ตอนที่แล้วL.P.T ตอนที่ 71 เรื่องฉุกเฉิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปL.P.T ตอนที่ 73 การเปลี่ยนแปลงของซูแบทและคุไซฮานะ

L.P.T ตอนที่ 72 เปลี่ยนแผน


หลังจากอ่านจดหมายในมืออย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง ซาโต้ก็ได้แต่ถอนหายใจในที่สุดและยอมรับความจริงนี้อย่างไม่เต็มใจ ตอนนี้เขาเป็นสมุนแก๊งร็อคเก็ตที่ไม่มีพลังและไม่มีความแข็งแกร่ง เขาทำได้เพียงทำตามคำสั่งเท่านั้น

แน่นอนว่าซาโต้ก็จะไม่ฟังถ้าพวกนี้จะส่งเขาไปตาย ตอนนี้งานนี้ยังดีกว่างานส่งเขาไปตายเขาจึงกัดฟันและยอมรับมัน

เช่นเดียวกับแผนที่ภารกิจที่มอบให้ในครั้งที่แล้วนอกจากนี้ยังมีแผนที่ที่วาดอยู่ด้านหลังของจดหมายฉบับนี้และแผนที่นี้ครอบคลุมมากกว่าแผนที่ภารกิจซึ่งครอบคลุมพื้นที่ป่าโทคิวะทั้งหมดโดยตรง ตอนนี้เส้นทาง A เส้นทางนี้ถูกวาดไว้บนแผนที่ซึ่งจะทำให้เขาออกจากป่าโทคิวะได้อย่างปลอดภัย

เมื่อพิจารณาจากแผนที่นี้ซึ่งระบุตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ปัจจุบันของเขาอย่างถูกต้อง ซาโต้ก็เข้าใจเช่นกัน ว่าผู้ที่ริเริ่มภารกิจรู้สถานการณ์ปัจจุบันของเขาเป็นอย่างดีและเกือบจะรู้จักเขาดีอีกด้วย

ในระยะสั้นทุกการเคลื่อนไหวของเขาในป่าโทคิวะอยู่ภายใต้การดูแลของฝ่ายตรงข้ามมาตลอด ดังนั้นจึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะฝ่าฝืนคำสั่งของฝ่ายตรงข้าม

"ยังเหลือเวลาอีก 25 วัน โอ้พระเจ้าตอนนี้ที่นี่คือป่าโทคิวะ ถ้าฉันต้องการไปที่ภูมิภาคโฮเอ็นแม้ว่าจะไปโดยเครื่องบินก็ยังจะใช้เวลาหนึ่งวันและฉันจำได้ว่าไม่มีสนามบินในเมืองนิบิฉันแค่หวังว่าเมืองโทคิวะจะมีไม่งั้นฉันต้องหาทางอื่นให้ได้" เมื่อมองไปที่แผนที่ในมือของเขา ซาโต้ก็คิดแล้วทำดูน่าเกลียดเล็กน้อย

ในความเป็นจริงเนื่องจากซาโต้เป็นเด็กกำพร้าในครอบครัวที่ยากจน ทำให้ขอบเขตกิจกรรมปัจจุบันของเขาในโลกโปเกมอนจึงอยู่ที่เมืองนิบิและป่าโทคิวะในปัจจุบันเท่านั้น เขาไม่คุ้นเคยกับสภาพในเมืองอื่นๆในคันโต ดังนั้นตอนนี้เขาจึงคิดหนักมากกับการไปภูมิภาคอื่นในครั้งแรกนี้

แม้ว่ามันจะมียานพาหนะเช่นเครื่องบิน,รถไฟและเรือในโลกนี้ก็ตาม แต่เนื่องจากการมีอยู่ของโปเกมอนป่ายานพาหนะเหล่านี้จึงไม่ปลอดภัยมากนัก

บนท้องฟ้าเส้นทางของเครื่องบินจะต้องหลีกเลี่ยงน่านฟ้าของโปเกมอนป่าที่ทรงพลังและรางรถไฟจะต้องหลีกเลี่ยงดินแดนของโปเกมอนป่าที่ทรงพลังอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเส้นทางน้ำหากคุณบังเอิญบุกเข้าไปในน่านน้ำของเกียราดอสและทำให้สิ่งมีชีวิตตัวนี้ตื่นตระหนกผลที่ตามมาจะเป็นหายนะ

ดังนั้นแม้ว่าการสื่อสารระหว่างทวีปของมนุษย์จะไม่ถูกขัดขวางมากนัก แต่ระยะห่างระหว่างคันและโฮเอ็นก็ค่อนข้างไกลดังนั้นการสื่อสารระหว่างสองภูมิภาคจึงไม่ดี เพราะทั้งสองภูมิภาคห่างด้วยระยะทางหลายหมื่นไมล์ทะเล

ขณะนี้มหาสมุทรและท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ยังไม่ถูกพิชิตโดยมนุษย์ทั้งหมด มีโปเกมอนป่าที่ทรงพลังจำนวนมากที่ครอบครองพวกมัน โปเกมอนป่าที่ทรงพลังโดยเฉพาะบางตัวแทบจะมีพลังที่ทำลายล้างโลกได้ด้วยซ้ำ

ในความเป็นจริงผืนดินมหาสมุทรและท้องฟ้าที่ถูกครอบครองโดยมนุษย์ในโลกนี้ยังมีอยู่ค่อนข้างจำกัด เลยทำให้ดินแดนมหาสมุทรและท้องฟ้ายังคงถูกครอบครองโดยโปเกมอนป่าจำนวนมาก

ประวัติศาสตร์พัฒนาการของมนุษย์แทบจะเหมือนกับประวัติศาสตร์การต่อสู้กับโปเกมอน เพื่อความอยู่รอดและเพิ่มที่อยู่อาศัยมนุษย์จึงต้องแย่งชิงทะเลและท้องฟ้าจากโปเกมอนป่า

ในโลกของโปเกมอนเมื่อนานมาแล้วโปเกมอนถูกมนุษย์เรียกว่าสัตว์ประหลาด นี่แสดงให้เห็นว่ามนุษย์กลัวสิ่งมีชีวิตอย่างโปเกมอนมากเพียงใด หากปราศจากการเกิดขึ้นของอาชีพเทรนเนอร์ มนุษย์ก็ยังคงจะหวาดกลัวโปเกมอน

"ถ้าดูการเดินของวันนี้ ฉันคงต้องรีบทำสิ่งที่ต้องการให้เสร็จแล้วออกจากป่าโทคิวะโดยเร็ว เหลือเวลาอีกเพียง25วันและฉันไม่รู้ว่าจะไปถึงเมืองลารุสในทวีปโฮเอ็นต้องใช้เวลานานแค่ไหน ฉันกลัวว่าเมื่อฉันไปถึงที่นั่นฉันเหลือเวลาอีกไม่มากที่จะได้รับชัยชนะ 10 ครั้งติดต่อกันในหอคอยแบทเทิล” ซาโต้พับจดหมายไว้ในมืออย่างระมัดระวังและเก็บไว้ในที่ปลอดภัย

ในความเป็นจริง งานนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหันและมันก็ทำให้แผนการต่อไปของเขาขัดข้องเช่นการหาเหล่าเซนิกาเมะในป่าและการหาพวกฮินบาสและจับเหล่าการ์ดีตัวน้อย

นับตั้งแต่ที่ซาโต้พบเหล่าเซนิกาเมะและฮินบาสในแม่น้ำใกล้ๆในช่วงที่ฝนตกหนักซึ่งเกิดจากการต่อสู้ระหว่างเนียวโรบอนกับเกียราดอส เขาก็มักจะอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำนี้ เพื่อจุดประสงค์ของการเสี่ยงโชคเพื่อว่าจะพบกับเซนิกาเมะและฮินบาสที่ริมฝั่งแม่น้ำ

น่าเสียดายที่โชคของซาโต้ไม่ค่อยดีนักในสัปดาห์นี้ ไม่ต้องพูดถึงการพิชิตเซนิกาเมะและฮินบาส เขามองไม่เห็นเงาของโปเกมอนป่าสองชนิดนี้ด้วยซ้ำ ตามการคาดการณ์ของเขาหากต้องการพบกับโปเกมอนทั้งสองนี้ เขาคงต้องทำฝนให้ตกหนักก่อน

ส่วนเจ้าการ์ดีตัวน้อย เขาก็ประสบความสำเร็จพอสมควร หลังจากที่การ์ดีตกเป็นทาสอาหารของเขามาหลายวัน การ์ดีตัวน้อยตัวนี้ก็คุ้นเคยกับเขาอย่างสมบูรณ์และเลียมือของเขาด้วยลิ้นเล็กๆของตัวเองอย่างรักใคร่ เป็นที่น่าเสียดายที่การ์ดีตัวพ่อยังคงเย็นชาต่อเขามากและมันยังต้องใช้เวลาอีกเยอะเพื่อให้การ์ดีตัวน้อยสามารถอยู่รอดได้ด้วยตัวเอง

แต่ตอนนี้ซาโต้กำลังจะจากไปในไม่ช้าและนี้เลยทำให้เขารอถึงวันที่การ์ดีตัวน้อยจะถูกพ่อของมัน"ขับออกจากฝูง"ไม่ไหวแล้ว สิ่งที่เขากังวลตอนนี้ก็คือการ์ดีตัวน้อยจะยอมเดินไปกับเขาและการ์ดีตัวพ่อเต็มใจที่จะปล่อยให้ลูกมันมากับเขารึปล่าว

แน่นอนว่าซาโต้ยังโหดเหี้ยมไม่พอที่จะปราบการ์ดีตัวน้อยโดยตรง เพราะผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดก็อาจจะเป็นไปได้ว่าการ์ดีตัวน้อยจะเกลียดเขาและต้องการที่จะแก้แค้นเขาในอนาคต และนั้นจะเป็นผลเสียทำให้การ์ดีไม่ฟังคำสั่งเขา

สำหรับซาโต้แล้ว โปเกมอนที่ฉลาดแต่ไม่เชื่อฟังนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่พึงปรารถนา ถ้ามีอย่างนี้เขาเลือกที่จะไม่มีโปเกมอนแบบนี้ดีกว่า

"ไม่เป็นไร เซนิกาเมะและฮินบาสยังคงเป็นเรื่องยากมากที่จะพบ อย่างไรก็ตามฉันไม่ใช่คนที่เลือกได้เหมือนตัวเอกในอนิเมะ โชคดีที่ตอนนี้ฉันได้พบการ์ดีในป่าโดยบังเอิญ เพื่อการ์ดีตัวน้อยแล้วฉันคงต้องพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อมันถ้ามันไม่ได้ผลก็คงต้องลืมมันไป ฉันไม่อยากให้โปเกมอนเกลียดตัวเองไปตลอดชีวิตหรอก” ซาโต้ครุ่นคิดถึงสิ่งสำคัญทั้งสองนี้ด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวบนใบหน้าของเขา

แผนการที่เรียกว่าไม่สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงได้ มันเกี่ยวกับสิ่งที่ซาโต้กำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ แต่เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงเขาต้องเปลี่ยนแผนไม่เช่นนั้นเขาก็ทำได้แค่รอความตาย แม้ตอนนี้เขาไม่มีความแข็งแกร่งมากพอที่จะขัดคำสั่ง แต่ตราบใดที่เขายังไม่ตายเขาต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ความแข็งแกร่งเขาเพิ่มขึ้น

หลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบและแยกแยะทุกอย่างแล้ว ซาโต้ก็เริ่มขั้นตอนต่อไป ในตอนนี้เวลาได้ค่ามากที่สุดแล้วและต้องใช้ช่วงเวลานี้อย่างมีประสิทธิภาพที่มากสุด

หลังจากลงจากบ้านต้นไม้ ซาโต้ก็ทำตามตารางงานที่จัดไว้ในตารางของสองสามวันที่ผ่านมาและเริ่มปล่อยให้โปเกมอนทั้งสามในมือของเขาออกมาทำการฝึกฝนทักษะเป็นเวลาสองชั่วโมงในช่วงบ่าย

เพื่อให้พลังในมือแข็งแกร่งขึ้นการฝึกฝนโปเกมอนประจำวันและการต่อสู้ของโปเกมอนเอง จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่ในหมู่พวกเขาการฝึกทักษะสำคัญกว่าการต่อสู้

"ออกมาเถอะซูแบท,คุไซฮานะ,นิโดรันถึงเวลาเริ่มการฝึกทักษะแล้ว" ซาโต้ขว้างลูกบอลสามลูกจากนั้นพูดกับโปเกมอนของเขาทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด