ตอนที่แล้วตอนที่ 25 : เขาเป็นเจ้าชายผู้ทรงเสน่ห์ของข้า! ฟรี วันที่ 2020/11/09
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 27: ดัชนีทลายดวงดาว! ฟรี วันที่ 2020/11/13

ตอนที่ 26: น้ำพุดวงดาวปฐพี! ฟรี วันที่ 2020/11/12


มุมเปลี่ยวของตำหนักยุทธ์ เหล่าผู้เยาว์ได้มารวมตัวกัน ไม่ใช่ใครอื่นเป็นเซี่ยงเส้าหยุน โม่ปูหุย เหม่ยเหลียนฮวา ลู่เสี่ยวฉิง และเซี่ยหลิวฮุยนั่นเอง

“นะ-น้ำพุดวงดาวปฐพี? เจ้าคงไม่ได้หมายถึงน้ำพุที่มีของเหลวแห่งแสงดาราหรอกนะ? เมื่อได้ดื่มมันแล้วดวงดาวก็จะตื่นขึ้น! หากเป็นน้ำพุดวงดาวปฐพีแล้วละก็ มันจะทำให้เจ้าเข้าสู่ระดับดวงดาวได้เลยงั้นสิ?”เซี่ยหลิวฮุยร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก แม้แต่ลู่เสี่ยวฉิงที่ทั้งเงียบสงบและสง่างามก็ยังอดไม่ได้ที่จะตกใจกับสิ่งที่พวกเขากล่าวถึง

เซี่ยงเส้าหยุนตกตะลึงอยู่เงียบ ๆ และกล่าว “น้ำพุดวงดาวปฐพีรึ? มันช่วยให้ทุกผู้สามารถเข้าสู่ระดับแปรสภาพได้! เหตุใดเจ้าจึงบอกแก่พวกข้า ใยจึงไม่เก็บไว้กับตนเองเล่า?”

ลือกันว่าน้ำพุดวงดาวปฐพีนั้นเกิดจากแสงดาราจากสวรรค์ตกลงมายังน้ำพุ เมื่อเวลาผ่านไปจึงได้เกิดน้ำพุดวงดาวปฐพีขึ้น อย่างไรก็ตามน้ำพุนี่พบเห็นได้ยากนัก แม้จะเกิดขึ้นมาในยามนี้แต่การตามหาจากภูเขานับหมื่นลูกนั้นเป็นเรื่องยาก และยากยิ่งกว่าด้วยน้ำพุดวงดาวปฐพีเป็นน้ำพุแห่งจิตวิญญาณที่จะเกิดขึ้นได้เมื่อมีเงื่อนไขครบเท่านั้น

น้ำพุนี้ไม่เพียงแค่เพิ่มพลังแห่งดวงดาวเท่านั้น แต่มันยังเสริมสร้างทักษะให้แข็งแกร่งขึ้นและเพิ่มพลังขึ้นอีกด้วย  ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่ดึงดูดเหล่าผู้ที่อยู่ระดับแปรสภาพ แม้แต่เซี่ยงเส้าหยุนที่ฟังอย่างเยือกเย็นก็รู้สึกตกใจกับข่าวนี้

เขาได้ใช้สิบปีทองสำหรับฝึกยุทธ์และเสริมสร้างความแข็งแกร่งในอีกสิบปีเพื่อแก้แค้น น้ำพุดวงดาวปฐพีจะเสริมสร้างความแข็งให้แก่เขาได้โดยไร้ผลเสียโดยสิ้นเชิง สิ่งนี้เป็นกุญแจสำหรับเขา!

“แม้ว่าน้ำพุดวงดาวปฐพีจะมีค่า แต่ก็มิใช่เรื่องง่ายที่จะได้มันมา ด้วยใกล้เคียงกับน้ำพุนั้นเป็นที่อาศัยของสัตว์อสูรจำนวนมาก จึงทำให้เหล่าสัตว์อสูรมีร่างกายมหึมา!”

“นับเป็นสถานที่อันตราย แล้วพวกเจ้าทั้งสองไปเจอกับน้ำพุดวงดาวปฐพีได้อย่างไรกัน?” ลู่เสี่ยวฉิงถามเสริม

“เราได้รับข้อมูลมาจากปากของนายพรานที่กำลังใกล้ตาย ซึ่งตอนนี้เขาตายไปแล้ว ในมือขวานั้นกำแผนที่ไว้แน่น! มันไม่ใช่ของปลอม” เหม่ยเหลียนฮวากล่าวด้วยความมั่นใจถ่องแท้ และนางได้กล่าวเสริม “เราทราบดีว่าเราทั้งสองไม่แข็งแกร่งพอจะไปที่น้ำพุได้ เราจึงวางแผนเชื้อเชิญผู้ที่แกร่งกล้าอีกสองสามคนเพื่อร่วมผจญภัย บางทีนี่อาจจะเป็นโอกาสสำหรับเรา”

“แม้ว่าน้ำพุธาตุดวงดาวจะดึงดูด เจ้าก็จะต้องมีชีวิตเพื่อรับส่วนแบ่ง หนทางนี้ช่างอันตราย! ข้าว่าเราควรจะบอกเรื่องนี้กับผู้ดูแลและผู้อาวุโส เพื่อให้พวกเขาไปตรวจตราที่น้ำพุด้วยตนเอง! ข้าเชื่อว่าเราจะได้รับรางวัลอย่างงาม!” เซี่ยหลิวฮุยแนะนำ

“เหอะ! ทอดทิ้งโอกาสเพียงหนึ่งเดียว หากเจ้ากลัวนักก็จงถอนตัวไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ เพราะเจ้าก็คงช่วยอะไรไม่ได้มากนักหรอก ด้วยระดับพื้นฐานขั้นแปดอันน่าสมเพช!” เหม่ยเหลียนฮวาตอบโต้อย่างเย็นชา

ด้วยคำตำหนิของเหม่ยเหลียนฮวา ใบหน้าของเซี่ยหลิวฮุยก็แดงขึ้นในทันที นางไม่รู้ว่าเขาจะพูดอะไร

“แน่นอน แม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะอันตราย แต่แผนที่เผยให้เห็นเส้นทางที่ปลอดภัยกว่าซึ่งจะหลีกเลี่ยงเหล่าสัตว์อสูรได้ และจะนำเราไปยังส่วนลึกของหุบเขา อย่างไรเสียเราจะพบน้ำพุหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับดวง!” โม่ปูหุยอธิบาย

“เส้นทางที่ปลอดภัยเท่านั้นจึงจะปลอดภัยงั้นสิ? แล้วเราจะต้องเผชิญกับเหล่าสัตว์อสูรตลอดทางด้วย ถูกไหม?” เซี่ยงเส้าหยุนถาม

“โดยธรรมชาติแล้ว เทือกเขาร้อยอสูรมีสัตว์อสูรจำนวนนับไม่ถ้วนและแนวรอบก็เต็มไปด้วยอันตราย หากไร้พลัง การเข้าไปถือได้ว่าเอาชีวิตไปทิ้ง” โม่ปูหุยระบุสถานการณ์อย่างจริงจังก่อนจะหันไปถามเซี่ยงเส้าหยุน “ศิษย์น้องเซี่ยงยังต้องการจะเข้าร่วมกับเราอยู่หรือไม่?”

“เหอะ ตราบใดที่เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะเก็บน้ำพุดวงดาวปฐพีไว้กับตน ข้าก็ไม่เกรงกลัวสิ่งใดอีก!” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวเต็มไปด้วยความมั่นใจตามแบบของเขา

“จากที่ได้กล่าวไป เพียงได้ฟังคำของเจ้าเมื่อครู่ ข้ายินดีจะพาเจ้าไปยังน้ำพุดวงดาวปฐพี! เราจะเป็นหุ้นส่วนกัน ตกลงไหม?” โม่ปูหุยรีบถาม

“ตกลง!” เซี่ยงเส้าหยุนพยักหน้าตอบกลับ

“แล้วนี่เราจะมัวรออะไรอยู่เล่า? เริ่มกันเลยเถอะ!” เหม่ยเหลียนฮวากล่าวด้วยความตื่นเต้น

“อย่าเพิ่งรีบร้อนไป เราควรจะเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทาง มิฉะนั้นจะกลายเป็นถนนที่ไม่มีวันหวนกลับ” เซี่ยงเส้าหยุนเตือน

“อันที่จริงพวกเราก็ไม่อาจเร่งรีบ สามวันพวกเราจึงค่อยออกเดินทาง” โม่ปูหุยกล่าวขณะมองไปยังลู่เสี่ยวฉิงที่เงียบสงบ เขากล่าวอย่างสุภาพ “ลู่เสี่ยวฉิง จะร่วมทางไปกับพวกเราหรือไม่?”

“ถ้าหากเจ้าไม่รังเกียจที่ข้าจะร่วมทางไปด้วย ข้าก็ยินดี” ลู่เสี่ยวฉิงตอบกลับโดยไม่ลังเล นี่เป็นโอกาสที่จะผลักดันตัวเองเข้าสู่ระดับดวงดาว! นางจะไม่พลาดโอกาสนี้แน่

“ข้าก็จะขอตามไปด้วย!” เซี่ยหลิวฮุยกล่าวอย่างห้าวหาญราวกับเปลี่ยนใจกะทันหัน

“เฉพาะศิษย์ผู้ที่อยู่สิบอันดับแรกของสวนชั้นนอกเท่านั้น จึงจะได้รับอนุญาตให้เข้าออกตำหนักยุทธ์ได้อย่างอิสระ ช่างน่าเสียดายที่เจ้าไม่มีโอกาส” เหม่ยเหลียนฮวากล่าวอย่างไร้ความปราณี นับตั้งแต่นางตกหลุมรักเซี่ยงเส้าหยุน เซี่ยหลิวฮุยก็มิได้อยู่ในสายตานางอีกต่อไป

“เซี่ยหลิวฮุย เจ้าจงอยู่ที่นี่และฝึกฝนต่อไป การจะไปยังน้ำพุดวงดาวปฐพีจะต้องใช้ความแข็งแกร่งของตนเองเท่านั้น หากลูกพี่ของเจ้าสามารถรับมือกับน้ำพุดวงดาวปฐพีได้ ข้าสัญญาว่าจะเก็บมาเผื่อเจ้า!” เซี่ยงเส้าหยุนสัญญาอย่างสูงส่ง

“ลูกพี่ช่างปฏิบัติกับข้าดีที่สุดเสมอ!” เซี่ยหลิวฮุยประทับใจ

“โอ้ เส้าหยุน! เจ้าช่างใจกว้างนัก!” เหม่ยเหลียนฮวาร้องออก ดวงตาที่สวยงามของนางเป็นประกาย

ชายผู้เป็นสุภาพบุรุษจะต้องมีรูปลักษณ์ดั่งวีรบุรุษและมีเสน่ห์พอตัว เสน่ห์ของคนผู้หนึ่งเกิดจากอุปนิสัยและความแข็งแกร่ง แม้เซี่ยงเส้าหยุนจะหลงตัวเองนิดหน่อย แต่ก็เป็นคนว่าง่ายและใจกว้าง ทำให้เพิ่มเสน่ห์ในตัวเขาอย่างมาก เมื่อเป็นเช่นนี้เหม่ยเหลียนฮวาเริ่มที่จะมอบกายถวายตัวให้แก่เขา

หลังจากพูดคุยมาระยะหนึ่ง พวกเขาได้กำหนดเวลาที่จะรวมตัวกันและแยกย้ายกันไปโดยที่ไม่มีแผนจะฝึกฝนต่อ เซี่ยงเส้าหยุนวิ่งไปยังโถงโอสถ ก่อนที่จะเตรียมตัวเดินทาง หากไม่เตรียมยาให้เพียงพอถือเป็นเรื่องที่ไม่ควร ด้วยสองพันแต้มเขาจะสามารถซื้อยาเก่าได้ และหากผสมยาเก่าเข้าด้วยกันอย่างถูกต้องมันจะเพิ่มคุณสมบัติทางยาได้มาก

เขาใช้หกร้อยแต้มเพื่อแลกกับยาสมุนไพรที่มีอายุน้อยกว่าและยาเก่าหลายตัวยาก่อนจะออกจากโถงโอสถ หลังจากนั้นเขาวิ่งไปยังโถงวิทยายุทธ์ นี่ไม่ใช่โถงวิทยายุทธ์สำหรับศิษย์ชั้นนอกแต่เป็นโถงสำหรับเหล่าศิษย์ชั้นใน

ภายในโถงวิทยายุทธ์ของสวนชั้นในจะมีวิทยายุทธ์ในรูปแบบและระดับที่แตกต่างกัน หากมีแต้มเพียงพอก็จะสามารถแลกกับวิชาใหม่ ๆ ได้ ในตอนนี้เซี่ยงเส้าหยุนมีเพียงวิชาระดับหนึ่งซึ่งไม่เพียงพอสำหรับเขา

เขาจำเป็นจะต้องบรรลุวิชาระดับสอง เพื่อจะเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทาง หากต้องเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรระดับกลางระหว่างทาง เขาจะได้ป้องกันตนเองได้

หลังจากเข้าไปยังโถงวิทยายุทธ์ของสวนชั้นใน เขาพบค่ายกลที่ทึบกว่าเมื่อเทียบกับโถงโอสถและคลังอาวุธ

“ค่ายกลที่มีศักยภาพมากขึ้นเช่นนี้! ดูเหมือนว่าตำหนักยุทธ์จะให้ความสำคัญกับโถงวิทยายุทธ์อย่างมาก” เซี่ยงเส้าหยุนพึมพำกับตนเอง

ในขณะเดียวกัน เขาตระหนักได้ว่าผู้ดูแลโถงวิทยายุทธ์ไม่ใช่ผู้ดูแลธรรมดา แต่เป็นถึงผู้อาวุโสที่เขาไม่คุ้นเคย ซึ่งอนุมานได้จากลักษณะ อาภรณ์ที่สวม และป้ายชื่อที่ติดบนหน้าอก

เซี่ยงเส้าหยุนโค้งคำนับอย่างสุภาพและกล่าว “ขอคำนับท่านอาวุโส!”

ผู้เฒ่าเลิกตาขึ้นเล็กน้อยก่อนจะกล่าวอย่างอ่อนแรง “ที่ชั้นแรกจะมีวิทยายุทธ์ระดับที่หนึ่งและสอง ชั้นที่สองจะมีวิทยายุทธ์ระดับที่สาม หากเจ้ามีแต้มเพียงพอจะสามารถเรียนรู้ทักษะที่เจ้าต้องการได้”

หลังจากที่อธิบายจบดวงตาของท่านผู้เฒ่าก็ปิดลง ราวกับไม่คิดสนใจสิ่งอื่น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด