ตอนที่แล้วบทที่ 149
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 151

บทที่ 150


กองทัพผีดิบจำนวนหลายร้อยตัว ก้าวเดินอย่าช้าๆมุ่งหน้าออกไปที่ทางออก กลิ่นเหม็นสาบโชยมาตามสายลม ความหวาดกลัวเกาะกุมหัวใจ ขาทั้งสองเริ่มไร้เรี่ยวแรง ผีดิบทันทีที่พบเจอมนุษย์ก็พุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว ฉีกกระชากและกัดกินเลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูดโหดร้ายป่าเถื่อนยิ่งนัก เสียงร้องโหยหวนของผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ดังลั่นออกมา ภูตน้ำซัดเข็มน้ำพุ่งเข้าปะทะ ปราณดาบและปราณกระบี่ปลิวว่อน แต่ด้วยจำนวนที่มีมากเกิดไป คนทั้งหมดจึงได้แต่สกัดและต้านถอยเท่านั้น

หยางเวยและเย่เตาที่พุ่งทะยานตามมาก็ตื่นตกใจกับภาพที่เห็นไม่น้อย เศษชิ้นส่วนมนุษย์เกลื่อนพื้นเลือดสีแดงย้อมใบหญ้าจนเป็นสีแดง ทั้งสองกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากตัวสั่นสะท้าน เสียงกรีดร้องและเสียงโหยหวนยังคงดังออกมาอย่างต่อเนื่อง หยางเวยรีบตั้งสติหันไปมองเย่เตา

“เย่เตาข้าว่าถึงเวลาแล้ว ไม่เช่นนั้นคนทั้งหมดตกตายเป็นแน่”

หยางเวยไม่รอให้เย่เตากล่าวตอบพุ่งทะยานลงจากกิ่งไม้ซัดฝ่ามือข้าหาชายชราที่เดินตามหลังพวกผีดิบ ปราณฝ่ามือสีม่วงเข้าปะทะเสียงดังสนั่น เปรี้ยง ควันพิษสีม่วงฟุ้งกระจาย เมื่อลงถึงพื้นหยางเวยก็พุ่งเข้าประชิดแต่ทว่าก็ต้องกระเด็นออกมาเพราะชายชราระเบิดพลังปราณสีแดงขั้นกลางออกมา ตูม เย่เตาเองก็ฟาดฟันดาบในมือเข้าช่วยเหลือเช่นกัน เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง หยางเวยถีบเท้าพุ่งเข้าประชิดอีกครั้งสะบัดมือขวานำขวดน้ำมันออกมา เมื่อเข้ามาในระยะประชิด ตูม หยางเวยระเบิดปราณพิษออกมา โยนขวดน้ำมันขึ้นพร้อมกับถีบเท้าพุ่งถอยออกมา เย่เตาฟาดฟันดาบไปที่ขวดน้ำมัน เกิดการระเบิดเสียงดังสนั่น เปรี้ยง ตูม

ชายหนุ่มทั้งสองยกยิ้มอย่างดีใจแต่ทว่าเมื่อควันสีเทาจางหายไป ชายชราก็หาได้เป็นอันใด ทั้งสองถึงกับขมวดคิ้วขึ้น

“ไอ้บ้าเอ๊ย ข้าลืมไปเสียสนิทว่าตาแก่นี้ เป็นผู้ใช้อักขระศักดิ์สิทธิ์”

หยางเวยสะบัดมือขวานำบางอย่างออกมาอุดที่หูทั้งสองข้างเช่นเดียวกับเย่เตา ชายชราเองก็สงสัยต่อการกระทำของทั้งสองไม่น้อย ชั่วน้ำเดือนเย่เตาก็เป็นฝ่ายพุ่งเข้าปะทะ เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เสียงดาบปะทะกับไม้เท้า ตัวหยางเวยเองก็พุ่งทะยานหลบผีดิบที่เข้ามาโจมตีด้วยเช่นกัน แต่สายตายังคงจับจ้องไปที่เย่เตา ปราณดาบของเย่เตาเริ่มที่จะกดดันชายชราด้านหน้าไปได้ แต่เพราะระดับพลังปราณที่ต่างกันจึงทำอะไรไม่ได้มาก ในจังหวะนั้นเองหยางเวยก็พุ่งเข้ามาจากด้านหลังของเย่เตา เย่เตาเองก็รับรู้ได้เช่นกันรีบฟาดฟันดาบออกไปด้านหน้า พร้อมกับถีบเท้าพุ่งหลบออกมาด้านข้าง หยางเวยพุ่งเข้ามาในระยะประชิดโคจรลมปราณไปที่ถุงมือไหม กระหน่ำต่อยหมัดทั้งสองข้าง

อักขระศักดิ์สิทธิ์ปรากฏที่ด้านหน้าของหมัดก่อนการปะทะเพียงเสี้ยววิ แต่นั่นก็เพียงพอสำหรับหยางเวยแล้ว เสียงหมัดปะทะกับม่านอักขระศักดิ์สิทธิ์ที่ชายชราสร้างมาป้องกันร่างกาย เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง แต่ก็สกัดกั้นได้ไม่นาน ม่านอักขระศักดิ์สิทธิ์ก็ถูกทำลาย หมัดทั้งสองของหยางเวยจึงเข้าปะทะกับหน้าท้องอย่างถนัดถนี่ เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เลือดสีแดงสดกระอักออกจากปาก เสียงกระดูกแตกหักดังลั่น หยางเวยเองก็หาได้สนใจต่อยหมัดออกไปอย่างไม่ยั้ง เป็นเย่เตาเองที่ต้องฟาดฟันดาบสกัดกั้นพวกผีดิบเข้าโจมตีหยางเวย

“หยางเวย มันตายแล้วหยุดมือ”

เย่เตาตะโกนเสียงดังลั่นออกมา ถุงมือไหมเปียกชุ่มไปด้วยเลือดสีแดง ชายชราด้านหน้าลงไปนอนแน่นิ่งกับพื้น เสียงหอบหายใจดังออกมาจากหยางเวย เย่เตาเห็นท่าไม่ดีจึงพุ่งเข้าหาหยางเวยจับโยนขึ้นไปด้านบน อินทรีพยัคฆ์สัตว์อสูรของเย่เตาปรากฏตัวรับหยางเวยไว้ได้ทันท่วงที

เสียงการปะทะจากด้านหลังทำให้หลายคนที่ยังพอมีกำลังอยู่ มองเห็นว่าเป็นผู้ใด จึงรีบตั้งสติใช้ออกด้วยทักษะจัดการกับพวกผีดิบ เกือบชั่วยามผีดิบก็ถูกสังหารลงอีกครั้ง ทั้งหมดรีบพากับขนย้ายผู้ได้รับบาดเจ็บออกมาที่ด้านนอก จากกำลังคนนับพันคนตอนนี้ตกตายไปเกือบหมดหลงเหลือเพียงไม่กี่ร้อยคน ส่วนใหญ่แล้วก็ได้รับบาดเจ็บกันถ้วนหน้า ผู้อาวุโสของสำนักทั้งแปดก็ตกตายในศึกครั้งนี้ด้วยเช่นกันมีไม่กี่คนที่เหลือรอดแต่ก็ยังได้รับบาดเจ็บอยู่ หลายคนได้แต่ก้มน่าเสียใจอยู่ในกระโจมเท่านั้น ทั้งหมดรีบเร่งรักษาอาการบาดเจ็บ กลุ่มศิษย์ระดับหัวกะทิที่ยังเหลืออยู่มีความเห็น ให้ส่งคนไปแจ้งที่เมืองหลวงเขตแห่งไฟเพื่อขอกำลังเพิ่มและรายงานเรื่องทั้งหมด

ในขณะนั้นเองสิ่งที่หลายคนหวาดกลัวก็มาถึง คนจากผาไม้ดำพุ่งทะยานออกมาจากหุบเขาแปดคนแต่ละคนระเบิดพลังมีแดงขั้นกลางออกมากดดันคนในค่าย ศิษย์สำนักอักขระเต่าดำรีบสร้างวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สลายพลัง คนที่เริ่มพอมีกำลังลุกขึ้นก้าวเดินออกมาต้านรับ ไม่สิบหายใจคนจากผาไม้ดำก็พุ่งเข้าโจมตี หลายคนตกตายไปด้วยการลงมือเพียงครั้งเดียว หยางเวยและเย่เตาเองก็พุ่งเข้าปะทะด้วยเช่นกัน แต่ทว่าก็ไม่สามารถยื้อเอาไว้ได้นาน หลายคนถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัส ผู้อาวุโสเองหลายคนก็ได้รับบาดเจ็บอยู่ก่อนแล้ว ไม่นานก็ถูกสังหาร

“หนีไป”

เสียงตะโกนและเสียงร้องโหยหวนดังออกมาเป็นระยะๆ หลายคนคิดหลบหนีตอนนี้เหลือเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังพอสู้ไหว ทั้งหมดถูกต้อนให้มาอยู่ในค่ายโดยมีม่านอักขระศักดิ์สิทธิ์คอยป้องกันการโจมตี เกือบครึ่งชั่วยามในที่สุดม่านอักขระศักดิ์สิทธิ์ก็ถูกทำลายลงหลายคนเริ่มคิดถอดใจยอมแพ้ ในขณะนั้นเองก็มีเสียงร้องคำรามมาจากด้านบน หลายคนเงยหน้าขึ้นไปมองแต่ก็ไม่พบเห็นสิ่งใด หยางเวยและเย่เตาแสยะยิ้ม เป็นหยางเวยที่หัวเราะออกมาดังลั่น

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไอ้บ้าเอ๊ยมาช้ายิ่งนัก ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

หลายคนตกใจที่เห็นหยางเวยหัวเราะตะโกนออกมาเสียงดังรวมถึงคนจากผาไม้ดำด้วย ไม่ถึงสองลมหายใจอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าก็ปรากฏที่พื้นด้านหน้าค่าย คนจากผาไม้ดำเมื่อเห็นเช่นนั้นรีบถีบเท้าหลบถอยออกมาแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เนี่ยฟงที่ใช้อักขระศักดิ์สิทธิ์บดบังสายตาพุ่งลงมาที่พื้น วูป เถาวัลย์สีฟ้ามีประกายสายฟ้าพุ่งออกไปรัดคนจากผาไม้ดำอย่างรวดเร็ว คนทั้งแปดดิ้นทุรนทุรายบนพื้นประกายสายฟ้าดูดพลังปราณรัดแน่นกว่าเดิม เนี่ยฟงสะบัดมือขวาออกไปมีดสั้นสีดำทมิฬพุ่งผ่านไปที่ลำคออย่างรวดเร็ว แต่ทว่ามีดสั้นก็ยังไม่หยุดเข้าสังหารคนอีกเจ็ดคนที่เหลือ

เสียงนิ่งเงียบด้วยความตื่นตกใจจากการสังหารที่รวดเร็วและโหดเหี้ยม เนี่ยฟงเอื้อมมือขวารับมีดสั้นเก็บไว้ในแหวนพร้อมกับนำขวดยาออกมาสองขวดโยนให้เย่เตาและหยางเวยที่พุ่งเข้ามา ทั้งสองเมื่อรับขวดยาก็รีบนำไปรักษาคนที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนเนี่ยฟงเองก็เข้าช่วยเหลือคนอื่น ๆด้วยเช่นกัน ไม่ถึงชั่วยามหลายคนเริ่มมีอาการดีขึ้น ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเริ่มหายดีแล้ว ซูหนิงเมื่อเห็นว่าเนี่ยฟงมาช่วยแล้วก็รีบเดินเข้าไปหา เพียะ เสียงตบหน้าดังลั่นออกมาในค่ายหลายคนหันไปมองตามเสียงตบ เห็นเป็นซูหนิงตบไปที่ใบหน้าของเนี่ยฟง

“มันเป็นเพราะเจ้ามาช้า ทุกคนถึงเป็นเช่นนี้ ศิษย์พี่หวังหลินก็คงไม่ต้องโดนจับตัวไป เรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะเจ้า เป็นตัวเจ้าเองที่มีปัญหากับผาไม้ดำ เหตุใดเจ้าต้องเอาคนอื่นมาเกี่ยวข้อง หากศิษย์พี่หวังหลินเป็นอะไรไปเจ้าจะรับผิดชอบยังไง แล้วคนอื่นที่ตกตายไป เจ้าจะรับผิดชอบอย่างไร”

เนี่ยฟงไม่กล่าวสิ่งใดตอบ หันไปมองหยางเวย

“เกิดสิ่งใดขึ้นที่นี่หยางเวย”

เนี่ยฟงก้าวเดินไปหาหยางเวย แต่ซูหนิงเองก็ยังไม่หยุดยังคงตะโกนด่าทอเนี่ยฟง เป็นจงเหรินป้าและหยางเฟยเข้ามาห้าม แน่นอนหลายคนได้ยินเช่นนั้นก็เริ่มมองเนี่ยฟงด้วยสายตาแปลกๆ หยางเวยและเย่เตาเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้เนี่ยฟงฟังอยู่นาน ในจังหวะนั้นเองเป็นจงเหรินป้าก็นำอาหารมาให้ทั้งสาม

“พวกเจ้าทานเสียหน่อยเถอะ เนี่ยฟงเจ้าอย่าไปใส่เจ้าซูหนิงมาก เป็นเพราะนางรักศิษย์พี่หวังหลินมากนางจึงได้กล่าวเช่นนั้นออกมา”

“ขอบคุณสำหรับอาหารขอรับ เรื่องนั้นข้าเข้าใจดี”

เมื่อกินอาหารจนอิ่มเนี่ยฟงก็ลุกขึ้นเดินไปยังด้านหน้าของค่าย สะบัดมือขวาประกายสายฟ้าพุ่งออกมาไม่นานก็ปรากฏอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าขนาดใหญ่ มันค่อยๆขยายใหญ่ปกคลุมค่ายทั้งหมด เกือบหนึ่งเค่อก็จางหายไป เนี่ยฟงหันไปมองคนจากสำนักอักขระเต่าดำ

“การทำงานของมันพวกเจ้าคงรู้นะ ฝากที่เหลือด้วย”

ศิษย์ผู้หนึ่งจากสำนักอักขระเต่าดำตะโกนออกมา

“วางใจเถอะ ข้าจะอยู่ป้องกันที่นี่เอง”

เมื่อมีคนกล่าวตอบรับเนี่ยฟงก็หันหลังเดินเข้าไปในหุบเขา หยางเวยและเย่เตาเองก็พุ่งทะยานตามไปด้วยเช่นกัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด