ตอนที่ 150 เกิดตายวนเวียน
ตอนที่ 150 เกิดตายวนเวียน
ระยะเวลา 5 วินาทีอาจจะดูน้อยสำหรับใครหลายคนๆ แต่แค่ 1 วินาที ใครเหล่าจะรู้ว่ามันจะเกิดหนทางแตกแขนงได้อีกเป็นร้อยเป็นพัน ไม่มีใครสามารถบอกได้เลยว่า 1 ในวินาทีจะมีการตัดสินใจอะไรเกิดขึ้นบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่เจสเปอร์รู้ก็คือเขาได้ให้โอกาสเรย์อัศวินหนุ่มได้เป็นผู้ตัดสินชีวิตตัวเองไปแล้ว
หากเรย์เลือกที่จะอยู่สู้กับเขาต่อจนลมหายใจสุดท้าย แน่นอนว่าเรย์ไม่อาจหลบเลี่ยงการตายไปได้ แต่อย่างน้อยก็เป็นการตายที่สมเกียรติควรค่าแก่การมีชีวิตต่อไป แต่กระนั้นเรย์กลับเลือกเส้นทางที่เจสเปอร์ได้ย้ำเตือนเอาไว้แล้วว่าอย่าทำซะอย่างนั้น...ดูท่าแล้วแผนการที่ไอรีนวางเอาไว้คงต้องถูกนำมาใช้เพื่อสั่งสอนคนประเภทนี้สักหน่อยแล้ว
“ฉันบอกแล้วใช่ไหม...ว่าอย่าหนี มันไม่มีประโยชน์!!” 5 วินาที ที่เจสเปอร์แสร้งทำเป็นชะงักค้างให้เรย์ตายใจว่าหมวก VRของเขามีปัญหาจนเกิดอาการหลุดและกำลังซิงค์ข้อมูลเพื่อเชื่อมต่อ อย่างไรก็ตามถึงเจสเปอร์จะแสดงละครตบตาแต่ชายหนุ่มก็เป็นคนที่ไม่ผิดคำพูดเขามอบ 5 วินาทีกับเรย์จริงๆ
ทันทีที่ 5 วินาทีสิ้นสุดลง มืออีกข้างที่ว่างอยู่ของเจสเปอร์ก็พลันกางสะบัดออก ปลายนิ้วและสายตาจับจ้องไปที่เรย์ที่อยู่ห่างออกไปหลาย 10 เมตร วงเวทย์ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือ วงแหวนเวทย์หมุนวนรอบๆวงแขนของเจสเปอร์ไปมา ก่อนจะพ่นเส้นใยเส้นเล็กออกไปจำนวนหนึ่ง [Spider Web!!]
สกิลใยแมงมุมพันธนาการที่เจสเปอร์ได้รับมาจากการฆ่าบอสแมงมุมแม่ม่ายดำบอสแผนที ที่หลอกล่ออามมี่และสลิปให้หลงเข้าไปยังอาณาเขตของมันเมื่อคราวก่อน ใยแมงมุมพันธนาการเป็นสกิลล็อคตัวไม่ต้องใช้การเล็งหรือกะทิศทางเหมือนกับสกิล Hook ของสลิปให้ยุ่งยาก เพียงแค่เลือกเป้าหมายและร่ายเวทย์ให้จบ เส้นใยจากแมงมุมแม่ม่ายดำก็จะยึดจับเป้าหมายให้ในทันที
“เฮ้ยยย!!” อัศวินเรย์ร้องลั่นเมื่อจู่ๆขาของเขาที่กำลังวิ่งอยู่ ถูกเส้นใยอะไรบางอย่างมายึดจับไว้ ชายหนุ่มดิ้นรนอย่างสุดกำลังเพื่อที่จะให้ตัวเองหลุดพ้นจากพันธนาการนี้ แต่ไม่ว่าจะดิ้นรนมากแค่ไหนเส้นใยแมงมุมพวกนี้ก็ยิ่งรัดขาของเขาเอาไว้แน่น
‘ฟิ้ววว!!’
เรย์รับรู้ได้ทันทีว่าเสียงที่พุ่งตรงมาหาเขานั่น ต้องเป็นผู้ควบคุมธาตุผู้เป็นเจ้าของเส้นใยพวกนี้แน่ๆ เขาเตรียมใจรับชะตากรรมที่เข้ามาด้วยความอาลัย สองขายังติดตรึงแน่นอยู่กับพื้นด้วยผลของใยแมงมุม
ชายหนุ่มไม่คิดจะหลบเลี่ยงไม่คิดแม้แต่กระทั่งตั้งการ์ดขึ้นปกป้องตัวเองเหมือนเช่นทุกที ชั่วพริบตานั่นเอง ‘ฉึกกก!!’ เจสเปอร์ก็พุ่งดาบสลักอาคมอันคมกริบของเขาเสียบเข้าที่ท้องของเรย์อัศวินเข้าไปเต็มแรง เรย์ขาดใจตายในทันที แต่ทว่าความเร็วที่เจสเปอร์พุ่งตรงมาไม่อาจที่จะหยุดได้เดี๋ยวนั้น...ตรงนั้น...ดั่งใจนึก ความเร็วที่ว่านี้เป็นความเร็วที่สุดที่ตัวเขาสามารถทำได้แล้ว เขาไม่จำเป็นที่จะต้องกักพลังที่มีเอาไว้อีกต่อไป สองเท้ายังคงวิ่งต่อไม่หยุด ดาบยังคงลากเอาร่างของเรย์ไปตลอดทาง กระทั่งปักอัศวินเรย์ติดคาต้นไม้ใหญ่ที่ห่างออกจากจุดพันธนาการไปเกือบ 3 เมตร
เมื่อร่างของเรย์ถูกปักคาต้นไม้ ร่างของชายหนุ่มก็พลันกลายเป็นลูกไฟวิญญาณลอยขึ้นแทนที่
“โอ้!!ดรอปไอเท็มออกมาได้ไม่แย่เลยนะ น่าเสียดายที่ฉันลงมือหนักมากไปหน่อย ความคงทนของพวกมันถึงได้ต่ำซะแบบนี้ แต่รองเท้าคู่นี้สวมใส่คู่กับเกราะก็คงไม่เลว ครั้งหน้าฉันขอเกราะนะ??!!”
เจสเปอร์หยิบไอเท็มที่เรย์ทำตกไว้จากการตายขึ้นมาส่องดูอย่างอารมณ์ดี ผิดกับท่าทีของชายอีกคนที่เฝ้ามองดูการต่อสู้นี้จนตะลึงและสั่นกลัวไปหมดแล้ว
‘ชายผู้นี้เป็นใครกัน? ไม่สิ...คนกลุ่มนี้เป็นใครถึงจะถูก? แข็งแกร่งเกินไปแล้ว ไม่แน่ว่าถึงเป็นนายหญิง ก็ไม่น่าจะสู้ชายผู้นี้ได้!!’
กริดเฮมเมอร์ที่ถูกแกล้งทำเป็นจับตัว เฝ้ามองดูการต่อสู้ของเจสเปอร์มาตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ที่หลอกล่อศัตรูให้ออกห่างจากผู้รักษา หรือการฆ่าผู้เล่นอัศวินที่สวมไอเท็มราคาแพงราวกับผักปลาด้วยการพุ่งแทงจนติดคาต้นไม้ ทั้งหมดล้วนแล้วแต่อยู่ในสายตาของกริดเฮมเมอร์ผู้เล่นกิดล์ Red Shadows ทั้งสิ้น
‘เอ๊ะแล้วผู้หญิงคนนั้นจะเดินไปใกล้ดวงวิญญาณทำไมกัน ไอเท็มก็เก็บไปหมดแล้วไม่ใช่เหรอไง หรือว่าจะแสร้งทำเป็นปล่อยตัวเราแล้วฆ่าเหมือนกับที่ผู้เล่นอัศวินของกิลด์ Blood Commander โดน’
แค่การแกล้งตบตาของเจสเปอร์ฉากนั้นฉากเดียว ก็ได้สร้างความหวาดกลัวให้กับกริดเฮมเมอร์ไปถึงขั้วหัวใจแล้ว ยามนี้ต่อให้ไม่มีอามมี่หรือสลิปเฝ้าเอาไว้อยู่ ยังไงกริดเฮมเมอร์ก็ไม่มีทางลุกออกจากจุดเดิมตรงนี้แน่
ไอรีนเดินออกไปในทิศทางที่เจสเปอร์ยืนเฝ้าอยู่อย่างช้าๆ เธออาศัยความมืดจากพื้นป่า ปกปิดร่างกายและใบหน้าของเธอเอาไว้อยู่ตลอดเวลาไม่มีใครรู้ว่าเธอกำลังจะทำอะไร แม้แต่เพื่อนสมาชิกในกิลด์ก็ไม่อาจล่วงรู้ถึงเจตนาของเธอ เว้นแต่เจสเปอร์ที่พยักหน้าให้กับเธออย่างอ่อนโยน
[Resurrection!!]
[รายละเอียด: คำอวยพรศักดิ์สิทธิ์จากเทพธิดา Aeternaสามารถชุบชีวิตเป้าหมายให้กลับมาจากโลกแห่งความตายได้โดยต้องแลกกับพลังเวทมนต์ที่มีอยู่ของนักบุญ]
ไอรีนเสกคำร่ายลงบนตัวลูกไฟวิญญาณของเรย์อย่างอบอุ่น รอบกายของเธอเปร่งประกายส่องสว่างเหมือนแสงของหิ้งห้อยที่เวียนว่ายอยู่ท่ามกลางความมืด แม้สิ่งที่เธอกำลังทำอยู่นั่นเป็นการแสดงออกด้วยความรักจากพรของเทพธิดา Aeterna แต่ดวงตาของเธอไม่ได้แสดงสิ่งเหล่านั้นออกมาเลยแม้แต่น้อย เธอชุบชีวิตดวงไฟวิญญาณตรงหน้าเพื่อจุดประสงค์เดียวคือ ‘ไอเท็ม’ ของเรย์เท่านั้น
ไม่นานหลังจากที่คำร่ายจากสกิล Resurrection จบลงลูกไฟวิญญาณก็สั่นไหวเล็กน้อยก่อนจะขยายตัวเองออกจนเท่ากับร่างกายของชายผู้หนึ่ง แสงสีขาวเจิดจ้าเข้ามาโอบอุ้มร่างของเรย์ที่นอนแน่นิ่ง พร้อมกับมอบชีวิตใหม่ให้กับชายหนุ่มที่นอนอยู่ ให้เขาได้กลับมาสู่โลก The Era อีกครั้ง
อัศวินเรย์ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น ในใจนึกสงสัยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับตน ‘เอ๊ะ!!ทำไมที่สุสานเมืองอัลคาเดียถึงได้มีหน้าตาเช่นนี้? ที่นี้มันที่ไหนกัน? เหตุใดทำไมเมืองนี้ถึงยังมืดอยู่ล่ะ?’ คำถามนับสิบเข้าจู่โจมเรย์อย่างฉับพลัน
ชายหนุ่มตื่นขึ้นพร้อมกับคำถามมากมาย แต่ก่อนที่จะได้หาคำตอบเหล่านั้น หน้าจอของเขาก็แสดงสถานะว่าเขาได้ถูกฆ่าตายอีกแล้ว
[ท่านได้เสียชีวิตแล้ว!! โปรดรอเวลานับถอยหลังเพื่อกลับไปเกิดยังจุดเซฟล่าสุด…]
‘โหดร้ายเกินไปแล้ว!! คนพวกนี้ชุบชีวิตอัศวินคนนั้นเพื่อฆ่าซ้ำให้ตายเรื่อยๆเพื่อที่จะปล้นของ ทำแบบนี้มันโหดร้ายเกินไปแล้ว เหตุใดระบบถึงไม่ปกป้องผู้เล่นคนนั้นบ้างล่ะ!’ กริดเฮมเมอร์สงสัยได้อย่างถูกต้อง
เกม The Era Online มีระบบป้องกันผู้เล่นไม่ให้ถูกชุบชีวิตขึ้นมาฆ่าซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างนี้อยู่แล้ว แต่ใครเหล่าจะรู้ว่าคนอย่างเรย์จะเป็นผู้เล่นที่เห็นอะไรก็กด {ตกลง} ลูกเดียวแบบนี้ เรย์ไม่สนใจคำเตือนที่ระบบแจ้งว่ามีการชุบชีวิตเลยสักครั้ง
พลาดครั้งแรกอาจพอให้อภัยได้ด้วยความไม่รู้ แต่การพลาดหนที่สองที่สาม มันเกินไปแล้วผู้เล่นคนนี้เป็น ‘Player Skipped’ หรือยังไง ที่เห็น ปุ่ม {Yes/No} {ตกลง/ยกเลิก} จะต้องตอบตกลงเสียร่ำไปขนาดนี้
กว่าที่อัศวินเรย์จะรู้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับตน บัดนี้เขาก็ฟื้นจากความตายและเกิดใหม่วนเวียนตายเกิดเกือบจะเป็นรอบที่ 5 แล้ว 5 เลเวลกับไอเท็มที่มีร่วงหล่นจากตัวไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ว่าจะเป็นอาวุธเกรดสีน้ำเงิน ชุดเกราะสายอาชีพนักดาบ ไอเท็มหินแร่ต่างๆ ทั้งหมดถูกจอมโจรคู่รักเก็บจนสะอาดเกลี้ยง
ไม่อยากคิดสภาพเลยจริงๆว่าเรย์ที่กลับไปเกิดที่สุสานจะมีสภาพอย่างไร ไม่สิในชีวิตจริงชายผู้นี้จะระเบิดลงหนักขนาดไหน ไอเท็มที่ดรอปตอนตายราคาไม่ใช่น้อยๆเลย แค่คิดกริดเฮมเมอร์ก็น้ำตาไหลพรากแทนแล้ว ถึงแม้อีกฝั่งจะเป็นศัตรูแต่ก็ไม่มีใครที่สมควรถูกกระทำป่าเถื่อนขนาดนี้
‘ไร้ความปราณี’
ไม่มีคำนิยามไหนที่กริดเฮมเมอร์จะมอบให้กับกลุ่มคนพวกนี้อีกแล้ว แม้มันจะเป็นแผนที่รู้กันเพียงสองคนกับเจสเปอร์และไอรีน ถึงกระนั้นอามมี่ สลิป ลูอิสและทวิสเต็ดก็ถูกลากโยงเข้ามาผสมโรงด้วยโดยไม่อาจหลีกเหลี่ยงได้
“พอแล้ว!!เธอกะจะเอาให้หมอนี้หมดตัวเลยหรือยังไง?” เจสเปอร์ร้องห้ามไอรีนนักบุญหญิงที่ซ่อนตัวอยู่ในป่ามืดขึ้นมา เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะร่ายสกิลชุบชีวิตบทเดิมเป็นรอบที่ 6
“ไม่ใช่นายหรอกหรอที่ฆ่าเรย์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าน่ะ!”
“เธอนั่นแหละ!!ฉันฆ่าหมอนี้เพราะเธอชุบขึ้นมายังไงล่ะ ฉันต้องมารับสถานะฆาตกรหัวแดงแบบนี้ก็เพราะไม่อยากให้เธอต้องแปดเปื้อนเฉยๆหรอก”
ทั้งสองเถียงกันไปมา หยอกล้อใส่กันด้วยรอยยิ้มหลังจากที่ทรมานผู้เล่นคนหนึ่งให้หมดตัว เพื่อนของพวกเขาได้เห็นการกระทำของทั้งคู่เช่นนี้ ก็ได้แต่วางเฉย พยักหน้าให้กันเป็นอันเข้าใจ ส่วนมากกว่านี้เอาเป็นว่าพวกเขาไม่มีอะไรจะบรรยายอีก “. . .” และช่องว่างที่เว้นว่างนี้ไว้ ใครอยากจะเติมอะไรก็ลงไปก็สุดแล้วแต่จะพิจารณาก็แล้วกัน
“นายคงเป็นผู้เล่นกิลด์ Red Shadows สิน่ะ??!!” ในที่สุดชะตากรรมที่กริดเฮมเมอร์สวดมนต์ไม่อยากให้มาถึงก็มาเคาะประตูเรียกจนได้ เจสเปอร์และไอรีนกลับมาร่วมกลุ่มกับเพื่อนของเขาก่อนที่จะหันมาหาผู้เล่นแปลกหน้าที่พวกเขาช่วยเอาไว้
“ใช่...ฉันชื่อกริดเฮมเมอร์จากกิลด์Red Shadows” กริดเฮมเมอร์ทำใจดีสู้เสือตอบกลับไปอย่างห้าวหาญแต่น้ำเสียงไม่ได้แฝงความหยิ่งยโสที่กิลด์ชั้นนำมักใช้กันออกมา
เจสเปอร์พยายามกลั้นเสียงหัวเราะของเขาเอาไว้ เพราะตลอดเวลาที่เขาได้ยินชื่อกิลด์ Red Shadows ตัวเขามักจะได้ยินคนพูดถึง ชายผู้แข็งแกร่งอย่างกริดเฮมเมอร์ คนสนิทของกุหลาบแดงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะด้วยความแข็งแกร่ง หัวใจที่ทระนงองอาจ ไม่เกรงกลัวใครหน้าไหน ทว่าเจสเปอร์คงเป็นคนแรกเสียละมั้งที่ทำให้ชายหัวใจเพชรอย่างกริดเฮมเมอร์เกรงกลัวได้ ไม่ใช่เพราะความสามารถที่เหนือล้ำแต่คงเป็นความไร้ยางอายที่เขาทำกับผู้เล่นกิลด์ Blood Commander ก็เป็นได้
“เอิ่ม...กริดเฮมเมอร์ได้ยินชื่อเสียงมานาน วันนี้รู้สึกเป็นเกียรติจริงๆที่ได้พบ” เจสเปอร์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้เพื่อสำรวจอุปกรณ์ทั้งตัวของกริดเฮมเมอร์อย่างละเอียด ซึ่งคลับคล้ายคลับคลาว่าชุดเกราะและอาวุธทั้งหมดของกริดเฮมเมอร์จะเป็นเซ็ตอุปกรณ์ที่ซื้อมาจากร้านค้าสมาคมของเขา
‘Red Shadows อาการหนักมากแล้วจริงๆ! ขนาดผู้เล่นระดับแกนนำอย่างกริดเฮมเมอร์ ยังสวมได้แค่ชุดเซ็ตทั่วไปแบบนี้ ไม่อยากคิดสภาพเลยว่าสมาชิกหลักของกิลด์จะเป็นเช่นไร??!!’
ถึงชุดเซ็ตที่เจสเปอร์นำมาวางขายจะไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหล่ แต่มันก็ไม่อาจเทียบเท่ากับอาวุธหรือชุดเกราะที่ดรอปจากบอสในดันเจี้ยนได้เสมอไป ซึ่งถ้าหากเทียบกับจำนวนคนของกิลด์ Red Shadows ที่มี พวกเขาน่าจะตั้งปารตี้ไปลุยดันเจี้ยนระดับยากเพื่อหาไอเท็มดีมาสวมใส่ได้อย่างสบายๆ ดูจาลักษณะที่เกิดขึ้นแล้ว พวกเขาน่าจะนำไอเท็มดีๆได้รับมาไปขายแลกเปลี่ยนเป็นเครดิตเพื่อเอาเงินมาจ่ายค่าชดเชยให้กับพวก ผู้อาวุโสปลิงดูดเลือดที่ออกไปเป็นแน่
เจสเปอร์ได้เห็นก็ยิ่งหดหู่แต่จะให้เขาปล่อยกริดเฮมเมอร์ไปเฉยๆเพราะเวทนา ก็ดูจะไม่ให้เกียรติชายหัวใจเพชรคนนี้มากจนเกินไป ศักดิ์ศรีของลูกผู้ชาย ถ้าไม่ได้แค้นเคืองอะไรต่อกันทางที่ดีอย่าก้าวข้ามจะดีที่สุด ในเมื่อ Red Shadowsไม่เคยทำอะไรให้กิลด์ของเขาต้องลำบากงั้นเขาก็ไม่ควรที่จะไปสร้างศัตรูเพิ่ม ดีไม่ดีในวันหน้ากิลด์ Rising Sun ของเขาอาจได้มีพันธมิตรที่ชื่อ Red Shadows ก็เป็นได้
แต่นั้นก็เป็นเรื่องในอนาคตที่ไม่แน่นอน ส่วนปัจจุบันนี้เขาจอจัดการปัญหาตรงหน้าก่อนก็แล้วกัน
“นายเองก็คงรู้ใช่ไหมว่าพวกเราเป็นกลุ่มโจรปล้นผู้เล่น...เห็นแก่ที่กิลด์ของนายไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับเรามาก่อนงั้นเอายังงี้! พวกฉันจะไม่ฆ่านายแต่ต้องแลกกับอุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่ทุกชิ้นให้กับพวกเราตกลงไหม!!”
[อามมี่: ทุกชิ้น!! เจส!!นายอยากดูคนแก้ผ้ากลางป่าหรือไงกัน แถมชุดที่หมอนั้นสวมใส่ก็เป็นชุดเกราะที่มาจากร้านของเราไม่ใช่หรือไง??’]
[ลูอิส: ใจเย็นอามมี่ รอดูเจสจัดการเถอะนายก็รู้ความคิดของเขา ไม่ใช่เรื่องที่คนปกติทั่วไปอย่างเราจะเข้าใจได้ง่ายๆ]
‘คนปกติทั่วไป’นี้มันจงใจจิกกัดหัวหน้าของตัวเองโดยตรงเลยไม่ใช่หรือไง โชคยังดีที่ข้อความจากลูอิสส่งเข้ามา ถูกสลิปสแปมข้อความเข้ามารั่วๆช่วยดันประโยคจิกกัดที่ว่านี้ให้มันเลื่อนหายจมไป
...โปรดติดตามตอนต่อไป...
แจ้งล่วงหน้าตั้งแต่ 150 เป็นต้นไป จะมีการปรับอัตราการเก็บเหรียญน่ะครับ เป็น(*เก็บ2ตอน ฟรี2ตอน*)
และจะคงอยู่แบบนี้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
เข้าไปร่วมพูดคุยกับไรท์หรือสมาชิกนักอ่านคนอื่นๆได้ที่แฟนเพจตามลิงค์ด้านล่างเลยนะครับ
www.facebook.com/writelazy
