ตอนที่แล้วบทที่ 104: ตุ๊กตาเหล็กฝ่าป้อมปราการ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 106 : ลาก่อนมัคฮู เรดด์

บทที่ 105 : ส่งกองทัพไปอีกครั้ง


[การโจมตี: ต่อสู้กับป้อมปราการทางทหารของอาณาจักรเหล็ก]

[ระดับความยาก: A-]

[อัตราสำเร็จของภารกิจ: 95%]

[ความคิดเห็น: คุณชนะการต่อสู้ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ได้มีการสูญเสียไปมากนัก ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จในการยั่วยุอาณาจักร ขอชื่นชมความพยายามของคุณ!]

[รางวัล: ค่าประสบการณ์ 95000 หน่วย]

[รางวัล: คริสตัลดันเจี้ยนป้อมปราการทหาร]

วิลเลียมถือคริสตัลไว้ในมือ เขาไม่คาดคิดว่าภารกิจนี้จะตอบแทนเขาด้วยคริสตัล

“ลองคิดดูสิ แม้ว่าความยากของภารกิจคือ A- แต่ดูเหมือนว่าการจัดอันดับนี้มุ่งเป้าไปที่ผู้เล่น สำหรับพวกผู้เล่นแล้วภารกิจ A- ยากพอๆ กับภารกิจเรื่องย่อยเลยด้วยซ้ำ”

“อาณาจักรเหล็กใช้กองกำลังทหารเพื่อปกป้องป้อมปราการทางทหาร หากผู้เล่นในระดับเดียวกันลองทำภารกิจนี้จะต้องใช้ทหารอย่างน้อยสามหรือสี่หรือห้าเท่าของจำนวนทหารในการโค่นป้อมปราการทหารนี้”

“ที่ฉันได้รับชัยชนะอย่างง่ายดายเพราะผู้ประดิษฐ์ไม่เคยปฏิบัติกับฉันในฐานะ NPC เลย”

วิลเลียมยิ้มและถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาเก็บคริสตัลไว้ในวงแหวนมิติของเขา

ด้วยคริสตัลดันเจี้ยนอันนี้ผู้เล่นจะสามารถรับอุปกรณ์จากดันเจี้ยนได้ หากไม่มีอะไรผิดพลาด ดันเจี้ยนนี้จะได้รับความนิยมมากกว่าดันเจี้ยนในหุบเขาหมอกเป็นแน่

อัตราการระเบิดของอาวุธในดันเจี้ยนสงครามเช่นนี้นั้นสูงมาก มันเป็นแรงดึงดูดที่ดีสำหรับผู้เล่น

นอกจากนี้หลังจากผู้เล่นเข้าสู่ดันเจี้ยนแล้วพวกเขาจะมีโอกาสได้ NPC มาร่วมต่อสู้ด้วย ไม่ว่าดันเจี้ยนจะยากแค่ไหนผู้เล่นก็สามารถเปลี่ยน NPC และทำภารกิจได้

แต่ผู้เล่นจะไม่เห็นถึงการสังหารหมู่ของวิลเลียม

หลังจากที่วิลเลียมเข้าประตูเมืองแล้วเขาก็แค่ยืนอยู่ข้างๆและนำทาง NPC เขาจะเฝ้าดูผู้เล่นกลุ่มใหญ่เข้ามาในเมืองและเดินไปสู่ความตาย...

กุญแจสำคัญในการเอาชนะดันเจี้ยนแห่งนี้ คือการกำจัดแบรนต์และมอนสเตอร์ที่อยู่รอบตัวเขา

วิลเลียมเคาะศีรษะเบาๆ นี่ไม่ใช่เวลามาฝันกลางวัน เขาใช้ค่าประสบการณ์ทั้งหมดในการเลื่อนระดับตัวละครของเขา

ชิ้ง

แสงสีขาวสาดส่อง วิลเลียมเลื่อนไปอยู่เลเวลที่ 56 และตอนนี้เขาใกล้ถึงขีดจำกัดของเวอร์ชันแล้ว

ในขณะที่เขาสำรวจเลเวลของตนอยู่นั้น

น็อกซ์ก็วิ่งเข้ามา เสียงของเขาฟังดูไม่แน่ใจนัก “ท่านลอร์ดครับ โทรลยังมีชีวิตอยู่!”

“ตุ๊กตาเหล็กนั่นยังมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ?” วิลเลียมรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เขาวิ่งไปที่ประตูเมืองและพบว่าโทรลยืนอยู่อย่างงง ๆ ร่างกายของเขาซวนเซไปมา ราวกับว่าโลกทั้งใบกลับหัวกลับหางและเขาไม่สามารถแยกแยะทิศทางได้

แต่รูปร่างของหมวกที่เขาสวมนั้นบิดเบี้ยว ...

วิลเลียมไม่คาดคิดว่าหัวของเขาจะแข็งขนาดนี้ เขาเดินไปรอบๆ โทรล แล้วชื่นชมเขาและพยักหน้าเห็นด้วย “ไม่เลวเลย ไม่เลว เราเพิ่งได้รับข่าวเมื่อครู่นี้ คิดว่าเจ้าตายไปแล้วซะอีก เราไม่ได้คาดคิดเลยว่าผลกระทบคือแค่สร้างเสียหายกับเจ้า แต่มันก็ค่อนข้างสาหัสเอาเรื่องอยู่ทีเดียว”

แน่นอนว่าเขาไม่ต้องการให้ตุ๊กตาเหล็กของเขาเป็นของใช้ครั้งเดียว มันจะดีที่สุดถ้าเขาสามารถใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง หมวกระดับอีปิคที่เสียไปจึงจะคุ้มค่ากว่า

ท้ายที่สุดแล้วในการต่อสู้แบบนี้อุปกรณ์ระดับสูงก็เปรียบได้กับปัจจัยรอง

วิลเลียมออกคำสั่ง “น็อกซ์ไปหาคนมาพาเขากลับไป ขอให้บาทหลวง… โอ้ไม่ๆ ขอให้นักเวทย์ช่วยรักษาบาดแผลและให้ยาแก่เขาด้วย”

บาทหลวงกล้ามปูนั่นไม่สามารถรักษาบาดแผลของโทรลล์ได้อย่างแน่นอน

แสงศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขามีแต่จะทำให้บาดแผลของโทรลล์แย่ลงไปอีก ...

“ข้าให้พวกเขาออกไปแล้ว!” ลอทเนอร์วิ่งเหยาะๆมาและรีบพูดว่า "มีทาสที่ถูกทิ้งเอาไว้ 60,000 คน ในโกดังมีธัญพืช 600,000 กิโลกรัม แล้วยังมีชุดเกราะชั้นเยี่ยม (สีน้ำเงิน) 3000 ชุด ลูกธนู 100,000 ดอก สัมฤทธิ์อย่างน้อย 200,000 กิโลกรัมและหิน 800,000 กิโลกรัม "

"แล้วยังมีหน้าไม้ยักษ์อีกสิบอันบนกำแพงและอีกสิบอันที่ทางเข้าโกดัง พวกเขาอาจไม่มีเวลามากพอที่จะย้ายพวกมันไปที่กำแพงเมืองก่อนที่เราจะบุกโจมตี"

ลอทเนอร์หยุดไปชั่วครู่ ก่อนความกลัวที่แฝงอยู่จะปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา “ท่านต้องคาดไม่ถึงแน่ว่ามีเครื่องยิงกระสุนกว่า 30 อันในโกดังที่ยังไม่ได้ติดตั้ง ถ้าศัตรูรู้เกี่ยวกับการโจมตีของเราก่อนและรวบรวมเครื่องยิงกระสุนเกือบทั้งหมด 100 อัน การต่อสู้ครั้งนี้จะต้องเสียหายมากกว่านี้เป็นแน่!”

วิลเลียมบีบกำปั้นของเขาอย่างมีความสุขผลกำไรจากการต่อสู้อาจทำให้เขาร่ำรวยได้เลยด้วยซ้ำ

แต่เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างเงียบๆ โชคดีที่เขามีความสามารถในการมองค่าสถานะหากเขาไม่ได้ใช้มันเพื่อจดจำสายลับในทันทีแล้วจับพวกมันทั้งหมดในเวลาเดียวกันผลที่ตามมาก็คงคิดไม่ถึง

ทุกคนรู้ดีว่ากระสุนปืนในป้อมปราการทหารไม่ได้มีไว้ป้องกันผู้บุกรุกเท่านั้น แต่เดิมมันมีไว้เพื่อใช้กับเมืองแห่งรุ่งอรุณต่างหาก อาณาจักรเหล็กมีความทะเยอทะยานมากจริงๆ

แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ

วิลเลียมชอบการต่อสู้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆแบบนี้ เขาไม่สามารถรับความเสียหายหนัก ๆ ได้เนื่องจากการสูญเสียจะทำลายกองทหาร และการสูญเสียกองทหารจะเป็นหายนะมากกว่าการที่อาณาจักรเหล็กสูญเสียทัพทั้งสามเนื่องจากเสบียงทางทหารของเขามีค่ามาก ...

"แล้วเราเสียอะไรไปบ้าง?" วิลเลียมเห็นว่ามีคนจำนวนมากถูกโจมตีด้วยหน้าไม้หนัก โล่พลังงานการต่อสู้ไม่สามารถสกัดกั้นธนูระเบิดได้

แม้ว่าเหล่าทหารชั้นยอดจะสวมชุดเกราะสีเงินและใส่โล่ แต่ลูกศรก็ยังแทงทะลุพวกมันได้อย่างง่ายดายราวกับว่ามันแทงทะลุมันเทศ

"ทหาร 117 นาย ถูกสังหารด้วยหน้าไม้หนัก และอีก 389 คน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยไม่มีอาการบาดเจ็บรุนแรง" ลอทเนอร์ถอนหายใจตราบใดที่ยังมีการต่อสู้ผู้คนก็จะตาย

มันเป็นเรื่องยากที่จะมีการสูญเสียเพียงเล็กน้อย

หากพวกเขาไม่มีตุ๊กตาเหล็ก

หากพวกเขาไม่มีพลังต่อสู้สูงพอที่จะปกป้องตุ๊กตาเหล็กได้อย่างมากพอ

หากวิลเลียมไม่วิ่งออกไปทุบประตูเมือง

กล่าวคือ

หากไม่มีสิ่งเหล่านี้ การสูญเสียของพวกเขาจะมากกว่าปัจจุบันถึงเจ็ดแปดเท่า

วิลเลียมพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง “บอกให้ผู้บัญชาการที่เหลือรู้ และแจ้งเจ้าหน้าที่ทุกคนที่มีตำแหน่งหัวหน้าขึ้นไป”

"ครับ" ลอทเนอร์รับคำสั่งและแจ้งคนที่เหลือทันที

หลังจากนั้นไม่นาน

ผู้ช่วยผู้บัญชาการสามคนก็นำทหาร 1500 นายไปหาวิลเลียม

ไม่จำเป็นต้องพูดก็รู้ดีว่า ทั้ง 1,500 คนเหล่านี้เป็นตัวหลักของทั้งสามกองทัพ!

พวกเขาส่วนใหญ่มีสายเลือดระดับสูงมีเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้นที่มีสายเลือดระดับมาสเตอร์ สำหรับผู้เล่นพวกเขาทั้งหมดถือได้ว่าเป็น NPC ระดับบอส

อย่างไรก็ตามประชากรของเอลฟ์มีจำนวนน้อย ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ศักยภาพทางสายเลือดของพวกเขาก็สูงตามธรรมชาติ

หากไม่เป็นเช่นนั้นพวกเขาก็ไม่มีความสามารถที่จะเอาชนะกองทัพของอาณาจักรมนุษย์ได้อย่างง่ายดาย

นอกจากนี้ในอนาคตคงจะไม่มีกองทัพที่มีบอสมากมายขนาดนี้…

ไม่ว่าจะเป็นเมืองของดยุก, แกรนด์ดัชชี, อาณาจักรหรือจักรวรรดิ พวกเขาล้วนมีกองกำลังที่มีบอสมากมาย กองกำลังเหล่านี้เรียกอีกอย่างว่ากองกำลังประหารชีพ

วิลเลียมได้ตัดสินใจเลือกเป้าหมายต่อไปของเขาแล้ว นั่นคือการเข้าไปในภูเขาหิมะแห่งทะเลตะวันออก ด้วยเหตุนี้เขาอาจต้องเผชิญหน้ากับกองทหารชั้นยอดจากอาณาจักรเหล็กและแม้แต่กลุ่มที่อยู่ภายใต้คำสั่งมังกรยักษ์

ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะนำกองกำลังที่มีกำลังรบสูงร่วมกับเขาเพื่อปฏิบัติการล่ามังกร แน่นอนว่าจะมีกองทหารอื่น ๆ ด้วย พวกเขามีบทบาทอื่น ๆ ที่ต้องทำเช่นกัน

เขามองไปที่ผู้บัญชาการของกองทัพไนท์และกองทัพมูนไลท์

"เลโกลัสและอัลเบิร์ต พวกท่านจะต้องนำทหาร 1,500 นายและผู้ใต้บังคับบัญชาของฉันไปตามเส้นทางเส้นนี้และมุ่งหน้าไปยังภูเขาหิมะแห่งทะเลตะวันออก"

"กองทหารที่เหลือจะเป็นส่วนของลอทเนอร์ เขาจะนำคนที่เหลืออีก 4000 คนไปที่ท่าเรือทะเลใต้!"

“สำหรับท่าน คริสเตียน ท่านต้องดูแลทัพแห่งความกล้า และปกป้องป้อมทหารแห่งนี้ งานของท่านคือต้องป้องกันไม่ให้อาณาจักรเหล็กเอาคืนไปได้!”

วิลเลียมยังไม่จบเพียงเท่านั้น เขากล่าวต่อ “เอริคกับอเล็กซ์ตามเราไปที่ภูเขาหิมะฝั่งทะเลตะวันออก”

"ครับท่านลอร์ด" ทุกคนพูดพร้อมเพรียงกันด้วยเสียงทุ้มต่ำ พวกเขายืนตัวตรงและตบหน้าอกด้วยมือขวาในขณะที่พูดจบ

“ถ้าอย่างนั้นตรวจดูธัญพืชและน้ำของพวกท่านซะ เราจะออกเดินทางในทันที” เมื่อวิลเลียมพูดจบทุกคนก็ลงมือทันที

ลอทเนอร์นำกองกำลังที่เหลือจากสองกองทัพออกเดินทางด้วยความเร็วเต็มที่ พวกเขามุ่งตรงไปที่ท่าเรือทางทะเลใต้และขึ้นเรือขนาดใหญ่ตามเส้นทางเดินเรือ

กลายเป็นหน่วยที่ทรงพลังและลึกลับ!

หากทีมประหารของวิลเลียมพบกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด ภารกิจของลอทเนอร์นั้นจะสำคัญมาก!

พวกเขาจะเหนื่อยเกินไปหรือเปล่า?

คุณล้อเล่นหรือเปล่าทุกคนมีพลังในการต่อสู้ ... ร่างกายของพวกเขาอยู่ในสภาพที่ดี

เลโกลัสเป็นเอลฟ์แบล็คลีฟ ในขณะที่อัลเบิร์ตเป็นเอลฟ์มูนไลท์ ทั้งคู่มีสายเลือดระดับอีปิค

แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างวิลเลียมรู้สึกว่าชื่อเลโกลัสฟังดูคุ้นหูมาก…

อาจเป็นไปได้ว่า?

บริษัทที่อยู่เบื้องหลังการผลิต Gods จะละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์อีกรึเปล่านะ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด