ตอนที่แล้วบทที่ 53 อาวุธคู่กายสายป้องกัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 55 กลับทวีปอรุณเบิกฟ้า

บทที่ 54 ถูกช่วยเหลือ


บทที่ 54 ถูกช่วยเหลือ

ร่างของชายชราแผ่พลังที่ยากจะหยั่งถึงออกมา มันแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าหยางซวนฉีมากมายนัก หยางซวนฉีสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว มันกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

“ท่านคือ ท่านผู้อาวุโสชงจื้อ!”

“ในเมื่อรู้จักข้า แล้วเหตุใดยังไม่ปล่อยตัวสหายน้อยของข้าอีก!”

ชงจื้อกล่าวขึ้นด้วยความโหดเหี้ยม หยางซวนฉีนั้นกลัวจนพูดไม่ออก มันสะบัดมือออกไปทำให้กรงที่ขังกุนไท่นั้นสลายหายไป ชายหนุ่มลอบสงสัยว่าชายชราผู้นี้เป็นใครกัน เหตุใดจึงได้ช่วยเหลือตน แต่เมื่อนึกถึงชายชราผู้มีนามว่า ‘ชงจื้อ’ กับผู้อาวุโสชงหยวน ทั้งสองมีแซ่เดียวกัน เป็นไปได้ไหมว่า พวกเขามีความเกี่ยวข้องกัน?

“สหายน้อยเจ้าคาดเดาได้ถูกต้อง ไม่เสียแรงที่ช่วยเจ้าเอาไว้ เจ้ามีสติปัญญาที่ดี แถมพรสวรรค์ในการบ่มเพาะยอดเยี่ยม มันทำให้ชายชราผู้นี้แปลกใจนัก ข้าเป็นพี่ชายของชงหยวน! น้องชายของข้าได้บอกมาว่า มันไปพบเจอเด็กหนุ่มที่น่าสนใจเข้า มันบอกมาอีกด้วยว่า หากเจ้ามีอันตรายก็ให้ช่วยเหลือเจ้าสักครั้ง ตอนนี้เจ้าปลอดภัยแล้ว สนใจจะไปโรงประมูลกับข้าหรือไม่!”

ชงจื้นกล่าวด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร ซึ่งแตกต่างจากท่าทีก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง

“ขอบคุณสำหรับคำเชิญของผู้อาวุโส! ผู้เยาว์จะไปกับท่านแต่ว่าก่อนที่จะไป ขอให้ข้าได้ร่ำลาสหายของข้าเสียก่อน!” กุนไท่ตอบกลับไปด้วยความเคารพสุภาพ!

“ได้ตามที่เจ้าต้องการ” ชงจื้อตอบกลับไป

กุนไท่หันไปหาเจียวเหม่ย ก่อนจะกล่าวอำลาแล้วจากไปพร้อมกับผู้อาวุโสชงจื้อ เมื่อมาถึงโรงประมูลแล้ว มันเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่โต มีลักษณะเป็นเหมือนโรงเตี๊ยมที่กว้างขวาง มีผู้คนมากมายต่างพูดคุยกันรวมถึงร่ำสุราไปด้วย

ชงจื้อพากุนไท่ไปที่ห้องส่วนตัวห้องหนึ่ง มันสามารถจุคนได้ถึงยี่สิบคน แต่ภายในนั้นกลับมีชายชราคนหนึ่งอยู่ เขาคือผู้อาวุโสชงหยวน!

“ผู้เยาว์คาราวะท่านผู้อาวุโส และขอบคุณท่านมากที่ช่วยเหลือข้า!”

กุนไท่กล่าวทักทายออกไป พร้อมกับหันไปผู้อาวุโสชงจื้อเพื่อขอบคุณ

“ฮา ฮ่าๆๆๆ ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก ข้าต่างหากที่ต้องขอบคุณเจ้าที่ขายโอสถแก่นชีวาให้กับข้า ส่งผลให้ข้ามีอายุขัยเพิ่มขึ้นอีก 500 ปีแล้ว! นั่งจึงทำให้มีโอกาสอีกครั้งในการทะลวงระดับต่อไปได้ ข้าต้องขอบคุณเจ้าจากใจจริง ข้ามีสิ่งตอบแทนให้เจ้า นี่คือทิพย์รัศมีคราม! สำหรับข้ามันไม่มีประโยชน์อันใด ข้าให้เจ้า!”

ชงจื้อกล่าวพลางโยนลูกกลมๆคล้ายโอสถสองเม็ดให้กุนไท่ เขารับมันมาพร้อมกับสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลภายในนี้ สำหรับเขาในตอนนี้ยังอ่อนแอเกินไปที่จะใช้มัน เขาต้องรอให้ตนเองไปถึงขอบเขตยอดฝีมือเสียก่อนถึงจะใช้ได้อย่างคุ้มค่า ส่วนอีกเม็ดหนึ่งนั้นเขาจะเอาไปให้บิดาของตน!

พิพย์รัศมีครามเกิดจากการแข็งตัวของน้ำค้างบนยอดเขาสูง ซึ่งเต็มไปด้วยพลังปราณธรรมชาติที่อัดแน่นอยู่ภายใน ท่านพ่อจะต้องดีใจอย่างแน่นอน! ในที่สุดข้าก็สามารถช่วยเหลือท่านได้แล้ว กุนไท่ครุ่นคิดในใจอย่างมีความสุขเขากล่าวตอบขอบคุณอีกฝ่ายอย่างซาบซึ้ง

“ไม่ได้เจอกันแค่เกือบ 2 ปี แต่เจ้ากลับสามารถมาถึงระดับหลอมรวมพลังได้แล้ว แถมยังเป็นขั้นกักเก็บพลังอีกด้วย! พรสวรรค์เจ้าน่ากลัวเกินไปแล้ว เจ้าทำให้ชายชราผู้นี้ละอายใจนัก! ฮา ฮ่าๆๆๆ”

ผู้อาวุโสชงหยวนตอบกลับไปพลางหัวเราะ เขารู้สึกว่าการมีกุนไท่เป็นน้องชายก็ไม่เลวนัก อีกฝ่ายมีศักยภาพที่ไม่ธรรมดา เมื่อเติบใหญ่ขึ้นเขาจะสามารถพึ่งพาอีกฝ่ายได้!

“ข้าว่าเราอย่าพึ่งรบกวนสหายน้อยกุนไท่เลย พึ่งต่อสู้มา แถมยังเจอแรงกดดันที่แข็งแกร่งนั้นอีก เขาคงจะเหนื่อยล้าเต็มที่แล้ว!” ผู้อาวุโสชงจื้อกล่าวขึ้น

“งั้นเจ้าไปพักเถอะ ข้าจะสั่งคนให้จัดเตรียมห้องไว้ให้เจ้า!”

ผู้อาวุโสชงหยวนตอบกลับไป ก่อนจะสั่งคนให้ไปจัดการเรื่องนี้ กุนไท่ได้มาพักในห้องที่เรียบง่าย แต่กลับน่าอยู่เป็นอย่างมาก เพราะเป็นห้องที่สร้างขึ้นมาอย่างดี แม้มันจะไม่ได้กว้างขวางใหญ่โต แต่มันกลับให้ความรู้สึกว่าผู้ที่จะมาพักห้องนี้ได้นั้น ต้องเป็นผู้ที่มีความสำคัญสำหรับโรงประมูลแห่งนี้!

กุนไท่นั่งฟื้นฟูพลังปราณจนกลับมาเต็มอีกครั้ง แล้วตัดสินใจว่าจะกลับไปโลกแห่งความจริง! เพื่อจะเอาโอสถนี้ไปให้บิดาของตน แต่ก่อนที่จะไปนั้น เขาจำได้ว่าตนเองยังไม่ได้รางวัลจากงานชิงสมบัติ ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าจะได้รับสิ่งใดเป็นรางวัล!

ณ โลกแห่งความจริง

กุนไท่ตื่นขึ้นมาจากการนอนหลับ ก่อนจะออกจากที่พำนับ แล้วจึงตรงไปยังหอคอยสูงเสียดฟ้า เพื่อไปดูอาการอาจารย์ของตนเองด้วยความห่วงใย เมื่อเห็นอาจารย์ของตนหายดีแล้ว เขาจึงกล่าวลาเพื่อกลับไปยังทวีปอรุณเบิกฟ้า ไปเยี่ยมเยียนบิดาของตน

ก่อนหน้านั้น เขาจะไปหาผู้นำนิกายเสียก่อน ภายในตำหนักผู้นำนิกาย กุนไท่เดินขึ้นบนบันได พลังปราณที่สร้างขึ้นมาจากตำหนัก ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกว่ามันช่างลึกลับยิ่ง และมันน่าอัศจรรย์ใจมากที่ได้เห็นสิ่งวิเศษเช่นนี้!

เบื้องหน้าตำหนักมีหินผ่านเสียงก้อนหนึ่ง มันเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก มันสามารถใช้เสียงของเราส่งไปที่หินอีกก้อนหนึ่งได้ แต่ระยะทางของมันไม่ไกลมากนักได้แค่ระยะใกล้เท่านั้น

“ศิษย์กุนไท่มาหาท่านผู้นำนิกาย!” กุนไท่ส่งเสียงผ่านหินก้อนนั้นไป

เมื่อสิ้นเสียงแล้ว หินก้อนนั้นเปล่งแสงสีขาวออกมาคราหนึ่ง ผ่านไปเพียงชั่วครูก็มีเสียงของผู้นำนิกายดังขึ้นมาว่า “เข้ามาได้!”

กุนไท่เดินผ่านประตูที่เปิดออกด้วยตนเองหลังจากที่สิ้นเสียงของผู้นำนิกาย เขากวาดสายตาไปโดยรอบเพื่อสำรวจพื้นที่ ภายในตำหนักไม่ได้ตกแต่งโอ่อ่าหรูหราอย่างที่คิด มันกลับดูเรียบง่ายแตกต่างจากตำหนักของผู้นำขุมกำลังต่างๆมากมายนัก แต่กุนไท่สัมผัสได้อย่างเลือนราง

มันมีค่ายกลที่แข็งแกร่งมากมายซุกซ่อนอยู่ หากมีผู้ที่คิดจะทำสิ่งใดที่ฝ่าฝืนกับกฎของค่ายกลนั้น มันจะทำงานทันที!

กุนไท่เดินมาถึงห้องโถงกว้าง มันมีแจกันและมีเก้าอี้แค่ไม่กี่ตัววางเอาไว้เท่านั้น ภาพวาดโบราณหายากมากมายถูกแขวนประดับบนผนังอย่างสวยงาม เขามองเห็นชายวัยกลางคนในอาภรณ์สีทองปักลายมังกรขดหลายตัว ชายผู้นี้ให้ความรู้สึกได้ถึงอำนาจที่ยิ่งใหญ่จากอีกฝ่าย เพียงสบตาก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ถาโถมเข้ามาแล้ว

“คาราวะท่านผู้นำนิกาย!”

“ไม่ต้องมากพิธีหรอก มานั่งก่อนเถอะ!”

ผู้นำนิกายผายมือเชิญให้นั่งลง กุนไท่นั่งลงในตำแหน่งที่เหมาะสม ก่อนจะกล่าวถามขึ้นมาว่า

“ศิษย์อยากทราบว่า การประลองของศิษย์กับศิษย์หลักนั้นคงต้องขอยกเลิกได้หรือไม่? เนื่องจากศิษย์มีเรื่องที่ต้องจัดการ วันพรุ่งนี้ศิษย์จะกลับไปที่ทวีปอรุณเบิกฟ้าแล้ว!”

“เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เจ้าไม่ต้องห่วงหรอกข้าจะจัดการให้ ส่วนเรื่องรางวัลที่เจ้าได้ จงรับไว้ซะ!”

ผู้นำนิกายโบกมือปรากฏกล่องมรกตสีเขียวขึ้น มันมีทรงกลมแบน ขนาดของมันเพียงแค่สองฝ่ามือเท่านั้น

กุนไท่รับมันมาก่อนจะเปิดออก พร้อมกับมีกลิ่นหอมโชยที่ฟุ้งกระจายไปทั่ว กุนไท่รู้สึกพลังจิตในห้วงแห่งจิตไหลเวียนได้ดีขึ้น เพราะมันเป็นของที่สามารถช่วยเพิ่มพลังให้กับพลังจิตได้!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด