ตอนที่แล้วบทที่ 26 สุนัขดินยามเฝ้าสมบัติ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 28 อสุรกายที่ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน

บทที่ 27 ตี้หวงหวัน


บทที่ 27 ตี้หวงหวัน

ไม่ว่าจะเมืองไหนๆ ก็มีแมวและสุนัขจรจัด

นั่นไม่ใช่ความผิดของพวกมัน แต่เป็นความผิดของมนุษย์

หลายคนเบื่อหน่ายกับแมวและสุนัขจรจัดเหล่านี้ แต่พวกมันเกือบทั้งหมดเป็นชีวิตที่น่าสงสารที่ถูกเจ้าของทอดทิ้ง บางครั้งมนุษย์ก็รับรู้แต่เพียงความรู้สึกของตัวเองเท่านั้น

แต่มีสิ่งหนึ่งที่แน่นอน สำหรับพวกมันแล้ว เมื่อมีใครบางคนดูแลพวกมัน พวกมันจะเชื่อใจและให้ความใกล้ชิดด้วย

บางทีมันอาจเป็นเพียงสัญชาตญาณของชีวิต สำหรับการได้รับประโยชน์และหลีกเลี่ยงอันตราย แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า พวกมันจดจำความเมตตาเหล่านั้นได้ดี

และในเมืองนี้ก็มีสัตว์เลี้ยงที่ถูกทอดทิ้งอยู่มากมายเช่นกัน

มีสุนัขจรจัดอยู่เป็นจำนวนมากบริเวณใกล้ๆที่พักของเย่จงหมิง ปกติเขากับไป๋ซือซือจะลงมาให้อาหารพวกมันทุกวัน

พวกเขาไม่มีเงินเหลือพอที่จะซื้ออาหารสำหรับสุนัขโดยเฉพาะ จึงได้แต่ใช้อาหารที่กินเหลือมาให้พวกมันแทน แต่พวกมันก็ไม่ได้รังเกียจ กินจนหมดเกลี้ยงทุกครั้ง แล้วส่ายหัวส่ายหางให้กับคู่รักที่ยืนจับมือกันมองดูพวกมันอยู่

มันจึงกลายเป็นว่าทุกๆ วันที่ทั้งคู่ลงจากห้องเช่าเพื่อไปเรียนที่มหาวิทยาลัยหรือกลับจากมหาวิทยาลัยมาที่ห้องเช่าก็มักจะมีเหล่าสุนัขจรจัดกระโดดดักหน้าดักหลังวิ่งตามคอยส่งพวกเขาไปเรียนและต้อนรับกลับบ้าน

หลังจากผ่านวันโลกาวินาศในชีวิตก่อนมาถึง 10 ปี ฉากเหล่านั้นกลายเป็นภาพเลือนรางสำหรับเย่จงหมิง

ตอนนี้เมื่อได้มาพบกับสุนัขดินที่คุ้นเคยอีกครั้ง เขาจำมันไม่ได้อยู่สักพัก เพราะสำหรับเขาแล้ว เรื่องเหล่านี้ผ่านไปได้สิบปีแล้ว เมื่อย้อนคืนมาอีกครั้งเขาก็เหมือนเป็นคนใหม่ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เลือนรางไปจากความทรงจำ

แต่เมื่อเจ้าสุนัขดินเข้ามาแสดงความใกล้ชิดและความดีใจ เย่จงหมิงจึงจำได้ว่ามันคือสุนัขจรจัดที่เขากับไป๋ซือซือเคยให้อาหารมันอยู่เป็นประจำ แล้วมันก็มักวิ่งตามพวกเขาเสมอๆ และเหตุผลที่เย่จงหมิงจำมันได้ก็คือ ในบางครั้งที่เขากลับมาถึงห้องเช่าดึกๆ ก็ยังพบมันนั่งรอการกลับมาของเขาอยู่ที่มุมตึก

“แกคือตี้หวงหวัน(ยาลูกกลอนสีเหลือง)จริงๆ เหรอเนี่ย?”

ชื่อนี้ไป๋ซือซือเป็นคนตั้งให้มัน เพราะมันมีขนสีเหลือง แถมยังคลุกดินอยู่ทั้งวันจนตัวเต็มไปด้วยฝุ่น

เย่จงหมิงย่อตัวลงใช้มือใหญ่ๆ ลูบหัวเจ้าสุนัขดิน และเผยให้เห็นรอยยิ้มจากใจเป็นครั้งแรกหลังจากเกิดใหม่

เห็นได้ชัดว่ามันมีความสุขมาก มันหลับตาพริ้มเพลิดเพลินไปกับสัมผัสของเย่จงหมิง แล้วมันก็ล้มตัวลงหงายท้องให้เย่จงหมิงเกาพุงมันเบาๆ เหมือนอย่างที่เคยทำเสมอมา

นี่เป็นการแสดงถึงความเชื่อใจและไว้วางใจของสุนัขที่มอบให้ เพราะท้องเป็นส่วนที่อ่อนนุ่มที่สุดบนตัวมัน

สถานการณ์นี้ทำให้สี่คนทางด้านหลังถึงกับอ้าปากค้าง มันควรจะเป็นการต่อสู้ไม่ใช่หรือ? แต่ทำไมถึงได้กลับกลายมาเป็นการพบหน้ากันระหว่างเจ้าของกับสัตว์เลี้ยงไปซะได้

จิตใต้สำนึกบอกให้ตำรวจหญิงยกปืนจ่อมาที่หลังของเย่จงหมิงที่กำลังนั่งย่อตัว (ย่อตัวนะไม่ใช่นั่งยองๆ ใครที่เคยเล่นกับหมาคงจะเข้าใจ) อยู่กับพื้น เธอกำลังสงสัยความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสุนัขที่อยู่ตรงหน้า

ท่าทางเพลิดเพลินจากการเกาพุงของตี้หวงหวันเปลี่ยนไปทันที มันกระโดดลุกขึ้นส่งเสียงขู่คำรามใส่ตำรวจหญิง ถ้าประตูห้องอาบน้ำไม่ได้แคบเกินไปสำหรับมัน อีกทั้งยังถูกเย่จงหมิงนั่งขวางไว้แล้วล่ะก็ เกรงว่าเธอคงถูกมันกระโจนเข้าจู่โจมเพื่อปกป้องผู้มีพระคุณไปแล้ว

ท่าทางที่เปลี่ยนไปของมันทำให้เย่จงหมิงรู้สึกแปลกใจ เขาเหลือบไปมองตำรวจหญิงที่อยู่ทางด้านหลังแล้วพูดช้าๆ ว่า “ผมรู้จักหมาตัวนี้ ผมเคยให้อาหารมัน ไม่มีอันตรายหรอก คุณลดปืนลงเถอะ”

พูดจบ เขาก็หันไปมองตำรวจหญิง แล้วเดินไปทางมุมห้องอาบน้ำที่มีแสงสีเงินอยู่ เพราะนี่คือจุดประสงค์ที่เขามาที่นี่ในวันนี้

“รอเดี๋ยว!”

ชายจมูกโตก้าวออกมาข้างหน้าสองก้าวอย่างรวดเร็ว เหลืออีกเพียงนิดเดียวก็จะถึงประตูห้องอาบน้ำ แต่พอเห็นหน้าตาดุร้ายของตี้หวงหวันก็ชะงักกึก แล้วค่อยๆ ก้าวถอยหลังกลับไปอย่างกลัวๆ ขณะที่พูดว่า “คุณจะทำอะไร? สิ่งนั้นเราพบมันก่อน มันเป็นของเรา”

“ใช่ มันเป็นของพวกเราคุณกับเจ้าหมานั่นออกไปจากที่นี่ซะ”

พี่ชายของผู้ตายที่อยู่อีกด้าน เห็นได้ชัดว่ากำลังมองสิ่งเรืองแสงสีเงินนั้นด้วยความโล�

ส่วนคนที่ชื่อหลินลี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ชายทั้งสองคนนั้นก็ดูเหมือนจะคิดแบบเดียวกับพวกเขา

มีเพียงตำรวจหญิงที่ทำหน้าบึ้งขมวดคิ้วไม่พูดไม่จา

เย่จงหมิงหันกลับไปมองแล้วพูดขึ้นมาว่า “ถ้าผมไม่มาที่นี่ พวกคุณจะสามารถผ่านประตูนี้มาได้ง่ายๆ เหรอ? เป็นเพราะผมคุ้นเคยกับเจ้าสุนัขดินตัวนี้อันตรายถึงได้คลี่คลายไป มาตอนนี้จะบอกว่าผมไม่เกี่ยวข้องแล้ว?”

เย่จงหมิงถือมีดเดินป่ายืนจังก้าถาม ให้กลิ่นอายที่คุกรุ่นไปด้วยกลิ่นคาวเลือด ซึ่งทำให้ชายทั้งสามห่อเหี่ยวลงทันที

“เราสามารถจัดการกับเจ้าหมานี่ได้โดยไม่ต้องมีคุณ อย่าลืมสิว่าพวกเรามีปืน!”

ชายจมูกโตพูดพร้อมกับปรายคางไปทางตำรวจหญิง แล้วมองมาทางเย่จงหมิงสื่อความหมายถึงการคุกคาม คำว่าปืนเพียงพอจะข่มขู่ให้ผู้คนส่วนใหญ่เกรงกลัว

เย่จงหมิงหัวเราะแล้วพูดว่า “แล้วทำไมไม่ค้านตอนที่ผมเสนอตัวล่ะ? ถ้าไม่ต้องการให้ผมมายุ่งจริงๆ ทำไมถึงได้ไม่เข้ามาเอง?”

ชายจมูกโตสั่นหน้าด้วยท่าทางที่ดูงี่เง่ามาก “ก็ใครจะรู้ว่าคุณกับเจ้าหมานั่นเป็นพวกเดียวกันล่ะ? พวกเราตามมาเพื่อฆ่าเจ้าหมานั่น!”

“ใช่ คุณตำรวจ จับเขาเลย เขาเป็นฆาตกร”

พี่ชายของผู้ตายกล่าวหาเย่จงหมิงอย่างรุนแรง แต่สายตากลับจับจ้องไปที่แสงสีเงิน

“ฆ่าเจ้าหมานั่นก่อน!” หลินลี่ชี้มือไปที่ตี้หวงหวัน เขาต้องการให้ตำรวจหญิงยิงมัน

เย่จงหมิงยิ้มอย่างเย็นชา ความโลภที่แสดงออกมาทางท่าทางและน้ำเสียงของคนเหล่านี้พบเห็นได้บ่อยมากเหลือเกินในช่วงเวลาแห่งวันโลกาวินาศในชีวิตก่อน แต่ตอนนี้มันยังไม่แย่ถึงขนาดนั้น นั่นเพราะเวลานี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของจุดจบเท่านั้น รอจนคนเหล่านี้แข็งแกร่งขึ้น ความโลภจะไม่แค่แสดงออกทางท่าทางและน้ำเสียงเท่านั้น แต่มันจะแสดงออกทางกำปั้นและอาวุธด้วย

“แต่… ไม่มีหลักฐานว่าเขาเกี่ยวข้องกับมัน” ตำรวจหญิงขมวดคิ้ว ยึดมั่นในจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ ซึ่งให้ความรู้สึกดีๆ บางอย่างแก่เย่จงหมิง

แต่สำหรับกุญแจลับของพื้นที่ลับที่สำคัญที่สุดอันนี้ เย่จงหมิงไม่ได้ฝากความหวังไว้กับความโปรดปรานของตำรวจหญิงที่เขาไม่เคยรู้จัก เขาค่อยๆ เอื้อมมือ แล้วกระโจนไปปิดประตูห้องอาบน้ำ จากนั้นก็แนบร่างชิดผนังกำแพงด้านหน้า หลีกเลี่ยงมุมมองการยิงของตำรวจหญิง

ค่อนข้างน่าแปลกใจที่ตี้หวงหวันก็ทำแบบเดียวกับเย่จงหมิง มันเข้าไปซ่อนอยู่อีกด้าน สิ่งนี้ยืนยันข้อสงสัยของเขาที่ว่าสุนัขดินตัวนี้กำลังจะกลายพันธุ์

คนที่อยู่ด้านนอกไม่ได้เตรียมตัวสำหรับการเคลื่อนไหวอย่างฉับพลันของเย่จงหมิง พวกเขาคิดว่าด้วยปืนที่มีอยู่จะสามารถข่มขู่เย่จงหมิงได้ ไม่มีใครคาดคิดว่าต่อหน้าปลายกระบอกปืนจะเผชิญกับการต่อต้าน

เย่จงหมิงหมอบต่ำระวังตัว พอไม่ได้ยินเสียงปืน เขาก็กระโจนม้วนตัวไปข้างหน้าคว้าวัตถุแถบยาวภายใต้กลุ่มแสงสีเงินอย่างรวดเร็ว แล้วผิวปากเรียกตี้หวงหวัน จากนั้นก็งอขาขวา และส่งสัญญาณให้มัน โดยมองไปที่เพดานตรงเหนือขาของเขา

ตรงนั้นมีช่องขนาดใหญ่ที่เกิดจากการตกลงมาของกุญแจลับ

ตี้หวงหวันเข้าใจทันที สี่ขาแข็งแรงกระโจนออกไป สองขาหลังเหยียบลงบนเข่าของเย่จงหมิง สองขาหน้าตะกุยลงบนขอบของช่องขนาดใหญ่นั้นและใช้กรงเล็บจับไว้แน่น

เย่จงหมิงส่งเสียงกู่เบาๆ กระโดดขึ้นไปเกาะบนหลังของตี้หวงหวัน แล้วทั้งคู่ก็ขึ้นไปหลบอยู่บนเพดาน สุนัขดินตัวนี้ได้รับการสนับสนุนจากการกลายพันธุ์อย่างรวดเร็ว ทำให้ฉลาดขึ้นมาก

เสียงดังปัง ประตูห้องอาบน้ำถูกเปิดออกอย่างแรง ตำรวจหญิงวิ่งเข้ามาพร้อมกับชายทั้งสามคน แล้วเงาดำก็พุ่งลงมาตบลงบนปืนในมือของตำรวจหญิง ผู้ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่สุดในคนทั้งสี่ จนปืนกระเด็นหลุดมือ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด