ตอนที่แล้วตอนที่ 90 เริ่มต้นเปิดเทอม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 92 ใครกล้าบอกว่ามันไม่เหมาะสม?

ตอนที่ 91 (ตอนฟรี) เด็กสาวใจแตก


ตอนที่ 91 (ตอนฟรี) เด็กสาวใจแตก

.

"ขอบคุณมากครับลุง!"

หวังเสียนและเสี่ยวหยู มองดูขนมที่ชายวัยกลางคนส่งมาให้ ทั้งคู่ยิ้มออกมาบาง ๆ เมื่อเห็นน้ำตาลทรายแดงทอดอยู่ข้างในถุง

“ที่บ้านของเราเป็นครอบครัวธรรมดาไม่ค่อยมีอะไรมากมายนัก ฉันเลยให้ลูกสาวเอาของฝากที่ขึ้นชื่อของหมู่บ้านมาให้เพื่อนใหม่ของเธอได้ลองชิม!”

ชายวัยกลางคนยิ้มอย่างอารมณ์ดีและส่งต่อขนมหวานให้กับอีกสองครอบครัวด้วย

เด็กสาวอีกสองคนมากับพ่อแม่ ของพวกเธอหนึ่งในนั้นมีรูปร่างอวบเล็กน้อยพ่อแม่ของเธอก็เช่นเดียวกัน ดูจากลักษณะท่าทางแล้วครอบครัวของพวกเขาต้องมีอันจะกินกันพอสมควร

และอีกครอบครัวหนึ่งที่อยู่ใกล้กับระเบียง เห็นได้ชัดว่าเป็นครอบครัวที่ค่อนข้างร่ำรวย

เด็กสาวรูปร่างสูงและใบหน้าที่ดูดี เธอสวมเสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่กับกางเกงขาสั้นเผยให้เห็นต้นขาที่ขาวสวยและมีรอยสักที่ต้นขา

ริมฝีปากของเธอทาลิปสติกสีสันสดใส

แม่ของเด็กสาวคนนั้นก็ดูดีเช่นกันเธอแต่งตัวทันสมัยและเธอก็รักษาหุ่นได้ดีเป็นอย่างมาก

พ่อของเธอก็แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าราคาแพงเหมือนกับผู้จัดการบริษัทใหญ่ หุ่นของเขาค่อนข้างมีพุงเหมือนกับพวกชอบดื่มเบียร์เป็นประจำ

"ขอบคุณมาก" ครอบครัวของเด็กสาวตัวอวบพยักหน้าให้กับชายวัยกลางคนด้วยท่าทางเป็นมิตรขณะที่พวกเขาหยิบขนมออกมาชิมเล็กน้อยเป็นมารยาท

"ไม่เป็นไรของเราไม่ต้องหรอก"

แม่ของเด็กสาวร่างสูงเพรียวโบกมือปฏิเสธและพูดต่อไปอีกว่า "พวกคุณกินตามสบายเถอะพวกเราไม่ค่อยชอบของหวาน"

"ลองชิมดูสิ ไม่ต้องเกรงใจ พวกเราทำมาเยอะเลย" ชายวัยกลางคนพูดกับพวกเขาและยิ้มให้อย่างจริงใจ

“รสชาติดีจริงๆ อร่อยมากเลยครับ” หวังเสียน ชิมเล็กน้อยและพยักหน้ายิ้ม ๆ

"ฉันบอกคุณแล้วนี่เป็นอาหารพิเศษในบ้านเกิดของเรา พวกเรามีสูตรลับดังนั้นขนมพวกนี้จึงมีรสชาติที่ดีมาก" เมื่อชายวัยกลางคนได้ยินหวังเสียนพูดชมออกมา เขาก็ยิ้มอย่างอารมณ์ดีในขณะที่เขาอธิบายด้วยใบหน้าที่มีความสุข

เขายังพยายามส่งถุงขนมไปให้กับครอบครัวเด็กสาวตัวสูงที่ปฏิเสธไปในตอนแรก

"ไม่มีเป็นไรจริงๆ" ชายวัยกลางคนลงพุงที่แต่งตัวหรูมองไปที่ถุงพลาสติกธรรมดาราคาถูกๆ พลางขมวดคิ้วขณะที่เขาแสดงท่าทีปฏิเสธอย่างจริงจัง

"ไม่เป็นไรไม่ต้องเกรงใจ ลองชิมดูก่อนสิฉันจะเทให้คุณเอง"

ชายวัยกลางคนขยับเตรียมเดินไปเทขนมใส่มือพวกเขา

“ก็พวกฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องการไง!...”

อย่างไรก็ตามในขณะนั้นเสียงที่หงุดหงิดก็ดังขึ้นมา ชายวัยกลางที่กำลังจะเดินเข้าไป ตัวแข็งค้างเล็กน้อยการแสดงออกของเขาค่อนข้างเก้ๆกังๆทำอะไรไม่ถูก

"นี่ลูก!! ... " หญิงวัยกลางคนที่แต่งตัวทันสมัยพูดออกมาได้ครึ่งนึงแล้วหยุดลง ขณะที่มองลูกสาวของเธอ เธอหัวเราะและพูดว่า "ลูกสาวของฉันเขา เข้าสังคมไม่เป็นและก็พูดกับคนไม่ค่อยเก่ง"

“คุณลุงครับ ขอเพิ่มอีกหน่อยสิอร่อยมากเลยครับ” หวังเสียนหัวเราะออกมาเบา ๆ ขณะที่เขาลุกขึ้นยืนและยื่นมือออกไปขอขนมเพิ่มเมื่อเขาเห็นชายวัยกลางคนรู้สึกอายและเก้อเขิล

“เยี่ยมไปเลย อร่อยจริงๆใช่ไหมล่ะ ฮ่าๆๆ” ชายวัยกลางคนบีบรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา เขาแสร้งทำเป็นว่าเขาไม่ได้ยินสิ่งที่เด็กสาวคนนั้นพูด

เขาถูฝ่ามือเข้าหากันไปมาเมื่อเห็นหวังเสียนกำลังกินขนมของเขาอย่างอร่อย เขาพูดออกมาอย่าง อายๆว่า "ลูกสาวของฉันชื่อ หยวน หยานอัน เธอขี้อายเล็กน้อยฉันหวังว่าพวกเธอจะช่วยดูแลลูกสาวของฉันด้วยนะ ถ้าหากพวกเธอต้องการขนมเพิ่มได้โปรดบอกกับฉันได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ ฉันจะให้ หยานอัน เอามาให้พวกเธอเอง"

"ใช่เลย ลูกสาวของฉันชื่อ ซู่เฉียนเธอชอบขนมหวานมาก ลูกสาวฉันและ หยานอัน กับเพื่อนคนอื่นๆจะต้องเข้ากันได้ดีแน่ๆเลย " แม่ของซู่เฉียน พูดออกมาและยิ้มให้ทุกคน

“ใช่ๆ ทุกคนเป็นเพื่อนกัน!” ชายวัยกลางคนหัวเราะเบา ๆ และพยักหน้า

"ผมกับน้องสาวก็กำลังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ตอนนี้ผมเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 หากพวกคุณมีอะไรที่ต้องการความช่วยเหลือ และผมสามารถช่วยเหลือได้ พวกคุณสามารถบอกผมได้เช่นกันนะครับ" หวังเสียน เองก็พูดและยิ้มให้กับทุกคน

"หนุ่มน้อยคุณก็เรียนที่นี่ด้วยอย่างนั้นเหรอ คุณสองคนพี่น้องนี่เก่งมากเลยนะที่สามารถสอบเข้าเรียนที่นี่ได้ทั้งคู่เลย !" พ่อของ ซู่เฉียน พูดออกมาด้วยความประหลาดใจ

"ใช่ครับ " หวังเสียน หัวเราะเบา ๆ

“ดีเลยล่ะ” ชายวัยกลางคนพ่อของหยานอัน พยักหน้าและพูดออกมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

"พวกเราเองก็เป็นคนท้องถิ่นที่นี่ และลูกสาวของเรา เฟย์ย่า ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องและทำอะไรไม่เป็นเลย ฉันหวังว่าพวกเธอที่เป็นเพื่อนร่วมห้องกันจะช่วยเหลือเธอได้บ้าง" แม่ของหญิงสาวร่างสูงพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

"ใครบอกว่าหนูไม่รู้เรื่องและทำอะไรไม่เป็น" หญิงสาวทำหน้ามุ่ยด้วยความไม่พอใจ

"ลูกทำอะไรได้บ้าง ลูกรู้วิธีซักผ้าและล้างห้องน้ำหรือเปล่า" ผู้หญิงคนนั้นจ้องมองมาที่ลูกสาวของเธอ

เด็กสาวไม่พอใจเล็กน้อย ในขณะที่เธอก็หยิบบุหรี่สีอ่อนๆของผู้หญิงออกมาแล้วจุดสูบ

"สูบบุหรี่ให้น้อยลงเธออยู่ร่วมกับเพื่อนคนอื่นๆอยู่ต้องเกรงใจเพื่อนๆบ้าง" ชายวัยกลางคนลงพุงมองลูกสาวของเขาก่อนจะหันไปมองคนที่เหลือ "ลูกของฉันได้รับการเลี้ยงดูที่ดีเกินไป ฉันหวังว่าเพื่อนๆร่วมห้องที่เหลือของเธอจะสามารถช่วยเธอในเรื่องต่างๆเช่นการทำความสะอาดภายในห้องพัก!"

สิ่งที่เขาพูดทำให้พ่อแม่ของซูเฉียนขมวดคิ้ว แต่พวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไร

ชายวัยกลางคนก็ไม่พูดอะไรเช่นกัน

หวังเสียนเลิกคิ้วและมองไปที่หญิงสาวที่สูบบุหรี่ จากนั้นเขาก็หันไปหาพ่อของเธอและถามว่า "เนื่องจากคุณเป็นคนท้องถิ่นที่เมืองนี้ทำไมไม่ให้เธออยู่ที่บ้านเลยล่ะ จะได้ดูแลเธออย่างสะดวก"

หวังเสียน เหมือนกำลังบอกใบ้ให้พวกเขารู้ตัว

“บ้านของพวกเราอยู่ไกลจากมหาลัยกว่าจะมาที่นี่ได้ต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง” ชายวัยกลางคนลงพุงยิ้มและพูดออกมา

"โอ้ว!" หวังเสียนพยักหน้าและพูดต่อ “ผมคิดว่าสาว ๆ ทั้งสี่คนควรรับผิดชอบเรื่องต่างๆในห้องของตัวเองพวกเธอควรทำความสะอาดสิ่งของ ของตัวเองและเก็บของของตัวเอง ห้องก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมากนัก และก็ควรแบ่งหน้าที่กันทำความสะอาดสิ่งของส่วนรวมด้วย อย่างเช่นห้องน้ำเพราะทุกคนใช้ด้วยกัน ...”

หวังเสียนมองไปที่หญิงสาวที่กำลังสูบบุหรี่และพูดอีกว่า" และจะเป็นการดีที่สุดที่จะไม่สูบบุหรี่ในหอพักเพราะมันจะส่งผลกระทบต่อคนอื่นที่เขาอยู่ร่วมกัน "

บรรยากาศก็เย็นและเงียบลงทันทีหลังจากที่หวังเสียนพูดออกมา หญิงวัยกลางคนที่แต่งตัวทันสมัยขมวดคิ้วทันที

หญิงสาวที่สูบบุหรี่ก็จ้องมองไปที่หวังเสียนอย่างไม่พอใจเช่นกัน

“ถูกต้องแล้วล่ะ ลูกสาวของฉันเอาแต่ใจเกินไปแล้ว” ชายวัยกลางคนลงพุงพูดออกมาอย่างรำคาญใจเล็กน้อย

"แล้วการสูบบุหรี่ของฉันเกี่ยวข้องอะไรกับนาย นายเป็นคนชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นยังงั้นเหรอ!"

ในเวลานี้หญิงสาวที่สูบบุหรี่ก็จ้องมองไปที่หวังเสียนและกลอกตา มองไปที่เขา

"เฟย์ย่า พูดแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะลูก แม่บอกแล้วว่าทำตัวให้มันดีๆและเข้ากับเพื่อนร่วมห้องคนอื่น ๆ ให้ได้" หญิงวัยกลางคนรีบดุลูกสาวของเธอเบาๆ

แต่เมื่อเด็กสาวหันไปมองพวกเขาเธอก็พูดว่า "มันเป็นแค่บุหรี่ของผู้หญิงเท่านั้นมันจะไม่เหม็นอะไรหรอก"

ชายวัยกลางคนลงพุง แสดงออกอย่างมืดมน เขามองไปที่เวลาและยืนขึ้นในทันที “มันจะเที่ยงแล้วฉันจะเลี้ยงอาหารเที่ยงพวกคุณทุกคนเอง และมันก็เป็นโชคชะตาของเด็ก ๆ ที่จะได้อยู่ร่วมห้องด้วยกัน เรามาทานอาหารกลางวันด้วยกันเถอะ”

"ใช่มาทานอาหารกลางวันด้วยกันดีกว่าเพื่อให้เด็ก ๆ ได้รู้จักกันมากขึ้น" หญิงสาววัยกลางคนเห็นด้วย

"อืม!! ... " พ่อแม่ของซูเฉียนลังเลเล็กน้อย ในขณะที่พวกเขามองไปที่ชายวัยกลางคนร่างท้วมจากชนบทและหวังเสียน

"ไปหาอะไรกินกันข้างนอกเถอะ" ชายวัยกลางคนที่ลงพุงลุกขึ้นยืนและพูดออกมา

"โอเค งั้นไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันเถอะ" หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วพ่อแม่ของ ซูเฉียนก็เห็นด้วย

“ได้สิ” ชายวัยกลางคนร่างท้วมก็เห็นด้วย

แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีความรู้สึกที่ไม่ค่อยดีต่อครอบครัวและเด็กสาวตัวสูงคนนั้น

หวังเสียน ยิ้มมุมปากและยืนขึ้นพร้อมกับ เสี่ยวหยู

"ฮึ่ยย!"

ชายวัยกลางคนลงพุงและหญิงกลางคน จูงมือกันเดินออกไปก่อนที่ ลูกสาวของพวกจะเดินตามมาเมื่อเธอเดินผ่านหวังเสียนเธอจ้องมองและทำเสียงแยกเขี้ยวใส่เขา

หวังเสียนก็มองไปที่เธอขณะที่เขาก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“พี่ค่ะ ผู้หญิงคนนั้นคงเข้ากันไม่ได้กับฉันอย่างแน่นอน” เสี่ยวหยู แลบลิ้นของเธอไปที่ หวังเสียน ขณะที่เธอกระซิบบอกเขา

"ไปกันเถอะเราจะคุยกันในตอนที่กินอาหารมื้อกลางวัน และพี่ก็อยากจะเห็นว่าพวกเขาต้องการจะทำอะไร

หวังเสียนหัวเราะออกมาเบาๆ

………

จบบท

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด