ตอนที่แล้วตอนที่ 118 หลอกล่อและเบี่ยงเบน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 120 ภาคีเงาตะวัน

ตอนที่ 119 ตระกูลคามิเรีย


ตอนที่ 119 ตระกูลคามิเรีย

ในพื้นที่บริเวณชั้น 4 ของป้อมปราการ Mirage Tower ที่ครั้งหนึ่งเจสเปอร์และไอรีนเคยได้ขึ้นมาปลดปล่อยวิญญาณขององค์ราชินีให้หลับไหลไปตลอดกาลจากการถูกครอบงำของปีศาจ Stod และชำระล้างสถานที่แห่งนี้ให้กลับมามีชีวิตขึ้นใหม่อีกครั้ง

แต่ทว่าเมื่อระยะเวลาผ่านไปป้อมปราการ Mirage Tower แห่งนี้ที่เจสเปอร์และไอรีนได้ทำการชำระล้างไปแล้วนั่น กลับถูกรุกรานจากมังกรปีศาจ Xanidarth อีกครั้ง โดยในครั้งนี้มังกรปีศาจได้ทำการส่ง คณะพ่อมดมืด Dark Magic กลุ่มข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของมันให้มายึดครองป้อมปราการที่เคยเป็นของพวกมันกลับไป

‘นี้น่ะหรือชั้น 4 ดูน่ากลัวยังไงชอบกล?’

ถือเป็นครั้งแรกของเจสเปอร์ที่ได้ขึ้นมาถึงชั้นสูงสุดของป้อมปราการแห่งนี้ด้วยวิธีปกติ หากไม่นับการเดินทางขึ้นมาในครั้งก่อนที่ตัวเขาและไอรีนต่างใช่ทางลับบันไดวน ลัดเลาะเพื่อที่จะหลีกหนีไม่ต้องปะทะกับอัศวินรัตติกาลที่ปกป้องทางเดินจำนวนหนึ่ง

โดยสภาพที่ทำให้เจสเปอร์ถึงกับต้องอุทานว่าดูน่ากลัวของสถานที่แห่งนี้ก็ดูจะเป็นสภาพแวดล้อมที่เงียบสนิท ไร้สัญญาณชีพจากเหล่ามอนสเตอร์ที่อาศัยอยู่ แตกต่างจากชั้นก่อนๆที่ผ่านมา ที่จะพบเห็นกลุ่มมอสเตอร์ออกมาต้อนรับพวกเขาทันทีเมื่อก้าวเท้าเหยียบย้ำไปในเขตแดนของมัน

“ดูเงียบยังไงพิกล!!ฉันไม่ชอบแบบนี้เลยให้ตายเถอะ” อามมี่ที่บุคลิกภายนอกดูเข้มแข็งบึกบึนไม่กลัวเกรงสิ่งใด เมื่อได้เห็นบรรยากาศตรงหน้า ก็อดที่จะอุทานออกมาไม่ได้

ไม่ว่าจะเป็นเศษเครื่องเรือนที่ล้มระเนระนาดไร้การดูแล สภาพฝุ่นและยักใยที่ขึ้นเกาะตามพื้นผนัง ติดตามด้วยสายลมอ่อนๆที่พัดผ่านเข้ามาจากทางหน้าต่างกว้างที่ถูกเปิดออกคาเอาไว้ ‘ฟู่ว’ สายลมอ่อนๆต้องปะทะเข้าที่ร่างกายของผู้กล้าแต่ละคน เป็นกระแสลมอ่อนที่หนาวเย็นไปถึงกระดูกของพวกเขา ขับให้บรรยากาศที่ว่ามาทั้งหมดนี้...ทำให้ชั้นที่ 4 ดูวังเวงน่ากลัวมากยิ่งขึ้น

“เจส!!ทำไมชั้นนี้ถึงไม่มีมอนสเตอร์สักตัวเดียวเลยล่ะ? แถมยังดูเหมือนชั้นนี้จะถูกทิ้งร้างไม่มีคนอาศัยมานานมากแล้วยังงั้นแหละ!!” ทุกคนต่างดูมีท่าทีหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะหิมะน้อยและ NPC องค์หญิงซีซีเรีย ที่มีสีหน้าซีดเสียวไร้เรี่ยวแรง

หิมะน้อยที่เป็นเด็กสาวคนหนึ่งจะหวาดกลัวต่อบรรยากาศแบบนี้ก็ดูจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรแต่กับองค์หญิงซีซีเรียไม่ว่าเจสเปอร์จะคิดหรือมองในมุมไหน เขาก็ไม่สามารถหาคำตอบที่เธอกำลังเป็นอยู่ได้เลยจนในที่สุดแล้ว

เขาก็ต้องเดินเข้าไปถามถึงอาการของเธอที่กำลังเป็นอยู่ด้วยความเป็นห่วง??!!

“องค์หญิงเหตุใดท่านถึงมีสีหน้าซีดเซียวแบบนั่นกันล่ะ? ท่านไม่สบายหรือป่วยไข้ตรงไหนหรือเปล่า”

“ข้าเองก็ไม่รู้จะตอบท่านอย่างไรดี..ข้ารู้สึกว่าร่างกายของข้าเหมือนจะถูกฉีกเป็นเสี่ยงๆ มันเจ็บเหลือเกิน” องค์หญิงซีซีเรียตอบกลับเจสเปอร์ด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาลงอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่จะค่อยๆทรุดลงไปนั่งที่พื้นพร้อมกับขับกุมหน้าอกของตัวเองเอาไว้

‘ถูกฉีกเป็นเสี่ยงๆ?’

เจสเปอร์และคนอื่นๆรีบเข้าไปดูอาการขององค์หญิงโดยทันทีและในระหว่างนั้นเองก็ได้มีเสียงที่เย็นยะเยือกดังกึกก้องไปทั่วทั้งป้อมปราการ

“ในที่สุดเจ้าก็มาถึงที่นี้สักที องค์หญิงซีซีเรียทายาทแห่งตระกูลคามิเรีย บุตรธิดาขององค์ราชินีมาเรีย ข้อรอเจ้าอยู่นานมาก มาเถอะ มาหาข้าาาา!!”

[ท่านถูกคำแช่งจากพ่อมดมืด Dark Magic: ส่งผลให้ ‘อัตราการฟื้นพลังชีวิตของท่านลดลงครึ่งหนึ่ง’ เป็นเวลา 300 นาที]

[ท่านถูกคำแช่งจากพ่อมดมืด Dark Magic: ส่งผลให้ตัวละครของท่าน‘ไม่สามารถใช้งานสกิลได้’ เป็นเวลา 300 นาที]

[ท่านถูกคำแช่งจากพ่อมดมืด Dark Magic: ส่งผลให้ ‘พลังป้องกันและเกราะที่สวมใส่อยู่มีประสิทธิภาพลดลง’ เป็นเวลา 300 นาที]

“300 นาที!! นี้มันบ้าเกินไปแล้ว...ยังงี้พวกเราก็ดูไม่ต่างจากครีป(*Creep) ทั่วๆไปตรงไหนเลยสิ??!!” ทุกคนต่างนิ่งอึ้งกับค่าสถานะที่ลดลงจากการถูกสาปของพ่อมดมืด Dark Magic พร้อมทั้งตะโกนโวยวายถึงความไม่เป็นธรรมที่ได้รับ

“เจส!!ถ้าขืนพวกเราติดค่าสถานะอยู่แบบนี้ เราจะสังหารพ่อมดมืดได้อย่างไร?” แต่ยังไม่ทันที่เจสเปอร์จะอ้าปากตอบคำถามของโบม่อนที่ถามมา ปลายตาของเขาก็ชำเลืองไปเห็นร่างเงาสีดำร่างหนึ่งที่อยู่สุดทางเดินชั้น4 ฝั่งตรงข้ามจ้องมองมาทางพวกเขา

‘ฟุ่บบ!!’

“ทุกคนเตรียมตัวให้ดี...มีศัตรูอยู่ทางด้าน....!!” เป็นอีกครั้งที่การกระทำของเจสเปอร์ถูกขัดแม้ว่าสายตาของเขาจะมองเห็นร่างเงาสีดำที่ว่านั้นกำลังพุ่งเข้ามา แต่ร่างกายของชายหนุ่มกลับรู้สึกว่ามันหนักเกินไปที่จะตอบโต้สิ่งที่กำลังเข้ามา คล้ายกับสภาวะหยุดนิ่ง

‘Time Dilation’

[Time Dilation]

[รายละเอียด: สำหรับผู้ที่เผชิญหน้ากับพ่อมดมืด Dark Magic ช่วงเวลาการต่อสู้แต่ละช่วงรู้สึกเหมือนดั่งโดนยืดเยื้อไปชั่วนิรันดร์ จากผลของสกิลหน่วงเวลาที่เข้าควบคุม]

ร่างเงาสีดำเดินตรงเข้ามาทางกลุ่มของผู้กล้าด้วยความรวดเร็ว พลางบิดของบางอย่างที่คล้ายกับลูกแก้วทรงกลมที่ประกอบจากฟั่นเฟืองจำนวนมากร้อยเรียงกันเป็น Orb ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ที่ถืออยู่ในมือและในทันทีที่ลูกแก้ว Orb ถูกบิด สิ่งรอบตัวของร่างเงาก็พลันช้าลง โดยมีเพียงตัวของมันเท่านั้นที่ยังคงเคลื่อนไหวได้อย่างปกติ เสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

Time Dilation จัดการหน่วงเวลาต่างๆให้ยืดไปนานขึ้นไม่ว่าจะเป็น เศษฝุ่น แรงลมหรือร่างของผู้กล้า ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ตกอยู่ในการบงการของ ลูกแก้ว Orb ฟั่นเฟือง ที่พ่อมดมืดร่างเงาตนนั้นถือครองเอาไว้

‘องค์หญิงมากับข้าเถิด ร่างและสายเลือดของท่านเหมาะยิ่งนักที่จะเป็นร่างสถิตให้กับท่าน Xanidarth!!ดังเช่น มารดาของท่านที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งให้กับพวกเรา ฮ่าฮ่า’

ถึงเจสเปอร์จะไม่ทราบเนื้อหาใจความที่พ่อมดมืดตนนี้หมายถึง แต่ก็พอจะจับประเด็นเอาได้ว่า การมาของพวกมันในครั้งนี้ก็เพื่อที่จะหาร่างสังเวยให้กับมังกรปีศาจ Xanidarth  และภาชนะที่ดูจะเหมาะสมที่สุดเห็นที่ก็คงจะเป็น องค์หญิงซีซีเรียที่สืบเชื้อสายมาจากตระกูลเก่าแก่นามว่า ‘คามิเรีย’

ที่บรรบุรุษของต้นตระกูลเธอ ที่เคยเป็นร่างสถิตให้กับทวยเทพ ตั้งแต่เมื่อครั้งที่สรรพสิ่งเพิ่งก่อกำเนิดขึ้นมาในโลกที่สุดแสนจะพิเศษแห่งนี้

เมื่อเวลาล่วงเลยผ่านไป ผู้คนมากมายเติบโตขึ้น บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง เหล่าทวยเทพที่เคยปกปักษ์รักษาดูแลมนุษย์และสรรพสัตว์มาตลอดก็จางหายไปตามกาลเวลา ลูกหลานตระกูลคามิเรียเองก็เช่นกันเมื่อเหล่าทวยเทพ ไม่มาปรากฏตัวให้มนุษย์ได้พบเห็นอีกต่อไป ความศรัทธาที่เคยแรงกล้าก็เหลือทิ้งไว้เพียงเรื่องเล่าปรัมปราที่เล่าต่อๆกันมา

เมื่อหมดหน้าที่ที่ต้องเป็นร่างทรงให้กับทวยเทพตระกูลศักดิ์สิทธิ์คามิเรียก็ต้องปรับตัวให้อยู่รอดกับโลกในปัจจุบัน พวกเขาจึงได้ตัดสินใจทิ้งถิ่นฐานเดิมที่อาศัยอยู่บนเกาะอันโดดเดียวห่างไกลความเจริญ เข้ามาอาศัยปะปนไปกับผู้คนที่ครั้งหนึ่งเคยกราบไหว้พวกเขาเป็นดั่งตัวแทนของพระเจ้า ก่อนที่จะกระจัดกระจายไปตามวิถีชีวิตของตัวเอง บางคนปรับตัวเข้ากับสังคมได้ดีแต่งงานมีครอบครัวใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข บางคนล้มหายตายจากไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บหรือภัยธรรมชาติหรือแม้กระทั่งบางคนจากคนที่เคยเป็นผู้ศรัทธาในตัวเทพกลับหันหลังเปลี่ยนฝั่งไปเข้าร่วมจอมมาร

แต่ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องเล่าที่องค์หญิงซีซีเรียเคยได้ยินมาจากเสด็จแม่ของเธอในตอนวัยเด็กเท่านั้น โดยเธอยังคิดอีกว่ามันคือนิทานกล่อมเด็กเรื่องหนึ่งที่เสด็จแม่จงใจแต่งขึ้นเพื่อให้เธอฟัง...ขับกล่อมเด็กสาวตัวน้อยให้นอนหลับฝันดีในๆทุกคืน

‘หาใช่เรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้นไม่!!ฉันนะเหรอที่สืบเชื้อสายมาจากตระกูลเก่าแก่นั่น??!!’

สุดท้ายแล้วไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงหรือเป็นนิทานปรัมปราหลอกเด็ก องค์หญิงซีซีเรียก็ไม่เปลี่ยนแปลงเลือดเนื้อเชื้อไขของต้นตระกูลคามิเรียที่ไหลเวียนอยู่ในตัวเธอไปได้

ทว่า!!ความเป็นจริงที่ชวนอึ้งก็ยังไม่จบเพียงแค่นั่น โดยสถานที่ที่พวกเขากำลังยืนอยู่นี้เอง ครั้งหนึ่งในอดีตมันเคยเป็นที่อยู่อาศัยของต้นตระกูลคามิเรียและเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในการอัญเชิญทวยเทพให้ลงมายังโลก The Era อีกด้วย

นี้จึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไม มังกรปีศาจ Xanidarth ถึงอยากที่จะครอบครองป้อมปราการ Mirage Tower แห่งนี้หนักหนา เพราะป้อมแห่งนี้ยังหลงเหลือกลิ่นอายของทวยเทพให้มันได้ดื่มกินยังไงล่ะ??!!

มังกรเป็นเผ่าพันธุ์ที่ส่งพลังและมีอำนาจเหนือล้ำเกินกว่าที่มนุษย์ตัวเล็กๆจะเข้าใจ ตำนานบางตำนานเคยเล่าเอาไว้ว่า มังกรมีต้นกำเนิดมาจากทวยเทพที่ทำผิดและถูกลงโทษจากองค์ราชาเทพให้อยู่ในรูปของสัตว์อสูรเป็นต้น แต่ถึงอย่างไรไม่ว่าตำนานจะเล่าออกมาในรูปแบบไหน มังกรก็คือเผ่าพันธุ์ที่ยิ่งใหญ่มากอยู่ดี

ตัดกลับมาที่การต่อสู้ปัจจุบัน องค์หญิงซีซีเรียที่กำลังเจ็บปวดจากพลังของพ่อมดมืด Dark Magic ที่กำลังสะกดร่างของเธอให้เจ็บปวดร้าวดั่งเช่นที่องค์ราชินีเคยประสบมาเมื่อครั้งอดีต แม้เธอพยายามอดกลั้นฝืนลุกขึ้นเพื่อที่จะขัดขืนการจับกุมของร่างเงามืดแต่ก็ไม่อาจที่จะต้านทานพลังอำนาจที่ว่านี้ได้เลย

“แกกกก!!...จะเอาองค์หญิงงง...ไปไหน”

เจสเปอร์ที่ถูกสะกดด้วยสกิล Time Dilation ที่มาจากลูกแก้วฟั่นเฟือง พยายามเอื้อมมือไปไขว่คว้าตัวขององค์หญิงเอาไว้ เพื่อที่จะปกป้องเธอจาก พ่อมดมืดร่างเงาสีดำที่กำลังจะจับตัวเธอไป

“เจ้าคงเป็นผู้กล้าที่เคยช่วยเหลือองค์ราชินีเมื่อครั้งก่อนสินะ? หึหึ น่าเสียดายจริงๆที่ข้าไม่อ่อนแอเหมือน Stod”

มันสบตากับเจสเปอร์อยู่ครู่ใหญ่ก่อนที่จะ สะบัดข้อมือแตะลงไปที่ร่างของเจสเปอร์เบาๆที่ถูกหน่วงเวลา ก่อนจะจากไปพร้อมกับนำพาองค์หญิงซีซีเรียหายเข้าไปยังห้องบรรทมขององค์ราชินี

‘ตูมมมม!!’ ‘อั่กก’

เมื่อร่างเงาสีดำจากไปผลของสกิล Time Dilation ก็หมดลง เวลากลับมาเดินเป็นปกติเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น แต่ทว่าทุกอย่างไม่ได้จบลงเพียงแค่นั่น เมื่อทุกคนได้สติ พวกเขาก็ได้ยินเสียงร่างของบุคคลหนึ่งกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างแรง

“เจส!!”

เจสเปอร์กระอักเลือดออกมาคำโต พลังชีวิตและพลังเวทย์มนต์ของเขาลดฮวบจนอยู่ในขั้นอันตราย

[ชื่อ : เจสเปอร์ Lv : 39]

[เพศ : ชาย]

[อาชีพ : ผู้ควบคุมธาตุ]

[Hp : 1/2994 Sp: 0/4061]

[พละกำลัง : 82]

[ป้องกัน : 50]

[ความว่องไว : 85]

[สติปัญญา : 101]

[ความอดทน : 54]

‘จากพลังชีวิตและเวทย์มนต์ที่เคยเต็มหลอด กลับถูกการโจมตีเพียงครั้งเดียวลดเลือดของเขาเหลือเพียง 1 หน่วย’ ‘ช่างเป็นการโจมตีที่รุนแรงมาก!!’

ถือเป็นโชคดีของเจสเปอร์ที่เขามี เหรียญตราผู้กล้า The Life & Magic Award ที่องค์หญิงซีซีเรียเคยให้ไว้ ช่วยยื้อชีวิตของเขาเอาไว้ไม่ให้ตายจากการโจมตีที่ทรงพลังของพ่อมดมืด แต่นั่นก็ต้องแลกมากับพลังเวทมนต์ทั้งหมดและพลังชีวิตของเขาที่เหลือเพียง 1 จาก 2994

(+632)

คนอื่นต่างวิ่งเข้ามาดูอาการของหัวหน้ากิลด์ด้วยความตกใจ แต่ก่อนที่พวกเขาจะสังเกตุเห็นว่าร่างของเจสเปอร์กำลังมีบางอย่างห่อหุ้มเอาไว้ ซึ่งนั่นเป็นการแสดงผลของเวทย์รักษา ในกลุ่มของพวกเขามีคนที่ใช้เวทย์รักษาแบบนี้ได้เพียง 2 คนเท่านั้น หนึ่งคือเจสเปอร์ ที่กำลังบาดเจ็บ กับอีกคน.....

*Creep คือ ยูนิตที่อ่อนแอขนาดเล็กที่อยู่ในเกม MOBA ซึ่งบางเกมเรียกกลุ่มยูนิตพวกนี้ว่า ครีปหรือบางเกมเรียกมินเนี่ยน(Minion)เป็นต้น หน้าที่และบทบาทของพวกมันถูกกำหนดให้มีหน้าที่เป็นยูนิตที่เอาไว้แจกเงินให้กับผู้เล่นและคอยเป็นกำลังเสริมในการปะทะกับป้อม มีพลังโจมตี ค่าป้องกันและพลังชีวิตที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินและไม่สามารถใช้สกิลอะไรได้ ทำให้ผู้เล่นส่วนใหญ่มักนิยามครีปพวกนี้ว่า ‘ลูกกระจ๊อก’

...โปรดติดตามตอนต่อไป...

เข้าไปร่วมพูดคุยกับไรท์หรือสมาชิกนักอ่านคนอื่นๆได้ที่แฟนเพจตามลิงค์ด้านล่างเลยนะครับ

www.facebook.com/writelazy

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด