ตอนที่แล้วบทที่ ๖
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ ๘

บทที่ ๗


ทวนเข็มนาฬิกา

โดย ศศิศิลป์

••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••

บทที่ ๗

"ตอนแรกก็ว่าจะไม่บอกเขาก่อน แต่คิดแล้วก็...บอกไปเลยดีกว่า"

"มันว่ายังไง? " โตถาม

"เดาว่ามันให้อยู่ที่นี่.." เต้เสริม

"ใช่ เขาบอกให้อยู่ที่นี่ แล้วช่วยออกค่าใช้จ่ายถ้าเราไม่สบายใจ.." เธียร์ถอนหายใจ

"แต่ให้เอาความสบายใจของตัวเองเถอะ ถ้าอยากอยู่ก็ไม่ว่าอะไรนะ.. แต่ถ้าอยากไปก็บอกได้เลยเหมือนกัน" โตว่า

"ขอบคุณนะ แต่เราคงจะรอให้เขาแข่งขันงานนี้เสร็จ เราก็ไปแล้วล่ะ.."

"อืม งั้นข้าไปเรียนก่อนนะ.." เต้โบกมือลา

เหลือแต่โตที่นั่งอยู่..

"กลับมาฉลองตุลย์เรียนจบ ม.ปลายด้วยกันมั้ย.."

"หืม เมื่อไหร่หรอครับ? "

"ไม่กี่วันแล้วล่ะ ได้ใบจบก็น่าจะหลังวันประกวด มานะ.." โตต่างจากเต้ เขาดูใจดี ดูเหมือนจะดุๆแต่ก็เป็นในแบบมีเหตุผล โตคือส่วนผสมของเต้และตุลย์

"ครับ ผมจะมา.."

"ไปทำงานพร้อมกันมั้ย ที่ฝึกงานต้องไปทางเดียวกันน่ะ.." โตถาม และเธียร์ไม่ปฏิเสธ เขาโดดไปนั่งบนรถคันเดียวของบ้านที่เหล่าพี่น้องบ้านนี้สลับกันใช้

"อ้าวไอ้น้อง นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว.." ชัยร้องทัก

"สายหรอพี่ ขอโทษครับ"

"เฮ้ยไม่สาย ยังทัน อีก 5 นาทีเปิดร้าน"

"มาครับ ผมช่วย.." เธียร์วิ่งกุลีกุจอไปช่วยดับร้านที่ประตูยังเปิดไม่สุด และลูกค้าก็ทยอยเข้ามาไม่ขาดสาย เขาชื่นชอบการได้ให้ข้อมูลและแลกเปลี่ยนเรื่องการถ่ายภาพมาก

"อีกหน่อยพี่จะทำอะไร ถ้ามันไม่ต้องล้างฟิล์มอย่างนี้แล้ว.." เธียร์ถามชัยเมื่อว่างจากงานแล้ว

"เฮ้ยเอาอะไรมาพูดวะ กิจการออกจะรุ่งขนาดนี้.."

"จริงๆ นะพี่ สักวันมันเอ่อ ยังไงละ...อะไรๆ มันพัฒนาขึ้น คนจะไม่ต้องล้างรูปกันแล้ว มันจะเป็นแบบฉายให้ดูอยู่ในจออย่างนี้ พี่จะทำร้านนี้เป็นอะไร.."

"เพ้อเจ้อแล้วมึง มันจะไปฉายอยู่ในจอยังไง เหมือนทีวีนะเรอะ ท่าจะเพี้ยนไปใหญ่โว้ย ฮ่าๆ" พี่ชัยหัวเราะให้เขา

แล้วสักวันเถอะพี่จะนึกถึงคำพูดผม..

เธียร์ไม่ได้เถียงออกไป รู้ว่ามันคงดูเพ้อเจ้อในสายตาพี่ชัย..

"แต่พี่ทำมันต่อไปเถอะ ถ้าพี่ยังทำมันต่อไป พี่จะเป็นตำนานนะพี่ รู้จักเปล่าตำนาน .." เธียร์แหย่

"เออก่อนจะไปถึงโน่นน่ะ มากินข้าวด้วยกันนี่มาๆ...ไอ้อ้วนเลิกแดกได้แล้ว ให้มันมากินข้าว มึงไปเฝ้าร้าน.." พี่ชัยไล่พี่อ้วนออกไป

"โห เกลี้ยงเลย มาพี่ผมทำไข่เจียวเพิ่ม ไม่งั้นคงต้องแย่งกันกินข้าวเหยาะน้ำปลา.."

"ดีๆ ไอ้เวรแดกก่อนแล้วแดกล้างครัวเลย" ชัยบ่น เธียร์โชว์ฝีมืออาหารและทำอีก 2-3 อย่าง ชัยยกยิ้มพอใจ ลูกจ้างที่มาทำงานแล้วสบายใจอย่างนี้หายาก ดูท่าเจ้าเด็กคนนี้ก็เข้าท่าอยู่

เหนื่อยเหมือนกันนะ เข้างาน 9 โมง ถึงบ้านทุ่มกว่า ทุกคนในบ้านกลับมาพร้อมหน้ากันหมดแล้ว เหมือนว่าโตและเต้กำลังเล่นกีตาร์กันอยู่

วันนี้มีชาติมานั่งอยู่ในบ้านด้วยในชุดนักเรียน

"วันนี้ไอ้ชาติมานอนด้วยนะ..." ตุลย์บอกเขา

"อืม.." เธียร์ยิ้มรับ

จะอยู่รบกวนอย่างนี้ไม่นานหรอก

เห็นมั้ยละ ว่าตุลย์ต้องลำบาก

"งั้นให้เธียร์มานอนกับข้ามั้ย? " โตถาม

"เอ่อ ไม่เป็นไร เรานอนข้างนอกนี่ก็ได้" เจ้าตัวแย้ง

"2 คนนอนบนเตียง ข้านอนพื้นเอง" ชาติบอก

"แต่-"

เพื่อนเจ้าของบ้านจะนอนพื้นได้ไง

"เอาแบบนั้นแหละ" ชาติตอบให้เขาสบายใจชัดๆ

"กินอะไรมารึยัง?" เป็นตุลย์ที่ถาม

"กินแล้วล่ะ ทุกคนก็กินแล้วใช่มั้ย? " เธียร์ตอบกลับ

"ยังหรอก มันรอพี่อ่ะ.." ชาติตอบ

"เฮ้ย จริงหรอ คนอื่นล่ะกินยัง? " ทุกคนพยักหน้าว่าเรียบร้อยแล้ว งั้นก็เหลือแต่พ่อนักร้องหัวรั้นนี่ จะรอทำไมกัน...

"งั้นรอแป๊ปนะ เดี๋ยวเราไปทำให้.." เธียร์บอก  ชาติและพี่ชายอีกคน 2 คนของเจ้าของบ้านก็กลับไปร้องรำทำเพลงกันต่อหน้าบ้าน ส่วนตุลย์เดินตามเขาเข้ามานั่งรออยู่ที่โต๊ะหน้าครัว

"กินอะไรง่ายๆ แล้วกันนะ จะรอทำไมไม่รู้เนี่ย หิวมากเลยใช่มั้ย เชี่ย...." หันกลับมาก็ตกใจเพราะหันหน้าเกือบชนกับตุลย์

"อ เอ่ออ ตกใจหมด" เลิ่กลั่กไปหมด นอนห้องเดียวกันก็ไม่เคยใกล้ชิดกันขนาดนี้

"ขอโทษที จะเข้ามาหยิบน้ำน่ะ จะมาดูด้วยว่า จะทำอะไร" ตุลย์ถอยออกไป

"อืม ว่าจะทำคะน้ากับอะไรดี.. ไข่เจียวมั้ย? "

"เอาสิ ง่ายๆ นั่นแหละ ตู้เย็นไม่ค่อยมีอะไรหรอก เดี๋ยวช่วย" ไม่พูดเปล่า ตุลย์ก็มาช่วยหยิบจับทำโน่นนี่จริงๆ

"ทำอาหารเก่งนี่..."

"พอกินได้อ่ะ เพราะอยู่กัน 2 คนพี่น้องก็ต้องทำเป็นบ้าง ธีร์ไม่ชอบอาหารสำเร็จรูป.." เธียร์เล่าไปทำครัวไป ตุลย์ก็ตีไข่เพื่อเจียวไปฟังไป

"แต่กินได้นะ วันนี้ทำให้พี่ชัยกินแกชมใหญ่เลย" ตุลย์ชะงักไปเล็กน้อย

"หรอ เจ้านายเธอหรอ?"

"อืม ใจดีมากเลย ลูกค้าก็เยอะ คนสมัยนี้ยังต้องอัดรูปกันนี่นะ ถ้าเป็นสมัยเรามันน้อยลงแล้วแหละ..เนี่ยรู้มั้ย-" เธียร์เจื้อยแจ้วเล่าไปเรื่อย จนอาหารเสร็จและนั่งกินเป็นเพื่อนจนอีกคนกินหมด

ตุลย์บอกให้เธียร์ไปอาบน้ำก่อนเลย ตัวเขาจะล้างเองหลังจากเธียร์ยืนยันว่าจะล้างให้ ทฤนห์เดินออกมาจากห้องน้ำรวม ด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียว เหนื่อยจนลืมหยิบเสื้อผ้าเข้ามาเปลี่ยน แล้วก็ตกใจเมื่ออีก 3 คนที่นั่งหน้ามานั่งอยู่ในบ้านกันหมดแล้ว พร้อมทั้งหันมามองเขา แม้จะมองด้วยสายตาเฉยๆปกติแต่ทำเอาเขารีบวิ่งเข้าห้องนอนไป เต้หัวเราะตามหลังกับท่าทางตลกๆนั้น

"เป็นอะไรอีกละนั่น.." พี่คนรองว่า

"สงสัยจะอาย" โตตอบ

"อายอะไรผู้ชายด้วยกัน..แค่ขาวไปหน่อย" เต้ว่าขำๆ ทุกคนไม่ได้สนใจ

ฟากอีกคนที่วิ่งเข้าห้องมาอย่างไว กดล๊อคประตู ไม่ได้ดูว่าตุลย์ถอดเสื้อผ้าอยู่ด้านใน

"เชี่ยยย! " อุทานเสียงดังอีกรอบ

"เฮ้ย ตกใจหมด เป็นอะไร? " ตุลย์งง

"อะ เอ่อ เปล่าๆ พอดีลืมเอาเสื้อผ้าเข้าไปใส่"

"อ๋อ ...อ่ะนี่" ตุลย์เลือกหยิบจากในตู้ให้

"ขอบคุณนะ.." เขาหยิบมันมาใส่ทีละตัวจนครบชุด

"เอ้อ ลืมถามไป ว่าแต่ไปทำงานมีชุดใส่หรอ อยากซื้อใหม่มั้ย? "

"ไม่ละ ที่พี่ชายเธอให้มากับของเธอก็ยังพอใส่อยู่.." เขาได้แต่งตัวแบบสตรีทเก่าๆ ที่มาจัดแต่งดีๆมันก็ใกล้เคียงกับแฟชั่นปัจจุบัน บางลุคบางดีไซน์ก็เท่กว่าด้วยซ้ำ มันก็สนุกอยู่เหมือนกันการแมทช์เสื้อผ้าต่างๆ

"บ่วงกับอ๋องมันชมว่าเสื้อผ้าที่เธอใส่โคตรจ๊าบ มะรืนมันอยากให้ไปช่วยแต่งตัววันประกวด ว่างมั้ย? "

"อืมว่างสิ ลางานไว้แล้วล่ะ"

เขาจะพลาดได้ยังไง รอวันนี้มานาน

"จริงหรอ ดีเลย...งั้นเราไปอาบน้ำนะ.." ตุลย์ยกยิ้มก่อนจะออกไป เธียร์หยิบสมุดบันทึกความทรงจำขึ้นมา ขีดเขียนเรื่องราวของวันนี้

ใกล้วันที่ปีนเกลียวจะขึ้นประกวดแล้ว....

ไม่พลาดแน่นอน ต้องไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นให้ได้...พี่ตุลย์ของไอ้เอิงคงเท่เหมือนที่ชอบลากเขาไปดู ไว้กลับไปจะเล่าให้พวกมันฟัง ว่าโลกอดีตมันจ๊าบขนาดไหน

••••••••••••••••••••?•••••••••••••••••••

วันนี้ที่ทำงาน Fckin Busy เหนื่อยหน่อยแต่สนุก ได้คุยกับใครหลายคนในความคิดกลิ่นอายต้นยุค 2000 เดี๋ยวไม่ดิ....กูอยู่ในยุค 2000 นี่ #หัวเราะหนักมาก เออนั่นแหละ ...โคตรจะเฟี้ยวเลย

mindset หลายอย่างคนที่นี่ยังไม่ค่อย open ได้รู้ว่าบางอย่างก็ถูกฝังรากลึกมานานแล้วจริงๆ

อยากจะโพสต์ลง Storylog จริงๆ ได้แต่ระบายลงในนี้ไปก่อน

เธียร์"

•••••••••••••••••••••••••••••••••••••••

การนอนคืนนี้ค่อนข้างที่จะต่างไป เตียงนอนแคบๆ นอนเบียดกันอยู่ 2 คน แต่เธียร์เหนื่อยมาก เขาหลับลงไปก่อน

ตุลาเกิดความสับสนในใจ เขารู้สึกถึงมันมาสักพักแล้ว แต่มันชัดเจนก็ตอนที่ใจเผลอเต้นที่หน้าชนเข้ากับเธียร์ในครัว แล้วไหนจะเมื่อกี้ที่เห็นอีกคนแต่งตัวอยู่ตรงหน้า ทำว่าเฉยๆแต่หน้าเห่อร้อนขึ้นมาซะอย่างนั้น

หรือกูจะเป็นตุ๊ด...ประเภทรักชอบเพศเดียวกันวะ ความคิดตีกันสับสนจนต้องผุดนั่งขึ้นมา หันมองคนที่นอนอยู่อีกฝั่งของเตียง ไอ้ชาตินอนหลับขยุกขยิกเล็กน้อย

ส่วนเธียร์นอนหลับตาพริ้ม มือหนาค่อยๆ เอื้อมไป เอื้อมไป...จนใกล้กับหน้าอก ก่อนหยุดที่วางทาบลงไปบนหัวใจอีกคน

ตึกตึก ตึกตึก ตึกตึก

มันเต้นสม่ำเสมอ ก่อนที่มือเขาจะค่อยๆ เคลื่อนมันไปที่ลำคอ ผิวที่นุ่มลื่นทำเอาใจตุลาเต้นหนัก ก่อนจะไปเกลี่ยอยู่ที่ข้างแก้ม เขาพินิจมันอยู่นาน ก่อนจะชักมือออก เรียกสติตัวเอง

"คิดบ้าอะไรของมึง เป็นพวกไม้ป่าเดียวกันหรือไง.." เขาหัวเราะกับตัวเอง และส่ายหน้า ก่อนจะทิ้งตัวลงกับเตียงนอน มองอีกฝ่ายอยู่อย่างนั้นก่อนจะหลับตาลง

สำหรับยุคสมัยนี้ การที่ใครคนหนึ่งมีความสับสนเรื่องเพศ ตัวตุลาเองไม่อยากจะยอมรับมัน มันเป็นเรื่องยาก ประหลาด และไม่เป็นที่ยอมรับ ถ้อยคำในใจของเด็กหนุ่มหากได้เอื้อยเอ่ยมาในศตวรรษที่ 21 คงจะโดนสังคมประณาม

เขาแค่คิดว่ามันเป็นความสับสนจากความใกล้ชิดและความดีของเธียร์ เพราะเขาชื่นชมและรู้สึกดีกับคำต่างๆที่ได้ยินจากเธียร์และมันผลักเขาให้มั่นใจในตัวเอง ...ตุลาสะกดจิตใจตัวเองแบบนั้น

เสียงนาฬิกาปลุกดัง เธียร์รีบกดปิด บนตัวเขาหนักอึ้งเพราะตุลย์นอนก่ายอยู่ เขาชะงักเล็กน้อยๆ ก่อนจะค่อยๆ จับแขนที่พาดไว้ออก

ลุกขึ้นเดินไปก็ไม่เห็นว่าชาตินอนอยู่ข้างเตียงแล้ว อีกคนมองตามทฤนห์ ตื่นเช้าจัง คิดเพียงในใจไม่ได้เอ่นทักทาย... เธียร์ออกมาทำกับข้าวให้ทุกคนก่อนจะรีบออกไปทำงาน

"อร่อยดีนะ เธียร์ทำกับข้าวเก่งนะ.." โตชม

"อืม นี่ขนาดว่าบอกว่าทำพอกินได้นะ เมื่อวานเล่าให้ฟังว่าทำให้ที่ทำงานกินด้วย" ตุลย์โม้ใหญ่ ชาติมองตาปริบๆ เก็บคำถามเอาไว้ในใจ

ขณะที่เดินลงรถกันมาเพื่อจะไปยังห้องซ้อมอีกไม่กี่ตึก ชาติก็ถามคำถามในใจออกมา

"มึงเป็นประเทืองหรอวะ? " ทำเอาตุลย์ชะงัก

"เอ็งถามอะไร? "

"ข้าถามว่าเอ็งเป็นพวกอย่างนั้นหรอ ตุ๊ด ประเทือง? "

ตุลารู้ความหมายดีแต่ไม่ชอบคำเหล่านี้เลย ไม่ชอบท่าทางน้ำเสียงเวลาชาติถามด้วย

"ข้าเห็นนะเมื่อคืนที่เอ็งลูบตัวมัน แล้วก็สังเกตมานานแล้วด้วย..ดึ๋ยว่ะ" ชาติว่ามองด้วยหางตา ทำท่าทางขนลุก แต่คนถูกถามยังเงียบ

"ข้าได้อ่านสมุดที่มันจดบันทึกไว้ พูดจาเพ้อเจ้อเหมือนมาจากอีกยุค แล้วก็ท่าทางประหลาดตั้งแต่ร้องเพลงเราได้แต่ก็ยังไม่สงสัย ไหนจะมาเป็นพวกผิดเพศอีก ชอบอัดถั่วด-"

ผลัก พลั๊ว!!

ไม่รอให้พูดจบ ตุลย์เลือดขึ้นหน้าคว้าคออีกคนมาซัดไปเต็มแรง

"มึงทำเหี้ยไรเนี่ย"

"มึงนั่นแหละพูดเหี้ยอะไร อย่าพูดถึงเธียร์แบบนั้นอีก..."

"มึงชอบมันล่ะสิไอ้ตุลย์!! " ชาติทำท่าจะมาพุ่งเข้าต่อยคืน แต่บ่วงวิ่งมาห้ามไว้ก่อน

"เป็นอะไรกันวะ ต่อยกันเหมือนหมา! เฮ้ย ไอ้อ๋อง มาช่วย! " บ่วงตะโกนลั่น ก่อนที่อ๋องจะมาลากอีกคนเข้าไปยังห้องเพราะกลัวคนจะออกมามุงดู

"เล่ามาได้แล้ว ว่ามันเกิดอะไรขึ้น.." หลังจากแยกมุมกันจนใจเย็น อ๋องก็เป็นคนถามเปิด

"ถามไอ้ประเทืองนั่นดูสิ..." ชาติว่า

"ไอ้สัตว์! " ตุลย์ทำท่าจะประเคนฝ่าเท้าเข้าให้อีกรอบ

"เฮ้ยหยุด ไอ้ชาติ เอ็งพูดอะไร? " บ่วงถามให้รู้เรื่อง

"มันชอบเธียร์ สกปรกชิบหาย พวกรักร่วมเพศ" ชาติทำหน้าตาเหยียดหยัน

"จริงหรอไอ้ตุลย์.." อ๋องถาม

"เธียร์ไม่ใช่..."

"แล้วมึงใช่งั้นสิ" ชาติย้อน

"กูก็ไม่ใช่!! กูไม่ได้อยากเป็นผู้หญิง...แล้วก็ไม่ได้จะไล่เอาผู้ชาย! " ตุลาสวนกลับ

"แต่มึงชอบมันล่ะสิ กูเห็นมานานแล้ว พวกมึงก็เห็น! " ชาติไล่บี้ทุกคน ซึ่งทุกคนเห็นความสนิทที่เกินปกตินั้นจริง

"ไอ้ตุลย์มันก็แค่ต้องดูแลเขา ไม่ใช่เป็นอย่างมึงว่า.." บ่วงช่วยแก้..

"เป็นเกย์แล้วเป็นยังไง!! " เสียงคนมาใหม่ถาม ทำเอาทุกคนหันไปมอง

•••••••••••⏱•••••••••••

๔ กันยายน ๒๕๖๓

ตอนที่แล้วบทที่ ๖
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ ๘
แบ่งปัน
สวัสดีค่า สำหรับใครที่เข้ามาอ่านงานเรา ไม่ต้องคอมเม้นท์เราก็ได้ เข้ามาติดตามกันก็ชื่นใจแล้ว จะพยายามอัพเดทผลงานเรื่อยๆเลยนะ ติชมอยากให้เปลี่ยนแปลงตรงไหนบอกได้เลยพร้อมพัฒนาแก้ไขให้ทุกคน เราตั้งใจเปลี่ยนนามปากกาใหม่เป็น ศศิศิลป์ ศศิ ที่แปลว่าดวงจันทร์ และศิลป์ ที่หมายถึงศิลปะ เพราะส่วนตัวเราชอบคิดเรื่องที่จะแต่งในตอนกลางคืน เกือบทุกเรื่องจะเขียนจบในเวลาที่ฟ้ามืดแล้ว ศิลปะทางภาษาของเรามักจะทำงานในตอนกลางคืนว่างั้นก็ได้ ยังไงฝากติดตามกันด้วยนะ ศศิศิลป์
0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด