ตอนที่แล้วบทที่ 14 สกรูน็อตหนึ่งแสนตัว(อ่านฟรี 02-11-2020)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปแจ้งครับ

บทที่ 15 ทุกคนมีความทะเยอทะยานที่ต่างกัน (อ่านฟรี 05-11-2020)


“ดูรูปแบบเวทมนตร์ทั้งสองนี้มันควรจะอยู่ห่างกันมากอีกหน่อย ด้วยการทำแบบนี้จะสามารถทำให้รูปแบบเวทมนตร์ร่วมกันบนจุดเชื่อมต่อนี้ พอทำแบบนี้แล้วรูปแบบเวทมนตร์ทั้งสองจะไม่ทำงานขัดกัน”

“เธอต้องให้ความสนใจตรงจุดนี้ แต่ละตัวรองรับเธอต้องไม่มองข้ามมันแม้แต่ที่เดียวมิฉะนั้นสปริงจะค้างตอนเปียโนเริ่มทำงานจนส่งผลให้มันหยุดทำงานได้”

“ใช่แล้วเธอต้องการเลือกเพลงอะไร เพลงที่แตกต่างกันมีคีย์ที่แตกต่างกันดังนั้นรูปแบบเวทมนตร์ที่ใช้ก็มีความแตกต่างกันด้วยมันจึงต้องปรับแต่งล่วงหน้า”

“ไม่ไม่ไม่ เธอทำแบบนั้นไม่ได้ ถ้าทำแบบนั้นทุกอย่างมันจะพัง.....”

… ...

หอคอยเวทมนตร์คามิลล่าหลังเลิกงานเงียบสงบ แต่เสียงของซูยี่ยังคงดังออกมาจากห้องทำงานของเขา

เขาทำตามสัญญาว่าจะสอนวิธีสร้างเปียโฯนจำลองตอนหลังเลิกงาน

ความสามารถทางเวทมนตร์ของสเตลล่านั้นดีอย่างที่ในข่าวลือบอกไว้ ที่ซูยี่ต้องทำก็เพียงแค่อธิบายหลักการของรูปแบบเวทมนตร์ของโมเดลนี้แล้วเธอก็สามารถเลียนแบบได้อย่างง่ายดาย

แต่พอพูดถึงการออกแยยโมเดลและการสร้างแบบจำลอง สเตลล่าก็ทำได้เพียงฟังคำแนะนำจากซูยี่อย่างตรงไปตรงมา

แต่ดีที่สเตลล่าเป็นคนขยันและฉลาดซูยี่ไม่จำเป็นต้องพยายามมากนักก่อนที่เธอจะจับจุดได้

หลังจากใช้เวลาหลังเลิกงานประมาณ 1 สัปดาห์เปียโนรุ่นสเตลล่าก็มีรูปแบบพื้นฐานแล้ว ตอนนี่สิ่งที่ต้องทำก็เหลือแค่ปรับแต่งให้แม่นยำขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น

ด้วยความเร็วในปัจจุบันมันจะใช้เวลาไม่เกินสามวัน พวกเขาสามารถทำมันเสร็จได้ทันก่อนวันเกิดเพื่อนของสเตลล่าอย่างแน่นอน

“ตึก——”

สเตลล่ากดลงเบาๆ และมีเสียงมาจากตัวแบบ ฝาเปียโนพอดีกับฐาน

“ฮู้.....”สเตลล่าถอนหายใจอย่างโล่งอกและเช็ดเหงื่อออกจากใบหน้า “เสร็จล่ะ!”

“ไม่เลวเลย”ซูยี่พยักหน้า “เธอเข้าหลักการของมันแล้ว ที่เหลือเธอก็ทำมันได้ด้วยตัวเองแล้ว หากมีเรื่องไม่เข้าใจเธอก็มาถามฉันได้”

“อืม”สเตลล่าหันมาตอบด้วยรอยยิ้มให้กับซูยี่ “ขอบคุณที่อดทนสอนฉันนะซูยี่ เดี่ยวฉันเลี้ยงข้าวนะ”

ซูยี่มองไปที่ท้องฟ้าข้างนอกก่อนจะส่ายหัว “วันนี้คงจะไม่ได้ คืนนี้ฉันมีนัดกับคนอื่นแล้วน่ะ”

“เหรอ?” สเตลล่าผิดหวังเล็กน้อย เธอครุ่นคิดก่อนจะถามว่า “เออใช่ ซูยี่ฉันสงสัยมานานแล้วทำไมนายถึงปฏิเสธคำเชิญของปู่ นายน่าจะรู้ว่ามีนักเวทย์มากมายขนาดใหนที่อยากเป็นศิษย์ของคุณปู่ ยิ่งกว่านั้นปู่ฉันยังแอบชมนายต่อหน้าฉันหลายครั้งด้วย ปู่บอกว่าตราบใดที่นายมุ่งเน้นไปที่การศึกษาเวทมนตร์ก็มีโอกาศมากที่นายจะได้กลายเป็นจอมเวทย์ในอนาคต”

ซูยี่เผยรอยยิ้มจางๆ “ฝากขอบคุณสำหรับคำชมของท่านจอมเวทย์นะ แต่ฝากบอกท่านด้วยว่าไม่ใช้เพราะฉันไไม่อยากเป็นศิษของเขาแต่เ๋นเพราะฉันมีเรื่งที่ต้องจัดการมากมายเลยกลัวว่าฉันจะไม่มีเวลามากพอที่จะเรียนเวทมนตร์กับเขาได้ก็เท่านั้น”

“ทำไม?”สเตลล่าขมวดคิ้วแล้วถามด้วยเสียงที่สับสน “แม้แต่ปู่ของฉันยังยกย่องความสามารถในการใช้เวทมตร์ของนาย และไม่กี่วันมานี้ฉันเองก็เห็นความสามารถในการใช้เวทมนตร์ของนายแล้ว ด้วยความสามรถของนายมันอาจจะเหนือกว่าฉันด้วยซ้ำ ทำไมนานถึงไม่คิดที่จะเรียนเวทมนตร์ หรือเป็นเพราะพัดลมเวทมนตร์ ฉันได้ยินมาว่าช่วงนี้นายกำลังศึกษาเรื่งนั้นอยู่”

ซูยี่ครุ่นคิดและถามคำถามกลับไปว่า“เธอคิดยังไงกับพัดลมเวทมนตร์”

“ฉัน?”สเตลล่าชี้ไปที่ตัวเองและขบคิดอย่างจริงจังก่อนจะตอบช้าๆว่า “ฉันรู้สึกว่ามันน่าสนใจมากเพราะมันหายากมากที่จะได้เห็นเวทมนตร์ถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวันและมันได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดีพูดตามตรงฉันชื่นชมนายไม่น้อยเลย แต่ว่าซูยี่ นายก็รู้ว่าทวีปไซน์สถานะของนักเวทย์มันขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่ง แม้ว่านายจะทำพัดลมเวทมนตร์ออกมาเป็นร้อยๆแบบแต่พลังเวทย์ของนายก็ไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น สถานะของนายยังอยู่ระดับต่ำ พรสวรรค์ด้านเวทมนตร์ของนายนั้นดีมาก ฉันอยากให้นายเรียนเวทมนตร์นะ ตราบใดที่นายกลายเป็นจอมเวทย์ฉันสัญญาเลยว่าจะมีแต่คนยกย่องนายตอนนายออกแบบพัดลมเวทมนตร์ออกมา”

“เธอพูดราวกับว่าทุกคนคิดว่าพัดลมเวทมนตร์เป็นของไม่ดี… ..” ซูยี่อดไม่ได้ที่จะพึมพำเสียงเบา เมื่อเห็นการแสดงออกที่ไร้เดียงสาของสเตลล่าเขาก็ไอและพูดอย่างจริงจังว่า“สเตลล่าฉันเข้าใจว่าเธอกำลังพูดถึงอะไร แต่ความคิดและการแสวงหาของแต่ละคนต่างกัน บางทีนักเวทย์ส่วนใหญ่รู้สึกว่าพลังเวทย์ของพวกเขาสำคัญที่สุด แต่ฉัน็มันไม่เหมือนกัน ฉันรู้สึกมาตลอดว่าเวทมนตร์เป็นเครื่องมือ นักเวทย์สามารถใช้เวทมนตร์เพื่อทำลายได้แล้วทำไมพวกเขาถึงใช้มันสร้างไม่ได้? เรามีเหตุผลในการใช้เวทมนตร์ในหลาย ๆ ส่วนในชีวิตประจำวันของเราและถ้าเราสามารถปรับปรุงชีวิตของทุกคนด้วยเวทมนตร์ไดมันไม่ดีกว่าหรือ”

“นี่… ..” สเตลล่าลังเล“มันก็ใช่ แต่… ... แต่ถ้านักเวทย์ไม่แข็งแกร่งพอพวกเขาจะอ่อนแอ……”

“ใครบอกว่าการศึกษาเครื่องจักรเวทมนตร์จะไม่ทำให้ฉันแข็งแกร่งขึ้น” ซูยี่ก็เผยรอยยิ้มแปลก ๆ เขายกมือขวาขึ้นและใช้เวทมนตร์สร้างพายุทอร์นาโดสีครีมขนาดเล็กในมือซึ่งมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

“คาถาทอร์นาโดจิ๋ว!” สเตลล่าร้องออกมาด้วยความตกใจ“นี่เป็นเวทย์มนตร์ระดับสามมีเพียงนักเวทย์ระดับสามเท่านั้นที่สามารถใช้คาถาประเภทนี้ได้!ซูยี่ฉันจำได้ว่าในระหว่างการสัมภาษณ์นายบอกว่านายไม่ผ่านการสอบรับรองของสมาคมเวทมนตร์!”

“ไม่ผ่านไม่ได้หมายความว่าฉันไม่ผ่าน” ซูยี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม“แน่นอนว่าพลังเวทย์ของฉันในระหว่างการสัมภาษณ์นั้นเทียบไม่ได้กับพลังเวทย์ของฉันในตอนนี้ ย้อนกลับไปตอนนั้นฉันยังเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่งช่วงกลาง”

“ความหมายของนายคือ… ... เพียงสองเดือนนายก็กลายเป็นนักเวทย์ระดับสามแล้วหรือ”เสตลล่าตกใจยิ่งกว่าเดิม“นี่มันไม่เกินจริงไปหน่อยเหรอ? นาย… .. ความสามารถด้านเวทมนตร์ของนายสูงขนาดนี้จริงหรือ? ฉันคิดว่าปกติคุณไม่มีเวลาศึกษาเวทมนต์มากขนาดนั้น!”

ซูยี่เผยรอยยิ้มจาง ๆ “ไม่ใช่แค่การศึกษาเวทมนตร์เท่านั้นที่สามารถเพิ่มพลังเวทย์ได้ ตอนที่ศึกษาเครื่องจักเวทมนตร์ฉันก็ต้องศึกษารูปแบบเวทมนตร์ไปด้วย การศึกษารูปแบบเวทมนตร์ก็เท่ากับศึกษาเวทมนตร์ดังนั้นมันก็ไม่แปลกที่มันจะสามารถเพิ่มพลังเวทย์ได้ด้วย ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเธอไมาสังเกตุเหรอว่าระหว่างการสร้างเปียโนจำลองพลังเวทย์ขอยเธอมันเพิ่มขึ้นด้วย”

สเตลล่าเอียงหัวของเธอขบคิดก่อนจะพยักหน้า“ อืมฉันรู้ก็สึกว่าความเข้าใจเกี่ยวกับเวทมนตร์ลึกซึ้งขึ้น แต่… .. มันไม่ได้เกินจริงเท่ากับนาย”

“นั่นเป็นเพราะฉันเป็นอัจฉริยะ” ซูยี่ยักไหล่และโอ้อวดขณะที่เขาพูด

สเตลล่ากลอกตาไปที่เขาและอดไม่ได้ที่จะพูดว่า“เนื่องจากนายเป็นอัจฉริยะทำไมนายไม่มุ่งเน้นไปที่การเรียนเวทมนตร์ล่ะ ด้วยพรสวรรค์ของนายมีโอกาสมากที่นายจะได้กลายเป็นจอมเวทย์”

“ฉันพูดไปแล้วทุกคนมีความทะเยอทะยานของตัวเอง” ซูยี่กล่าวด้วยสีหน้าผ่อนคลาย เขาเงยหน้าขึ้นเพื่อขัดสเตลล่าจากการโน้วน้าวเขาและมองไปที่ท้องฟ้าข้างนอกก่อนจะพูดว่า“เอาล่ะเราจะจบที่นี่ในวันนี้ ฉันจะจำสัญญาของเธอที่จะเลี้ยงข้าวฉัน เธอก็อย่าลืมซะล่ะ”

“ฮึ่ม” สเตลล่ามุ่ยริมฝีปากของเธอ

ซูยี่หัวเราะก่อนจะเก็บของและเดินออกไป

เมื่อเขาออกมาจากหอคอยเวทมนตร์เขาก็เห็นใครบางคนที่อยู่ในระยะไกลกำลังรีบเดินมาทางนี้

ซูยี่คุ้นเคยกับร่างนั้นมากมันคือไฮนซ์

เมื่อเห็นว่าไฮนซ์ดูรีบเร่งซูยี่ก็อดยิ้มไม่ได้

ตั้งแต่ซูยี่ให้หุ้น 20% กับไฮนซ์ เขาก็เหมือนรถที่ได้แรงม้าเพิ่มขึ้นและเขาก็ขับออกไปอย่างเต็มกำลัง เขาไม่เพียง แต่รับงานดูแลโรงงานเท่านั้น แต่เขายังดูแลการผลิตการขนส่งและช่องทางการขายสำหรับพัดลมเวทมนตร์ เขาเป็นเหมือนผู้จัดการที่ฉลาดและมีความสามารถ

สำหรับร้านเล็ก ๆ ทั่วไปของเขาเขาได้ส่งมอบให้กับหลานชายของเขาอเล็กซ์เรียบร้อยแล้ว

แม้ว่าไฮนซ์ไม่ใช่คนที่มีประสบการณ์และความคิดสร้างสรรค์ แต่เขาก็เป็นคนดีและไม่กลัวการทำงานหนัก เขาเป็นคนมีระเบียบมากเมื่อต้องดูแลสิ่งต่างๆดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าเขาเหมาะกับงานประเภทนี้มาก

แน่นอนว่าเงินปันผล 20% เป็นแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับความพยายามของเขา

“เฮ้ไฮนซ์ทำไมวันนี้นายมาหาฉันได้ล่ะ นายยังดูกังวลขนาดนี้……” ซูยี่ยกมือขึ้นทักทายเขาเมื่อจู่ๆเขาก็ตกใจ

ไฮนซ์เข้ามาในเวลานี้ ซูยี่รู้สึกประหลาดใจที่พบว่าเขาดูจริงจังและเคร่งขรึมจนดูเหมือนว่าเขาจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ

หัวใจของซูยี่เต้นผิดจังหวะ

นั่นเป็นเพราะตั้งแต่พวกเขาจ้างนักเรียนจากสถาบันเวทมนตร์บารอนริกโต้ทั้งสามสิบคนให้จารึกรูปแบบเวทมนตร์ การผลิตพัดลมเวมทมนตร์รุ่นแรกก็ไม่ได้หยุดลงในช่วงเวลานี้ ยอดขายสูงเหมือนปกติโดยขายได้มากกว่าหนึ่งพันชิ้นในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์

สิ่งนี้ทำให้ซูยี่มีกำไรมากกว่าเจ็ดร้อยเหรียญทองและยังแบ่งเหรียญทองอีกสองร้อยเหรียญให้กับไฮนซ์ตามส่วนแบ่ง 20% อารมณ์ของไฮนซ์อยู่ในเกณฑ์ดีตลอดเวลามีรอยยิ้มเสมอทุกครั้งที่ได้พบกับซูยี่เหมือนเพิ่งดื่มน้ำผึ้ง

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นสีหน้าน่าเกลียดเช่นนี้

“เป็นไปได้ไหมว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น”

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ซูยี่ก็รีบเดินไป

โดยไม่รอให้ซูยี่พูดอะไร ไฮนซ์ชิงพูดขึ้นมาทันที“มีเรื่งไม่ดีเกิดขึ้นแล้วซูยี่!”

เมื่อเห็นว่าไฮนซ์กังวลแค่ไหนซูยี่ก็ตบไหล่เพื่อบอกให้เขาใจเย็น ๆ

“ไม่ต้องกังวลเกิดอะไรขึ้น? บอกฉันช้าๆ?”

ไฮนซ์หายใจเข้าลึก ๆ สองสามครั้งและสงบลงหลังจากนั้นสักครู่ เขามองไปรอบ ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ซูยี่และกระซิบด้วยน้ำเสียงทุ้ม "มีคนเลียนแบบพัดลมเวทมนตร์ขึ้นมา!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด