ตอนที่แล้วอารัมภบท
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ ๒

บทที่ ๑


ทวนเข็มนาฬิกา

โดย ศศิศิลป์

••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••

บทที่ ๑

๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๓

งานเริ่มตั้งแต่เช้า มันถูกจัดขึ้นที่ค่ายทำเพลงของนักแสดงหนุ่ม ทุกอย่างถูกเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อวาน โดยช่วงเช้าของวันเป็นการทำบุญ มารดาของตุลย์ อิษวัต รวมถึงพี่ๆ น้องๆ ก็พากันมาร่วมประกอบพิธีนี้ด้วย

ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่า แต่เธียร์รู้สึกว่ามันมีอะไรสำคัญมากกว่างานแฟนมีตติ้งทั่วๆไป มันดูยิ่งใหญ่กว่านั้น ข่าวงานวันเกิดที่ผ่านมาของดาราคนนี้ ยังไม่อลังการเท่านี้เลย...

"ถ้าพ่อได้อยู่วันนี้ เขาคงยินดี แกพิสูจน์แล้วว่าอาชีพนี้มันมั่นคงกว่าที่เขาคิด..." เขาไม่ได้ตั้งใจจะยืนแอบฟัง แต่เพราะว่าอีกฝ่ายและพี่ชายดันมายืนอยู่ตรงที่เขาทำงานนี่

"นั่นน่ะสิ ขอบคุณนะ ที่มางานวันนี้..." อิษวัตบอกกล่าวพี่ชาย

"วันนี้แล้วสินะ...แกจะได้มีความสุขเสียที..."

เสียงจากผู้ชายอีกคนนั้นตอบกลับตุลย์

"มันน่ากลัวมากกว่าว่ะ.."

"ยังไงอีกล่ะ แกรอมา 20ปีเชียวนะ.."

"แต่รู้แค่ 20 ปีที่ผ่านมา...ไม่รู้ว่าวันนี้หรือต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น มันอาจจะไม่สวยงามอย่างที่หวังไว้ มันอาจจะไม่ได้ง่ายอย่างนั้น..."

เรื่องอะไรกันนะ ได้ยินไม่ถนัดเลย..มันทำให้เธียร์ดูกลายเป็นคนอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา วันนี้มันวันอะไร เขาได้ยินแค่นั้น มันฟังไม่ถนัดเอาเสียเลยเพราะเสียงบรรยากาศงานที่ผู้ใหญ่ทั้งในและนอกวงการนั่งกินข้าวคุยกันเสียงดัง

เคร้ง

"ชิบ!! " ทฤรห์อุทาน เขาเผลอทำอุปกรณ์ที่วางอยู่ใกล้ๆหล่นเข้า ทำให้อีก 2 คนหันมามองทันที

"พี่เธียร์ ..พี่โก้เรียกหาอยู่น่ะพี่..." เสียงขนมรุ้งเข้ามาช่วยชีวิตไว้พอดี

"อ เอ่อ หนมงั้นโทษทีนะพี่ฝากเก็บตรงนี้ด้วย..." เจ้าตัวรีบเดินจ้ำอ้าวออกไปหาหัวหน้าทันที หนีความผิดที่โดนจับได้ว่ายืนเสียมารยาทอยู่ตรงนั้นออกไปเงียบๆ

"เธียร์มาพอดี แม่คุณตุลย์เขาอยากเจอคนคิดคอนเซ็ปต์งานน่ะ.." โก้แนะนำให้เขารู้จักกับผู้หญิงสูงวัยที่ยังดูดี เธอออกข่าวอยู่สักหนละมั้ง... เรื่องว่าเป็นแม่ของคนดังที่เลี้ยงลูกได้ดีจนเป็นต้นแบบสังคม

"สวัสดีครับ.."

"ยังเด็กอยู่เลยลูกเอ๊ย หวัดดีจ้ะ จัดงานวันนี้ได้สวยมากเลย .." เธอกล่าวชมอย่างคนใจดี

"ขอบคุณครับ ดีใจนะครับที่ชอบ จริงๆก็ฝีมือพี่โก้เขาแหละครับ เธียร์แค่ร่างๆ บางส่วน.."

"น้องถ่อมตัวน่ะครับ... คนนี้แหละเนรมิตแบบงานวันนี้มา.." โก้ยกมือขึ้นโอบไหล่อย่างสนิทสนม มันทำให้เธียร์ไม่สามารถจะดึงตัวออกได้ด้วยกลัวเสียมารยาท

"งานสวยมากเลยนะครับ ผมชื่นชมเลย.." เแ็นเสียงตุลย์ที่เดินมาพร้อมกับพี่ชาย

"สวัสดีครับ ผมโต พี่ชายคนโตของเจ้าของงานวันนี้.." อีกคนข้างกันเอ่ยพร้อมยื่นมือมาด้านหน้าเพื่อทักทายคนข้างตัวเธียร์ นั่นทำให้โก้ต้องปล่อยจากไหล่บางนั้นไปจับตอบตามมารยาทเสียจนได้

ไม่รู้ว่าการทำแบบนั้นคือการตั้งใจจะช่วยเขาหรือเปล่าแต่เธียร์รู้สึกขอบคุณ

"น้องช่วยให้งานวันนี้ออกมาสวยมากเลยนะ วัยรุ่นเดี๋ยวนี้เก่งจริงๆ เวลามีงานอะไรน่าจะเป็นคนนี้อีกนะ .." คนแม่เอ่ยบอกลูกชาย

"ผมก็ไว้ใจที่นี่ทำมาตลอดแหละแม่ ...แต่เหมือนนี่จะเป็นครั้งแรกที่น้องคนนี้เขามาทำเต็มตัว.." นี่ดาราคนนี้รู้ขนาดนั้นเชียวหรือ

จริงอย่างที่ว่า เขาทำงานมานานแล้วแต่นี่เป็นงานครั้งแรกที่เขาเนรมิตแทบจะทั้งหมดนี่ด้วยแนวคิดของเขาเอง

"จริงครับ จริงๆคุณตุลย์จ้างงานเราตั้งแต่น้องเข้ามาทำแรกๆ ตั้งแต่เรียนจบเลย แต่นี่งานแรกที่ได้โชว์ฝีมือขนาดนี้.. อ่ะ ผมขอตัวก่อนนะครับ" โก้อธิบายพร้อมยกยิ้มก่อนจะขอตัวออกไปเพราะต้องไปจัดการคุมอีกฝั่งของงานที่ฝ่ายเครื่องเสียง

"จบแฟนมีตบ่ายนี้ ตอนเย็นน้องเธียร์มาปาร์ตี้ด้วยกันหรือเปล่า...หรือมีทีมอื่นมาดูแล" โตถามเขาด้วยน้ำเสียงใจดี

"เป็นทีมอื่นครับ แต่ว่าเธียร์ก็ว่าจะมาดูแลงานอยู่ดี.." เขาต้องรับผิดชอบจนจบ งานวันนี้แทบจะเช้าจนดึก เช้าจนบ่ายเขาจัดดูแลสถานที่ ตอนค่ำมีอีกทีมมาดูแลอาหารเครื่องดื่ม แต่ใครจะทิ้งลง...ยังไงก็ต้องมาดูเองอยู่ดี

คริสต์มาสแท้ๆ กลับมาทำงานงกๆ แต่ก็นั่นแหละ...จังหวะเทศกาลนี่ช่วงรับทรัพย์ของบริษัท ลูกจ้างจะบ่นอะไรได้มาก

"ดีจัง มาด้วยกันนะ...โควิด 19 นี่แย่หน่อยนะ แม่นี่ใช้ชีวิตมาขนาดนี้ยังว่าน่ากลัวเลยปีนี้..." เธอบ่น

"เราไปทางโน้นกันเถอะแม่ ดูท่าจะคุยสนุกกันเชียว.." โตแทรกขึ้นและเดินนำแม่ออกไป เธียร์ส่งยิ้มสุภาพเป็นการบอกลาทั้งสองคน

"น้องเธียร์หน้าคุ้นๆ นะโต.." คล้อยหลังเธอบอกลูกชายคนโตสุด

"แปลว่าแม่ความจำดีมาก ผมยังจำไม่ได้เลย..."

"หมายความว่ายังไง น้องรู้จักเรามาก่อนใช่ไหม แม่ก็ว่าอยู่แล้วเชียว..."

"แม่จะว่ายังไง...ถ้าหากว่าคนที่ตุลย์รอมานาน วันนี้น้องได้เจอเขาแล้ว.." โตบอกมารดา

"คืออะไร อธิบายแม่ได้มั้ย..." หญิงสูงวัยยังคงสับสนกับสิ่งที่ลูกชายพยายามจะสื่อสาร

"เดี๋ยวแม่ก็รู้ โตยังไม่อยากจะเชื่อเลย..." มันน่าเหลือเชื่อว่ามันจะเป็นเรื่องจริง แต่วันนี้ภาพปรากฏตรงหน้าเขาแล้ว...

"แอบฟังคนอื่นไม่ดีนะ..." ตุลย์เอ่ยกับเด็กหนุ่มเมื่อแม่และพี่ชายคล้อยหลังไป

"เอ่อ ..ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมต้องไปยืนทำงานตรงนั้นนี่...ไม่ได้กะจะแอบฟังคุณ...ขอโทษนะครับถ้าทำให้คิดอย่างนั้น" เธียร์แก้ต่างให้ตัวเอง แต่อีกฝ่ายกลับแค่ยกยิ้มบางๆ

"โตขึ้นเยอะเลยนะ..." เขาเอ่ยทักขึ้นมาทำเธียร์เลิกคิ้วแปลกใจ

"หมายความว่าอะไร..." ไม่เข้าใจเลย คนไม่ได้สนิทสนมกันทักกันอย่างนี้หรือ

"คุ้นหน้าบ้างไหม ..ว่าก่อนหน้านี้เราเคยเจอกันมาก่อน.."

"ตลกแล้ว คุณคือตุลย์ อิษวัตเชียวนะ ผมจำความได้ก็รู้จักคุณผ่านทีวีแล้ว ตั้งแต่เด็กจนโตน่ะ.. เพื่อนๆผมก็ชอบคุณทั้งนั้นตั้งแต่ตอนเป็นนักร้องโน้นนน ไปดูคุณร้องเพลงหรือตามงานคุณออกจะบ่อย.." เธียร์ร่ายยาว ตลกจริงที่อดีตนักร้องดังที่มาเป็นดาราเบอร์ใหญ่ถามคำถามนี้กับเขา

"อืม...จำได้ว่าเคยเจอ.."

"ห้ะ จริงหรอนี่...ฮ่าๆ คุณจำผมได้หรอครับ แฟนคลับตั้งเยอะแยะ..."

"โดดเด่นขนาดนั้น.." เธียร์ไม่เข้าใจความหมายที่อีกคนจะสื่อ แววตานั้นดูซาบซึ้งยากจะเข้าใจ เลยได้แต่ยิ้มแห้งๆส่งตอบไป

"เดี๋ยวขอตัวไปทำงานทางโน้นก่อนนะครับ.. " เธียร์ก้มหัวเล็กน้อยก่อนจะเดินปลีกออกมา

ประหลาดว่ะ...ยิ่งบอกว่าจำกันได้ยิ่งประหลาดใหญ่ เขาไม่ได้คิดไปเองจริงๆ ว่าทุกครั้งที่เจอ อิษวัตจะมองมาทางเขา ให้เพื่อนสาวเพื่อนชายที่ลากเขาไปตามดาราคนนี้นั้นมโนกันเป็นแถบๆว่าได้โมเม้นท์มากกว่าคนอื่นๆ

ร้องเพลงก็เพราะดี เล่นละครหรือก็ใช้ได้ แต่นิสัยส่วนตัวยังไงก็ทะแม่งๆ

ทักมาได้ยังไง ' โตขึ้นเยอะเลยนะ..' อย่างกะญาติผู้ใหญ่อย่างนั้น

บรรยากาศแฟนมีตติ้งเป็นไปอย่างสนุกสนาน รอบสายๆจนบ่ายคล้อยผู้คนมากันเต็มจำนวน สต๊าฟต้องทำงานกันหนักขึ้นเพื่อดูแล เทคแคร์ มีทั้งการเล่นคอนเสิร์ตและทำกิจกรรมมากมายจากวงดนตรีดังในอดีตของตุลย์อย่าง วงปีนเกลียว ...ชื่อวงก็โคตรจะบอกยุค

เขาชอบฟังเพลงวงนี้นะ ถึงจะเกิดช้า แต่ยุคนี้ก็หาฟังเพลงเก่าๆกันได้ง่ายๆจากโซเชียลมีเดีย ปีนเกลียวเป็นแนวศิลปินเด็กวัยรุ่นยุคเก่าที่มีลุคเกเรหน่อยๆ ดังมาจากงานแข่งขันดนตรีชื่อดังในอดีต ดนตรีคุ้นหูที่ไพเราะยังคงเล่นไปตามจังหวะ

งานจบลงด้วยการจับสลากของขวัญบรรยากาศดูเป็นคริสต์มาสแบบเต็มที่ คงรวบฉลองวันปีใหม่ไปด้วยเลยล่ะมั้ง ตอนนี้ขนมรุ้งและเบย์ก็มายืนฟังกิจกรรมจากบนเวทีกับเธียร์ด้วย

"ก่อนอื่นขอบคุณทุกคนมากๆเลยที่มาหากันวันนี้ นี่ก็เกือบ 20 ปีได้แล้วเนอะ..." อิษวัตเกริ่นเพื่อกล่าวปิดงาน แฟนคลับร้องแซวกันใหญ่ว่านานมาแล้วจริงๆ

"บางคนในที่นี้ก็อยู่กับผมมาตั้งแต่วันแรก.."

แล้วจะมองมาทางเขาทำไมกัน เธียร์เลิกคิ้วงงๆ เพราะตอนนั้นที่ตุลย์พูดถึงน่ะเขาเพิ่งจะ 5 ขวบเองมั้ง...

"ขอบคุณทุกคนมากๆ โตมาพร้อมกัน จนตอนนี้ผมแก่ซะแล้ว.." เสียงหัวเราะปนให้กำลังใจตะโกนขึ้นไปบนเวทีที่สูงจากพื้นเล็กน้อยเท่านั้น

"ผมไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเป็นยังไง แต่วันนี้เป็นวันที่ผมรอคอยมากว่า 20ปี เป็นวันที่ผมใช้เวลาอดทนรอ...และขอให้มันใช่วันนี้สักทีเถิด.." เสียงตะโกนเกรียวกราวถามขึ้นไปบนเวทีว่าสิ่งที่นักแสดงคนดังพูดถึงคืออะไร

เธียร์เองก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าเขาหมายถึงอะไร สงสัยตั้งแต่ตอนได้ยินอดีตนักร้องคุยกับพี่ชาย

"ผมบอกไม่ได้หรอกครับ แต่ได้แต่หวัง..ว่ามันจะใช่วันนี้...เป็นวันนี้เถอะนะ...ผมแต่งเพลงมากมายให้ใครคนหนึ่ง ผมบอกเสมอว่าแรงบันดาลใจนั้นมาจากคนแค่คนเดียว เขาทำให้ผมมายืนตรงนี้ และวันนี้เขาก็อยู่ที่นี่..." ตุลย์ยังคงเอื้อนเอ่ยความในใจ

"ใครวะ ขนลุกเลยว่ะ...จะว่าโรแมนติกก็ใช่ แต่แม่งแบบ เออ ขนลุกอ่ะ.." เบย์ยกแขนขึ้น แขนน้องมันขนลุกชันจริงๆ ส่วนขนมรุ้งทำหน้าอินมากๆอยู่ พร้อมกับช่วยแฟนๆคนอื่นมองหาใครคนนั้นที่ว่า

แต่สายตานักร้องรุ่นใหญ่ทำไมมองมาทางเขาอีกแล้วล่ะ...

"ขอบคุณครับ...ฟังเพลงสุดท้ายนี้กันเลยดีกว่า...รอคอยจะได้พบ.."

จะพูดขอบคุณมาทางเขาทำไมกัน เธียร์เกิดความสงสัยขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า

...ก่อนที่เสียงดนตรีของวงจะดังขึ้น ตลอดทั้งเพลงสายตาของอิษวัตไม่ละไปไหน กลับจับจ้องมาทางเขาเหมือนกับมนตร์สะกด เธียร์เองก็มองตอบ แต่มองด้วยเพราะความอยากจะรู้ว่าดวงตาคู่นั้นจะสื่ออะไร สุดท้ายแล้วก็หาความหมายไม่ได้ เขาพบว่าตัวเองไม่เข้าใจอะไรเอาเสียเลย...

เนื้อเพลงที่เศร้าสร้อย เหงาหงอยและรอคอยนั้น เขาได้ฟังมาหลายรอบแล้วเพราะเป็นเพลงดัง แต่ที่เคยฟังมันก็ให้ความรู้สึกถึงแค่เพียงรักในวัยรุ่นของเขาที่ผ่านมาเพราะใช้ประสบการณ์ในชีวิตตนเองฟัง ไม่เหมือนคราวนี้...เหมือนที่ตุลย์กำลังจะสื่อสารอะไรสักอย่าง

...บางอย่างที่เข้าใจได้ยาก

"เธียร์..." เสียงเรียกดังขึ้นในตอนที่เขากำลังตรวจเช็คความเรียบร้อยพร้อมกระดาษใบหนึ่งอยู่ หันไปก็พบว่าเป็นเจ้าของงานที่เดินเข้ามา

"ครับ? " เรียกชื่อเล่นเขาเสียด้วย แต่ไม่ใช่เรื่องให้สงสัยหรอกว่าทำไมถึงเรียกอย่างนั้น ก็คงจะได้ยินใครๆ ในทีมงานเรียกกัน

"จำอะไรได้บ้างมั้ย? จำอะไรได้หรือเปล่า?" คำถามแปลกๆถูกส่งมา

"คุณหมายถึงอะไร...หลายครั้งแล้วที่พูดกับผมอย่างนี้ ผมไม่เข้าใจเลย.." เขาเสียมารยาทโพล่งมันออกไป อึดอัดใจจริงๆที่ได้ยินคำประหลาดๆพวกนี้ทั้งวัน

"ยังไม่ใช่หรอ...วันนี้ก็วันที่ 25 ธันวานี่.." คนตรงหน้าเอ่ยพึมพำพร้อมมองนาฬิกาไปด้วย

"ไม่รู้ว่าคุณหมายถึงอะไร แต่ขอตัวนะครับ.." ทฤนห์ผละออกเพื่อจะเดินออกไปอีกทาง แต่โดนจับข้อมือรั้งไว้

"เธียร์... ทั้งหมดก็เพื่อวันนี้เลยนะ... ตลอดที่ผ่านมาทั้งหมด เพื่อวันนี้ไงเธียร์...วันที่เราจะได้เจอกันอีกครั้ง ครั้งแรกและอีกครั้งไงเธียร์.." ยิ่งฟังยิ่งประหลาด ไหนจะน้ำตาที่กำลังจะเอ่อคลอออกมานั่นอีก

"คุณบ้าหรือเปล่า...ขอโทษนะที่ต้องพูดอย่างนี้ คุณคงจะเล่นละครมากไป ผมชอบผลงานคุณนะ แต่ไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพูดเลย เหมือนว่าเรารู้จักกันเสียอย่างนั้น หรือบางทีคุณอาจจะจำคนผิด.." เขาชักจะหัวเสียเข้าแล้วล่ะที่อีกคนตอแยและพูดไม่รู้เรื่อง แม้จะตกใจกับน้ำตาที่คลอหน่วยนั่นอยู่ในที

เธียร์ดึงมือตัวเองออก ก่อนจะรีบเดินไปอีกทาง พอดีกับที่นักข่าวเดินเข้ามาเตรียมสัมภาษณ์อีกคน ตุลย์ก้มหน้าก่อนจะเงยมันขึ้นมาให้ดูปกติดังเดิมแล้วหันหลังไปหาวงล้อมที่รออยู่

อยู่ดึกจนได้ เธียร์มาเก็บงานรอบสุดท้าย ผู้คนทยอยกลับหมดแล้ว นี่มันก็ 4 ทุ่มแล้วนี่ เหลือเพียงอดีตนักร้องดังเจ้าของสถานที่ที่นั่งอยู่ริมสระข้างที่จัดงาน รอบๆบริเวณสต๊าฟเก็บกวาดเกือบหมดแล้ว

ตุลย์หันมาเงยมองหน้าเขา แล้วจ้องอย่างนั้นอยู่พักหนึ่ง พอเห็นว่าเขาทำตัวไม่ถูกอีกฝ่ายก็กลับไปกระดกแก้วสีอำไพก่อนจะทำเพียงมองนาฬิกานิ่งๆ เสียอย่างนั้น...

"ไหวมั้ยนั่น...เมาแอ๋เลยพี่.." เบย์เดินเข้ามากระซิบรุ่นพี่

"งานสนุกมากเลยหรอ...แล้วทำไมสภาพเขาแย่อย่างนั้น.." ถามรุ่นน้องกลับไปด้วยความสงสัย สภาพดาราใหญ่ดูได้เสียที่ไหนตอนนี้

"นี่พี่เธียร์ไม่รู้หรอ...เขาประกาศลาออกจากวงการแล้วนะ สดๆ ร้อนๆเลย แฟนๆนี่งงกันหมดอะว่าทำไมทำงั้น...แต่เห็นว่าตัดสินใจมานานแล้ว แต่ว่าในแผนไม่ได้กระทันหันแบบนี้ นักข่าวก็งง ตอนนี้ติดเทรนทวิตเตอร์แล้วมั้ง.." ขนมรุ้งที่มาสมทบรีบเปิดข่าวในจอให้ดู

แปลกเสียจริง แต่จากที่ได้พูดคุยกับน้องๆเขาว่าตุลย์ต้องการรักษาตัว บางทีอีกฝ่ายอาจจะผิดปกติบางอย่างก็ได้ นี่อาจเป็นเหตุผลที่พูดจาประแปลกๆพวกนั้น...

เขากลับไปพักที่คอนโดมาเพื่อพักซักงีบก่อนจะกลับมานี่ เพราะไอ้ท่าทีประหลาดของเจ้าของงานนั่นแหละ

"แล้วนั่นไม่มีใครอยู่กับเขาหรอ? " แม้จะสับสนและมึนงง แต่สภาพอย่างนั้นให้อยู่คนเดียวใครมองไปเห็นก็คงว่า น่าเป็นห่วง

"พี่ชายเขาอยู่แหละพี่ เมื่อกี้ก็ยังเดินๆอยู่นะ คงจะหายไปในออฟฟิศ.."

อืม...ไฟของค่ายเพลงเล็กๆนี่ก็ยังเปิดสว่างโร่อยู่ คงไม่ต้องไปห่วงเขาหรอกมั้ง...

"กลับดีๆนะหนม เบย์.." เธียร์โบกมือลารุ่นน้องหลังจากตรวจงานกันเสร็จ ก่อนคนอื่นๆจะแยกย้ายกันขึ้นรถของตัวเอง

อิษวัตหายเข้าไปในออฟฟิศแล้ว ตอนนี้คนที่เก็บงานอยู่มีเพียงทีมเครื่องเสียงที่ขนของจนจะหมดแล้ว เขาหมดหน้าที่ มีทีมงานคอยดูแลอีกคนสองคนเพื่อเช็คว่าไม่หลงลืมอะไร...

และขณะที่เขาขับออกมาจะถึงถนนใหญ่อยู่แล้วเชียว เสียงมือถือก็ร้องขึ้น

Rrrrrrrrrrrrrr

"ฮัลโหลครับ.." เธียร์กดรับทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นหัวหน้างานของเขาเอง

"เธียร์กลับหรือยัง.."

"เพิ่งออกมาครับพี่โก้ มีอะไรหรือเปล่า.."

"เฮ้ยงั้นแป๊ปนึงนะ วนรถกลับไปได้มั้ย...พอดีทีมพี่ลืมแฟ้มไว้ที่ค่ายคุณตุลย์เขาน่ะโทษที เอาไปให้เขาเซ็นต์ให้ เธียร์กลับไปได้ใช่มั้ย..."

เขาก้มดูนาฬิกา มัน 22.49 น. แล้ว

"ได้ครับ เดี๋ยวเธียร์วนกลับไป.." ถึงจะรู้สึกไม่ใช่เรื่องเอาเสียเลย แต่เพราะยังออกมาได้ไม่ไกลเลยยังทันที่จะกลับไปจัดการให้เสร็จ

เมื่อวางสายแล้วจึงถอยรถกลับเข้าไปในซอย จังหวะที่จะเลี้ยวอีกแค่โค้งเดียว จู่ๆก็มีรถวิ่งตัดมาด้านหน้าอย่างเร็วออกมาจากซ้ายมือของปากซอย

ปังงงงง!!!! โครมมม!!!

เสียงโครมครามดังตามมา รถยนต์สองคันชนกันอย่างจังจนสภาพด้านหน้าพังยับเยิน รถของเธียร์กระเด็นไปที่ต้นไม้ข้างศาลของหมู่บ้าน ร่างแน่นิ่งซบลงไปกับถุงลมนิรภัย...

ผู้คนในหมู่บ้านรีบออกมามุงดู โตที่ได้ยินเสียงวิ่งออกจากค่ายมาหน้าตั้ง ก่อนที่ใจของเขาเกือบจะสลายเพราะรถของน้องชายที่เพิ่งจะออกจากรั้วมา มีร่างของตุลย์เลือดอาบใบหน้าคาพวงมาลัย

เข่าคนเป็นพี่ชายทรุดลงไป ตั้งสติไม่ถูก...ชาวบ้านช่วยกันเรียกอิษวัตและคนในรถอีกคัน หลายคนช่วยกันโทรเรียกกู้ภัยและหน่วยงาน

"ไม่ใช่แบบนี้สิวะ...ไม่ใช่แบบนี้ไอ้ตุลย์.." โตพึมพำกับตัวเองอย่างคนไม่ได้สติ

วันที่น้องชายเขารอคอย ต้องไม่ใช่แบบนี้...

"ข่าวด่วนของคืนนี้นะคะ เป็นเรื่องใจหายสะเทือนทั้งวงการกันเลย อดีตนักร้องดังวงปีนเกลียว และปัจจุบันเป็นดาราเบอร์ใหญ่ช่องดัง ตุลย์ อิษวัต ประสบอุบัติเหตุรถชนใกล้กับค่ายเพลงของตัวเอง หลังจากเพิ่งประกาศลาออกจากวงการไปเมื่อช่วงเย็นวันนี้..."

"แฟนคลับสะเทือนใจซ้ำแล้วซ้ำอีก ตุลย์ อิษวัต ประสบอุบัติเหตุหลังจากประกาศลาออกจากวงการ โดยรถพุ่งชนกับออแกไนซ์ที่เป็นผู้จัดงานในวันนี้ให้นั่นเอง ทีมข่าวรายงานว่าอาการบาดเจ็บสาหัสยังไม่พ้นขีดอันตราย พบแอลกอฮอล...."

"ตุลย์ อิษวัต ประสบอุบัติเหตุอยู่ในขั้นวิกฤติ หลังจากเพิ่งจัดแฟนมีตติ้ง และประกาศลาวงการ แฟนๆช๊อค.."

ข่าวทุกสำนักรายงานถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นประเด็นดังของค่ำคืนวันคริสต์มาส ท่ามกลางบรรยากาศเพลงเทศกาลแห่งความสุขและไฟที่ประดับตกแต่ง ของค่ำคืนวันที่ ๒๕ ธันวาคม ...

*ผู้เขียนไม่สนับสนุนให้ดื่มแล้วขับขี่ยานพาหนะทุกรูปแบบนะคะ รวมถึงขอรณรงค์ให้ไม่ใช้อุปกรณ์สื่อสารขณะขับขี่ด้วย*

•••••••••••⏱•••••••••••

๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๓

ตอนที่แล้วอารัมภบท
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ ๒
แบ่งปัน
สวัสดีค่า สำหรับใครที่เข้ามาอ่านงานเรา ไม่ต้องคอมเม้นท์เราก็ได้ เข้ามาติดตามกันก็ชื่นใจแล้ว จะพยายามอัพเดทผลงานเรื่อยๆเลยนะ ติชมอยากให้เปลี่ยนแปลงตรงไหนบอกได้เลยพร้อมพัฒนาแก้ไขให้ทุกคน เราตั้งใจเปลี่ยนนามปากกาใหม่เป็น ศศิศิลป์ ศศิ ที่แปลว่าดวงจันทร์ และศิลป์ ที่หมายถึงศิลปะ เพราะส่วนตัวเราชอบคิดเรื่องที่จะแต่งในตอนกลางคืน เกือบทุกเรื่องจะเขียนจบในเวลาที่ฟ้ามืดแล้ว ศิลปะทางภาษาของเรามักจะทำงานในตอนกลางคืนว่างั้นก็ได้ ยังไงฝากติดตามกันด้วยนะ ศศิศิลป์
0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด