ตอนที่แล้วบทที่ 121
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 123

บทที่ 122


ชายหนุ่มอายุประมาณสามสิบสี่ปี รูปร่างสมส่วนมีมัดกล้ามเล็กน้อย สวมชุดสีเทาปักรูปภาพเมฆสีขาวอยู่ที่ชายเสื้อ มือขวาถือพัดกระดาษใบใหญ่นั่งอยู่บนรถม้าด้วยอาการไม่ค่อยสู้ดีเท่าไรนัก ทันทีที่รถม้าจอดสนิทชายหนุ่มผู้นั้นก็รีบลงจากรถม้า แหวกฝูงผู้คนด้านหน้าเข้าไปในร้านยา เมื่อเข้ามาถึงก็มุ่งหน้าไปทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว พยัคฆ์สายฟ้าตัวใหญ่นอนอยู่ข้างชายชราหันมามองอย่างไม่วางตา

“มีสิ่งใดรึท่านมู่ซุนกวน เหตุใดถึงได้แตกตื่นเช่นนั้น”

“มีข่าวใหญ่ขอรับ รบกวนท่านดูเองเถอะ”

เมื่อกล่าวเสร็จสิ้นมู่ซุนกวนก็ยื่นกระดาษในมือให้กับเนี่ยกัง ทันทีที่เห็นภาพวาดและข้อความด้านในก็หัวเราะออกมาดังลั่น

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ชอบใจข้ายิ่งนัก”

“ท่านเนี่ยกัง ในข้อความที่เขียนคือประกาศจับกลุ่มโจรหมอกพิษที่เข้าปล้นคลังหลวงนะขอรับ”

“ข้ารับรู้ดีว่าหลานชายข้าเป็นคนอย่างไร เอาเถอะขอบใจท่านมาที่นำข่าวมาส่ง”

กล่าวสิ้นเสียงเนี่ยกังก็สะบัดมือขวาโยนขวดยาให้แก่มู่ซุนกวน

“นั่นเป็นเม็ดยาสำหรับเดือนนี้”

มู่ซุนกวนยกยิ้มอย่างดีใจรีบเก็บขวดยาพร้อมกับนำแหวนออกมาหนึ่งวงยื่นให้แก่เนี่ยกัง

“เงินทั้งหมดของเดือนที่ผ่านมาขอรับ หักจากค่าสมุนไพรแล้วขอรับ”

แสงแดดยามบ่ายสาดส่องผ่านใบไม้ ปราณดาบและหน้าไม้ปลิวว่อนไปทั่ว ชายหนุ่มสามคนฟาดฟันอาวุธในมือปะทะกับปีศาจฝูงใหญ่ รูปร่างเล็กมีกรงเล็บที่แหลมคมและมีความเร็ว พวกมันเกือบยี่สิบตัวพุ่งเข้าหาชายหนุ่มทั้งสามด้วยความหิวโหย หยางเวยสวมถุงมือไหมเข้าปะทะ เย่เตาใช้ออกด้วยกระบวนท่าดาบ ส่วนเนี่ยฟงใช้หน้าไม้ในมือเป็นอาวุธเพราะต้องคอยใช้เกราะสายฟ้าต้านรับปีศาจด้านหน้าที่พุ่งทะยานเข้ามา แสงสีต่างๆพุ่งเข้าหาชายหนุ่มทั้งสามอย่างรวดเร็ว

“เนี่ยฟง ว่าแต่ที่ต่อไปที่จะไปคือที่ไหน”

“เขตดินแดนแห่งทะเลทราย”

เนี่ยฟงจึงพุ่งทะยานลงจากเขาพร้อมกับหยางเวยและเย่เตา ในระหว่างทางเนี่ยฟงแผ่ลมปราณตรวจสอบตลอดทางเมื่อพบเจอปีศาจก็รีบลงมือสังหารอย่างรวดเร็ว ไม่นานทั้งสามก็ลงมาด้านล่างบริเวณม่านพลังอักขระศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนจำนวนมากต่างยืนอยู่เต็มทางออกมา ด้วยความสงสัยหยางเวยจึงเข้าไปถามชายหนุ่มผู้หนึ่ง

“พี่ชายเกิดสิ่งใดขึ้นขอรับ เหตุใดผู้คนถึงมายืนรอที่ทางออกเช่นนี้”

“เหอะมีไอ้บ้าสามคนมาจากไหนไม่รู้ ปล้นสมบัติของคุณชายเจี่ยเฉิน บุตรชายของแม่ทัพเจี่ยอู่หลงแม่ทัพใหญ่ที่ดูแลที่แห่งนี้ ตอนนี้พวกมันจึงไปตามกำลังทหารปิดทางออกจากข้างในและข้างนอกเพื่อตรวจสอบ หาไอ้บ้าสามตัวนั่น”

“ขอบคุณพี่ชายมากขอรับ”

หยางเวยนำข้อมูลที่ได้เข้าไปแจ้งต่อเนี่ยฟงและเย่เตา เนี่ยฟงครุ่นคิดอยู่นานหลังจากได้ยินที่หยางเวยแจ้ง จึงเอ่ยวาจากับหยางเวย

“พวกเจ้าเตรียมตัวเอาไว้เถอะ ข้ากลัวว่าคนของคุณชายอะไรนั่นต้องตามหาพวกเราทั้งสามคน หากเป็นเช่นนั้นจริงป้ายผาไม้ดำต้องเป็นของสำคัญต่อคุณชายผู้นั้นเป็นแน่”

เกือบหนึ่งเค่อ ผู้คนที่ยืนรออยู่ก็ค่อยๆทยอยออกไปด้านนอกเหลือเพียงไม่กี่กลุ่มแล้ว คนเหล่านั้นล้วนหันมามองชายหนุ่มทั้งสามอย่างไม่วางตา เพราะแต่ละกลุ่มที่เข้ามาที่นี่มีจำนวนมากกว่าเจ็ดหรือแปดคน ชั่วน้ำเดือดก็มีเสียงตะโกนดังมาจากด้านหน้า

“เป็นพวกมัน เป็นพวกมันสามคน พวกเราล้อมตัวพวกมันไว้”

สิ้นเสียงก็มีทหารหลายสิบคนพุ่งเข้ามาล้อม กลุ่มของเนี่ยฟงเอาไว้มีชายสามคนชี้มือมาที่หยางเวย

“คุณชายเจี่ยเฉินขอรับ เป็นพวกมันทั้งสามคนแน่ขอรับ”

ชายหนุ่มผู้หนึ่งรูปร่างสูงโปร่งอายุยี่สิบสี่ สวมชุดสีแดงแสยะยิ้มก้าวเดินเข้ามาชายหนุ่มทั้งสามพร้อมกับชายฉกรรจ์อีกนับสอบคน เมื่อเดินมาถึงด้านหน้าก็เอ่ยวาจาออกมาเสียงดังลั่น

“บัดซบ เป็นพวกเจ้าทั้งสามรึ ที่บังอาจมาปล้นชิงสมบัติคนของข้า ไม่รู้หรืออย่างไรว่าข้าเป็นใคร”

หยางเวยแสยะยิ้มเดินออกมา

“ตัวท่านก็หาได้มีอายุน้อยๆแล้ว เหตุใดถึงไม่ทราบว่าตัวเองเป็นใคร น่าอนาถใจยิ่งนัก อีกอย่างพวกข้าทั้งสามหาได้อยากปล้นชิงของผู้ใด เป็นคนของท่านเอาที่คิดปล้นชิงของพวกข้า แต่วันนี้กลับพ่ายแพ้ถูกปล้นเสียงเอง เรื่องนี้โทษพวกข้าไม่ได้เพราะคนของท่านไร้ซึ่งความสามารถเองขอรับ”

สิ้นเสียงกล่าวของเด็กหนุ่มด้านหน้า หลายคนพยักหน้าให้ แต่ว่าหลายคนก็เริ่มที่จะสงสารด้วยเช่นกัน เพราะหน้าตาของเจี่ยเฉินตอนนี้แดงก่ำไปด้วยความโกรธ หลายคนรีบเดินออกจากจากบริเวณนี้ ทหารมากมายต่างเข้ามายืมล้อมชายหนุ่มทั้งสามเอาไว้พร้อมกำชับหอกปลายแหลมในมือแน่น ไม่ถึงสองลมหายใจเจี่ยเฉินก็ตะโกนออกมาดังลั่น

“สังหารพวกมันทั้งสาม อย่าให้มีชีวิตรอดออกไปได้”

ทหารมากมายต่างพุ่งเข้าหาชายหนุ่มทั้งสาม หยางเวยแสยะยิ้มโคจรลมปราณไว้อย่างเต็มกำลังซัดฝ่ามือลงพื้น เปรี้ยง ตูม ควันพิษสีม่วงฟุ้งกระจาย ทหารมากมายที่พุ่งเข้ามาได้รับพิษ ลงไปนอนดิเนทุรนทุรายอยู่บนพื้น เย่เตาสะบัดมือเรียกดาบคู่ใจออกมาถือพร้อมกับฟาดฟันดาบออกไป ปราณดาบสีแดงพุ่งเข้าหากลุ่มทหารที่กำลังพุ่งเข้ามารอบทิศทาง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ตูม ตูม ตูม เนี่ยฟงสะบัดมือยิงหน้าไม้ในมือออกไปอย่างรวดเร็ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ทหารหลายนายถูกจัดการลงไปด้วยลูกหน้าไม้ หยางเวยพุ่งเข้าไปปะทะกับเจี่ยเฉินทั้งสองต่างต่อยหมัดออกมาปะทะกัน เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เจี่ยเฉินระเบิดพลังสีแดงขึ้นต้นออกมา ตูม หยางเวยหาได้เป็นอะไรเพราะถีงเท้าพุ่งถอยหลังออกมาก่อน

เจี่ยเฉินร้องคำรามสะบัดมือเรียกดาบเล่มใหญ่ออกมา พุ่งทะยานเข้าหาหยางเวยพร้อมกับฟาดฟันดาบออกไป ปราณดาบสีขาวขนาดใหญ่พุ่งเข้าหาหยางเวย เปรี้ยง เป็นเกราะสายฟ้าของเนี่ยฟงเข้ามาต้านรับอย่างทันท่วงที หยางเวยแสยะยิ้มอีกครั้งซัดฝ่ามือออกไป ปราณฝ่ามือสีม่วงพุ่งเข้าปะทะกับปราณดาบสีขาว เปรี้ยง ควันพิษสีม่วงฟุ้งกระจายอีกครั้ง หยางเวยหาได้เข้าปะทะซัดฝ่ามือโจมตีรอบนอกแทน แต่เมื่อใดก็ตามที่มีจังหวะเข้าประชิดหยางเวยก็กระทำอย่างไม่รีรอพร้อมเข้าไประเบิดปราณพิษในระยะประชิด

เกือบหนึ่งเค่อทหารที่เจี่ยเฉินนำมาก็ถูกจัดการจนหมดรวมไปถึงคนติดตามอีกนับสิบ ทุกคนล้วนลงไปนอนกองกับพื้นลมหายใจรวยริน เย่เตารีบทำหน้าที่แทนหยางเวย ปล้นแหวนจากผู้คนที่นอนที่พื้น ส่วนหยางเวยยังคงทุบตีนายน้อยเจี่ยเฉินอยู่อย่างสนุกมือ ชั่วน้ำเดือดหยางเวยก็เดินกลับมาอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับโยนแหวนวงหนึ่งให้เนี่ยฟง

“เจ้าลองตรวจสอบในแหวนเถอะแล้วเจ้าจะตกใจ”

เนี่ยฟงรีบโคจรลมปราณไปที่แหวนเพื่อตรวจสอบไม่ถึงหนึ่งลมหายใจก็นำจุดหมายฉบับหนึ่งออกมา ข้อความในจดหมายกล่าวถึงเจี่ยอู่หลงมีความเกี่ยวข้องกับคนของผาไม้ดำ และป้ายผาไม้ดำในมือเนี่ยฟงก็คือป้ายบอกสถานะว่าเจี่ยเฉินเป็นคนของผาไม้ดำ เนี่ยฟงหันไปมองหยางเวย

“หยางเวยคุณชายเจี่ยเฉินอยู่ไหน”

หยางเวยชี้ไปที่ชายผู้หนึ่งสวมชุดสีแดง ที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น เนี่ยฟงก้าวเดินเข้าไปหาเจี่ยเฉิน พร้อมกับสะบัดมือขวา วงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าก่อตัวขึ้นทับซ้อนกันสามวง หลังจากนั้นก็พุ่งเข้าหาร่างของเจี่ยเฉิน เนี่ยฟงหันไปมองรอบด้านพบว่าไม่หลงเหลือผู้ใดแล้วจึงเอ่ยกับหยางเวยอีกครั้ง

“หยางเวย ที่นี่เจ้าจัดการหมดแล้วใช่หรือไม่”

“เสร็จหมดแล้ว พร้อมเดินทาง”

“ได้แต่ว่าเราต้องจัดการกับเรื่องของคนของผาไม้ดำก่อน”

“เอาสิข้าพร้อมเสมอ”

เป็นเย่เตาที่รีบกล่าวตอบรับออกมาอย่างรวดเร็ว ไม่นานทั้งสามก็พุ่งทะยานออกจากที่นี่ ทันทีที่ออกมาด้านนอกทั้งสามก็พบเจอกับกองกำลังทหารจำนวนมากที่รออยู่ด้านหน้า เย่เตาเรียกสัตว์อสูรออกมา เหล่าทหารและผู้คนด้านนอกต่างร้องตะโกนออกมาเสียงดัง

“บัดซบ สัตว์อสูรระดับสีแดงขั้นกลางอินทรีพยัคฆ์”

แรงกดดันที่ปล่อยออกมากมายหลายคนลงไปคุกเข่ากับพื้น ชายหนุ่มทั้งสามรีบกระโดดขึ้นไปบนหลังของสัตว์อสูรของเย่เตา หลังจากนั้นก็พุ่งทะยานขึ้นไปบนฟ้า ช่วงเวลาที่พุ่งขึ้นไปหยางเวยก็รีบสะบัดมือขวา นำระเบิดพิษที่ทำไว้อยู่นานแล้วออกมาหกลูก ก้อนขนาดเท่ากำปั้นโยนลงไปในกลุ่มที่พวกทหารยืนอยู่ ตูม ตูม ตูม ตูม ตูม ควันพิษสีม่วงฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณเสียงร้องโหยหวนดังระงมไปทั่วบริเวณ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด