ตอนที่12คนต้องสงสัย
ตอนที่12คนต้องสงสัย
[ยูกิ]
หลังจากไล่มัดหมี่ไปรอที่รถได้ฉันก็วิ่งตามผู้ชายคนนึงที่ทำท่าทีลับๆล่อๆมาตั้งแต่ฉันเข้าโรงหนังมาได้แล้วนั่นแหละ ฉันที่ตั้งใจแค่จะไปซื้อน้ำก็เลยต้องเปลี่ยนแผนไล่ตามผู้ชายคนนี้ไปแทน อย่าบอกนะว่าเป็นสายสืบมาจาก5หัวเมืองสารเลวชาติชั่วนั่น
“รอฉันหน่อยนะมัด..ฉันขอเวลาไม่นาน”
เหตุการณ์ก่อนหน้านี้
หลังจากไล่ตามไอ้บ้านั่นไปฉันก็เจอเข้ากับคนของฝั่ง5หัวเมืองนั่นจนได้ ไอ้หมอนั่นมันชื่อว่า คิงเธอร์เป็นหนึ่งในหัวหน้าหลักของ5หัวเมือง ว่าแต่พวกมันมาทำอะไรที่นี่กัน
“อึก..ให้ตายเถอะมัวแต่วิ่งตามมาก็ปาไป10กว่านาทีแล้วแม่งเอ๊ย”
“ระหว่างนั้นแกเจออะไรมาบ้าง”
“ผมเจอยูกิที่โรงหนังเมื่อกี้”
“แกว่าอะไรนะฮะ..ยูกิ..มึงบอกว่ามึงเจอยูกิอีกระหรี่เผือกนั่นน่ะเหรอ”
“ครับ”
“มันมากับใคร”
“คนเดียวครับ..ผมเห็นมันแค่คนเดียว”
“อื้ม..กูคงต้องรีบจัดการตอนที่ยังมีโอกาสมันยังไม่รู้ตัวดี..มึงไปดักรอมันที่หน้าโรงหนังอีกไม่เกิน10นาทีกูจะรีบตามไป”
“ครับท่าน..”
ฉันรีบแอบหลังมุมเสาทันทีที่เห็นมันวิ่งผ่านหน้าไป ที่บอกว่าจะเก็บนี่มันจะเล่นงานกูตอนทีเผลอสินะไอ้คิงเธอร์ไอ้ยักษ์สกปรกเอ๊ย มึงอย่าหวังว่าจะได้เห็นกูเลือดออก
หลังจากพวกมันแยกตัวก็ได้ฉันก็เดินเอื่อยตามหลังไอ้ลูกกระจ๊อกของคิงเธอร์ไปจนถึงหน้าโรงหนังก่อนจะฉวยโอกาสช่วงคนเยอะลากคอมันออกไปในที่ลับตาคนตรงมุมมืดในช่องทางเดินสำหรับพนักงาน
“ปั๊ก..บอกกูมาว่าคิงมันให้มึงมาทำอะไรที่นี่”
“อึกกกก..อ๊อกกกกกกกก..กะ..กูไม่บอก...แค่กๆ”
“มึงอยากคอหักตายหรือแค่สลบ..อย่าให้กูต้องใช้กำลัง..กึดดดดด..”
“อ๊อกกกก..อึก...ยะ..ยอมแล้ว...อั๊ก...แค่กๆๆ”
“มันสั่งให้มึงมาทำไม!!”
“คุณคิงบอก..ให้ผม..มาดูความเคลื่อนไหว”
“อะไรอีกบอกมาให้หมด”
“อั๊ก..แล้วก็สั่งให้ผมมาเก็บคุณ..ยังไงล่ะ..เปรี๊ยะ..”
“อ๊ากกกกกกกกก...ตุ๊บ..แค่กๆๆ..”
“แค่กๆๆ..เป็นยังไงล่ะเครื่องช็อตอีตัวแบบมึง..ดิ้นพล่านๆบนพื้นไปซะ..แค่กๆๆ”
“อั๊ก...แค่กๆ”ฉันที่ตอนนี้พลาดท่าถูกไอ้สมองหมาปัญญาควายแบบนี้ใช้จังหวะทีเผลองัดเครื่องสตั๊นช็อตเข้าเต็มแรงที่สะโพกของฉันจนควันขึ้นตรงจุดที่ถูกช็อต
“มึงอย่าอยู่เลยอีเวร...ปั๊ก..อั๊ก..แค่กๆๆ”
ฉันฉวยโอกาสที่มันกำลังพล่ามไร้สาระก็ถีบเข้าไปเต็มแรงที่ท้องของมันจนไปกระแทกอัดกับกำแพง เปิดช่องว่างให้ฉันได้เล็กน้อยพอที่จะรีบยันตัวลุกขึ้นมาต่อยมันไม่ยั้งจนเลือดทะลักออกมาจากปาก ฉันทำได้แค่ยืนมองสารภาพของมันที่เละเป็นโจ๊ก ก่อนจะผยุงร่างตัวเองที่ยังชาไม่หายเดินกระเผลกกลับไปที่รถแต่แล้วก็ต้องเจอเข้ากับแจ็คพ็อตใหญ่เบิ้มตรงหน้า คิงเธอร์ที่กำลังมุ่งหน้ามาทางฉันพร้อมด้วยลูกสมุนไม่ต่ำกว่า6คนเดินขนาบข้างตามมาติดๆข้างกาย ฉันไม่มีทางเลือกนอกจากเอนตัวพิงกำแพงและรีบสวมแว่นตาที่หยิบออกมาจากระเป๋าทันที แต่ดูเหมือนมันจะไม่ทันสังเกตเห็นฉันก็รีบวิ่งไปขึ้นรถในสภาพดูไม่จืดด้วยความทุลักทุเล มัดที่กำลังยืนรอเก้อตกใจวิ่งตรงหรี่มาประคองตัวฉันไว้ได้ทัน
“คุณยู..ทำไมคุณ”
“ไม่ต้องพูด..แกร๊ก..ไปขึ้นรถซะ”
“คะ..อือ”
บอกกลายๆให้มัดเลิกเซ้าซี้ก่อนที่จะเตรียมเหยียบคันเร่งแต่ดูเหมือนว่าคิงเธอร์แม่งมันจะไหวตัวทันวิ่งหน้าตั้งมาประเคนลูกระสุนให้ถึงที่
“หมอบลง..”
“ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“เพล้ง!!!..ฟิ้วๆๆ”
ฉันไม่รอให้มันเข้ามายิงได้ในระยะประชิดก็เลยต้องใช้การถอยหลังยาวก่อนจะทำการเลี้ยวหักศอกออกไปอีกทาง แต่พวกมันก็ไม่เลิกราวีวิ่งไล่มายิงติดๆจนสุดท้ายก็คลายสายตาไป
‘มันจะโจ่งแจ้งอะไรขนาดนั้นวะไอ้สารเลว’
“คะ.คุณยูมัด..เงยหน้าขึ้นได้ยังคะ”มัดพูดเสียงตะกุกตะกักไม่หยุดเพราะว่ายังกลัวกับเรื่องเมื่อกี้ไม่หาย
“ได้แล้วมั้ง..ขึ้นมาเถอะ”
“คะ..คุณ..ยะ..ยู..เลือด..เลือดค่ะ!!”
“อื๋อ??..”ฉันชะงักเล็กน้อยและผ่อนเครื่องยนต์ลงก่อนจะไล่สายตาไปมาถึงได้เห็นรอยกระสุนที่เฉี่ยวไปหลายจุดแต่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเท่าไหร่ก็แค่แสบๆแล้วก็เริ่มเจ็บเรื่อยๆมากขึ้น
“อ..อึก”
“คุณยู!!!!!!ระ..เราไปโรงบาลกันเถอะค่ะนะๆๆ”มัดเว้าวอนให้ฉันไปโรงบาลให้ได้ แต่รู้ไหมว่าตอนนี้มันไม่ปลอดภัยขืนเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้ามีหวังโดนมันเข้ามาเชือดถึงที่แหง
“มะ..ไม่จำเป็น”
“ตะ..แต่ว่าเลือดคุณ..แผลคุณมัน..”
“อือ..มะ..ไม่เป็นไร..ฮ่า..ฮ่า”เวรล่ะตอนนี้เริ่มหน้ามืดฉิบหายมองเหี้ยอะไรไม่ค่อยเห็นเลยเว้ย สงสัยต้องไปที่นั่นจริงๆสินะให้ตายเถอะ
“จับเบาะให้แน่นๆ..ฉันจะรีบซิ่งแล้ว..ฮ่า..อื้อ”
“ค่ะ!!”
ม้าแดงคันงามพุ่งทะยานไปด้วยความเร็ว300+ใช้เวลาไม่นานฉันก็มาถึงคลินิกประจำที่พวกฉันและปอมชอบมาใช้บริการบ่อยๆ
“แต่นี่มันไม่ใช่โรงบาลนี่คะทำไมคุณมาที่นี่แทนที่จะเป็นโรงบาล..”
“..”ฉันไม่อยากต่อปากต่อคำกับมัดหมี่เพิ่มเลยเดินลงจากรถไปหาคุณหมอเจ้าของคลีนิกเพื่อพาไปห้องผ่าตัดแบบด่วนต่อตัวต่อ ฉันทิ้งให้มัดหมี่นั่งน้ำตารินในรถระหว่างที่ทำการผ่าตัดอยู่ดูเหมือนว่าไอ้ปอมมันจะเริ่มระแคะระคายได้นิดๆหน่อยๆยังดีสินะที่มันยังมีสมองนึกว่าติดผู้หญิงจนโงหัวไม่ขึ้นซะอีก
*มึงไปทำอะไรที่นั่น..*
*กูมาดูหนัง..แต่กู..*
*เออกูเห็นแล้วมันไล่ยิงมึงที่ลานจอดรถจนกระจกรถมึงแตก*
*อืม*
*แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นไงบ้าง*
‘แม่งห่วงผู้หญิงกว่ากูอีกนะไอ้ปอมมึงนะมึง’
*ปลอดภัยดี..มึงจะสืรห่าเหเนาย*
*??*
“อ๊ากกกกกกกก..เบาๆๆดิหมอ..โอ๊ยยยยยยยย”ฉันถึงกับกระตุกเฮือกใหญ่ตอนที่หมอกำลังเย็บแผลเมื่อจังหวะตะกี้แล้วมันไปเกี่ยวโดนเส้นเลือดด้วยนี่ดิโครตทรมาน
“อยู่นิ่งๆ..”
“ค่ะ..อู้ยยยยยยย..อ๊ากกกกกก..เบาหมอเบา..โอ๊ยยยยยยยยยยยยย”สุดท้ายก็นอนครวญครางไปหลายชม.แลกกับการถูกหมอเย็บแผลสด กว่าจะได้ตอบแชทไอ้ปอมก็คงอีกนานตอนนี้ก็ทำได้แค่นอนระบมบนเตียงนิ่งๆมีแต่สายระโยงระยางเต็มตัวไปหมด
“ก๊อกๆ..ขออนุญาตค่ะ..ปึง”มัดเข้าห้องมาดูอาการฉันด้วยหน้าตาบวมๆเหมือนพึ่งร้องไห้เสร็จ ว่าแต่จะร้องไห้ทำไมในเมื่อฉันยังไม่ตายซะหน่อย
“เป็นยังไงบ้างคะ..”มัดลากเก้าอี้แถวนั่นมันนั่งเฝ้าฉันอย่างห่วงๆด้วยท่าทีที่เชื่องลงกว่าตอนแรกที่แหกปากโวยวายเหมือนคนสติหลุดใส่ฉอดๆ
“ก็ดี..เจ็บนิดหน่อยแต่ก็ไม่เป็นไรมาก”
“อื้อ..ฉันขอโทษนะคะที่พาคุณมาทำอะไรแบบนี้จนคุณเจ็บตัว..ฮือออออออ”
“!!”
กลายเป็นว่ามัดร้องไห้ใส่ฉันโดยที่ฉันยังมึนงงเพราะฤทธิ์ยาชาไม่หายแต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้นอกจากลูบหัวปลอบไปก่อนจนเจ้าตัวหยุดร้องแล้วก็เผลอหลับไป
“เฮ้อออออ..เวรกรรมอะไรของกูที่จะพามัดหมี่มาเดตแต่ก็เวรเสือกถูกพวกอริไล่ฆ่าจนเจ็บปางตาย”
“อ..อือ..อืม”
*แล้วมึงพิมพ์อะไรมากูอ่านไม่ออก*
*กูกำลังเย็บแผลแล้วหมอเสือกเกี่ยวเส้นเลือดกู กูเลยกระตุกมึงเข้าใจป่ะวะ*
*เออๆกูรู้แล้วตอนนี้มึงอยู่ไหน*
*คลินิกหมอริค*
*แล้วจะทำอะไรต่อหลังจากนี้*
*เก็บตัวสักพักขืนออกไปทำอะไรรุ่มร่ามเตะตาอีกมีหวังกูไปเดินเล่นกับยมทูตในนรกพอดี*
*ให้กูส่งคนไปคุ้มกันไหม*
*ไม่ต้องเดี๋ยวกูจัดการเอง กูฝากมึงดูความเคลื่อนไหวมันแทนกูด้วยล่ะกัน*
*เออๆแล้วเจอกันไอ้ยู*
*เออ*
“ปิ๊บ..ตรู๊ด..ตรู๊ด..”
*โหลพี่*
*ยูช่วยส่งคนมาเก็บซากรถให้พี่ที*
*ที่ไหน*
*คลินิกหมอริค*
*อย่าบอกนะว่าในข่าวนั่นพี่น่ะ*
*อืม*ฉันตอบสั้นๆแล้วอธิบายเรื่องทั้งหมดแบบคร่าวๆให้ยูมิฟังก่อนจะปิดตานอนหลับไปพักนึงแล้วก็ตื่นมาอีกทีที่บ้านบนเตียงของตัวเองโดยมียูมินั่งเฝ้าไม่ไกลมาก
“แล้วทำไมมันถึงทำอะไรโจ่งแจ้งแบบนั้นล่ะพี่”
“มันคงกะจะทำคะแนนล่ะมั้ง..อื้อ”
“ไม่ต้องขยับมากเดี๋ยวแผลฉีก”ยูมิเอ็ดใส่ฉันเบาๆด้วยท่าทีนิ่งๆแต่ก็นะยูมิก็คงไม่ต่างกับฉันเท่าไรเพราะแสดงอารมณ์ไม่เก่ง
“อ่อแล้วก็นะพี่มีสาวๆมาเยี่ยมพี่ไม่หวั่นไม่ไหวเลยแหละ*
*สาว?สาวที่ไหน?”
“อลิสไงพี่..วิ่งนมสั่นระริกๆมาหาพี่ถึงที่บ้านแต่พวกบอดี้การ์ดก็กันไว้แล้วละตะเพิดกลับไป”
“อื้มแล้วมัดอยู่ไหน..”ฉันอดเป็นห่วงยัยเลขาหน้าปลาบู่ไม่ไหวเลยแหะที่ไม่เจอแบบนี้ไม่รู้จะไปนอนร้องไห้ขี้มูกโป่งที่ไหนอีก
“ไม่รู้สิพี่..ยูไม่เจอตั้งแต่เช้าแล้ว..เห็นบอกออกไปทำธุระจนจะเย็นแล้วยังไม่กลับมาแถมพวกเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ก็ทยอยเก็บออกไปเรียบเหลือแต่ห้องเปล่าๆ”
“!!”ฉันลุกพรึ่บจากเตียงในทันทีที่ได้ยินยูมิบอก อย่าบอกนะว่าใช้ช่วงเวลาที่ฉันหลับพักฟื้นหนีออกจากบ้านไป
“พี่ยูจะไปไหน..”
“จะไปตามยัยแมวประสาทกลับกรง”
“แต่ว่าแผลพี่เลือดออก..”
“อึก”เวรเอ๊ยแผลฉีกเพราะลุกเมื่อกี้นี่น่ะเหรอวะให้ตายเถอะ แถมแผลอื่นๆก็เริ่มปริออกจนสุดท้ายก็ถูกหามไปนอนเตียงอีกรอบแถมรอบนี้ถูกมัดขึงด้วย
“ทำแบบนี้ทำไมยู..ปล่อยพี่”
“ขืนปล่อยไปพี่แผลฉีกเสียเลือดตายแหง..ปล่อยเรื่องนี้เป็นหน้าที่ยูเถอะเดี๋ยวยูจะจัดการต้อนมุมให้เอง”
“...ตกลง”
“อืม..แล้วเจอกันพี่ยู”
“...”
ฉันนอนมองดูน้องสาวตัวเองที่หายลับออกจากห้องไปทิ้งไว้ก็แค่ฉันที่นอนขึงพรืดบนเตียงในสภาพดูไม่จืด ไม่นานนักก็มีคุณหมอและพยาบาลมากมายเดินมารุมล้อมวางอุปกรณ์ต่างๆเตรียมพร้อมและเริ่มทำการผ่าตัดฉันอีกรอบโดยที่คราวนี้ฉันไม่เจ็บปวดอีกต่อไปแล้วเพราะฤทธิ์ยาที่หมอวางให้มันมากกว่าชนิดเดิมค่อนข้างนิดหน่อยแต่ก็มากพอที่จะทำให้ฉันหลับเพื่อลืมเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นรวมทั้งยัยตัวแสบที่ริอาจแหกกรงหนีจากฉันไปด้วย
หลังจากที่วางแผนต่างๆเรียบร้อยฉันก็สลัดตัวหลุดพ้นจากคุณยูได้สักทีแถมคราวนี้ยังรอดแบบฉิ่วเฉียดเลยแหละเพราะว่าเจ้าตัวนอนซมพิษบาดแผลอยู่ที่บ้าน
แถมตอนนี้ได้ผู้ช่วยคนใหม่นามว่าคริส ที่ฉันหลงผิดคิดว่าเป็นผู้ชายทั้งๆที่เจ้าตัวเป็นเพื่อนสาวที่ดันหน้าตาหล่อเกินหน้าไปหน่อยจนเข้าใจผิดมาหลายปี แต่ก็ต้องขอบคุณหลินที่ช่วยอีกแรงให้ฉันรอดล่ะมั้ง
“แล้วมัดอยากไปพักที่ไหน..ในเมืองเหรอ”
“ที่ๆเป็นส่วนตัวดีกว่ามัดไม่อยากให้คุณยูตามตัวเจอ”
“อ..อื้มได้สิ”
ตอนนี้ฉันก็อดเป็นห่วงเจ้าตัวไม่ได้ที่จู่ๆก็ถูกคนจากที่บ้านบุกเข้ามาในคลีนิกอุ้มขึ้นรถทันที ส่วนฉันก็ทำได้แค่นั่งกุมมือเป็นห่วงเจ้าตัวไป
“แล้วนี่ก็เย็นแล้วแวะไปกินข้าวสักหน่อยแล้วไปพักที่ห้องเราก่อนก็ได้นะ..”
“อะ..อื้มเอาสิขอบคุณนะ”
“ไม่เป็นไรยังไงเราก็เป็นเพื่อนกันนี่เนาะ..”คริสพูดลอยๆระหว่างจ้องถนนไปเรื่อยๆโดยที่ฉันก็แค่ยิ้มแหยะๆให้แล้วมองลอดออกไปข้างนอก ในหัวฉันยังคิดถึงเหตุการณ์เมื่อวานตลอดทั้งคืนเลยจนนอนแทบไม่หลับ แถมคุณยูยังละเมอฝันร้ายอีกจนฉันต้องปลอบ กว่าจะตัดสินใจได้ก็กินเวลาไปหลายวันขืนฉันยังอยู่ต่อไปเรื่อยๆอาจเป็นภาระอีกก็ได้ถึงฉันจะมีหน้าที่เป็นแค่ไม้กันหมาให้คุณยูก็ตามแต่ ยังไงฉันก็น่าจะหางานใหม่ได้ไม่ช้าก็เร็วเพราะว่าฉันทำได้ใช่สิฉันลืมสนิทเลยว่าพ่อเป็นยังไงบ้าง ฉันมัวแต่โฟกัสเรื่องงานก็เลยลืมพ่อไปซะสนิทเลย
“ปิ๊บ..ตรู๊ด..ตรู๊ดดดดด..”
*พ่อ?*
*หาววววววว..อื้มมีอะไรมัดโทรหาพ่อแต่เช้ามืดเลย*
‘ลืมไปเลยแหะว่าเวลาเราไม่เท่ากันนี่’
*เอ่อคือว่ามัด..เรื่องงานมัดกำลัง*
*อื๋อ..หาววว..ไม่ต้องกังวลแล้วตอนนี้เราไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ*
*??..พะ..พ่อพูดอะไรน่ะคะเรามีหนี้ไม่ใช่เหรอ*
*ไม่มีแล้วต่างหาก..ดูเหมือนหัวหน้าลูกจะให้ค่าจ้างก้อนโตกับพ่อตั้ง50ล้านแน่ะ*
*พรูดดดด..5..50ล้าน!!!*
*โอ๊ยเบาๆมัด..ก็ใช่เจ้านายลูกน่ะให้เงินล่วงหน้ากับพ่อมาก้อนโต..ว่าแต่ลูกไปทำงานอะไรกันแน่เป็นประธานาธิบดีรึไงถึงได้เงินเยอะขนาดนี้*
*ทำไมพ่อไม่เคยเล่าอะไรให้มัดฟังเลยล่ะคะ..*
*ก็มันเป็นเรื่องทางธุรกิจขืนพ่อพูดซี้ซั้วมีหวังพ่อตายแหงๆ..เงินไม่ใช่น้อยๆแล้วอีกอย่างเราก็ไม่ได้เป็นเจ้าของธุรกิจขนาดนั้นที่จะมีเงินก้อนเงินถุงแบบนี้ รู้สึกว่าจะผ่านมาเกือบครึ่งปีกว่าๆเห็นจะได้นับตั้งแต่ที่มัดไปอยู่นั้นได้ราวๆ3-4เดือนนั่นแหละนะ*
‘อย่าบอกนะว่าเมื่อตอนนั้นตอนที่ฉันเล่าเรื่องนั้นให้คุณยูฟัง..’
*แล้ว..มีอะไรอีกไหม*
*ก็ไม่นะเขาไม่ได้พูดอะไรต่อก็แค่ให้เงินพ่อมาเฉยๆ..งั้นก็แค่นี้นะพ่อง่วงจะตายแล้ว..หาววววว*
*ดะ..เดี๋ยวพ่อเดี๋ยวอย่าพึ่ง..ปิ๊บ*
“มีอะไรเหรอมัด?หืม?”
“ปะ..เปล่าไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ”
ฉันนั่งเงียบไปตลอดทางจนถึงร้านอาหารที่อยู่ไม่ไกลมากเรานั่งกินอาหารค่ำเงียบๆก่อนที่คริสจะอาสาพาไปพักชั่วคราวที่ห้องก่อน
“เอ่อ..ห้องเราอาจเล็กไปหน่อยขอโทษด้วยนะ”
“ไม่เป็นไร..แค่คริสให้เราพักก็ดีมากพอแล้วล่ะ”
“อะอื้ม..แกร๊ก..แอ๊ดดดดดด..ปึง..”
“เปิดไฟแป๊บนะ...แป๊ก..”
ห้องเรียบๆที่ไม่ได้มีอะไรหวือหวามากมาย มีโซนห้องครัวเล็กๆโซฟารับแขกที่ไม่กว้างมากและวิวกระจกใสที่มองเห็นวิวข้างนอกได้ถนัดตา มีห้องนอนสองห้องและห้องน้ำภายในตัวและยังมีห้องเก็บของเล็กๆซ่อนอยู่ด้วย
“เอ่อ..เชิญใช้ได้ตามสบายเลยถ้าขาดเหลืออะไรบอกนะ”
“จ้า..ขออนุญาตนะคะ”
ฉันกวาดตาไปรอบๆด้วยความสงสัยใคร่รู้ก่อนจะจัดการเดินตรงหรี่ไปที่ห้องของตัวเองแล้วก็วางสัมภาระลง
“ฟุ่บ..ฮ่าสบายจังเลยยยยยยยอื้ออออออออออ”
“ก็อกๆ”
“อื๋อ?มีไรเหรอคริส”
“ถ้าเกิดว่ามัดไม่คิดมากก็อยู่นี่ก็ได้นะ..เราไม่ว่าอะไรหรอก”คริสยืนเกาแก้มเล็กน้อยระหว่างเบนสายตาหนีจากฉัน ฉันที่พอได้ยินคำเชิญชวนไม่รอช้าที่จะปล่อยโอกาสหลุดลอยตกลงตอบรับคำชวนนั่นในทันทีเลย
“เอาสิ..^^”
“เอ๊ะ..ได้เหรอ”
“ถ้าเกิดคริสคิดว่ามัดไม่ได้ก่อกวนมากล่ะก็มัดจะเป็นรูมเมทที่ดีมัดสัญญา”
“ฮ่าๆๆอื้มเอาสิสัญญาแล้วนะ”
“เคจ้า”
[ยูมิ]
นี่ก็ผ่านไปเกือบอาทิตย์แล้วแต่ว่าก็ยังไม่มีข่าวของพี่มัดเลยสักนิด ฉันเริ่มเอะใจนิดหน่อยแล้วจริงๆว่าพี่มัดกำลังซ่อนตัวที่ไหนสักที ไม่ว่างจะแฮกกล้องทุกตัวรอบเมืองก็ไม่มีหรือแม้แต่รายชื่อการเข้าพักที่ไหนก็ไม่มี ฉันแทบจนปัญญาแถมตอนนี้พี่ยูก็กำลังทำกายภาพบำบัดเพิ่มเติมนิดหน่อยหลังจากแผลเริ่มสนิทดีแล้ว
“เฮ้ออออออ..พี่มัดพี่ไปอยู่ที่ไหนกันแน่รู้ไหมว่าพี่ยูกิกำลังจะเป็นบ้าเพราะพี่คนเดียวแล้วเนี่ย”
“ก๊อกๆ..ยูอยู่ไหม”
“อ๊ะพี่ยู..”
“เรื่องมัดได้ข่าวอะไรบ้างไหม”
“ไม่เลยพี่ยูกิยูพยายามแล้ว..”ฉันทำได้แค่เลื่อนภาพไปมาก่อนที่จะถูกพี่กดภาพๆหนึ่งให้หยุดดูก่อน
“แป๊บนะยู..คนๆนี้ไม่คุ้นเลยแหะไหนลองซูมเข้าไปอีกหน่อยสิตรงนั้นๆ..อ่าให้ตายเถอะมัดเธอไปทำอะไรที่นี่กับยัยแปลกหน้าคนนี้กันนะ”
“...”ยูมิขยับตัวแทบไม่ได้เพราะว่ายูกิกำเกาอี้หนังของเธอแน่นหนึบจนได้ยินเสียงหนังของเก้าอี้ดังตามแรงขยำของยูกิที่กำลังโมโหจนเลือดขึ้นหน้า
“กล้าดียังไงที่เข้ามายุ่งกับเลขาของฉัน..ตึกๆๆ..ปึง!!”
“เฮือก..พี่ยูอย่าบอกนะว่าจะไปที่นั่นจริงๆ”
ยูมิทำได้แค่กลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่เพราะเธอรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ ราวๆครึ่งชม.ต่อมาก็ได้ยินเสียงหวีดว้ายของคนแถวนั้นที่แตกตื่นเพราะว่าพี่ยูตัวดีของเธอวิ่งเข้าไปต่อยใครคนนึงที่นั่งข้างๆกับพี่มัดอย่างแรงจนเซตกเก้าอี้
“อึ๊ย..ซวยแล้วพี่มัด”
“พลั๊ก..”
“กริ๊ดดดดดดดดด..”
“หยุดนะคุณยูคุณทำบ้าอะไรของคุณ..”พี่มัดพยายามวิ่งมายื้อแขนของพี่ยูไว้แต่ก็ถูกสลัดทิ้งไปอย่างไม่ใยดี พี่ยูเดินเข้าไปกระชากคอผู้หญิงคนนั้นที่เลือดกบปากขึ้นมายืนก่อนจะถูกต่อยไปอีกหลายหมัดจนไถลกระแทกกับโต๊ะ ก่อนจะใช้ทีเผลอถีบพี่ยูจนกระแทกกับโต๊ะด้านหลังข้าวของกระจายเต็มพื้น ไม่ช้าพี่ยูก็ถูกต่อยเข้าที่เบ้าตาจนเลือดออกเพราะว่าคิ้วแตก อยากเล่าต่อนะแต่ว่ายังไงดีคือมันชุลมุนน่ะ รู้ตัวอีกทีพี่ยูก็เจอตำรวจรวบไปขึ้นรถซะแล้วสิแถมพี่ผู้หญิงคนนั้นสภาพสะบักสบอมนอนสลบกับพื้นโดยมีพี่มัดกำลังโทรเรียกรถโรงบาลท่ามกลางคนมากมายที่มามุ่งดูโดยมิได้นัดหมาย เฮ้อข่าวฉาวติดๆกันเลยสินะ
“พี่ยูนี่จริงๆเลย..ไม่เคยคิดเลยแหะว่าพี่จะสติแตกเพราะพี่มัด..พี่มัดเป็นอะไรกับพี่กันแน่นะพี่ยู..ปิ๊บ..ตึกๆๆ...ปึง”
หลังจากปิดทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วฉันก็เตรียมตัวไปลากคอพี่ตัวดีออกจากโรงพักซะหน่อย แล้วค่อยเค้นถามทุกๆอย่างที่เจ้าตัวอุบอิบมาให้หมดแลกกับการช่วยตามหาพี่มัดให้เป็นอาทิตย์
“พ่อกับแม่..คิดผิดแล้วแหละที่ให้พี่ยูเป็นคนขรึมเพราะว่าข้างในน่ะเดือดยิ่งกว่าลาวาซะอีกแน่ะ”
ฉันส่ายหัวให้กับตัวเองระหว่างเดินไปหยิบกุญแจรถคันโปรดก่อนมุ่งหน้าไปในเมืองทันที อย่างน้อยๆพี่ยูก็ไม่ได้ถูกยิงตายล่ะนะเฮ้อออออ