ตอนที่แล้วบทที่ ๘
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ ๑๐

บทที่ ๙


ทวนเข็มนาฬิกา

โดย ศศิศิลป์

••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••

บทที่ ๙

"พี่ชัย ผมขอยืมกล้องสักตัวได้มั้ย? "

"เอาไปทำไรวะ"

"ก็ที่เพื่อนผมจะไปแข่งพรุ่งนี้ ผมขอเอาไปเก็บภาพมันได้ไหม สัญญาว่าจะเอามาคืนและรักษาอย่างดี"

ยังไงก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไปดูก้าวแรกของตุลย์ เขาอยากจะเก็บภาพไว้ด้วย

"เออได้ เอาตัวนี้แล้วกัน.."

"โหพี่ เอาตัวแหล่มให้เลยหรอ มันจะได้สิทธิ์เยอะเกินไปแล้วนะโว้ย" อ้วนบ่นพร้อมกับที่โดนชัยตบหัวไปที

"ไม่ต้องมาเสือกเลย เอาไป นี่ฟิล์ม ข้างในครบมั้ยมึงดู....แล้วกลับมาทำงานด้วยนะโว้ย ไม่ใช่ชักดาบกล้องกูนะ" ชัยชี้หน้าคาดโทษ

"ไม่หนีแน่นอนพี่ ไว้ใจได้เลย ผมขอบคุณพี่มากนะ พี่ช่วยเหลือทุกอย่าง ผมยังมาอยู่ไม่ถึงเดือนเลย"

"ใช่ สำนึกไว้เลย! " อ้วนได้ที

"ไอ้อ้วนมึงนี่! ไม่เป็นไรหรอกมึงก็เป็นน้องที่ทำงานดีไม่ได้โหลยโท่ยเหมือนใครบางคนมัน ทำงานก็ไว รอบรู้ ลูกค้าชอบทั้งนั้น.." เจ้าของร้านยิ้มชมเปาะ

"มาชักภาพไว้หน่อยมั้ยพี่ สักกึกสองกึก เป็นที่ระทึก.."

"ระลึกพอมั้ง" เธียร์ช่วยแก้มุกอ้วน

"ระดับความตลกของมึงนี่มันห่วยแตกจริงๆ ที่มึงชอบไปดูตามคาเฟ่ได้อะไรมาบ้างวะเนี่ย.." ชัยบ่น

"มาๆ พี่ เลิกด่าผมก่อน ยืนๆ ชิดกันหน่อย.."

จัดแจงเลือกมุมได้แล้ว ก่อนที่ชัยจะกอดคอเธียร์ไว้ทำท่าเท่ๆ มืออีกข้างเท้าเอว

"หนึ่ง สอง สาม เจ๋งเป้ง! "

แชะ

ภาพถ่ายถูกบันทึกลงบนแผ่นฟิล์ม

"ผมบ้าง ผมถ่ายบ้าง..." กลายเป็นว่าฟิล์มแผ่นนั้นมีภาพจากในร้านไปก่อนแล้ว 5 ภาพถ้วน

เช้านี้เขาหอบตัวเองมายืนอยู่ที่หน้าบ้านของตุลย์อีกครั้งพร้อมถุงสีน้ำตาลใบหนึ่ง มันเงียบเชียบ จนกระทั่งได้ยินเสียงคนเดินออกมา

"อ้าว ไปไหนมา แล้วทำไมไม่เข้ามาในบ้าน.. แล้วเมื่อคืนไปนอนที่ไหน ไปค้างที่ซ้อมกับตุลย์มันหรอ" โตถามชุดใหญ่

เขาไปค้างที่หอพักใหม่มาเลยต่างหาก ได้รับการสนับสนุนของใช้เก่าๆจากชัยและอ้วนทั้งนั้น

"เปล่าหรอกครับ นี่เขายังไม่กลับมาหรอ? "

"มาอาบน้ำเปลี่ยนผ้าแล้วก็ออกไปแล้ว เข้ามาก่อนๆ มันโทรเบอร์บ้านมาว่าค้างกับเพื่อนน่ะ... แล้วสรุปว่าไปนอนที่ไหนมา? "

"เราคงไม่มารบกวนที่นี่แล้ว เราได้ที่อยู่ใหม่แล้วน่ะ ขอโทษด้วยนะที่ไม่ได้บอก" เธียร์นั่งลงบนเก้าอี้หน้าบ้าน

"ยังไม่บอกมันหรอ? "

"ครับ...ตั้งใจว่าจะไม่บอก เขากำลังจะประสบความสำเร็จ พิสูจน์ว่าที่เราพูดทั้งหมดมันจริง และเราก็คงไม่กล้ารบกวนที่นี่นาน เราตั้งหลักได้แล้ว ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ"

"ถ้าจะเอาแบบนั้นก็ตามใจเถอะ แล้วนี่ใช่รูปเราหรือเปล่า?" โตถามมองถุงในมือ

"ใช่แล้ว ขอโทษด้วยเอาไปทำซะนานเลย ทั้งหมดนี่เราล้างเองเลยนะ...แล้วก็เราฝากนี่ให้ตุลย์ด้วย" เธียร์ส่งจดหมายให้

"แล้วจะไม่ไปดูมันประกวดด้วยกันหรอ?"

"ไม่ล่ะครับ เรามีงานต่อ เราลาตรงนี้เลยแล้วกัน ขอบคุณทุกอย่างเลยนะ"

"อืม แวะเวียนมาหาได้เสมอนะ มีอะไรให้ช่วยก็บอกได้.."

"เช่นกันครับ ต้องการอะไรถ้าเราช่วยได้ เราจะช่วยนะ เอ้อ นี่เป็นเบอร์ของร้านที่เราทำงาน.." เธียร์ล้วงกระเป๋าหยิบเศษกระดาษให้

"พอดีเลย.." โตวิ่งกลับเข้าไปในบ้าน

"นี่...เรามีมือถือแล้ว มีอะไรติดต่อมาได้นะ.." กลับออกมาพร้อมกระดาษจดเบอร์ให้ ชูมือถือปุ่มกด รุ่นในตำนานให้เขาดู เธียร์เผลอหัวเราะออกมาเบาๆ พูดคุยกันเสร็จก็ลาจากกัน...

ที่บอกว่ามีงานต่อ...เธียร์โกหก ตอนนี้เขายืนอยู่ที่หน้าเวทีงานประกวดดนตรี มารออยู่จนวงของตุลย์ขึ้น เขายกกล้องขึ้นถ่ายไว้ทุกช็อตสำคัญ จนถึงตอนรับรางวัล เหมือนว่าอีกคนจะไม่เห็นเขาซึ่งนั่นดีแล้ว... ข้างล่างคนแน่นไปหมด

"... และอยากขอบคุณใครอีกคนหนึ่ง ที่ไม่รู้ว่าวันนี้ได้มาหรือเปล่า...

ขอบคุณที่ทำให้ปีนเกลียวเป็นอย่างวันนี้ เขาบอกเสมอว่าเราจะมีวันนี้ และเรามีมันจริงๆ ไปฟังเลยครับ.... ถ้าไม่ได้ยิน"

ตุลย์กำลังพูดถึงเขาใช่มั้ย...

นั่นหมายถึงเขา....

เธียร์ใจเต้นระส่ำ

ทุกถ้อยคำของเนื้อเพลงกำลังเล่าเรื่องราวของเขาที่คอยบอกอีกคนว่าเขาทำได้ แต่มันไม่ใช่เพราะเขาทั้งหมด... ปีนเกลียวทุกคนมีวันนี้ได้เพราะความสามารถ ไม่จำเป็นต้องฟังเรื่องที่เขาทำนายอนาคตนั่นเลย

แต่เขาต้องดีใจพร้อมกับเสียใจไปพร้อมกัน ที่คงไม่สามารถเป็นส่วนนึงของเส้นทางชีวิตตุลย์ต่อไป เหมือนหน้าที่ตอบแทนความช่วยเหลือมันจบแล้ว เขาคงต้องไปหาวิธีกลับไปโลกของตัวเอง และใช้ชีวิตที่นี่ในแบบของตัวเองต่อไป

แชะ

กดมันครั้งสุดท้าย ตอนที่ตุลาจะโค้งคำนับกับเหล่าผู้ชม...

โชคดีนะตุลย์...

__________

หนึ่งเดือนผ่านไป

เวลาผ่านไปเชื่องช้า แต่มันก็ไวพอที่จะทำให้เธียร์ชินชากับโลกใบใหม่ที่โชคชะตาส่งเขามาให้ได้พบเจอ ตอนนี้ในทีวีกำลังฉายงานคอนเสิร์ตของวงปีนเกลียวที่ดังเป็นพลุแตก

เทปที่เพิ่งปล่อยถูกขายเกลี้ยงทั้งแผง แม้แต่เธียร์ ชัย โดยเฉพาะอ้วนก็มีมันอยู่คนละตลับ รายหลังนี่ถึงขั้นเสพติดเลยทีเดียว

"อ้าวมาอีกแล้ว รอบนี้งานเร่งอีกหรือเปล่าพี่...มีรูปนักร้องดังแห่งยุคมาด้วยเปล่า ผมจะเร่งให้เลย" อ้วนทักทายคนมาใหม่

"อ้าว" เธียร์ยกมือทักทายเต้

"ว่าไง สบายดีนะ? " เต้ถาม

"ครับ แล้วทุกคน...สบายดีนะ.."

"ดี ช่วงนี้แม่กลับมาอยู่ด้วยกันด้วย เพราะพ่อหนุ่มนักร้องดังลูกชายคนเล็กโหมงานจนผอมแห้ง" เต้รู้ว่าอีกคนจะถามหาน้องชายเขา ก็ไม่รู้ว่าเมื่อก่อนดูซี้กันขนาดนั้น ทำไมย้ายออกมาแล้วถึงไม่พูดคุยกัน

"แล้วนี่เมื่อไหร่จะมีมือถือกับเขาสักที ไม่วัยรุ่นเลย.." เต้บ่น หลังจากหันคุยกับอ้วนเรื่องล้างรูปเสร็จ

"มันจะเอาไปโทรหาใครพี่ วันๆ อยู่แต่ร้านกับห้อง" อ้วนแทรก

"มึงนี่เสือกเรื่องเขา..." ชัยเอ็ด

"ก็จริงนี่พี่ เอ้อ แล้วพี่สนใจกล้องตัวใหม่เปล่า ตอนนี้ดิจิทัลใหม่มาแล้วนะ ฟิล์มนี่เฉาแล้ว.." อ้วนขายของต่อ เธียร์ฟังอย่างสนุก กระแสตอนนี้เริ่มส่งสัญญาณแห่งยุคใหม่เข้าใกล้ปีที่เขาจากมาเข้าทุกวัน คาบเกี่ยวดิจิทัลกับอนาล็อค

"ไว้เดี๋ยวให้พ่อนักร้องเขามาซื้อเองแล้วกัน เออ แล้วก็รูปเดี๋ยวมารับนะ แต่อาจจะให้คนอื่นมารับ.."

"ใครมาก็ได้ แต่ขอลายเซ็นมาให้หน่อยได้มั้ย ผมนี่อย่างชอบปีนเกลียวเลย"

"ได้สิ แล้วก็...แวะไปที่บ้านบ้างก็ได้นะ ไปกินข้าวกัน ถ้าเผื่ออยากไป.." เต้ทิ้งท้ายให้เธียร์ที่ยกยิ้มให้กันบางๆ

"งี้ก็แปลว่าเอ็งกับบ้านนั้นสนิทกันมากสิวะ ไปอยู่กับเขาตั้งนานอีก แล้วทำไมถึงดูไม่สนิทกันแล้วกับตุลย์ หรือว่ามันดังแล้วไล่มึงออกจากบ้านวะ" อ้วนถาม

"ไอ้อ้วน! เออ แต่กูก็อยากรู้..." ชัยทำทีเหมือนจะดุในทีแรก

"นึกว่าจะด่า หลบจนคอเกร็งเลยกู.." อ้วนบ่นนึกว่าหนุ่มรุ่นพี่จะเพ่นกระบาลเข้าให้แล้ว

"ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก! ก็แค่ไม่อยากรบกวนเขา...ออกมาก่อนวันที่เขาจะประกวดนั่นไง จะเพราะเขาดังแล้วไล่ได้ไง.."

"อ้าวเออ ก็จริง"

แล้วลูกค้าใหม่ก็เข้ามาพอดี ก่อนที่ใครจะทันได้ถามอะไรต่อ

____________

ปีนเกลียวกลายเป็นวงที่ไม่มีใครไม่รู้จัก เวลาแค่เดือนเดียวจากการเร่งสร้างชื่อเสียงของค่าย เพียงอัลบั้มแรกก็เปรี้ยงจนฉุดไม่อยู่ เขาแทบไม่มีเวลาพัก เพราะต้องทั้งเรียนและทำวงดนตรี นอกนั้นก็ต้องซ้อมเสียหนัก

"กว่าจะได้หยุดกับเขา ตุลย์ทำให้แม่เป็นห่วง" คนเป็นแม่อย่าง ต๋อย เอ่ยบ่นลูกชาย

"ทำไงได้ละแม่ มีโอกาสก็ต้องคว้าต้องเต็มที่.." ตุลาบอกด้วยรอยยิ้ม

"ใช่แม่ จะไปบ่นทำไม ต้องดีใจสิที่ลูกชายมีชื่อเสียง" เต้ที่กดเกมในมือถือไปด้วยพูดไปด้วยว่า

"มันก็ดี แม่ก็แค่ห่วง แล้วแกนี่ไม่คิดจะวางมันเลยหรือไง คุยก็ทั้งวันทั้งคืน กดแต่เกมนั่นอีก.."

"คนมันวัยรุ่นอะแม่.." เต้ทำหน้าทะเล้นกลับ

"เออแล้วนี่กระดาษที่แปะเตือนไว้ วันนี้แกไม่ไปเอาหรือไงนัดรับรูปน่ะ.." เธอชี้ไปที่เสาข้างโต๊ะกินข้าว

"ตายโหง จริงด้วย!! "

"โอ้ยตกใจหมดเต้ แกเป็นบ้าเรอะ! "

"ตุลย์เอ็งไปรับแทนข้าทีนะ แล้ววันนี้มีนัดกับน้องมิ้นท์ด้วย ไปแล้วนะแม่! " นึกได้ก็วิ่งปรี่ออกไปนอกบ้าน ทิ้งให้อีกสองคนนั่งงง

"ไอ้ลูกคนนี้นี่ เฮ้ออ แม่ไปรับแทนก็ได้นะ หยุดทั้งทีแกจะได้พัก.."

"ไม่เป็นไรหรอกแม่ เดี๋ยวขับรถไปเอง จะได้ออกไปเดินเล่นด้วย..."

"เอางั้นก็ได้.."

ตุลย์ขับรถมาจอดที่หน้าร้านป้ายตัวใหญ่ พรชัย ดิจิทัล แอนด์ โฟโต้ ดูชื่อที่ซองกระดาษอันเก่าและใบนัดรับอีกรอบเพื่อความมั่นใจก่อนจะเดินเข้าไป

"สวัสดีครั- เหี้ยยยย!! ปีนเกลียว!! " อ้วนร้องเสียงดังจนคนในร้านหันตาม

"สวัสดีครับ พอดีมารับรูปครับ" ตุลย์ยกยิ้มบางๆให้อ้วน ก่อนจะชะงักเมื่อคนข้างๆ นั้นเขาคุ้นตาเหลือเกิน

"ตุลย์.."

"เธียร์.."

สองคนเรียกชื่อกันและกัน ก่อนที่ตุลย์จะเดินไปวางใบนัดลง

"รอสักครู่นะครับ โอ้โหผมจะรีบหาให้เลย รอแป๊ปเดียว.." อ้วนรีบกุลีกุจอไปหาภาพให้ใหญ่

"สบายดีนะ.."

"อืม แล้วทำงานที่นี่เองหรอ... ไม่เจอกันเลยนะ" ตุลย์เอ่ยตอบ มองรอบร้านและความเปลี่ยนไปของอีกคนที่ผอมลงเหมือนเขา

"ขอโทษที แค่เห็นว่าน่าจะยุ่งเลยไม่อยากรบกวน.." คำแก้ตัวของเธียร์ทำเอาตุลย์ยิ้มแห้ง

"หึ อืม ก็เลยทิ้งแค่จดหมายไว้ตั้งแต่วันนั้นเลยสิ.." เขาเสียดสีเล็กน้อยใส่คนที่แค่จะออกมาอยู่ที่อื่นยังไม่อยู่รอบอกเขาด้วยตัวเองเลยด้วยซ้ำ ยังไม่ทันพูดคุยต่อ อ้วนก็ขัดเสียก่อน

"นี่ได้แล้วครับ แต่ก่อนจะไป ขอลายเซ็นไว้หน่อยได้มั้ย ผมนี่แฟนคลับตัวยงเลยนะ ..." อ้วนจัดแจงยื่นเทปให้พร้อมปากกา ตุลย์รับมันมาและตวัดลงไป

และเหมือนว่าตุลาจะเอ่ยอะไร แต่มือถือดันดังแทรกเสียก่อน

"ว่าไงไอ้บ่วง...อ๋อ ได้ เดี๋ยวข้าไป..."

วางสายลงแล้วรับถุงรูปมาถือไว้

"ไว้เดี๋ยวมาหา อย่าเพิ่งย้ายหนีไปที่ไหนละ มีเรื่องจะคุยด้วยเยอะแยะเลย.." ตุลย์ทิ้งท้ายไว้เท่านั้น ก่อนจะโบกมือลากับอ้วนและหันหลังออกไป

ทิ้งเธียร์ไว้ด้วยใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

"โคตรเท่! โห นักร้องมันต้องมาดอย่างนี้สิวะ นี่เป็นไง เหมือนมั้ยวะ? " อ้วนยืนแอ๊คท่าอยู่ข้างๆ แต่เธียร์ไม่ได้สนใจเลย

อีกคนดูดีขึ้นมาจริงๆ แม้จะผอมไปหน่อย แต่ให้ตายเถอะวะ ใจเต้นเร็วเป็นบ้า... ไม่ได้เจอกันเป็นเดือนมาเจอกันนี่มันตื่นเต้นอย่างนี้เลยหรือ ไม่สิ...มันเหมือนอย่างอื่นมากกว่า

ไม่ใช่หรอก...เขาต้องไม่คิดอย่างนั้น

มันต้องไม่ใช่อาการนั้นสิ...

"มึงๆ...เฮ้ย มึง....เธียร์!! เหม่ออะไรวะ.." อ้วนเรียกจนอีกคนสะดุ้ง

"เฮ้ยโทษที พอดีคิดอะไรเพลินๆ.."

"เพลินอะไรวะ เหม่อจนแมลงวันจะบินเข้าปากแล้ว หรือว่า..." อ้วนหรี่ตา เธียร์หายใจไม่ทั่วท้องเหมือนเด็กกำลังโดนจับได้

"มึงอยากได้ลายเซ็นเขาอะดิ โถ่เอ๊ย ช้าไปโว้ย เขาไปแล้ว...แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวก็จะมาอีกนี่ เหมือนว่าเขาจะอยากคุยกับเอ็งด้วย.."

อ้วนยังคงพูดเจื้อยแจ้วต่อไป

ทฤนห์แค่คิดว่าอีกคนอยากจะพบกันอีก ใจก็กลับมาเต้นอีกรอบ หน้ามันเห่อร้อนไปหมด

'ไม่!! นี่จะชอบคนอายุ 38ที่เคยเจอในร่างเด็ก 18 เหรอวะ ตั้งสติหน่อยเธียร์!! '

เธียร์สะบัดหน้าไล่ความคิดตัวเอง

•••••••••••⏱•••••••••••

๗ กันยายน ๒๕๖๓

ตอนที่แล้วบทที่ ๘
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ ๑๐
แบ่งปัน
สวัสดีค่า สำหรับใครที่เข้ามาอ่านงานเรา ไม่ต้องคอมเม้นท์เราก็ได้ เข้ามาติดตามกันก็ชื่นใจแล้ว จะพยายามอัพเดทผลงานเรื่อยๆเลยนะ ติชมอยากให้เปลี่ยนแปลงตรงไหนบอกได้เลยพร้อมพัฒนาแก้ไขให้ทุกคน เราตั้งใจเปลี่ยนนามปากกาใหม่เป็น ศศิศิลป์ ศศิ ที่แปลว่าดวงจันทร์ และศิลป์ ที่หมายถึงศิลปะ เพราะส่วนตัวเราชอบคิดเรื่องที่จะแต่งในตอนกลางคืน เกือบทุกเรื่องจะเขียนจบในเวลาที่ฟ้ามืดแล้ว ศิลปะทางภาษาของเรามักจะทำงานในตอนกลางคืนว่างั้นก็ได้ ยังไงฝากติดตามกันด้วยนะ ศศิศิลป์
0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด