ตอนที่แล้วบทที่ 36 กลับไปยังอาคารโรงเรียนฝึกทหาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 38 รูเล็ตอันที่ 2

บทที่ 37 ปล่อยเธอ


บทที่ 37 ปล่อยเธอ

“อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นฉันยิงจริงๆ ด้วย!”

ถงเหล่ยถือปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติเก่าๆ นิ้วมือที่อยู่บนไกปืนเกร็งจนซีดจากความเครียด

เขาต้องกังวลเพราะตอนนี้เขากำลังเผชิญหน้ากับพวกอันธพาล

ตอนที่ภัยพิบัติเกิดขึ้น ถงเหล่ยโชคดีได้เข้าไปซ่อนตัวอยู่ในห้องรับแขกของหอพัก เขาได้เห็นฉากนองเลือดที่โหดร้ายยิ่งกว่าในหนังสยองขวัญกับตาตัวเอง หน้าต่างและประตูของห้องรับแขกที่แทบจะไม่มีแม้แต่ฝุ่นเกาะ มีเศษเนื้อและของเหลวสีแดงจับเต็มเป็นชั้นหนา

หลังจากซ่อนตัวอยู่ในนั้นหลายชั่วโมงจนเกิดความหิว และความกระหาย เขาจึงเลือกออกมาหาอาหาร เขาต้องการไปที่ซุปเปอร์ มาร์เก็ตของมหาวิทยาลัย แต่ก่อนที่จะเข้าไปก็พบว่ามีซอมบี้นับไม่ถ้วนอยู่รอบๆ อีกครั้งที่เขาโชคดีหนีออกมาได้ และได้เข้ามาซ่อนตัวอยู่ในอาคารสำนักงานแห่งนี้ เขาไม่คาดคิดว่าจะมาเจอเพื่อนร่วมชั้นและรุ่นพี่สมัยมัธยมที่กลายมาเป็นเน็ตไอดอลอย่างเหลียงชูหยิน … แล้วก็พวกแก๊งอันธพาลอยู่ที่นี่ด้วย

ถงเหล่ยได้ยินเพื่อนร่วมชั้นหลายคนร้องไห้และพูดถึงคนพวกนั้น เขาจึงได้รู้เรื่องอาชญากรรมน่ากลัวที่พวกมันทำไว้ในโรงอาหาร และรู้ว่าที่พวกมันหนีมาที่นี่ เพราะต้องการจับตัวนักศึกษาที่รอดชีวิตไว้เป็นตัวประกัน

พวกมันทำให้ถงเหล่ยโกรธมาก แต่มันก็เป็นเพียงแค่ความโกรธ เขาไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไร

จนกระทั่งถงเหล่ยและเพื่อนร่วมชั้นอีก 7-8 คนที่อยู่ด้านหลังค้นพบปืน ซึ่งทำให้พวกเขามีความกล้าพอที่จะเผชิญหน้ากับพวกมัน

ปืนพวกนี้ไม่สามารถยิงได้แล้ว แต่พวกเขาไม่รู้

หวู่เกอใช้มือหนึ่งคีบบุหรี่ อีกมือถือปืน มองดูเหล่านักศึกษาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเฉยเมย

ในใจของเขารู้สึกเบื่อหน่าย วุ่นวายมาทั้งคืนกลับไม่ได้รับอะไรเลย แม้แต่ขนสักเส้น

เดิมทีคิดว่าจะได้ใช้ประโยชน์จากผลึกวิเศษ จึงกลับไปที่อาคารสอนเพื่อขุดผลึกเหล่านั้นกลับมาศึกษา แต่ใครจะคิดว่ามันจะถูกปล้นเอาไป

แล้วเขาก็ได้ยินเสียงปืนดังมาจากทางสนามเทนนิส จึงได้รีบกลับมาที่นี่เพื่อนำคนออกไป แต่ก็ไม่พบอะไรเลย นอกจากซอมบี้ และกิ้งก่ายักษ์ตัวใหญ่ที่น่ากลัว มันได้งับหัวคนของเขาคนหนึ่งขาด สุดท้ายพวกเขาก็ต้องรีบหนีออกมาด้วยความหวาดกลัว

หลังจากกลับมาที่นี่อีกครั้ง หวู่เกอก็ยิ่งโกรธมากขึ้น ตอนที่เขานำนักศึกษาบางส่วนออกไปทำงาน ได้มีผู้รอดชีวิตบางส่วนเข้ามาสมทบกับคนที่อยู่ที่นี่ ไม่เพียงจะได้ปืนจากคลังแสงไปเป็นจำนวนมาก แต่ยังกล้าลุกขึ้นมาต่อต้านเขาอีกด้วย

แม้เขาจะรู้สึกเสียใจที่ไม่ทิ้งลูกน้องสักคน สองคนไว้เฝ้าคลังแสง แต่หวู่เกอก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก

เขาได้ตรวจดูพวกมันแล้ว และรู้ว่าปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติไทป์ 56 เหล่านี้เป็นปืนที่ล้าสมัย มีประสิทธิภาพในการใช้งานและการบำรุงรักษาที่ไม่ดี ในคลังแสงมีปืนชำรุดที่ไม่มีกระสุนอยู่เป็นจำนวนมาก เขาได้นำที่ใช้ได้ออกมาใช้บางกระบอก จึงเหลือปืนที่มีกระสุนอยู่ไม่มาก อย่างมากที่สุด นักศึกษาพวกนี้ก็มีกระสุนอยู่เพียงสิบกว่านัดเท่านั้น กระสุนแค่นั้นจะทำอะไรได้? หากเกิดการต่อสู้ขึ้นมา นักศึกษาที่เคยสัมผัสแต่ปืนพกตอนฝึกทหาร คงยิงได้แต่เพดานเท่านั้น

(เอสเคเอส/ไรเฟิล 56/ไทป์ 56 ปืนเล็กยาวกึ่งอัตโนมัติ)

นอกจากนี้ ปืนในมือของเขากับเหล่าลูกน้องก็มีกระสุนอยู่มากกว่า เพียงพอจะจัดการกับพวกนักศึกษาเหล่านี้ได้

เขาต้องการอยู่อย่างสงบจนกว่าจะเช้า แต่นักศึกษาคนหนึ่งที่กลายมาเป็นลูกน้องของเขาได้นำข่าวมาบอกว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งในหมู่นักศึกษาถือกิ่งต้นหลิวแปลกๆอยู่ ดูเหมือนจะเป็นคนที่อยู่กับชายที่ฆ่าซอมบี้ได้ง่ายๆ ราวกับฆ่าไก่ ฆ่าสุนัขคนนั้น!

ข่าวนี้ทำให้หวู่เกอนั่งไม่ติดอีกต่อไป เขารู้สึกว่ามันมีความลับบางอย่างอยู่ หากเขารู้ความลับนั้น เขาจะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก!

ดังนั้นหวู่เกอจึงบอกให้พวกนักศึกษาส่งตัวผู้หญิงที่ถือกิ่งต้นหลิวมาให้เขา

ข้อเสนอนี้ถูกอาจารย์ผูกับเหล่านักศึกษาต่อต้านอย่างรุนแรงทันที!

ตอนนี้นักศึกษาหลายคนมีปืนอยู่ในมือ และมีความกล้ามากพอที่จะลุกขึ้นต่อต้านกับภัยคุกคามนี้

แต่ว่าความกล้านั้นมีเพียงผู้นำอย่างถงเหล่ยกับอาจารย์ผูเท่านั้น คนอื่นๆ ได้แต่ซ่อนตัวด้วยความหวาดกลัวอยู่ในเงามืดด้านหลัง มันเป็นการรวมกลุ่มที่ไม่ดีเลย หากเกิดการต่อสู้ขึ้นมาแม้เพียงนิดเดียว นักศึกษาที่ไร้ประโยชน์เหล่านี้คงไม่สามารถรับมือกับมันได้

“ส่งผู้หญิงที่ถือกิ่งต้นหลิวนั่นมานี่ แล้วพวกเราก็อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ไม่งั้นล่ะก็ เหอะ เหอะ” หวู่เกอมองไปยังกลุ่มอาจารย์และนักศึกษา 50-60 คน แล้วจู่ๆ เขาก็เอื้อมมือไปกระชากผมนักศึกษาใส่แว่นที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากตัวเขากระแทกเข้ากับผนังห้อง

เขาโยนปืนในมือให้ลูกน้อง แล้วดึงมีดสั้นที่เหน็บเอวอยู่ออกมา จากนั้นก็แทงลงไปที่ไหล่ของนักศึกษารายนั้นทันที!

นักศึกษารายนั้นกรีดร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทันทีที่ถูกทำร้าย แต่หวู่เกอก็รู้ว่ามันต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้ว เขาจึงไม่ได้ดึงมีดสั้นออกจากไหล่แต่ประเคนกำปั้นลงไปที่ข้างแก้มของนักศึกษาโชคร้ายอีกหมัด เพื่อหยุดเสียงกรีดร้องนั้น

เลือดแดงฉานไหลลงมาตามหลังและปาก กระตุ้นประสาทของทุกคน

ผู้หญิงบางคนกรีดร้องออกมาสั้นๆ ก่อนจะถูกคนข้างๆใช้มืออุดปากเอาไว้ ทุกคนรู้ว่าเสียงจะดึงดูดสัตว์ประหลาดกินคนที่อยู่ข้างนอก

หวู่เกอปล่อยมือทิ้งเด็กหนุ่มโชคร้ายลงบนพื้น แล้วใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบไปที่หัวของนักศึกษาที่น่าสงสารคนนั้น จากนั้นก็บดขยี้อย่างรุนแรง ปล่อยให้เด็กหนุ่มโชคร้ายดิ้นรนทุรนทุรายอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา มีคนพยายามร้องห้ามด้วยเสียงที่ไม่ดังนัก ทั้งอาจารย์และนักศึกษาต่างก็หน้าซีดกันทั่ว และมีหลายคนที่ถึงกับตัวสั่นเทา

“ความอดทนของข้ามีจำกัด ส่งผู้หญิงนั่นมา เงื่อนไขมีแค่นั้น พวกแกจะส่งให้ดีๆหรือจะให้ข้าฆ่าพวกแกทีละคน!”

หวู่เกอแสยะยิ้มอย่างน่ากลัว ราวกับสิงโตมองดูลูกแกะหลังหัก (ลูกแกะที่ไม่สามารถวิ่งหนีไปไหนได้)

“ผู้ชายฆ่าทันที ส่วนผู้หญิงข่มขืนแล้วค่อยฆ่า” กงจื่อ อาคุน และเอ้อเผิง หัวเราะคิกคัก ในดวงตาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง วันโลกาวินาศเปิดเผยความชั่วร้ายที่อยู่ภายในใจของพวกมันออกมาอย่างสมบูรณ์

หวู่เกอแสดงความรุนแรงให้เห็นเพื่อสะกดเหล่าอาจารย์และนักศึกษา เหล่าเด็กหนุ่มที่ถือปืนรู้สึกแขนขาอ่อนแรง ปลายกระบอกปืนเอียงลงสู่พื้น พวกเขาหวาดกลัวความรู้สึกต่อต้านแต่เดิมถูกมีดสั้นของหวู่เกอทำลายลงแล้ว

หลายคนเริ่มหันไปมองเหลียงชูหยิน ด้วยความคิดเดียวกัน

ดูเหมือน พวกเขากำลังคิดว่าจะส่งเธอออกไปดีหรือไม่…..

เหลียงชูหยินถอยหลังไปช้าๆ ดวงตาเย็นเยียบ โอบกิ่งหลิวในอ้อมแขนไว้แน่น ถึงแม้ว่าเธอจะอยู่กับชายคนนั้นเพียงระยะสั้นๆ แต่เธอเชื่อว่า ชายคนนั้นจะต้องกลับมา เธอต้องปกป้องมันไว้ให้ได้

เพิ่งจะเมื่อกี้นี้เองที่อาจารย์กับนักศึกษาเหล่านี้ให้ความหวังใหม่กับเธอ ถงเหล่ยรุ่นน้องจากโรงเรียนมัธยมที่พบกันโดยบังเอิญ เพิ่งจะตบอกยืนยันอย่างซื่อสัตย์ไม่ให้เธอต้องเป็นห่วง สิ่งนี้เองที่ทำให้เหลียงชูหยินคิดว่า เธอยังมีตัวเลือกอีกมากมายที่จะมีชีวิตรอด แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ คนเหล่านี้ไม่ได้เป็นแม้แต่ปลายเล็บเท้าของชายคนนั้น

“ไม่ส่ง ถ้าตอนนี้พวกเรายอมแพ้ ความต้องการอีกมากของพวกมันก็จะตามมา บางทีอาจมีคนต่อไปที่จะต้องถูกส่งออกไป ไม่แน่ว่าอาจเป็นตัวคุณเองก็ได้!”

อาจารย์ผูเห็นสถานการณ์ไม่ดีจึงปลุกใจนักศึกษาให้พวกเขาได้สติ

อย่างไรก็ตามเธอประเมินความสามารถในการรับความกดดันและความสามารถในการต่อต้านต่ออำนาจและการข่มขู่ของนักศึกษาเหล่านี้น้อยไป เธอได้เห็นสายตาที่พยายามดิ้นรนต่อสู้ของเหล่านักศึกษาอยู่ชั่วครู่ หลังจากนั้นก็ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่กล้ายืนหยัดสู้อีกเลย

ความผิดหวังอย่างลึกซึ้งเข้าเกาะกินใจของอาจารย์ผู

หวู่เกอหัวเราะเหอเหอ มองรูปร่างที่ดูดีกับท่าทีไม่เต็มใจของอาจารย์ผูดวงตาเป็นประกายด้วยความหื่น เขาดึงปืนมาจากมือของนักศึกษาโชคร้ายที่นอนตัวบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดอยู่บนพื้น แล้วก้าวไปหาเหลียงชูหยิน

“เดี๋ยวก่อน”

ถงเหล่ยร้องหยุดหวู่เกอ หัวหน้าอันธพาลหันมามองด้วยดวงตาที่แสดงให้เห็นถึงความดุร้าย

“หากว่า ฉันบอกความลับกับแก แกจะปล่อยเธอได้ไหม?”

“ความลับ?” หวู่เกอเดินไปหาถงเหล่ย แล้วกระชากปืนออกจากมือของเขา พร้อมกับพูดอย่างโหดเหี้ยมว่า “รีบพูดมา ไม่งั้นข้าจะฆ่าแก!”

ถงเหล่ยตัวสั่นเทา มองไปที่ใบหน้าทรงเสน่ห์ของเหลียงชูหยิน แล้วพูดเสียงสั่นๆว่า “แก แกต้องสัญญาก่อน ไม่งั้น ฉันก็จะไม่พูด”

“บัดซบ แกยังกล้าต่อรองอีก หาที่ตายซะแล้ว!” เอ้อเผิงวิ่งเข้าไปหาถงเหล่ย ทั้งทุบทั้งตีและตะคอกใส่หน้า

“หลบไป” หวู่เกอตะคอกใส่คนของเขา มองไปที่ถงเหล่ยแล้วพูดว่า “ได้ ข้าให้สัญญา ตราบใดที่ความลับของแกมีประโยชน์กับข้า ข้าก็จะปล่อยหล่อนไป”

ถงเหล่ยมองรุ่นพี่ด้วยความรัก เขาสูดลมหายใจลึกๆแล้วพูดว่า “ฉันรู้ว่าผลึกพวกนั้นทำงานยังไง”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด