ตอนที่แล้วตอนที่ 7 สูญสิ้นตระกูลกู๋
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9 โจรกระจอก

ตอนที่ 8 คัมภีร์พลังหยินหยาง


ตอนที่ 8 คัมภีร์พลังหยินหยาง

เด็กน้อยผู้นี้เป็นเด็กที่ได้ความรักความอบอุ่นจากครอบครัวมาโดยตลอด จู๋ ๆ เขาก็ต้องมาเผชิญกับความพังพินาศ ครอบครัวของเขาถูกฆาตกรรม!  เขารู้สึกกลัวมาก... ในตอนนี้บ้านของเขาทั้งหลังถูกไฟไหม้ พ่อแม่และพี่ชายก็ถูกฆ่า... แล้วใครจะคอยปกป้องเขา!

เขาเคยคิดเอาไว้ว่าจะเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่หลังจากการแต่งงานของพี่สาว แต่ตอนนี้เขาได้ถูกทิ้งให้อยู่และใช้ชีวิตคนเดียวบนโลกอันโหดร้ายและอนาคตอันไม่แน่นอน

หัวใจของชายค่อย ๆ ถูกครอบงำด้วยความโกรธ เขาต้องการตามหาพี่สาวของตนให้เจอ และล้างแค้นให้กับครอบครัว รวมทั้งสังหารศัตรูล้างโคตรเง่าพวกมันให้ตายทั้งตระกูล

เมื่อคิดได้ว่าต้องแก้แค้น เขาก็กลับมาได้สติอีกครั้ง เขาไม่สามารถสังหารศัตรูด้วยมือเปล่าได้ เขาจำเป็นต้องใช้เงินและเครื่องมือบางอย่าง

คฤหาสน์ถูกปล้นและทรัพย์สินส่วนใหญ่ถูกนักฆ่าเหล่านั้นกวาดไปหมด

ที่จริงแล้วชินเหวยไม่ค่อยได้สนใจเรื่องราวเงินทองของตระกูลสักเท่าไหร่ แต่ในตอนนี้เหตุการณ์และรายละเอียดต่าง ๆ ฉายเข้ามาในหัวของเขาค่อนข้างชัดเจนและสามารถจำสถานที่เก็บเล็กลับได้เล็กน้อย

เขาคว้าถุงเงินเล็ก ๆ ที่อยู่ใต้เตียงของพี่ชายคนรองมาได้หนึ่งถุง เมื่อต้องจับหรือผลักร่างของศพในแต่ละครั้ง เขาแทบจะหลั่งน้ำตา...  แล้วน้ำตามันช่วยอะไรได้บ้างหละ? ในตอนที่เขายังเด็กมันอาจช่วยให้เขาได้รับความสนใจและสบายใจ แต่ในตอนนี้มันหมายถึงความอ่อนแอและความอัปยศอดสูเท่านั้น

เส้นทางแห่งการล้างแค้นมันต้องใช้เวลายาวนาน และเขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าศัตรูคือใคร สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือเขาต้องจัดการกับศพของคนในตระกูล

ทุกคนในตระกูลผู้ที่เหลือแต่ร่างไม่มีหัว โครงกระดูกที่ถูกเผาไหม้ดำเป็นตอตะโก เพียงแค่จับมันก็สลายเป็นผุยผงทันที กู๋ชินเหวยอุ้มร่างอันไร้หัวของพี่ชายทั้งสองคนไปนอนข้าง ๆ ของท่านพ่อและท่านแม่อย่างระมัดระวัง

ที่จริงแล้วสถานที่นี้ไม่ควรเรียกว่าห้องเสียด้วยซ้ำ  กำแพงและเครื่องเรือนต่าง ๆ พังพินาศทลายลงมา ศพของผู้คนกระจัดกระจายไปทุกหนทุกแห่งและในไม่ช้าสถานที่นี้จะต้องกลายเป็นหลุมศพเพราะกำแพงที่ทรุดพังจะปกปิดศพทั้งหมด

กู๋ชินเหวยเคยเห็นหมู่บ้านที่มีแต่กระดูกกองเป็นภูเขา มันทำให้รู้สึกเหมือนสถานที่นั้นคือถ้ำของสัตว์เลื้อยคลานอันดุร้ายที่คอยทำร้ายนกและสัตว์ชนิดอื่น ๆ ที่เดินผ่านมา

เขาไม่สามารถปล่อยให้คนในครอบครัวของเขานอนตายอย่างทุกข์ทรมานและโดดเดี่ยวเช่นนี้

ชินเหวยพยายามควบคุมสติของตนเอง เขานั่งคุกเข่าลงกับพื้นและหยิบก้อนอิฐขึ้นมาทุบกระดูกเหล่านั้นให้แหลกละเอียด เขาตีกระดูกเหล่านั้นอย่างแรงเสมือนการทุบหัวศัตรูที่ทำกับครอบครัวของเขาเช่นนี้ เขาไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่าตอนนี้ใบหน้าของตนเต็มไปด้วยน้ำตา

"นี่มันไม่ยุติธรรม!"

ชินเหวยตะโกนอย่างขมขื่นพร้อมโยนขี้เถ้าให้กระจายขึ้นไปในอากาศ มันไม่ยุติธรรมที่ตระกูลกู๋จะต้องประสบชะตากรรมเช่นนี้ ถึงแม้ว่าท่านพ่อจะเป็นนายพลที่มีวิชากังฟูอันเก่งกาจ แต่เขาไม่เคยขัดแย้งกับใครในพระราชสำนักเลยแม้แต่ครั้งเดียว เขามักจะอดทนทุกครั้งที่มีปัญหาและไม่โต้แย้งใคร

"หรือว่าท่านพ่ออาจมีศัตรูในคราบมิตร ทว่าตระกูลกู๋ของเราก็ได้ย้ายมาไกลหลายพันไมล์ถึงภาคตะวันตก ความเกลียดชังของคนพวกนั้นไม่ลดลงเลยหรือถึงได้ตามมาฆ่าไกลถึงเพียงนี้"

ชินเหวยไม่เขาใจสาเหตุของเหตการณ์นี้เลย เขาเอาแต่โทษพระเจ้าที่แสนใจร้าย เขาโยนอิฐไปบนอากาศด้วยความโกรธและเกลียดชัง

ดูเหมือนว่าพระเจ้าจะยังใจร้ายกับชินเหวยไม่พอ และต้องการจะเยาะเย้ยตระกูลกู๋อย่างโหดร้าย อิฐลอยไปเพียงไม่กี่ฟุตและตกลงไปนอกประตู มันลอยไปโดนกระถางต้นไม้ด้านนอก

กระถางสีดำที่ปลูกต้นทับทิมได้แตกสลายเพราะถูกไฟไหม้อย่างรุนแรงจนแตกออกเสียงดัง

ชินเหวยเหนื่อยล้าจนหมดแรงแล้ว หลังจากใช้แรงสุดท้ายปาอิฐก้อนนั้น เขาก็ล้มลงกับพื้นโดยไม่ได้ตั้งใจ มือทั้งสองข้างอ่อนแรงและหายใจหอบไม่มีแรงพอที่จะสาปแช่งใครเสียด้วยซ้ำ

อีกครู่ต่อมาพระเจ้าทำให้เขารู้ว่าความโหดร้ายทั้งหมดกลายเป็นความน่าพิศวง เมื่อนอนราบไปกับพื้นอยู่สักพักก็ทำให้เขานึกอะไรบางอย่างออก เขามองไปยังดินในกระถางต้นไม้ที่แตก

จากนั้นเขาก็วิ่งไปหากระถางใบนั้นเหมือนคนบ้าและใช้มือขุดดินที่ไหม้เกรียมออกไปแล้วโยนรากของต้นไม้ทิ้งไปเช่นกัน เขาขุดเพื่อหยิบซองผ้าเนื้อน้ำมันขนาดเล็กออกมาจากก้นกระถาง แล้วคลำมันเล็กน้อยเพื่อให้แน่ใจว่าในซองนั้นยังมีหนังสืออยู่ข้างใน เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกและกอดมันเอาไว้แน่นภายในอ้อมแขน แล้วเอามันไปซ่อนไว้หลังกล่องเหล็กสีเงินขนาดเล็ก

เขาก็จำเหตุการณ์บางอย่างขึ้นมาได้... ซึ่งเหตุการณ์นั้นเป็นเหตุการณ์ที่เขาพบเห็นโดยบังเอิญตอนที่ย้ายมาอยู่ยังภาคตะวันตกใหม่ ๆ  ตอนนั้นเขาเห็นท่านพ่อหรือกู๋หลุนได้แอบเอาบางอย่างซ่อนเอาไว้ในกระถางต้นไม้ ในตอนนั้นเขาง่วงและรู้สึกงงงวยกับการกระทำของกู๋หลุนและไม่ได้พยายามวิเคราะห์หรือเข้าใจการกระทำนั้นเลย แต่ในตอนนี้เขาจำเหตุการณ์เหล่านั้นได้ซึ่งเขามั่นใจว่ากู๋หลุนจะต้องซ่อนอะไรไว้อย่างแน่นอน

ซึ่งหนังสือเล่มนี้มันเป็นหนทางที่จะทำให้เขาบรรลุพลังหยินและหยาง!

ความแข็งแกร่งของหยินและหยางมีถึงเก้าระดับ แม้กู๋หลุนจะฝึกฝนพลังหยินและหยางมาเป็นเวลานาน ทว่าเขาก็ยังอยู่ในระดับพลังหยินหยางที่ห้าเท่านั้น ถึงอย่างนั้นคัมภีร์เล่มนี้ก็เป็นเหมือนทางลัดซึ่งมันสามารถทำให้พลังของบุคคลที่ใช้มันพัฒนาพลังของตนได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งมันก็มีอันตรายแฝงอยู่เช่นกัน โดยคนในตระกูลกู๋เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถประสบความสำเร็จในการใช้คัมภีร์เล่มนี้

ระดับพลังสูงสุดของพลังหยินและหยางคงจะเป็นการอยู่ยงคงกระพัน ซึ่งชินเหวยเชื่ออย่างนั้น ในตอนนั้นชินเหวยก็รับรู้ได้ถึงความเมตตาของพระเจ้าเพราะคัมภีร์เล่มนี้ทำให้เขารู้วิธีแก้แค้น

เขาสาปแช่งพระเจ้าเพราะเหตุการณ์ทั้งหมดและเรียกปาฏิหาริย์นี้ว่า 'เจตจำนงแห่งพระเจ้า' ในตอนนี้เขาอายุเพียง 14 ปีและอยู่ภายใต้ความดูแลของพ่อและแม่มาโดยตลอด เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งจะต้องเป็นคนล้างแค้นให้กับตระกูล เขาไม่ต้องการให้ใครในครอบครัวตายอย่างสูญเปล่าเช่นนี้ และเขาก็คิดว่าพี่ชายทั้งสองคนคงจะเหมาะสมกับการล้างแค้นนี้มากกว่า

เขาต้องการให้เจตจำนงแห่งพระเจ้าในครั้งนี้เมตตาและชี้แนะแนวทางแก้แค้นให้กับเขา

แต่ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการตามหาฮุยหลานให้พบ นางคือสมาชิกในตระกูลคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ของเขา... พี่สาวที่แสนดีคนนี้มักจะอยู่เคียงข้างเขาเสมอไม่ว่าจะเกิดเหตุดีหรือร้าย นางคงจะยังมีชีวิตอยู่และทนทุกข์อยู่ที่ไหนสักแห่ง!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด