ตอนที่แล้วบทที่ 54 ถูกช่วยเหลือ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 56 เซียนพลังจิต

บทที่ 55 กลับทวีปอรุณเบิกฟ้า


บทที่ 55 กลับทวีปอรุณเบิกฟ้า

“ข้าคิดว่าสิ่งนี้จะช่วยเจ้าได้เยอะ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้ใช้มายาที่หาได้ยาก นิกายจึงมิอาจขาดเจ้าได้!”

ผู้นำนิกายกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น ซึ่งพบเห็นได้ยากมาก

“ขอบคุณท่านผู้นำนิกายมาก ศิษย์ต้องไปแล้ว ขอให้ท่านผู้นำนิกายรักษาตัวด้วย!”

กุนไท่กล่าวขอบคุณพลางโค้งคำนับ ก่อนจะออกจากตำหนักลอยไป การเดินทางในครั้งนี้ เขาต้องออกเดินทางด้วยตนเอง แต่ก่อนที่จะไปเขาได้เปลี่ยนชุดเพื่อปลอมตัว ตอนนี้เผ่าโลหิตอสูรต้องการสังหารเขา ทำให้ไม่สามารถทำตัวเป็นจุดเด่นได้!

ชายหนุ่มได้มาถึงสมาคมพ่อค้า เพื่อขอติดขบวนเดินทางไปทวีปอรุณเบิกฟ้าด้วย และทำให้ไม่เป็นที่ดึงดูดความสนใจ เพราะมันเป็นแค่ขบวนเดินทางของกลุ่มพ่อค้าธรรมดาทั่วไปเท่านั้น

กุนไท่ได้มาถึงอาคารที่สร้างขึ้นจากหินอย่างประณีต มันแกะสลัดด้วยลวดลายต่างๆด้วยความสวยงาม ชายหนุ่มเดินเขาไปข้างใน แล้วเห็นหญิงสาวผู้หนึ่งในอาภรณ์ที่เรียบหรูกำลังยืนอยู่ตรงที่ซึ่งคนจะมาสอบถามในเรื่องต่างๆ

กุนไท่ในชุดคลุมสีม่วง เดินตรงไปหานางด้วยย่างก้าวที่หนักแน่น

“แม่นาง ข้าอยากทราบว่า หากข้าอยากเดินทางไปกับกลุ่มพ่อค้า ข้าต้องทำสิ่งใดบ้าง?”

“ไม่ทราบว่าท่านต้องการไปที่ใด กลุ่มพ่อค้าในสมาคมนั้นมีมากมาย และแต่ละกลุ่มนั้นจะเดินทางไปในทางที่แตกต่างกัน!”

หญิงสาวที่มีใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม หันมาตอบกลับกับชายหนุ่มด้วยความสุภาพ

“ข้าต้องการไปทวีปอรุณเบิกฟ้า!”

กุนไท่ตอบกลับไปอย่างไม่ลังเล หญิงสาวที่ได้ยินเช่นนั้น จึงเริ่มเปิดตำราที่บันทึกชื่อพ่อค้าต่างๆไว้ แล้วกวาดสายตาดูอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองชายหนุ่ม พร้อมกับกล่าวขึ้นมาว่า

“ท่านต้องไปกับกลุ่มพ่อค้าอู๋ โปรดตามข้ามา!”

หญิงสาวเดินนำไป ขณะพาไปที่กลุ่มคนที่สวมใส่อาภรณ์แบบเดียวกัน พวกเขาเป็นทหารคุ้มกันขบวนสินค้า แต่ละคนล้วนมีความเก่งกาจทั้งสิ้น ระดับบ่มเพาะของพวกเขาอย่างต่ำอยู่ในระดับหลอมรวมพลัง

มีบุรุษหนุ่มผู้หนึ่งอายุราวๆสามปี มันสวมอาภรณ์สีขาวสบายตาซึ่งโดดเด่นแตกต่างจากผู้อื่น หญิงสาวที่นำทางกุนไท่นั้น นางเดินตรงไปหาบุรุษหนุ่มผู้นั้นแล้วเอ่ยปากขึ้นมาว่า

“สวัสดีท่านอู๋! ข้าพาลูกค้าที่จะร่วมเดินทางไปกับท่านด้วย!”

บุรุษหนุ่มผู้นั้นพยักหน้า ก่อนจะเหลือบมองไปหากุนไท่ เขามีความรู้สึกว่าชายหนุ่มผู้นี้ไม่ธรรมดา เพราะอาภรณ์ที่สวมใส่ทำมาอย่างประณีต และสามารถบอกได้ว่ามันมีมูลค่าสูง เขารู้สึกสงสัยในฐานะของชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้าของเขาในตอนนี้ แต่เขาก็ถามขึ้นด้วยความสุภาพว่า

“น้องชายไม่ทราบว่าท่านต้องการไปกับเรา?”

“ใช่แล้ว ข้าต้องการไปทวีปอรุณเบิกฟ้า!”

กุนไท่ตอบกลับไป

“ได้เลยน้องชาย ข้าคิดค่าเดินทางไม่แพงหรอก โปรดตามมา!”

บุรุษหนุ่มผู้นั้นกล่าวอย่างเป็นมิตร พร้อมกับพากุนไท่ไปที่ขบวน ระหว่างทางเขาก็ถามที่มาที่ไปของกุนไท่ แต่เขาก็หลีกเลี่ยงบางคำถามเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ปัญหาที่ว่านั้นไม่ใช่แค่เขาเพียงผู้เดียว แต่รวมถึงอีกฝ่ายด้วย!

กุนไท่ได้รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นมีชื่อว่า อู๋เจียงสง เขามาจากตระกูลพ่อค้าเล็กๆ ซึ่งตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษก็ทำแต่การค้าขาย ไม่ได้สนใจการบ่มเพาะหรือการฝึกยุทธ์ พวกเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ต้องการความสงบ ไม่ได้ต้องการพบเจออันตรายอะไรจากการต่อสู้ แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ต้องพบเจอกับอันตรายอยู่ดี เพราะการขนส่งสินค้า หรือการเดินทางก็ต้องพบเจอกับอันตรายอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้พวกเขาถึงได้จ้างผู้คุ้มกันมาช่วยเหลือ ทำให้การเดินทางเป็นไปได้อย่างราบลื่น

พรุ่งนี้ตอนเช้ามืดนั้นจะทำการออกเดินทาง ในคืนนี้กุนไท่จะได้พักภายในสมาคมพ่อค้าไปก่อน กุนไท่หยุดบ่มเพาะเนื่องจากได้ยินเสียงคนมากมายกำลังเดินไปมา เขารู้ได้ทันทีเลยว่ากลุ่มพ่อค้าอู๋กำลังจะออกเดินทางแล้ว!

ขบวนรถของพ่อค้านั้นไม่ได้ใช้สัตว์อสูรในการลากรถ แต่ใช้ม้าธรรมดาแทน เนื่องจากการเลี้ยงสัตว์อสูรพวกนี้นั้น ต้องมีความแข็งแกร่งที่มากกว่าพวกมันถึงจะทำให้พวกมันยอมทำตามคำสั่งได้ รวมถึงยังสิ้นเปลืองเงินทองอีกด้วย แต่ละตัวมีราคาที่สูงมากรวมถึงอาหารที่ต้องหาให้มันอีกด้วย!

กุนไท่นั่งอยู่ในขบวนหนึ่ง พลางมองทัศนียภาพโดยรอบที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วผ่านทางหน้าต่าง แต่สำหรับกุนไท่นั้นเขาสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างชัดเจน อู๋เจียงสงนั้นให้เขาไว้อยู่ขบวนหนึ่งเพื่อเป็นพื้นที่ส่วนตัว พร้อมกับมีผู้คุ้มกันอีกสี่คน พวกเขาแต่ละคนอยู่ในขอบเขตผู้เยี่ยมยุทธ์ ขั้นต่ำถึงขั้นสูง!

การเดินทางในครั้งนี้ต้องใช้เวลาประมาณสองเดือนเพื่อไปถึงทวีปอรุณเบิกฟ้า ซึ่งมากกว่าตอนที่กุนไท่มากับบิดาเป็นอย่างมาก จุดแรกที่ต้องผ่านไปนั้นคือป่าหมอกลึกลับ มันเป็นป่าที่มีหมอกหนาแน่น หมอกพวกนี้นั้นไม่ใช่หมอกที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่ก็ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่ามันขึ้นมาจากอะไร

“ตอนนี้เรามาถึงป่าหมอกลึกลับแล้ว น้องกุน ระวังตัวด้วย!”

อู๋เจียงสงกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เห็นได้ชัดว่าเขารู้จักป่านี้มาอย่างดี

“พี่อู๋ ป่าหมอกลึกลับนั้นมันคืออะไรกันแน่?”

กุนไท่กล่าวถามด้วยความสงสัย แม้เขาจะเคยได้ยินชื่อเสียงของมันก็ตาม แต่กลับไม่ได้รู้อะไรมากนัก

“ข้าผ่านหมอกนี้มาเกือบสิบปีแล้ว การเดินทางแต่ละครั้งนั้นจะต้องมีคนที่ร่วมเดินทางหายไปด้วยสองสามคน และช่วงที่หายไปนั้นจะเป็นช่วงที่หมอกหนาที่สุด ป่าแห่งนี้มีความลับมากมายที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ ในป่านี้สัตว์อสูรมีน้อยมากแต่ทุกตัวนั้นจะเป็นสัตว์อสูรที่มีความสามารถโจมตีทางจิตได้ ซึ่งมันอันตรายเป็นอย่างมาก!”

อู๋เจียงสงกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าที่ซีดขาว เขาหวาดกลัวป่าแห่งนี้มากที่สุดตั้งแต่เดินทางมา!

“เข้าใจแล้ว ข้าจะวังตัวไว้!”

กุนไท่พยักหน้าพลางตอบกลับไป เขามีลางสังหรณ์ว่ามันไม่ใช่ป่าธรรมดา และทันใดนั้นเขาได้ยินเสียงที่แหบแห้งมากดังขึ้นในหัวของเขา มีคนกำลังเรียกหาเขาให้ไปหา!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด