ตอนที่แล้วบทที่ ๓
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ ๕

บทที่ ๔


ทวนเข็มนาฬิกา

โดย ศศิศิลป์

••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••

บทที่ ๔

"วันนี้ข้าว่าพวกเราเล่นดีมาก..." อ๋องบอกทุกคน หลังจากซ้อมเสร็จแล้วพากันเดินออกมา

"ข้าว่าจะไปกินอะไรฉลองสักหน่อย ฉลองให้กับว่าที่แชมป์งานต้นปีนี้หน่อยว่ะ.." บ่วงบอก

"เอ็งรีบรึไง ข้าว่าเราค่อยไปกันดีกว่า" ตุลย์บอกเพื่อนๆ ยิ่งทำให้ชาติหรี่ตามองใหญ่ เพื่อนไม่เคยปฏิเสธอย่างนี้

"เออๆ อย่างนั้นก็ได้ งั้นเราไปเว้ย..." อ๋องเดินนำคนที่เหลือไป

เธียร์ยกยิ้มให้ทุกคน นี่เขาอยู่ในขั้นแรกของความสำเร็จในชีวิตคนกลุ่มหนึ่งหรอเนี่ย

ภาษาที่เพื่อนใช้กันก็ไม่ได้หยาบคาย เอ็งๆ ข้าๆ ฟังแล้วน่ารักดี

"ทำไมไม่ไปกับเพื่อนล่ะ? "

"ไม่เอา เราอยากพาเธอไปเดินเล่นแถวนี้..." ตุลย์ว่า

"ห้ะ เดินเล่น? "

"ใช่ ...ขอบคุณมากเลยนะ ที่วันนี้ทำให้พวกเราโคตรมีความสุขเลย ไม่รู้หรอกว่าไอ้เรื่องนั้นมันจะจริงมั้ยน่ะ อนาคต... แต่มันมีความหวังขึ้นมาแล้วล่ะ.." ตุลย์รู้สึกว่าเธียร์เข้ามาจุดประกายอะไรในใจเขา

"งั้น...พาเราไปที่ศาลนั้นหน่อยได้มั้ย... ที่เจอเราครั้งแรก" เขาก็อยากจะซาบซึ้งชีวิตในอดีตอยู่หรอก แต่ก็อยากจะกลับไปเช่นกัน

"อยากจะกลับไปหรอ? "

"อืม.." ที่นี่เขาไม่มีตัวตน ตัวตนในปี 2543 เขาเป็นแค่เด็ก 5 ขวบที่มีพร้อมสมบูรณ์ ชีวิตตอนนี้มันไม่จำเป็นต้องไปแก้ไขอะไร

"งั้นไปกัน แต่ขอโทรบอกที่บ้านหน่อย.." ตุลย์ยกยิ้มน้อยๆ ก่อนจะวิ่งไปที่ตู้โทรศัพท์ใกล้ๆ

หยอดเหรียญมันลงไปกดเบอร์อย่างคล่องแคล่ว เธียร์มองมันเพลินตา เขารู้จักมัน...แต่สมัยนี้ใครเขาใช้กันล่ะ ได้ยินตุลย์บอกปลายสายว่าจะกลับบ้านมืดหน่อย ให้พี่ชายไม่ต้องเป็นห่วง

"ไปกัน..." ตุลย์เดินนำไปรอรถประจำทาง ก่อนจะลากเขาขึ้นไปนั่ง หยิบบางอย่างในกระเป๋าออกมา รูปร่างมันแปลกตา

"เครื่องเล่นเทป? " เธียร์ถามพร้อมมองอีกคน

"ซาวด์อะเบ้าท์ .. อนาคตมันยังมีหรือเปล่า? " ตุลย์ยกยิ้ม หมุนไส้เทปเข้าที่ก่อนจะใส่มันลงไปในเครื่อง

"มีสิ...แต่ไม่มีใครใช้กันแล้วล่ะ ยกเว้นจะเป็นคนชอบสะสมของเก่า"

"แล้วฟังเพลงกับอะไรละ? " มันยังทันสมัยอยู่นะ ถ้าไม่ฟังอย่างนี้แล้วจะฟังอย่างไหน ตุลย์งง

"โทรศัพท์ไง...อันที่จริงโทรศัพท์มือถือเครื่องเดียวนะ ทำได้ทุกอย่างเลย ถ่ายรูป โทรเข้า-โทรออก ส่งข้อความ ดูหนัง ฟังเพลง.." ตุลย์อึ้ง

"เป็นไปได้ไง? มัน...มันเป็นปุ่มๆ อย่างนั้น จะถ่ายยังไง ดูหนังได้อีกหรอ? ถ่ายวิดีโอด้วยหรือเปล่า? " เขายังคิดภาพมันไม่ออก

"ใช่ ถ่ายได้... ไม่ได้เป็นปุ่มอย่างเดิมแล้วล่ะ เป็นหน้าจอเฉยๆเหมือนจอทีวี เป็นสี่เหลี่ยมถือพอดีมือ ทุกคนมีมันไว้ทั้งนั้น เป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายเลยล่ะ.." เธียร์ยังงุ่นง่านเลยที่อะไรไม่เป็นอย่างใจ ความสบายที่ขาดมันไปอย่างนี้ ชีวิตมันนานขึ้นชอบกล

"ไม่อยากจะเชื่อ..." ตุลย์คิดไม่ออกเลยว่าไอ้เจ้านั่นมันจะรูปร่างเป็นยังไง

"แล้วตึกที่ไปซ้อมกันนั่น ทำไมไม่มีใครเลย...เช่าไว้ซ้อมกันหรอ คงแพงน่าดูนะ"

"ต้มยำกุ้งปีก่อน เจ้าของเขาทิ้งไป เลย มีคนมาดูแลแทน เขาเลยให้เด็กๆ มาเช่าทำกิจกรรมกัน" ตุลย์อธิบาย

ชิบหายแล้ว...ไม่ตั้งใจเรียนด้วยสิ...จำอะไรอย่างนี้ไม่ได้เลย

ต้มยำกุ้ง แฮมเบอร์เกอร์ ฟองสบู่...

ไอ้เธียร์เอ้ย...จำได้แต่โควิด

"แล้วพ่อแม่เธอล่ะ? แบบว่า...เขาอยู่ไหน? " ถามด้วยเพราะที่บ้านตุลย์นั้นนอกจากพี่น้องก็ไม่มีคนอื่นเลย

"ทำงานต่างจังหวัดน่ะ มีโรงงานเฟอร์นิเจอร์เล็กๆเขาส่งเงินมาให้พวกเราใช้" ตุลย์อธิบาย ก่อนที่จะกดเปิดเทปแล้วยื่นหูฟังหนึ่งข้างมาให้เธียร์

"ฟังสิ...เพลงใหม่เลยนะ"

สองคนใส่หูฟังกันคนละข้าง พากันนั่งฟังมันตลอดทางจนรถสุดสาย

บางทีชีวิตแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เพลงมันไม่ได้ชัดมากแต่ก็ยังเพราะอยู่ ไม่มีเอ็มวีให้ดู แต่เขารู้สึกว่าบรรยากาศมันกินใจขึ้นมากกว่าเดิมเสียอย่างนั้น

แม้ว่ามันจะแอบหงุดหงิดที่เผลอก็อยากจะหามือถือมาอัปเดตหรืออยากเช็กโซเชียล แต่ก็ต้องพบว่าไม่มีมันอยู่... เธียร์มองหน้าคนข้างๆ ในตอนนี้... ตุลย์ไร้เดียงสาเหลือเกิน เขาไม่มีทางรู้เลยว่าโลกหลังจากนี้ตัวเองจะโด่งดังแค่ไหน และเจอข่าวอะไรบ้าง...

••••••••••••••••••••?•••••••••••••••••••

'....ตุลย์ ตุลา ในปี 2000

เขาดูเป็นเด็กน้อย แววตาสดใส...มีความฝัน

คุณ...รู้มั้ย อีกเกือบ 20 ปีข้างหน้า

คุณจะโด่งดังจนนึกภาพมันไม่ออก

ตลกชะมัดที่เราต้องมาเรียกสรรพนามเธอๆ เราๆ แบบนี้ ห่างกันเป็นรอบเลย แต่ช่วยไม่ได้คุณไม่สบายใจจะให้เราเรียกแบบนั้น..

อนาคต Account Facebook , Twitter หรือแม้แต่ Instagram คนติดตามคุณเป็นล้านๆ

ได้เป็นพระเอกด้วยนะ...

คุณทำมันได้ดีมาก...

แต่ไม่อยากจะให้ตุลย์ อิษวัตลืมความรู้สึกในวันนี้ที่เป็น ตุลา ไปเลย วันที่สดใสเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง และความฝัน

วันที่เรานั่งฟังเพลงจากซาวด์อะเบ้าท์ที่คุณบอกว่ามันเป็นเพลงใหม่แต่เราฟังมาไม่รู้กี่ร้อยรอบแล้วในชีวิต'

•••••••••••••••••••••••••••••••••••••••

เธียร์เขียนมันไปเหมือนไดอารี่ บอกเล่าเรื่องราวที่เขาเจอในปัจจุบันผูกโยงกับอนาคต มีเขาคนเดียวที่รู้ว่ามันรู้สึกยังไง และมันเกิดอะไรขึ้น...

พวกเขาเดินกันมาที่ศาลไม้เก่าๆมันวางอยู่ข้างต้นไทรต้นใหญ่ เธียร์มองมันอย่างหมดหวัง มันอยู่คนละจุดกับที่เขาเห็นมันล่าสุดในอีก 20 ปีด้วยซ้ำ

ยิ่งมองรอบๆ ยิ่งไม่มีหวังเลย... เราจะกลับไปเวลาที่จากมายังไง ด้วยศาลไม้เก่าๆ ผุๆ นี่

"วันนั้นไม่มีใครมองหรอก ว่าเธอออกมาจากมุมมืดนี่ยังไง รู้ก็ตอนไอ้อ๋องมันกลับรถ แล้วก็ชนเข้าให้ ดีที่ชนไม่ได้แรงมากเพราะฝนตกมันเลยขับช้า..." ตุลย์ว่า

ฝนตก? แต่วันนั้นฝนไม่ตกนี่...

"ช่างมันเถอะ..." เธียร์เดินวนมันหลายรอบแล้ว ไม่มีวี่แววว่ามันจะทำให้เขาทะลุตัวไปหรือทำอะไรเหมือนอย่างในหนังย้อนเวลาที่เคยดูได้

"งั้นไปหาอะไรกินกัน... ไปดูไฟปีใหม่กันไหม? " ตุลย์พยายามเรียกรอยยิ้มจากทฤนห์ที่มีสีหน้าผิดหวัง

"ไปสิ.." มันได้ผล อย่างน้อยไม่รู้ว่าจะกลับไปยังไงก็ใช้ชีวิตให้มันคุ้มไปเสียเลย...

___________

ผ่านมาหลายวันแล้วนับตั้งแต่โผล่มาที่นี่ ไม่รู้ทำไมว่าลืมตาขึ้นมากี่ทีก็ไม่พบว่ากลับไปในโลกปัจจุบันเสียที จนเธียร์เลิกหวังมันแล้ว

ที่เพิ่มเติมมานั้น เขาขอให้ตุลย์พาไปที่บ้านของตัวเองแทบทุกวันที่มีโอกาสและเวลาว่าง อย่างเช่นตอนนี้...

"ไม่เข้าไปหาหรอ ถ้าเป็นเรา เราคงอยากจะวิ่งไปหาตัวเอง แล้วพูดคุยอะไรกับเด็กคนนั้นเสียหน่อย.." ตุลย์นั่งมองคนที่เอาแต่จ้องเด็กผู้ชายสองคนที่เล่นกันอยู่หน้าบ้านตรงนั้น

เขามานั่งที่ร้านของชำที่เป็นร้านน้ำชานี่ในทุกวัน...สั่งน้ำมานั่งกินกันบ้าง ข้าวร้านข้างๆบ้าง เพื่อดูกิจวัตรของบ้านหลังหนึ่ง

"ไม่ล่ะ... มันดีอยู่แล้ว เราไม่ได้อยากจะไปเปลี่ยนอะไรตรงนั้นเลย" มันดีมากๆ จนเขาอยากจะหยุดเวลาตรงนั้นเอาไว้

"ทำไมละ...อนาคตมันจะไม่ดีหรอ? " ตุลย์อยากจะรู้ขึ้นมา

"เด็กคนนั้นชื่อเด็กชายวีราทร โตขึ้นเขาจะเปลี่ยนมันเป็น ทฤนห์ พี่ชายชื่อธีร์ เวทิศ...พ่อแม่อบอุ่นมากเลยเห็นใช่มั้ย..." ตุลย์พยักหน้ารับ รอฟังว่าอีกคนจะพูดอะไรต่อ

"แต่หลังจากนี้ไม่น่าจะนาน...เราจำไม่ได้หรอกว่าอีกกี่เดือนหรือกี่ปี...พ่อจะทิ้งแม่ไป ทิ้งพวกเราไป... เขามีผู้หญิงคนอื่น หลังจากนั้นแม่ต้องทำงานหนัก ไม่กี่ปีมานี้..แม่ก็จากเราไปอีกคนแต่เป็นจากแบบไม่มีวันกลับ... เราจะไม่มีวันให้อภัยผู้ชายคนนั้นอีก คนที่ยืนอยู่ตรงนั้น..จะไม่ลืมว่าเราลำบากกันแค่ไหน และแม่เหนื่อยแค่ไหน เราจะไม่ยิ้มให้เขาแบบนั้นอีก" เธียร์หมายถึงพ่อของเขาที่วิ่งเล่นไปมากับลูกชายที่ถนนหน้าบ้าน

มันเป็นบ้านในชุมชนที่มีร้านขายของมากมาย และที่เขาอยู่มันเป็นถนนอีกฝั่งของบ้านทาวเฮ้าส์ที่เรียงราย

ทันใดนั้นเอง จู่ๆ ธีร์ก็วิ่งมาฝั่งตรงข้าม... ตรงมาที่ร้านนี้ เธียร์ทำตัวไม่ถูกและนั่นก็แม่เขาที่วิ่งตามมาอีกคน

"แปะๆ ขอไวตามิลขวดนึง.." ธีร์ในวัยน่าจะประมาณ 8 ขวบ หน้าแดง เหงื่อซก

"หวัดดีเพ่! " เธียร์หลุดขำออกมาเพราะท่าทางแก่นเซี้ยวแบบนั้นของพี่ชายตัวน้อยของเขา

"ว่าไง.." ตุลย์ยิ้มกลับ

ก่อนที่เด็กน้อยจะแลบลิ้นปลิ้นตาแล้ววิ่งกลับไป

"ตายแล้วธีร์ ขอโทษนะคุณ... ลูกน้าซนไปหน่อย.." ผู้หญิงดูดีผิวขาวซีดเอ็ดลูกก่อนจะหันบอกพวกเขา

เธียร์ปากสั่นไม่หยุด ไม่สามารถหยุดมองหน้าเธอได้ ขอบตาร้อนผ่าว อยากจะโผกอด แต่แม่ของเขาในตอนนี้กำลังมองกลับมาอย่างสงสัยว่าใครกันมานั่งมองหน้าเธออย่างนี้

"นี่จ้ะแปะ ค่าไวตามิล... แล้วก็อันนี้ของเมื่อวานที่เจ้าธีร์พาน้องมาติดไว้ด้วย.." เธอยื่นเงินให้ลุงเจ้าของร้าน ก่อนจะส่งยิ้มงงๆ ให้เธียร์ก่อนเดินจากไป

ตุลย์เห็นหน้าอีกคนไม่ค่อยดีจึงตบไปที่ไหล่ปลอบใจ

"เธอเชื่อใช่ไหมว่าเรามาจากอนาคต? " เธียร์ถามเสียงเบา

"ก็...เชื่อล่ะมั้ง ไม่รู้สิ เราเชื่อคนง่ายจะตาย.." ตุลย์กล่าวติดตลก

"แล้วเชื่อไหมว่าโลกที่ไม่มีผู้หญิงคนเมื่อกี้อยู่มันหดหู่มากจนเรากับเด็กผู้ชายคนเมื่อกี้เสียศูนย์ไปเลย...เชื่อไหมว่าเราอยากจะเห็นแก่ตัวอยู่ที่นี่ไปตลอดเพื่อจะได้เห็นแม่ต่อไป... แต่ดูนั่นสิ.." เธียร์พยักพเยิดไปที่เด็กชายที่โตกว่าที่กำลังเอาไวตามิลให้น้องกินอย่างค่อยๆ ก่อนจะดันหลังน้องเข้ารั้วบ้านไปเพราะพ่อกับแม่เรียก

"เราทิ้งเขาไม่ได้หรอก..." ความรักที่ธีร์มีให้เขา แม้มันจะไม่เหมือนตอนเด็กที่ออกจะโอ๋กันอย่างนั้น แต่ธีร์ก็ดูแลและทำหน้าพี่ชายมาตลอดชีวิตที่เขาจำความได้

แต่เขาไม่ทิ้งพี่ชายในโลกที่เขาจากมา เพื่อมามีความสุขอยู่กับการมีแม่อยู่ที่นี่คนเดียวหรอก ไม่สิ..มีทั้งพ่อและแม่เลยในตอนนี้

"อืม..." ตุลย์ไม่รู้จะปลอบยังไง ได้แต่ลูบไปที่ไหล่เบาๆ

____________

๓๑ ธันวาคม ๒๕๔๓

วันนี้เป็นวันที่วงปีนเกลียวจะได้ขึ้นแสดงเป็นวงเปิดตัวของนักร้องดังวงหนึ่ง

...พวกเขาจะเฉิดฉาย และเพราะเธียร์เป็นคนชี้ทางให้ บ่วงจึงไปติดต่อเพื่อไปเล่นงานนี้ ทุกคนเลยพากันเตรียมตัวยกใหญ่

แต่ตัวเธียร์กลับมาที่บ้านหลังนี้คนเดียว กลับมายังบ้านของเขาเอง...อีกครั้ง

"มาทำอาลัย.." หลังจากที่ยืนชะเง้อมองอยู่นาน ก็มีเสียงจากเด็กน้อยในบ้านเรียกเข้าให้

"ห หวัดดี..."

นี่กูยืนคุยกับตัวเองหรอวะเนี่ย...

ไม่อยากจะเชื่อ ตอนนี้ข้างหน้าเขาคือตัวของเขาเองในวัย 5 ขวบ

"ไม่พูด...ไม่นู้จัก! " พูดจาก็ไม่ชัด ตลกจริงๆ

"ไม่ได้มาไม่ดีสักหน่อยไอ้เธียร์เอ๊ย.." เธียร์พูดกับตัวเองในวัยตัวน้อย

"คุณแม่!!! พิธีร์!! " จู่ๆ เด็กอ้วนก็แหกปากและตะโกนเรียก แม่ของเขาวิ่งหน้าตั้งมาพร้อมพี่ชาย

"ไอ้คนนี้ไม่ดี เรียกไม่ดีเลย! " ท่าทางเอาเรื่องนั่นทำเธียร์ยกยิ้ม แต่เมื่อมองไปที่อีกสองคนทั้งธีร์และแม่กลับดูไม่ค่อยพอใจ

จู่ๆสมองก็ปวดแปล๊บ!! ... เรื่องราวที่เขาไม่เคยคิดออกมาก่อน จู่ๆก็แวบมาในหัว เป็นภาพมุมที่เขาในวัยเด็กมองเห็นตัวเองในตอนนี้มายืนที่รั้วบ้าน

"เชี่ย โอ้ยยย! " ปวดหัวจนตัวโคลงเคลง จู่ๆ ก็มีเสียงเล่าของแม่ในตอนเขาเริ่มโตว่าหน้าตาเขาคุ้นๆ... เหมือนเคยมีคนแปลกๆหน้าคล้ายลูกชายตนตอนช่วงวัยนี้มายืนอย่างนี้หน้าบ้าน เพราะมันแปลกและอดีตสามีเธอเคยเล่าด้วยความไม่พอใจและให้คอยระวังจนเธอจำติดตา

เท่าที่เธียร์จำได้มันไม่เคยมีเหตุการณ์นี้มาก่อน นี่มันความทรงจำใหม่...

"เป็นอะไรน่ะ ว้ายยย! " เพราะเขาเซจนต้องหาอะไรยึดเหมือนจะเป็นลม

ภาพความทรงจำในตอนเด็กที่จู่ๆ ก็เพิ่มเข้ามาว่าเห็นใครคนนึงมาโงนเงนอยู่หน้าบ้านและพี่ชายกอดเอาไว้ เขามองหน้าตัวเองในตอน 5 ขวบนิ่ง

"ไม่ ม ไม่เป็นไร..." พยายามฮึบแรงทั้งหมดที่มีเดินออกมาให้ไวที่สุด...ไม่ดีแล้ว เขากำลังจะเปลี่ยนอดีต เขาเพิ่มมันเข้ามา เธียร์ตะเกียกตะกายจนพ้นหน้าบ้าน ก่อนที่สติจะวูบลง

เสียง วิ้งงงงงงง~ ดังไปทั้งหัว

"เฮ้ยไอ้หนุ่ม...เฮ้ยยย!! " เสียงคนแถวนั้นเข้ามาช่วยกันและมันคือสุดท้ายที่เธียร์ได้ยิน ก่อนทุกอย่างจะดับไป

•••••••••••⏱•••••••••••

๑ กันยายน ๒๕๖๓

ตอนที่แล้วบทที่ ๓
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ ๕
แบ่งปัน
สวัสดีค่า สำหรับใครที่เข้ามาอ่านงานเรา ไม่ต้องคอมเม้นท์เราก็ได้ เข้ามาติดตามกันก็ชื่นใจแล้ว จะพยายามอัพเดทผลงานเรื่อยๆเลยนะ ติชมอยากให้เปลี่ยนแปลงตรงไหนบอกได้เลยพร้อมพัฒนาแก้ไขให้ทุกคน เราตั้งใจเปลี่ยนนามปากกาใหม่เป็น ศศิศิลป์ ศศิ ที่แปลว่าดวงจันทร์ และศิลป์ ที่หมายถึงศิลปะ เพราะส่วนตัวเราชอบคิดเรื่องที่จะแต่งในตอนกลางคืน เกือบทุกเรื่องจะเขียนจบในเวลาที่ฟ้ามืดแล้ว ศิลปะทางภาษาของเรามักจะทำงานในตอนกลางคืนว่างั้นก็ได้ ยังไงฝากติดตามกันด้วยนะ ศศิศิลป์
0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด