ตอนที่ 185 จอมตบหน้า
ตอนที่ 185 จอมตบหน้า
‘แอ๊ดดด!!’
กลุ่มปาร์ตี้ Rising Sunที่ฝ่าฟันกับฝูงมอนสเตอร์คนคุกมาอย่างยาวนานสุดท้ายแล้วพวกเขาก็ได้มาหยุดอยู่ที่ห้องขังขนาดใหญ่ที่ซึ่งด้านในมีบอสประจำดันเจี้ยนโหมดยาก กำลังรอคอยต้อนรับกลุ่มผู้บุกรุกกลุ่มนี้ด้วยรอยยิ้มที่น่าสะอิดสะเอียนราวกับคนโรคจิตก็มิปาน
ถึงกระนั้นภายในห้องขังอันใหญ่โต...ใช่ว่าจะมีแค่บอสผู้คุมอาศัยอยู่เพียงตัวเดียวเสียเมื่อไร ซึ่งหากทุกคนลองใช้ตามองลอดลูกกรงเข้าไปพวกเขาก็จะได้พบกับกลุ่มนักโทษคนคุกอีกมากมายที่บอสตัวดังกล่าวจับตรึงขึงไว้กับผนังอีกหลายสิบคน ประกอบเป็นลูกน้องที่คอยปกปักษ์บอสเอาไว้
“บอสผู้คุมตัวนี้มีพลังโจมตีที่ค่อนข้างสูง หากต้องปะทะกับมันตรงๆโดยไม่มีริคเตอร์คุ้มกัน ฉันขอให้ทุกคนเผื่อเส้นทางหนีเอาไว้ให้กับตัวเองด้วย...ริคเตอร์ก่อนจะใช้สกิลยั่วยุเพื่อดึงความเกลียดชังใส่บอส จงทดสอบและเรียนรู้การเคลื่อนไหวของมันให้ดีเสียก่อนเข้าใจไหม…ส่วนลูกน้องและการปั่นป่วนบอสปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันกับสลิป!!”
ทันทีที่เจสเปอร์มอบหมายหน้าที่ให้กับทุกคนจนเสร็จสิ้น ริคเตอร์ผู้พิทักษ์หนุ่มก็ก้าวขาของเขาเข้าไปยังระยะสายตาของบอสผู้คุมอย่างมั่นคง ก่อนที่เด็กคนนี้จะตัดสินใจยกโล่ที่หนักอึ้งขึ้นปกคลุมร่างกายตลอดทั้งส่วนหัวและส่วนขา
โดยมีนักฆ่าทวิสเต็ดที่เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่ได้มีโอกาสได้เรียนรู้ เทคนิคการต่อสู้จาก NPC ระดับสูงติดตามอยู่ไม่ห่าง พร้อมทั้งทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมภายในห้องขังและการเคลื่อนไหวของบอสผู้คุม
ซึ่งตัวของบอสผู้คุมโหมดยากเองก็ไม่ได้นิ่งเฉยรอให้ผู้บุกรุกพวกนี้ได้เรียนรู้และศึกษาตัวของมันได้นานอย่างใจนึก มันค่อยๆหวดแส้ในมือเพื่อยั่วยุกลุ่มผู้เล่นทั้งสองอยู่เป็นระยะ...พลางตัดโซ่ที่ตรึงลูกน้องของมันออกที่ละเส้นทั้งนี้มันก็ยังได้ปลุกเหล่าลูกน้องที่สลบไสลจากการทรมานให้ตื่นขึ้นมาเพื่อรับใช้มันอีกด้วย
‘ฮือออ!!’
เจ้าของเสียงร้องอันโหยหวนที่เจ็บปวดจากการทรมานต่างหันมามองกลุ่มผู้บุกรุกด้วยดวงตาที่แดงกล่ำพร้อมกับใช้แขนอันลีบเล็กจับคว้าอะไรก็ตามที่ผ่านตาของมัน
ทวิสเต็ดและริคเตอร์เองก็ต้องสนองต่อการโจมตีนี้ได้อย่างรวดเร็ว ผู้กล้าทั้งสองเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงสุด ทิ้งภาพเงาที่เลื่อนหายติดตาเหล่าคนคุก ที่อยู่แต่ในความมืดมานานให้โง่งมคว้าอากาศตรงหน้าต่อไป
“ริคเตอร์ใช้สกิลยั่วยุได้เลย...คนอื่นรอให้เจ้าหนูนี้ดึงบอสเอาไว้ให้มั่นคงก่อน ค่อยเปิดการโจมตี!!”
คราวนี้เป็นทีของผู้ควบคุมธาตุและผู้เบิกทางสลิปบ้าง เวทมนต์อาคมควบคุมพื้นที่ต่างถูกเสกขึ้นจากอากาศธาตุปกคลุมไปทั่วทั้งห้องขัง ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ Fire Area เพื่อเสริมพลังเวทย์ธาตุไฟของหิมะน้อยที่เจสเปอร์ตั้งใจส่งเสริมหรือแม้กระทั่งพื้นที่กำแพงป้องกันที่ช่วยปกป้องริคเตอร์ผู้พิทักษ์หนุ่มที่กำลังยั่วยุบอสด้วยตัวคนเดียว ทั้งนี้เจสเปอร์ยังทำหน้าที่เป็นผู้รักษาทดแทนตำแหน่งของไอรีน นักบุญประจำกลุ่มปาร์ตี้ของเขาที่วุ่นอยู่กับการส่งเสริมพลังให้แก่สมาชิกคนอื่นๆจนมือเป็นระวิง
เจสเปอร์และสลิปต่างวิ่งวุ่นไปทั่วทั้งห้องขัง พุ่งเข้า พุ่งออก ดึงเหล่าลูกน้องที่คอยก่อกวนมือโจมตีหลักของกลุ่มให้สนใจที่ตนอย่างแข็งขัน แต่ก็มีบางช่วงเวลาที่คนทั้งสองได้เว้นว่างแอบย่องไปโจมตีบอสที่กำลังบ้าคลั่งอยู่เป็นระยะๆ พอให้บอสตัวดังกล่าวพอหงุดหงิดหัวใจสักเล็กน้อยก่อนจะกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป
‘ปั่นป่วนการต่อสู้นี้คือบทบาทที่นายถนัดที่สุดสินะเจสเปอร์!!’ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ก็เป็นเวลาหลายเดือนมากแล้วนับตั้งแต่เกม The Era Online ได้เปิดให้บริการ พวกเขาสมาชิกแกนนำต่างได้ศึกษาเรียนรู้ข้อมูลวิธีการเล่นของเกมจากเจสเปอร์มาก็มาก ซ้ำยังถูกผู้เล่นหลายๆคนให้การยกย่องว่าเป็นยอดฝีมือบ้างก็มี...ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาก็พอจะมองแล้วว่าผู้นำที่พวกเขาติดตามด้วยมานานมีลักษณะเด่นในเรื่องอะไร แม้ในช่วงแรงที่ขาดส่วนผสมทางอาชีพที่ลงตัว
เจสเปอร์ผู้ควบคุมธาตุจำต้องรับหน้าเสื่อเป็นมือโจมตีหลักและแท้งค์ไปในตัวอย่างเสียมิได้ แต่หลังจากที่ได้สมาชิกคนอื่นๆเข้ามาเติมเต็มตำแหน่งที่ขาด เจสเปอร์ก็สามารถกลับไปเล่นในตำแหน่งที่เขาถนัดที่สุดอย่างการปั่นป่วนและบัญชาการต่อสู้นี้ได้อีกครั้ง
อย่างที่เคยกล่าวไป อาชีพที่เหมาะสมที่สุดในการเป็นผู้บัญชาการคือคนที่สามารถควบคุมการต่อสู้นี้ได้ด้วยตัวเอง...ซึ่งการมองภาพรวมของโบม่อนเองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยเช่นกัน มันเป็นความเชื่อที่ผิดๆของนิยายและการ์ตูนอนิเมชั่นที่มักโยนตำแหน่งนี้ให้กับพระเอกของเรื่องอยู่เสมอ พระเอกทั้งต่อสู้และสั่งการ...บ้าไปแล้ว!! คุณมีตาหลังหรืออย่างไร?
ทฤษฏีที่ถูกต้องถูกล้มล้างไปโดยสิ้นเชิงแค่ลำพังต้องตั้งสมาธิรับมือบอส หลบหลีก หรือป้องกัน มือโจมตีก็แทบสูญสิ้นจิตวิญญาณกันหมดแล้ว แถมยังต้องบัญชาทีมไฟต์ด้วยตัวเองอีก ‘นี้สินะที่เรียกว่าพลังบัพพระเอก’ เอ๊ะ!! หรือว่า…ตัวเขาเองก็มีพลังนี้เหมือนกัน???
ถึงกระนั้นหากใครเลือกที่จะเชื่อในแบบเดิมก็สุดแล้วแต่ความคิดของแต่ละคน ตัวเจสเปอรืไม่มีสิทธิไปกำหนดให้ใครต้องเชื่อในแบบของเขาได้ สู้เอาเวลาที่ต้องต่อล้อต่อเถียงมาพัฒนาตัวเองและทีมของเขาเองดีกว่ากระมัง!
เวลานี้หลังจากที่ทุกคนต่อสู้กันอยู่นานบอสผู้คุมที่คลุ้มคลั่งมานานก็เหลือพลังชีวิตอีกไม่ถึง 10% เห็นจะได้ ลูกน้องที่เป็นตัวประกอบผูกติดกับโซ่ตรวนก็ล้มหายตายจากไปเสียตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะมองไปทางไหนบอสผู้คุมก็ไม่มีตัวช่วยในมือเหลืออยู่อีก คลุ้มคลั่งก็แล้ว ระเบิดสกิลที่มีก็แล้ว จนแล้วจนรอดมันก็เหมือนปลาที่ติดอยู่ในอวน เหลือเพียงพลังชีวิตที่แสนต่ำเตี้ย พลีกายมอบแด่ Rising Sun!!พร้อมๆกับของและข้อความที่ขึ้นประกาศ
<ประกาศจากระบบ : First Clear!! ดันเจี้ยนคุกใต้ดินโหมดยาก ถูกพิชิตลงแล้วโดยปาร์ตี้กิลด์ Rising Sun ขอให้ผู้กล้าทุกคนร่วมเป็นเกียรติในความกล้าหาญครั้งนี้>
ประกาศจากระบบดังขึ้นถึงสามครั้งด้วยกันอย่างที่เคยปรากฏในแจ้งเตือนของอาณาจักรทุกครั้งไป แต่ทว่าครั้งนี้กลับมีสิ่งที่แปลกไปอยู่เล็กน้อย ตรงที่การประกาศมีการบอกถึงรายชื่อของสมาชิกปาร์ตี้ในครั้งนี้ของ Rising Sun ที่อนุญาตเปิดเผยตัวตนด้วยกันถึงห้าคนด้วยกันอย่าง อามมี่ ทวิสเต็ด โบม่อน หิมะน้อยและทวิสเต็ด
การประกาศในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรแล้วสำหรับเหล่าผู้คนในอาณาจักรกรีนเวต้าที่มีต่อกิลด์ราชาหน้าใหม่กลุ่มนี้ พวกเขาต่างเฉยชากับสิ่งที่เกิดขึ้นประหนึ่งว่าเตรียมใจกันไว้ตั้งแต่เนิ่นๆแล้วว่า กิลด์ Rising Sun จะกวาด First Clear!! ดันเจี้ยนระดับ 35-45 นี้ไปอีกหนึ่งดันเจี้ยน ถึงยังไงดันเจี้ยนนี้ก็เป็นเพียงแค่โหมดยากทั่วๆไปเท่านั้น หากเป็นโหมดนรกสิอย่างน้อยก็ทำให้พวกเขาร้องว้าวขึ้นมาได้หน่อย...แต่ใครว้าวธรรมดาเท่านั้นนะ ยังไงแล้วพวกเขาก็ถือว่ามีภูมิคุ้มกันอยู่บ้าง...!!
‘เชี่ยยย!!Rising Sun พวกแกนี้เป็นพวกชอบตบหน้าชาวบ้านคนอื่นสินะถึงจะสาแก่ใจพวกแก Perfect First Clear เป็นเรื่องง่ายๆของพวกแกหรือไงกัน แถมเวลาที่ทำไว้มันน้อยกว่าโหมดยากเมื่อครู่อีกไม่ใช่หรือไง?’
หากบอกว่าการลงดังเจี้ยนโหมดยากเป็นเพียงออเดิร์ฟและการวอ์มร่างกาย ผู้เล่นทุกคนที่ได้เห็นก็คงจะต้องเชื่อเพราะหลังจากที่การประกาศจากระบบดันเจี้ยนคุกใต้ดินเผยแพร่ให้ผู้เล่นในอาณาจักรได้รับทราบ กลุ่มปาร์ตี้กิลด์ Rising Sun ก็ตบหน้าพวกเขาอีกหนึ่งฉาดใหญ่ในอีก 45 นาทีต่อมา พร้อมทั้งคว้า Perfect First Clear มาครอบครองได้อย่างไรคู่ต่อกร
ผู้เล่นทุกคนต่างอึ้งไปกับเรื่องที่เกิดขึ้น เหล่ากิลด์ทั่วๆไปต่างมองดูด้วยความอิจฉาริษยา ไม่ต้องนับถึง 20 กิลด์ที่เคยเปิดศึกหาเรื่องกลุ่มกิลด์จอมปลอมที่พวกเขาสร้างขึ้นเพื่อคัดเลือกคนเมื่อหนก่อน เพราะเวลานี้ทั้ง 20 กิลด์แทบจะไม่มีตัวตนหลงเหลืออยู่อีกในเมืองอัลคาเดีย หัวหน้าของแต่ละกิลด์ต่างหลบหายเข้ากลีบเมฆไม่กลับมาออนไลน์อีกเลยตั้งแต่ถูกม้วนคำสั่งฟาดสายฟ้าเข้าใส่
ผู้เล่นหลายพันคนถูกทิ้งไว้เป็นเพียงอดีต ต้องระหกระเหินเร่ร่อนหาบ้านหลังใหม่เพื่อพักใจ ทั้งนี้บ้านหลังใหม่หรือกิลด์ที่เปิดรับกลุ่มคนเร่ร่อนก็ต้องตัดสินใจให้ดี เพราะถ้าหากพลาดรับผู้เล่นแกนนำที่เหล่ากิลด์ชั้นนำจดจำชื่อแซ่และหน้าตาได้ ก็ไม่วายอาจต้องปะทะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ซึ่งการที่เจสเปอร์และเพื่อนได้ครอบครอง Perfect First Clearมาในครั้งนี้คนที่มีความสุขมากที่สุดเห็นที่จะมีแต่พวกเขาเองเสียละมั้ง ที่ได้ทั้งไอเท็มและอุปกรณ์มาประดับคงคลังของกิลด์เพื่อให้สมาชิกคนอื่นๆได้ใช้แต้มอุทิศเพื่อแลกไอเท็มเหล่านี้มาใช้งาน รวมถึงเจสเปอร์ที่ได้รับไอเท็มอย่าง [Demonic Titanium] หินแร่หายากที่ใช้อัพเกรดอาวุธเติบโตดาบ Eternal War blade คู่ใจของเขาที่ถูกหยุดการเติบโตอยู่ที่ระดับเลเวล 25 มานานแสนนาน ให้ก้าวพ้นขึ้นอีกระดับเสียที
[Eternal Menos Warblade : เขียว(เติบโต)]
[พลังโจมตี : 318-432]
[เลเวลขั้นต่ำ : 35]
[สถานะ : ค่าพละกำลัง+ 20 , ความว่องไว+18,สติปัญญา+32,เมื่อสังหารศัตรูมีโอกาสได้พลังเวทมนต์และค่าพลังชีวิตฟื้นคืนเล็กน้อย]
[ไอเท็มผูกมัด ผู้เล่น: เจสเปอร์ ไม่สามารถขายหรือมอบให้แก่ผู้อื่นได้]
[การเติบโตขั้นที่ 5 : ดาบแห่งตำนานสงครามเล่มนี้ได้ฟื้นฟูสภาพของมันจนใกล้กับมาใกล้เคียงกับตอนแรกเริ่มที่มันได้ออกจากเตาหลอมอันทรงพลังของช่างตีดาบในตำนานนามว่าอิฟริท การจะฟื้นคืนมันในขั้นต่อไปโปรดจงแน่ใจท่านมีพลังมากพอที่จะกำราบความพยศของมัน]
[สถานะปัจจุบัน: ปลอดภัย]
‘การเติบโตขั้นที่ 6 ฉันคงต้องมีเลเวลอย่างต่ำไม่น้อย 50 สินะ!’
เนื่องจากการเติบโตจากขั้นที่ 4 ขึ้นเป็นขั้นที่ 5 ในครั้งนี้ ดาบอีเทอนัลวอร์เบลดได้ก้าวกระโดดอย่างมหาศาลจากข้อจำกัดที่เติบโตครั้งละ 5 เลเวลถูกเปลี่ยนเป็น 10 เลเวล ทำให้การอัพเกรดในขั้นต่อไป ชายหนุ่มคิดว่าเขาควรต้องระวังที่จะเติบโตมันให้มากกว่านี้ หากมิเช่นนั้นแล้ว อาจเป็นเขาก็เป็นได้ที่ถูกดาบเล่มนี้กลืนกิน
............
เป็นเวลากว่าหลายชั่วโมงที่เจสเปอร์ตัดสินใจออฟไลน์ออกไปพักผ่อนร่างกายที่แสนเหน็ดเหนื่อยของเขา ไม่ว่าจะเป็นทางการนอนหรือการออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดที่แบกรับ จนในที่สุดตัวเขาก็พร้อมที่จะออกผจญภัยไปกับเควสของศจ.อลาสเตอร์ที่กำลังรอเขาอยู่ที่ห้องสมุดของเมือง
“โอ้!!ลูกศิษย์ข้ามาแล้วสินะ...มาเถิดๆข้ามีบางอย่างให้เจ้าดูที่ห้องทดลองของข้ากับแม่มดเฒ่า”
ศจ.อลาสเตอร์เองก็เช่นกัน หลังจากที่ต้องเผชิญหน้ากับมนตราที่ไม่เสถียรของประตูเทเลพอร์ตจนร่างกายหมดแทบสิ้นเรี่ยวแรงไปเมื่อหนก่อน...บัดนี้ ศจ.อลาสเตอร์เองก็พร้อมแล้วที่จะทดสอบเวทมนต์เทเลพอร์ตขึ้นอีกครั้ง โดยมีแม่มดขาว Elunir หรืออาจารย์สอนพิเศษของหิมะน้อยที่เด็กสาวตากลมขอติดสอยห้อยตาม มาร่วมเดินทางไปกับพี่ชายสุดแสบของเธออย่างเจสเปอร์
...โปรดติดตามตอนต่อไป...
เข้าไปร่วมพูดคุยกับไรท์หรือสมาชิกนักอ่านคนอื่นๆได้ที่แฟนเพจตามลิงค์ด้านล่างเลยนะครับ
www.facebook.com/writelazy
