป็นเอ๋อเหรอจ๊ะ? ฮ่าๆๆๆๆ” เธอหรี่ตามองเพื่อนขอเธอพร้อมกับพูด หลังจากนั้นก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเหมือนไม่ใส่ใจอะไรทั้งนั้น

 

“วันนี้สมองแกไปกระแทกกับอะไรมารึเปล่าวะเนี่ย? เพี้ยนๆนะแกอ่ะ ฉันว่าแกรีบไปกินยาเถอะ น่าเสียดายที่ฉันไม่มียาให้แกกินอ่านะ ไปล่ะ”

 

หลินเฉี่ยนหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นมาสะพายก่อนที่จะเดินอ้อมอีกฝ่ายไป

 

ทว่าก่อนที่จะก้าวผ่านตัวเขา ฉู่โม่เฟิงก็ยื่นมือออกมายึดแขนของเธอไว้พร้อมกับมองดูเธอ สีหน้าของเขาดูใจเย็นและอบอุ่นมากกว่าทุกครั้ง...มันติดจะอ่อนโยนเลยด้วยซ้ำ

 

เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาว “คำถามที่เธอเป็นคนถามฉันแม้แต่เธอเองก็ไม่รู้งั้นเหรอ?” เขาพูดขึ้นอีกครั้ง “เมื่อวานเธอเป็นคนถามฉันเองตอนที่เธอขี่หลังฉัน”

 

คนตัวโตค่อยๆขยับหน้าเข้ามาใกล้มากขึ้น ในขณะที่หลินเฉี่ยนก็ค่อยๆเอนตัวไปด้านหลังเรื่อยๆเพื่อถอยห่าง

 

ฉู่โม่เฟิงไม่รอให้อีกฝ่ายถามอะไรต่อจากนั้นก็พูดต่อว่า “เธอถามฉันว่าจะเป็นแฟนกับเธอได้ไหมไง”

“……”

 

“ฉันกลับไปคิดมาแล้ว และตอนนี้ฉันก็ได้คำตอบแล้ว... ฉันตกลง”

 

“…….” ‘เดี๊ยววววว...นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย?’

 

“แค่กๆๆๆๆ” หลินเฉี่ยนรีบดึงแขนของเธอออกจากมือของคนร่างสูงก่อนที่จะถอยหลังออกไปอีกสองก้าว “วันนี้ไม่ใช่วันเมษาหน้าโง่นะเว้ย อย่ามาล้อฉันเล่นดิวะ”

 

ฉู่โม่เฟิงยังคงแสดงสีหน้าจริงจัง “หน้าฉันดูเหมือนกำลังล้อเล่นงั้นเหรอ?”

 

“โอเคๆ เอาเป็นว่าฉันเนี่ยแหละที่ล้อแกเล่น ขอทางหน่อยฉันจะไปหาไรกินแล้ว” ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะตอบอะไรกลับมา หลินเฉี่ยนก็รีบวิ่งปรู๊ดออกไปด้วยความเร็วสูง

 

“.......”

 

ฉู่โม่เฟิงยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ความคิดหมุนวนอยู่ในหัวของเขา ใบหน้าหล่อเหลาเวลานี้เต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย เขาจินตนาการเอาไว้ว่าหลังจากที่เขาตอบตกลงเรื่องนั้นไปแล้ว หลินเฉี่ยนอาจจะโผล่เข้ากอดเขาด้วยความดีใจ หรือไม่ก็อาจจะจับมือเขาแล้วเขย่าไปมาด้วยท่าทางตื่นเต้น แต่เขาไม่คิดเลยว่าเธอจะบ่ายเบี่ยงแล้ววิ่งหนีเขาออกไปแบบนี้

 

เขาได้รับความรักจากสาวๆมากมาย มีคนมาสารภาพรักกับเขาแทบทุกวันเว้นวัน ไม่ว่าเขาจะเดินไปที่ไหนก็สามารถดึงดูดสายตาของผู้หญิงทุกคนได้ แต่ถึงแม้ว่าจะตกเป็นเป้าสายตาของคนจำนวนมากและถูกสาวๆมองมาด้วยสายตาหลงใหลคลั่งไคล้อยู่ทุกวัน แต่เขากลับมีแต่ความรู้สึกชินชากับสายตาของคนเหล่านั้น

 

เขาไม่เคยรับรักใครมาก่อนเพราะภายในใจของเขา—มีคนที่เขารักแต่แรกอยู่แล้ว

 

การถูกปฏิเสธในครั้งนี้ เขาไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเกิดขึ้นได้ ‘คิดไม่ถึง คิดไม่ถึงเลยจริงๆ’

 

—นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอเรื่องแบบนี้—

 

หลินเฉี่ยนวิ่งออกมานอกห้องอย่างรวดเร็วก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นเดินลงบันได เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีเสียงของฉู่โม่เฟิงวิ่งตามมาเธอก็สบายใจขึ้น แต่ทว่าไม่นานนักเธอกลับได้ยินเสียงฝีเท้ามากมายเดินตามมา—เสียงรองเท้าส้นสูง—ผู้หญิง? หลินเฉี่ยนหันไปเห็นว่ามีนักศึกษาสาวกลุ่มหนึ่งกำลังเดินตรงเข้ามาหา คนพวกนั้นชี้มาที่เธอแล้วพูดกันเสียงดัง

 

“ดูนั่นสิ นั่นหลินเฉี่ยนหนิ เธอดูออกไหมว่านั่นผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่ ฮ่าๆๆๆ”

 

“ดูกับตาคงดูไม่ออกหรอก แต่ถ้าแก้ผ้าก็คงจะรู้แน่ๆว่าเป็นเพศอะไร ไร้ยางอายชะมัดถึงได้กล้าทำเรื่องอุบาทว์แบบนั้นได้”

 

“ยัยนั่นชกลูกชายของเศรษฐีอันดับหนึ่งของเมืองบีจนเข้าโรงพยาบาลด้วยนะ มาดูสิว่าเสี่ยรสนิยมแปลกประหลาดนั่นจะกล้าออกหน้ามาช่วยไหม”

 

“ฉันว่า ถ้าในหัวพอจะมีสมองอยู่บ้าง ก็คงไม่กล้าไปมีเรื่องกับคนระดับนั้นหรอก จริงไหม?”

 

คำพูดของผู้หญิงหลุ่มนั้นดังเข้าถึงหูของหลินเฉี่ยน มันเต็มไปด้วยคำพูดที่น่ารังเกียจและมีเจตนาดูถูกเหยียดหยามเธอ หลินเฉี่ยนรู้สึกโกรธเป็นอย่างหนัก อยู่บ้านตระกูลหลินเธอก็ถูกเอาเปรียบมากพอแล้ว ต่อไปนี้เธอจะไม่ยอมเสียเปรียบใครหรือให้ใครมาเอาเปรียบเธอได้อีกต่อไปแล้ว!

 

หลินเฉี่ยนตวัดสายตามองไปที่คนกลุ่มนั้น แต่ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไร เสียงของหลินหยีก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง

 

“รู้ไม่จริงแต่ก็ยังเอามาพูดลับหลัง แถมเป็นเรื่องของคนอื่นอีก แบบนี้มันไม่น่ารังเกียจมากกว่าเหรอ! มีคนอย่างพวกเธอที่นี่เหมือนเมืองนี้มีแต่มลพิษเลยว่ะ”

 

เมื่อหญิงสาวกลุ่มนั้นได้ยินเสียงของหลินหยี ก็หันมองหน้ากันก่อนที่จะรีบเดินหนีไป

 

หลินหยีมองตามตาแข็งพร้อมกับส่งเสียงด่าตามหลังก่อนจะหันกลับมาหาหลินเฉี่ยน “ชิ!พวกปากปีจอ ไม่แน่จริงนี่หว่า...นี่หลินเฉี่ยนเธอรู้ตัวบ้างไหมเนี่ยว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว”

 

หลินเฉี่ยนไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นและเธอก็เพิ่งจะได้ยินเรื่องแปลกๆจากผู้หญิงเหล่านั้นเมื่อกี้นี้เอง

 

“ฉันจะบอกให้ก็ได้…ว่าแต่ว่า เมื่อวานเธอไปมีเรื่องกับไอ้พวกหมาบ้าพวกนั้นมาใช่ไหม? แล้วยังจะมาตอแหลฉันว่าสะดุดล้มอีก นี่คิดว่าฉันโง่นักเหรอไง?”

 

หลินเฉี่ยนยิ้ม “ก็เธอโง่จริงๆหนิ”

 

หลินหยีหยิกแขนของหลินเฉี่ยนก่อนที่จะกระทืบเท้าด้วยท่าทางโมโห “ยัยบ้า ยังจะมีหน้ามาล้อเล่นอีก เธอรู้หรือเปล่าว่าหนึ่งในคนที่เธอซัดเละจนเข้าโรง’บาลไปน่ะ เป็นถึงลูกชายของเศรษฐีอันดับหนึ่งของเมืองบีเลยนะ”

 

“อ๋อ เมื่อกี้ได้ยินยัยพวกนั้นพูดแล้วแหละ ว่าแต่คนไหนล่ะ? ไอ้คนที่หูเหมือนหมูนั่นเหรอ? หรือว่าไอ้ลิงปากแหลมนั่น?”

 

“หลินเฉี่ยน นี่ยังจะเล่นอีกนะ! รู้ตัวบ้างไหมเนี่ยว่ามันเป็นเรื่องใหญ่แล้วก็ร้ายแรงมาก! เธอทำร้ายคนอื่นเกือบถึงชีวิตขนาดนั้นอาจจะถึงขั้นถูกไล่ออกจากมหา’ลัยก็ได้นะ”

 

หลินหยีอายุมากกว่าหลินเฉี่ยนแค่สองเดือนเท่านั้น เธอเป็นลูกคนเล็กของบ้าน ด้วยอิทธิพลจากคนอื่นๆในครอบครัวทุกครั้งที่เธอทะเลาะกับคนในบ้านหรือไม่สบายใจเรื่องอะไรเธอก็มักจะแสดงอารมณ์โมโหใส่หลินเฉี่ยนเสมอ แต่ถ้าหากหลินเฉี่ยนเกิดเรื่องอะไรขึ้นเธอเองก็มักจะเป็นกังวลแทนอีกฝ่ายเสมอเช่นกัน

 

บางทีคำพูดที่ว่า ‘รักมากเกลียดมาก’ อาจจะใช้อธิบายการกระทำแบบนี้ของหลินหยีได้ดีที่สุดก็เป็นไปได้

 

ทั้งสองคนเป็นทั้งเพื่อนสนิท เป็นทั้งพี่น้อง ในเวลาเดียวกันก็เป็นศัตรูของกันและกันด้วย

 

ความรู้สึกของหลินเฉี่ยนที่มีต่อหลินหยีสำคัญมากขอเพียงแค่เธอมีความสุข ฉันยังไงก็ได้อยู่แล้ว

 

ส่วนความรู้สึกที่หลินหยีมีต่อหลินเฉี่ยนก็คือ ‘นี่คนของฉัน ฉันจะรังแกจะด่าทอหรือตบตียังไงก็ได้ แต่ฉันไม่ยอมให้คนอื่นทำแบบนั้นกับคนของฉันเป็นอันขาด’ ซึ่งที่เป็นแบบนี้ก็อาจจะเป็นเพราะความผูกพันของทั้งสองทำให้หลินหยีค่อนข้างเข้าใจความรู้สึกของหลินเฉี่ยนเป็นอย่างดี

 

เมื่อได้เห็นขอบตาแดงก่ำของศัตรูที่เป็นห่วงเธอที่สุดอย่างหลินหยีแล้วหลินเฉี่ยนก็ยื่นมือมาจับบ่าของคนตรงหน้าเอาไว้ “ไม่ต้องห่วงหรอก คนพวกนั้นรุมฉัน ยังไงก็ต้องถูกไล่ออกด้วยเหมือนกันนั่นแหละ ฉันก็แค่ป้องกันตัวเองแค่นั้นเอง”

 

ถึงแม้หลินหยีจะยังคงไม่สบายใจกับเรื่องนี้ แต่เธอก็เลือกที่จะเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปพูดถึงกู้เฉิงเซียวอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้หลินเฉี่ยนเป็นกังวลไปกับเธอ “ว่าแต่หัวหน้ากู้ดูแลเธอดีไหม? เขาจะออกหน้าแทนเธอได้รึเปล่า? แล้วข่าวลือที่ว่าเธอเป็นเด็กเสี่ยน่ะมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

.

.

.

ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด