ตอนที่แล้วEP.80 พลัง Mana Eater
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEP.82 เคลื่อนย้าย

EP.81 เลือดบริสุทธ์


ผมนอนอยู่บนเตียงและกำลังสังเกตุคนที่เข้ามาในห้อง

ทีละคน ทุกคนที่เข้ามาในห้องต่างพากันยีนเรียงแถวกัน

อยู่ที่ข้างเตียงของแกรี่ราวกับว่าเป็นทหารที่ยืนเรียงกัน

เป็นระเบียบ แต่ละคนที่เข้ามาก็คือคนที่ผมผูกพันธ์อยู่แล้ว

ทั้งซอลเวียร์ แกรี่ ไอลาน แดน มังค์ ไคล์ มาธาร์ และ

เด็กแฝดหัวแดงทั้งสองคน

“เป็นไงบ้าง?”

และอยู่ๆมาสเตอร์เคก็เดินเข้ามา เขาปิดประตูพร้อมกับ

ใช้เวทมนตร์เสกให้ประตูล็อคราวกับเห็นมาทับไว้กันไม่

ให้ใครเข้ามากวนเราได้ พวกเราต่างพากันตกใจกับ

สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า

“ไม่ต้องกังวลไป มันแค่ป้องกันไม่ให้ใครเดินผ่าน

แล้วได้ยินเท่านั้นแหละ” มาสเตอร์เคอธิบายเพื่มเติม

“สิ่งที่ผมจะบอกพวกนายทุกคนต่อไปนี้จะต้องเก็บไว้

เป็นความลับแต่ผมกับวินฟอร์ตตัดสินใจแล้วว่าพวกเรา

คงต้องบอกนักเรียนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้”

“อย่างที่ทุกคนเห็นว่าทั้งสองคนมีแผลเต็มไปหมด

แทบจะพูดได้เลยว่าโชคดีแค่ไหนแล้วที่มีชีวิตกลับมาได้”

ซอลเวียลุกขึ้นจากเก้าอี้และเริ่มเดินเข้ามาใกล้ๆผม

และมาสเตอร์เคก็เริ่มพูดต่ออีกครั้ง

“เท่าที่พวกนายสังเกตุคือผู้ร้ายทั้งหมดมีสามคน

สิ่งที่พวกเราสังเกตุได้ก็มีเพียงสิ่งเดียวที่พวกเขามีเหมือนกัน

ก็คือใสหน้ากากสีแดง”

“แกรี่และเรย์ ผมเชื่อว่าพวกนายทั้งคู่ต้องเห็นหน้าใครสักคน

บ้างในสามคนนั้น พอจะบอกอะไรได้ไหมว่าคือใคร?”

แกรี่กลืนน้ำลายก่อนจะตอบคำถาม

“หนึ่งในนั้นคืออัศวินเลนซี่…….”

เสียงซุบซิบในห้องเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนแทบ

ไม่อยากจะเชื่อหูว่าสิ่งที่ตัวเองได้ยินว่านั่นคือเรื่องจริง

มาสเตอร์เคตบมือเพื่อเป็นสัญญาณให้ทุกคนอยู่ใน

ความเงียบและทุกคนก็อยู่ในความเงียบทันที

หลังจากนั้นซอลเวียก็ยกมือขึ้นเพื่อที่จะถาม

สิ่งที่เธอสงสัย

“แบบนี้อัศวินเลนซี่ถึงเป็นสมาชิกของ dark guild

ด้วยใช่ไหมคะ?”

มาสเตอร์เคพยักหน้าลงอย่างช้าๆด้วยสีหน้าที่ไม่

ดีเท่าไหร่นัก

“ถ้าพวกเขาเป็นจริงๆมีเหตุผลที่เดาง่ายมาเลยและนี่

ก็เป็นเหตุผลที่พวกนายทุกคนมาอยู่ที่นี่ในตอนนี้ เหล่าชายหนุ่ม

ที่สวมหน้ากากสีแดงพวกเขากำลังสื่อว่าเลือดบริสุทธิ์

เมื่อ 11 ปีก่อนมีข่าวลือที่ถูกปล่อยอย่างแผ่หลายว่า จะมี

คนที่จะมาช่วยกอบกู้โลกมาจากเด็กผมสีแดง

พวกเราทุกคนได้รับคำสั่งให้ออกตามหาเด็กจากทั่ว

ทุกพื้นที่และนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทั้ง บัดเจอร์ สลอท ไคล์

ไอลานและเรย์ ถึงมาอยู่ที่นี่ การทำนายครั้งนั้นทำให้

เป็นที่มาของกลุ่มเลือดบริสุทธิ์ เป้าหมายเดียวของพวกเขา

ก็คือกำจัดเด็กผมแดงให้สิ้นซาก”

“แต่นั่นก็ฟังดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ แล้วทำไมพวกเขา

ถึงต้องมาจัดการคนที่มาจะมากอบกู้โลกด้วย?” มังค์พูดขึ้นมา

ท่ามกลางความเงียบ

“มันยังมีอีกสิ่งนึงที่ถูกพูดขึ้นมาในขณะเดียวกันนั่นก็คือ

เด็กชายที่มีผมสีแดงก็อาจจะมาทำลายโลกได้เหมือนกัน

และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่สองคำทำนายช่างแตกต่างกันขนาดนี้

จนทำให้เกิดกลุ่มที่เรียกว่าเลือดบริสุทธิ์ขึ้นมาและคนที่เป็น

สมาชิกในนั้นก็คือเหล่าอัศวินที่อยู่ใน Avrion Academy นี่แหละ”

“แล้วทำไมต้องมาบอกให้พวกเรารู้ด้วยครับ?” แดนถาม

“พวกเราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้สักนิดเดียว” แดน

พูดในขณะที่สายตามองไปยังฝาแฝดผมแดงทั้งสองคน

ซอลเวียหันมามองหน้าแดนพร้อมกับตะคอกว่า

“ทำไมนายพูดแบบนั้นแดน? ไอลาน ไคล์และเรย์ก็คือเพื่อน

ของพวกเรา เรื่องนี้ยังไงก็ต้องเกี่ยวกับพวกเราอยู่ดี”

มาร์ธาเดินเข้ามาผลักซอลเวียให้ถอยหลังกลับและพยายาม

ทำให้ซอลเวียใจเย็นลง และเมื่อทั้งสองหยุดทะเลาะกัน

มาสเตอร์เคก็เดินเข้ามาอีกครั้ง

“ไม่ว่าพวกนายจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ตามแต่ตอนนี้

พวกนายทุกคนที่อยู่ตรงนี้ก็เหมือนลงเรือลำเดียวกันแล้ว

ก่อนอื่นผมก็ต้องขอโทษก่อน เพราะพวกเราก็ไม่คิดเหมือนกัน

ว่ากลุ่มเลือดบริสุทธิ์จะทำอะไรที่แย่ได้ขนาดนี้ หน้าที่ของเหล่า

อัศวินทุกคนที่นี่คือการปกป้องนักเรียนทุกคน และนี่ก็เป็นครั้ง

แรกที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เรามีลัคเกอร์ที่คอยปกป้องดูและ

แบดเกอร์และสลอท (เด็กแฝดผมแดง) แต่พวกเราไม่มีใคร

สักคนที่คอยปกป้องเรย์ ไอลานและไคล์ ต้องขอบคุณที่พวกเขา

ร่ายล้อมด้วยผู้คนที่มีคุณภาพแบบพวกนายที่ยังคอยช่วย

เหลือพวกเขาได้บ้าง ยิ่งมีซอลเวียอยู่ข้างๆแบบนี้ ผมก็

ค่อนข้างมันใจว่าพวกเลือดบริสุทธิ์คงไม่กล้าเข้ามา

ทำอะไรแน่ๆ”

หลังจบประโยคมาสเตอร์เคก็ค่อยๆเดินมาหาผม

“เรย์ ในตอนนี้นายคือคนที่ดูคล้ายกับเด็กในคำทำนาย

มากที่สุด”

“หะ? อะไรทำให้คุณคิดแบบนั้นครับ?!”

“ร่างกายของนาย สามครั้งแล้วที่นายตกอยู่ในจุดที่

เรียกว่าใกล้ความตายมากๆแต่ทุกครั้งร่างกายของนาย

ก็จะสามารถรักษาตัวเองได้เอง สิ่งเดียวที่จะสามารถคิด

ได้ก็ก็คือนี่คือสิ่งวิเศษที่สั่งมาจากเบื้องบน เหล่านักเรียนแพทย์

ก็ต่างจดบันทึกกันว่านายอยู่ในระดับอัศวินคนนึง ผมเองก็ค่อน

ข้างมั่นใจว่าเหล่ากลุ่มเลือดบริสุทธิ์ก็ได้รับรู้ถึงข้อมูลนี้

เช่นเดียวกับข้อมูลของคนในกลุ่มนายทุกคน พวกเขาก็

คงจะรู้ด้วยเหมือนกัน”

ผมอยากจะตอบเขาไปว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นมันผิดร่างกายผม

ที่สามารถรักษาได้เองก็เป็นเพราะว่าผมไม่ใช่มนุษย์ จนตอนนี้

แสงออร่าที่ออกมาจากตัวผมมีสีแดงปนอยู่ด้วยนั่นก็หมายความว่า

ร่างกายผมในตอนนี้มีเชื้อผสมอื่นผสมด้วยจริงๆ แต่หลังจาก

ที่เขาพูดจบ ก็เป็นอีกหนึ่งเสียงที่ยืนยันในสิ่งที่ผมคิดว่า

ร่างกายของผมหายได้เร็วว่าคนอื่นจริงแต่พวกเขาก็ยังไม่รู้

อยู่ดีว่าจริงๆแล้วสีผมของผมเคยเป็นสีดำมาก่อนและค่อยๆ

เปลี่ยนเป็นสีแดง ผมพยายามค่อยๆเปิดปากเพื่อที่จะบอก

กับทุกคนว่าจริงๆแล้วผมคือมังกรแต่ถ้าพูดออกไปทุกคน

ก็คงจะคิดว่าผมบ้า

“ไม่ใช่ผม….ผมมันใจว่าต้องไม่ใช่แน่นอน”

“มันไม่เกี่ยวกับการที่นายจะเชื่อหรือไม่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ

พวกเลือดบริสุทธิ์คิดแบบนั้นไปแล้วและใครที่อยู่รอบๆตัว

นายก็ตกอยู่ในอันตรายเหมือนกัน มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเรา

จะปกป้องพวกนายได้ตลอดเวลา ผมมาวันนี้เพื่อที่จะเตือน

พวกนายให้ดูแลกันและกันให้ดีที่สุด”

หลังจากที่มาสเตอร์เคพูดจบ เขาก็ทำลายคาถาลง

และเปิดประตูออกไป

“เดี๋ยวครับ! นั่นหมายความว่าพวกคุณจะไม่ปกป้องพวกเรา

งั้นหรอครับ! ” แดนตะโกนถามด้วยความสงสัย

“พวกเราทำอะไรไม่ได้มากหรอก เพราะพวกเราเองก็มีหน้าที่

ที่ต้องทำในทุกๆวัน แต่พวกเราก็จะคอยดูแลพวกนายให้ดี

ที่สุดเท่าที่เราจะทำได้แต่ก็คงไม่ถึงขั้นที่ว่างจะมาคอยระวัง

คนที่จะมาทำร้ายได้ตลอดเวลา และเราเองก็ยังไม่รู้แน่ชัด

ว่าใครกันแน่คือหัวหน้าของกลุ่มเลือดบริสุทธิ์ ”

ทุกคนในห้องต่างอยู่ในความเงียบกันโดยไม่ได้นัดหมาย

Avrion Academy เคยหมายความว่ากลุ่มอัศวินกลุ่มเดียว

ที่มีหน้าที่คอยต่อต้านเหล่าศัตรูที่เข้ามาที่นี่แต่ตอนนี้กลับ

กลายเป็นว่ากลายเป็นมีศัตรูเกิดขึ้นในกลุ่มเดียวกัน

นั่นช่างเป็นเรื่องที่น่าตกใจไม่น้อย

ทุกคนค่อยๆเดินออกไปจากห้องอย่างช้าๆเพื่อปล่อยให้

ผมและแกรี่ได้พักอย่างเต็มที่ แม้ว่าผมจะค่อนข้างมั่นใจ

ว่าผมหายดีแล้ว แต่ผมต้องการที่จะคอยให้กำลังใจแกรี่

อยู่ข้างๆเพื่อให้เขาดีขึ้นไวๆ หลังจากได้รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นบ้าง

ผมก็อดรู้สึกผิดที่ต้องทำให้แกรี่เจ็บตัวไปด้วย

หลังจากสองสัปดาห์ผ่านไปแผลของแกรี่ทั้งหมดก็หายเป็นปกติ

และพวกเราทั้งคู่ก็ได้รับคำสั่งให้ออกจากโรงพยาบาลในที่สุด

เหล่าทีมแพทย์เองก็หวังว่าจะไม่เจอพวกเราทั้งคู่กลับมา

ที่โรงพยาบาลอีก

เมื่อพวกเราเดินกลับมาที่ห้องพักก็พบว่ามีจดหมายฉบับหนึ่ง

ที่วางอยู่บนเตียงของแกรี่

อย่างที่ทุกคนรู้ก็คือที่นี่จะไม่อนุญาติให้จดหมายที่ไหนเข้ามา

ถ้ามันไม่สำคัญจริงๆ เพราะครั้งล่าสุดที่ผมได้จดหมายก็คือ

ตอนเรื่องพ่อป่วยหนัก

แกรี่ค่อยๆเดินอย่างช้าๆเข้ามาคว้าจดหมายบนโต๊ะไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด