ตอนที่แล้วบทที่ 148
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 150

บทที่ 149


อักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าปรากฏออกมาถึงสี่วงทับซ้อนกัน ค่อยๆถูกบีดให้มีขนาดเล็กลงเกือบชั่วยามในที่สุดวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าก็ประทับลงที่ตัวดาบ วูป ไม่รีรอเนี่ยฟงจัดการสร้างอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าขึ้นที่ขึ้นเพื่อประทับลงไปในมีดสั้นอีกหนึ่งเล่ม แสงอรุณวาดส่องลงมายังพื้น เนี่ยฟงก็เริ่มเดินทางอีกครั้ง กิเลนอัสนีกู่เสียงร้องคำรามทะยานขึ้นไปบนฟ้า

แปดสำนักใหญ่และเหล่าทหารเริ่มเดินทางบุกเข้าไปยังหุบเขาแล้ว ด้วยจำนวนคนที่มากเกินไป และช่องทางลงในหุบเขามีความคับแคบ ทำให้การเดินทางลำบากพอสมควร อีกทั้งยังมีกับดักจำนวนมากไว้ค่อยสังหารผู้บุกรุก เกือบชั่วยามทั้งหมดก็พบเจอกับเหตุการณ์ประหลาดอยู่ๆก็มีหมอกควันพุ่งโพยออกมาจากพื้น หลายคนตะโกนออกมาเสียงดัง

“ระวัง ควันพิษ”

“ระวัง ควันพิษ”

เสียงตะโกนดังต่อกันเป็นทอดๆ ไม่ถึงสิบลมหายใจก็มีแรงกดดันระดับสีแดงขั้นกลางกดทับลงมาจากด้านบน ศิษย์สำนักอักขระเต่าดำรีบสะบัดมือขวาคิดสร้างอักขระศักดิ์สิทธิ์เพื่อสลายแรงกดทับ แต่ทว่าทั้งหมดล้วนแล้วแต่ต้องตื่นตกใจเพราะไม่สามารถสร้างอักขระศักดิ์สิทธิ์ได้ ผู้อาวุโสที่ติดตามมาต้องรีบระเบิดพลังปราณเพื่อสลายแรงกดดันช่วยเหลือ ไม่ถึงหนึ่งลมหายใจปราณดาบจำนวนมากกว่าสิบเล่มก็พุ่งลงมาจากด้านบน ศิษย์ระดับหัวกะทิต่างใช้ออกด้วยทักษะของแต่ละคนเข้าต้านรับ ภูตน้ำตัวใหญ่ส่งเสียงกรีดร้องพร้อมกับซัดห่าเข็มน้ำเข้าโจมตี

มีคำสั่งตะโกนให้ถอยดังออกมาจากด้านหน้า แต่เมื่อคิดจะถอยก็ต้องพบเจอกับกองกำลังปีศาจหลายสิบตัวที่ไม่มีผู้ใดรู้ตัว การปะทะกันจึงเกิดขึ้น ปราณดาบและปราณกระบี่ปลิวว่อน หลายคนต้องพุ่งหลบปราณอาวุธของฝ่ายตนเอง เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังลั่นออกมาระงมไปทั่วทั้งหุบเขา อสรพิษสีดำตัวใหญ่พุ่งเข้าหาปีศาจด้านหลัง ตูม หยางเวยพุ่งเข้าประชิดกระหน่ำต่อยหมัดทั้งสองข้าง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง วงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าปรากฏออกมาก่อนการปะทะ เปรี้ยง

“รีบถอย”

เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ หลายคนตอนนี้ไม่มีจิตใจที่คิดจะสู้แล้ว ถึงจะมีกำลังคนที่มาก แต่การเข้าปะทะแบบนี้ทำให้เสียเปรียบมากด้วยเช่นกัน ทันทีที่หยางเวยเปิดทางหนีได้สำเร็จ หลายคนจึงพุ่งหลบหนีออกมาได้ ทหารเกือบร้อยคนตกตายอยู่ด้านในเนื่องจากต้องเข้าปะทะกับปีศาจและคนจากผาไม้ดำเพื่อถ่วงเวลาให้คนในกลุ่มหลบหนี หยางเวยและเย่เตาหาได้สนใจ ฟาดฟันมีดแล้วดาบในมือเข้าสังหารทั้งปีศาจและคนจากผาไม้ดำ หยางเวยไปที่ใดที่นั่นมีแต่เสียงร้องโหยหวน ควันพิษสีม่วงฟุ้งกระจายไปทั่ว เมื่อเห็นว่าหลายคนเริ่มถอยกลับมายังด้านนอก หยางเวย เย่เตา และศิษย์ระดับหัวกะทิก็เริ่มถอยหลังออกมา

ความเสียหายในวันนี้จากการประเมิน ผู้คนล้มตายไปเกือบครึ่ง ส่วนใหญ่เป็นเหล่าทหารแต่ละเขต ยังไม่รวมผู้บาดเจ็บอีกจำนวนไม่น้อย การประชุมวางแผนบุกจึงเกิดขึ้นอีกครั้ง แต่ละสำนักส่งคนของตนออกไปสืบข่าวตามวิธีของสำนักตน แต่จนแล้วจนรอดพวกที่ส่งไปสืบข่าวก็หาได้กลับมา หลายคนลงความเห็นว่าคงตกตายในหุบเขา เป็นหยางเวย เย่เตา สีว์หยินยี่จากสำนักผาสวรรค์ เจิงเสวี่ยไป๋จากสำนักวารีสวรรค์ และทังไท่ซูจากสำนักคชสารธรณี ทั้งห้ารับอาสาออกสืบข่าวเอง กลางดึกคืนนั้น ทั้งห้าก็พุ่งทะยานออกจากค่ายด้านหน้าแอบเขาไปในหุบเขา

โชคดีที่คืนนี้พระจันทร์เต็มดวงส่องแสงสว่างสามารถมองเห็นทางด้านหน้าได้ ทั้งห้าพุ่งทะยานไปตามกิ่งไม้ ไม่ถึงสองเค่อทั้งห้าก็ต้องปะทะกับคนจากผาไม้ดำห้าคนที่แบบซุ่มอยู่ หยางเวยที่เตรียมตัวอยู่ก่อนแล้วรับลงมือทันที พุ่งลงจากกิ่งไม้ลงกลางคนทั้งห้า ระเบิดปราณพิษออกมาอย่างรวดเร็ว ตูม เจิงเสวี่ยไป๋ตวัดกระบี่ใบมือ ปราณกระบี่นับสิบเล่มพุ่งหายเข้าไปในควันพิษสีม่วง ทังไท่ซูเองก็สะบัดมือขวาเรียกทวนเหล็กอาวุธคู่ใจพุ่งหายเข้าไปในควันพิษด้วยเช่นกัน เสียงฟาดหวดและเสียงหมัดปะทะกับร่างเนื้อดังลั่น เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ชั่วน้ำเดือดหยางเวยและทังไท่ซูก็เดินยกยิ้มออกมา ทั้งหมดจึงเร่งเดินทางต่อ

ตลอดทางเกือบชั่วยามทั้งห้าสังหารคนจากผาไม้ดำตกตายไปเกือบยี่สิบคน เพราะการลงมืออย่างรวดเร็วและแม่นยำ หยางเวย ทังไท่ซูเข้าปะทะในระยะประชิด เย่เตาและเจิงเสวี่ยไป๋โจมตีด้านนอก ส่วนสีว์หยินยี่ใช้ขลุยจัดการช่วยเหลือในจังหวะสำคัญให้แก่หยางเวยและทังไท่ซู ทั้งห้าลงมือโจมตีประสานกันได้อย่างลงตัว ไม่นานทั้งสองก็เห็นหมู่บ้านด้านหน้า มีเวรยามรักษาเดินตรวจอย่างแน่นหนา ทังไท่ซูและสีว์หยินยี่อาสาเฝ้าดูที่นี่ แล้วให้ทั้งสามกลับไปนำกำลังคนด้านนอกเข้ามา

ทันทีที่ทั้งสามพุ่งทะยานกลับมายังค่ายด้านนอก ทั้งหมดก็แบ่งกำลังพลกันใหม่ โดยจะออกไปเป็นสำนัก ติดตามกันออกไป เกือบรุ่งสางคนของแปดสำนักใหญ่ก็ล้อมหมู่บ้านด้านหน้าไว้ รวมกับกำลังทหาร ระหว่างทางหยางเวยเองก็ผิดสังเกตไม่น้อย นั้นเพราะศพทหารที่ตายไปก่อนหน้านี้หายไปโดยไร้ร่องรอย ทันใดนั้นสิ่งที่หยางเวยสงสัยก็ได้รับคำตอบ ภาพที่ทุกคนเห็นด้านหน้าหาใช่หมู่บ้านจริง นั้นเพราะไม่กี่อึดใจภาพหมู่บ้านก็หายไป เป็นซากศพทหารที่ตายก่อนหน้านี้ยืนจ้องมองด้วยดวงตาแดงก่ำประดุจผีดิบที่หิวกระหาย หลายคนถึงกับตื่นตกใจนิ่งค้างไปด้วยความหวาดกลัว

“บัดซบมันคือกับดัก”

หยางเวยหาได้สนใจแสยะยิ้ม พุ่งทะยานพร้อมกับซัดฝ่ามือออกไปอย่างรวดเร็ว เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ควันพิษสีม่วงฟุ้งกระจาย ไปทั่วบริเวณ หยางเวยสะบัดมือนำขวดน้ำมันออกมาโยนขึ้นไปบนฟ้าสามขวดใกล้ๆกัน พร้อมกับถีบเท้าพุ่งถอยออกมา เย่เตาฟาดฟันดาบออกไปที่ขวดน้ำมัน ปราณดาบสีแดงพุ่งเข้าปะทะเปรี้ยง ขวดน้ำมันกระจายลงมือพื้นความร้อนจากปราณธาตุไฟลุกไหม้น้ำมันตกลงไปในควันพิษสีม่วง ตูม เกิดการระเบิดเสียงดังสนั่น ตูม ซากศพเกือบครึ่งถูกจัดการในเวลาไม่ถึงสิบลมหายใจ

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไอ้บ้าเอ่ยไม่คิดว่ามันจะได้ผล”

หยางเวยที่พุ่งหลบออกมาได้ทัน หันไปจ้องผลงานของตนหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น สำนักอื่น ๆก็หาได้น้อยหน้า ใช้ทักษะที่มีเข้าสังหารเกือบชั่วยามทั้งหมดก็จัดการจนหมด เสียงหัวเราะก็ดังออกมาสนั่นลั่นป่า

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

ใครที่มีระดับพลังปราณต่ำกว่าสีแดงขั้นต้น ลงไปนอนดิ้นทุรนทุราย หลายคนรีบโคจรลมปราณเข้าต้าน ผู้อาวุโสทั้งหลายรีบแผ่ลมปราณเข้าต้านรับด้วยเช่นกัน แต่ถึงเช่นนั้นเหล่าทหารที่ติดตามมาด้วยหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ หลายคนเกิดอาการคลุ้มคลั่งใช้อาวุธในมือสังหารคนด้านข้าง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เกิดความวุ่นวายในแนวหลัง ผู้อาวุโสทั้งหลายลงความเห็นให้หลบหนีจึงร้องตะโกนออกมา ศิษย์ระดับหัวกะทิทั้งหลายที่พอมีกำลังต้านรับจึงพากันทยอยหลบหนี แต่หยางเวยและเย่เตาต่างออกไปหาได้ติดหลบหนีพุ่งทะยานไปหลบบนกิ่งไม้ เกือบชั่วยามซากศพจำนวนมากกองอยู่เต็มพื้น

ชายชราผู้หนึ่งผมยาวถือไม้เท้าพุ่งทะยานลงมากลางกองซากศพ ใช้ไม้เท้าในมือกระแทกลงพื้นดิน สามครั้งไม่นานก็ปรากฏวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีแดงขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาบนอากาศ เกือบสองเค่อมันก็แตกกระจายเป็นแสงสีแดงพุ่งไปยังซากศพ ชั่วน้ำเดือดหยางเวยและเย่เตาก็ตื่นตกใจนิ่งค้างซากศพพยายามลุกขึ้นประดุจผีดิบ ซากศพค่อยๆลุกเดินมุ่งหน้าไปทางด้านหน้าของหุบเขา หลังจากนั้นชายชราผู้นั้นก็ค่อยๆเดินติดตามผีดิบพวกนั้นไป หยางเวยรีบตั้งสติหันมาเอ่ยกับเย่เตา

“เย่เตา หากว่าเราสังหารตาแก่นั่นได้ กองทัพผีดิบนั่นจะถูกทำลายหรือไม่”

“ข้าก็ไม่แน่ใจ คงต้องลองดู”

“เช่นนั้นทำตามแผนเดิม หาจังหวะเข้าสังหารตาแก่นั่น”

สิ้นเสียงกล่าวทั้งสองก็แอบติดตามชายชราผู้นั้นไปห่างๆ

ห้องโถงใหญ่ภายในคฤหาสน์ไม้สักทองชายหนุ่มอายุห้าสิบปี มีรอยแผลเป็นที่แก้มซ้าย สวมชุดสีแดงนั่งอยู่บนโต๊ะไม้แกะสลักในห้อง ไม่นานก็มีชายหนุ่มผู้หนึ่งรับเข้ามารายงาน

“เรียนท่านหัวหน้า ตอนนี้พวกสำนักทั้งแปดที่แอบบุกเข้ามาในหุบเขา ถูกสังหารตกตายไปไม่น้อย ตอนนี้ผู้อาวุโสเจิงไท่จูติดตามสังหารอยู่ โดยใช้กองกำลังผีดิบเข้าจัดการ”

“ดีส่งข่าวแจ้งต่อเจิงไท่จู ให้ติดตามสังหารพวกมันทั้งหมด บัดซบนักคิดบุกเข้ามายังที่ของข้า”

“ขอรับ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด