ตอนที่แล้วตอนที่ 34
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 36

ตอนที่ 35


ตอนที่ 35

ซูฮยอนเดินตามหลังคิมแดโฮไปเรื่อยๆ จนเขาเดินเลยห้องตีเหล็กไป

ซูฮยอนสงสัยว่าคิมแดโฮ ทนต่อความร้อนแบบนี้ตลอดทั้งวันได้ยังไง

ดูเหมือนคิมแดโฮจะฝึกฝนร่างกายมาตั้งแต่เด็ก จนทำให้เร่างกายของเขาฝืนทนต่อความร้อนแบบนี้ได้

ตอนนี้ ซูฮยอนอยากรู้จริงๆว่าดาบที่คิมแดโฮสร้างขึ้นมาจะมีรูปร่างเป็นยังไง

ขณะที่พวกเขากำลังก้าวเดินลงชั้นใต้ดิน

ตามทางเดินของชั้นใต้ดิน จะมีอาวุธที่คิมแดโฮสร้างขึ้นแขวนไว้อยู่เต็มไปหมด

แค่ดูภายนอก ก็รู้ได้ทันทีเลยว่ามันเป็นผลงานที่สมบูรณ์แบบจริงๆ

<<ไม่ว่าจะมากี่ครั้ง ที่แห่งนี้ก็หน้าตกใจเสมอ>>

อาวุธทั้งหมดในห้องนี้ มันเป็นอาวุธที่ในโลกปัจจุบันยังมีไม่เยอะ

แต่ไม่ต้องห่วง ในอนาคตอาวุธพวกนี้มันจะมีมากมายก่ายกอง

ต้องขอบคุณนักวิจัยและช่างฝีมือที่รังสรรค์ผลงานต่างๆให้ ‘ผู้ตื่นขึ้น' มาใช้การเพื่อมาใช้ต่อกรกับเหล่ามอนสเตอร์

แต่เวลานี้ มีแค่คิมแดโฮเท่านั้นที่สร้างอาวุธพวกนี้ได้

“เจอแล้ว เอาไปสิ”

คิมแดโฮหยิบดาบออกจากผนังแล้วส่งให้กับซูฮยอน

มันคือดาบที่ถูกสร้างขึ้นมาจากหินฮีเธอร์เกรดสูงสุด

เมื่อมองดูจากลักษณะภายนอก มันก็เหมือนกับดาบยาวสีเงินธรรมดาทั่วไปหนึ่งเล่ม

มันดูไม่มีอะไรพิเศษเลยสักนิด

ซูฮยอนหยิบดาบที่คิมแดโฮส่งให้ขึ้นมาตรวจสอบอย่างเบามือ

ดาบที่คิมแดโฮสร้างขึ้นดูเหมือนจะใหญ่ไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรกับซูฮยอน

“เป็นไงบ้าง น้ำหนักกำลังดีเลยใช่ไหม”

“จริงด้วย น้ำหนักกำลังดีเลย”

น้ำหนักของตัวดาบ มันมีน้ำหนักที่กำลังดี มัมไม่หนักจนเกินไป หรือ เบาจนเกินไป

แต่ถ้าในคนธรรมดามาถือ พวกเขาคงยกมันไม่ขึ้น

แต่สำหรับ 'ผู้ตื่ขึ้น' พวกเขายกมันได้อย่างสบายๆ

ถ้ามอนสเตอร์โดนแรงเหวี่ยงของดาบเล่มนี้เข้าไปล่ะก็ กระดูกของมันคงแตกหักแน่ๆ

“น้ำหนักของดาบ เธอสามารถปรับแต่งมันเองได้ตามต้องการของเธอ ไม่ว่าจะหนักหนึ่งตันหรือเบาดุจขนนก ถึงแม้มันจะเป็นฟังก์ชั่นที่ไม่ค่อยดีก็จริง แต่ฉันออกแบบมาให้เธอโดยเฉพาะ ฉันหวังว่าเธอจะชอบมัน”

“มีอะไรอีกไหมครับ”

“เธอขอให้ฉันสร้างดาบที่ทนต่อพลังเวทย์ที่มหาศาลได้สินะ ฉันจึงออกแบบมาให้เธอโดยเฉพาะอีกแล้ว ยิ่งเธอมีพลังเวทย์มากเท่าไหร่ ตัวดาบก็จะมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นตามไปด้วย”

“ดูเหมือนมันก็ธรรมดานะ”

“ถูกต้อง ถึงแม้มันจะธรรมดา แต่มันก็เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของฉัน”

ชิ้ง..

ซูฮยอนดึงดาบออกมาจากฝัก ดาบยาวสีเงินส่องสะท้อนกับแสงไฟจนเหมือนกับกระจกบานหนึ่ง

ฉัวะ

ซูฮยอนเฉีอนดาบเข้าไปที่ปลายเสื้อของตัวเอง

เมื่อตัวดาบสัมผัสกับปลายเสื้อ มันก็ขาดออกจากกันทันที

เพื่อเช็คให้แน่ใจอีกครั้ง เขาหยิบดาบที่มีคุณภาพต่ำขึ้นมา แล้วโยนขึ้นไปบนอากาศ

ฉัวะ ฉัวะ

ตุบ ตุบ

แค่ซูฮยอนตวัดดาบเบาๆ ดาบที่ลอยอยู่กลางอากาศก็จาดออกจากกันเหมือนเต้าหู้

ซูฮยอนมองเศษดาบที่ตกลงพื้นแล้วกล่างพึมพำ “น่าสนใจจริงๆ”

ซูฮยอนรู้สึกว่าดาบที่เขาถืออยู่มันราวกับว่ามีชีวิต

ถึงแม้ซูฮยอนจะไม่ใช้พลังเวทย์ แต่ดาบของเขาก็สามารถตัดโลหะได้อย่างง่ายดาย

ซูฮยอนอยากรู้จริงๆว่ามันทำได้ยังไง

“ที่จริงฉันติดตั้ง อุปกรณ์วิเศษเข้าไปด้วยนะ”

“โห้ จริงเหรอ บอกผมหน่อยสิ”

เมื่อคิมแดโฮรู้ว่าซูฮยอนรู้แจ้งถึงคุณค่าของดาบ เขาก็ยิ้มออกมาอย่างภูมิใจ

“จริงสิ ฉันจะหลอกเธอไปทำไม เธอก็รู้เทคนิคในยุคปัจจุบัน การคงสภาพความคมของดาบเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ ฉะนั้น ฉันจึงใช้หินอีเธอร์ผสมเข้ากับอุปกรณ์พิเศษที่ฉันประดิษฐ์ขึ้น จนได้ดาบที่มีความคมและความแข็งแรง”

“ลุงจะบอกว่า ลุงใช้หลักการคล้ายๆเลื่อยไฟฟ้าใช่ไหม”

“โห้..สายตาของเธอเฉียบคมมาก เธอพูดถูก ฉันใช้หลักการของเลื่อยไฟฟ้า ถ้าเธอถ่ายเท พลังเวทย์ลงไปแค่นิดเดียว ใบดาบจะทำหน้าที่คล้ายๆใบเลื่อย ถ้าสังเกตด้วยตาเปล่าๆเธอมองไม่เห็นหรอกนะ”

เมื่อซูฮยอนได้ฟังเขาก็อดตกใจไม่ได้

ตามคำขอของซูฮยอน เขาแค่อยากได้ดาบที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด

แต่ใครจะคิด ว่าคิมแดโฮจะสร้างดาบออกมาได้ดีขนาดนี้

แม้แต่วิธีการเพิ่มความคมของดาบ ซูฮยอนฟังไป ก็ยังไม่อยากจะเชื่ออยู่ดี

<<สมแล้วที่เป็นคิมแดโฮ>>

ซูฮยอนคิดถูกจริงๆ ที่ไหว้วานคิมแดโฮให้สร้างดาบเล่มนี้ขึ้นมา ถึงแม้จะเสียเวลารอไปหนึ่งปี

แต่การได้อาวุธที่มีอนุภาพขนาดนี้มาอยู่ในกำมือ มันก็คุ้มค่ากับการรอจริงๆ

“จริงสิ ดาบเล่มนี้มีชื่อไหม”

คิมแดโฮมักสลักชื่อลงบนอาวุธของตัวเอง

แต่ไม่ใช่ทุกอันจะมีชื่อ มันมีแค่อันที่สมบูรณ์แบบเท่านั้น ถึงจะมีชื่อเป็นของตัวเอง

ซึ่งดาบที่ซูฮยอนถืออยู่ ก็จัดว่าเป็นผลงานที่สมบูรณ์แบบ

เพราะฉะนั้นดาบเล่มนี้จะต้องมีชื่อแน่ๆ

“ไอ้หนู ฉันไม่มีเวลาไปตั้งชื่อให้เธอหรอกนะ”

“ไม่มีชื่อจริงดิ”

คำตอบของคิมแดโฮ ทำให้ซูฮยอนนึกว่าเขาหูฟาด

คิมแดโฮเกาหัวอย่างหงุดหงิดและตอบกลับด้วยความรำคาญ

“ในเมื่อมันเป็นดาบของเธอ เธอก็ตั้งชื่อเองสิ โตจนหมาเลียตูดไม่ถึง ยังรอให้ฉันชื่อให้อีก”

“เอ่อคือว่า..”

“มีอะไร?”

“ลุงเคยคิดที่จะขโมยดาบเล่มนี้ไปมั้งไหม ในเมื่อสร้างดาบที่สมบูรณ์ขนาดนี้ขึ้นมา”

“ทำไมฉันต้องขโมยด้วย ฉันจะบอกอะไรให้ ความโลภมันไม่อยู่ในหัวของฉันเลยสักนิด แค่ฉันสร้างดาบเล่มนี้ออกมาได้สมบูรณ์ ฉันก็ดีใจจนเนื่้อเต้นแล้ว”

ทำไมคิมแดโฮจะขโมยดาบของซูฮยอนไปด้วย?

แค่คิมแดโฮได้มีรับการอนุเคราะห์จากซูฮยอนให้สร้างดาบเล่มนี้ขึ้นมา เขาก็ดีใจจนนอนไม่หลับแล้ว

เมื่อซูฮยอนรู้ว่าคิมแดโฮยังไม่ตั้งชื่อให้ดาบของเขา

ซูฮยอนจึงนึกชื่อที่ตัวเอง คิดว่ามันดูเท่ขึ้นมา

ใช้เวลาไม่นานซูฮยอนก็ปิ๊งไอเดียขึ้นมาทันที

“ผมจะตั้งชื่อให้มันว่า ดาบปราบมังกรแกรม”

“แกรม? ดาบปราบมังกร? ชื่อเชยเป็นบ้า”

ในอดีตดาบบัลมุงก์ที่ซูฮยอนเคยใช้ ก็ถูกตั้งชื่อโดยเขาด้วยเช่นกัน

แกรม เป็นอีกหนึ่งชื่อของ ดาบบัลมุงก์ ซึ่งมันเป็นตำนานแถวยุโรปทางตอนเหลือ

ชาวพื้นเมืองเชื่อว่า ดาบทั้ง 2 เล่ม คือดาบอันเดียวกัน

“ผมอยากรู้จริงๆ ว่าดาบเล่มนี้จะฆ่ามังกรได้ตามชื่อของมันหรือป่าว”

เมื่อได้ยินคำพูดที่เพ้อฝันของซูฮยอน

คิมแดโฮอดหัวเราะออกมาไม่ได้

“ฮ่า ฮ่า เป็นเด็กที่มีจินตนาการเหลือล้นจริงๆ”

ถึงแม้ดาบปราบมังกรจะเป็นชื่อที่เชยแค่ไหน

แต่สำหรับซูฮยอน ชื่อที่เขาพึ่งตั้งไป มันเฟี้ยวสุดๆแล้วสำหรับเขา

แต่หารู้ไม่ สติปัญญาให้การตั้งชื่อของซูฮยอน มันบ้านนอกสุดๆ

“จริงสิก่อนผมมา ผมได้โอนเงินไปให้ลุงแล้ว ลุงลองตรวจสอบดูหรือยัง”

ซูฮยอนพูดพร้อมกับเก็บดาบปราบมังกรลงไปในฝักเหมือนเดิม

เมื่อคิมแดโฮได้ยินเรื่องเงิน เขาก็กระพริบตาด้วยความประหลาดใจ

“เงิน? เงินค่าอะไร”

“ผมส่งเงินค่าจ้างไปให้เมื่อกี้ ลุงไม่ตรวจดูเลยเหรอ”

“อะไรนะ ไอ้หนู แกคิดว่าฉันเป็นขอทานหรือไง” คิมแดโฮตะโกนกลับออกมาอย่างหัวเสีย

สำหรับคิมแดโฮ เงินมันก็เป็นแค่เศษกระดาษในการชื่อวัสดุดิบเทjานั้น

ถ้าเลือกได้ เข้าไม่อยากได้เงินเลยสักนิด

“ทำไมลุงถึงพูดยังงี้ล่ะ ผมให้ลุงเป็นค่าสินน้ำใจ อีกอย่างผมก็ไม่อยากได้ยินคนนินทาหลับหลัง ว่าใช้แรงงานผู้สูงอายุหรอกนะ”

“ไร้สาระ ถ้าเธออยากให้ค่าจ้าง ทำไมเธอถึงไม่เอาวัตถุดิบมาแทน เธอเป็นผู้ตื่นขึ้นไม่ใช่หรือไง แต่วัตถุดิบคงหาได้ง่ายๆ”

“โถ่ลุง ลุงทำให้ผมรู้สึกอัปยศจริงๆ”

“หึ จำไว้ถ้าเธออยากตอบแทนบุญคุณของฉัน เธอไม่โอนเงินให้ฉัน เธอมีหน้าทีหาแค่วัตถุดิบมาให้ฉันก็พอ”

สิ่งที่ติมแดโฮพูดมันก็เหมาะสมกับนิสัยของเขาดี

ของตอบแทนที่ถูกต้อง ควรเป็นสิ่งของที่ฝ่ายตรงข้ามต้องการ

สำหรับคิมแดโฮเงินก็เปรียบเสมือนเศษกระดาษ มันไม่มีความหมายสำหรับเขา

แต่..

<<ถ้าเขาต้องการเงิน เขาก็แค่เอาอาวุธพวกนี้ไปขาย เขาก็ได้เงินเยอะแล้ว จริงไหม>>

คิมแดโฮมักจะซื้อหินอีเธอร์เกรดต่ำๆ และมาสร้างอาวุธ แถมอาวุธที่เขาสร้าง เขายังไม่นำไปขายอีกต่างหาก

ตอนนี้ชื่อเสียงของคิมแดโฮ ก็มีแต่เรื่องการสร้างอาวุธเท่านั้น

ซูฮยอนเชื่อว่า ถ้าคิมแดโฮไม่นำเอาอาวุธที่เขาสร้างไปขาย ชื่อเสียงที่เขามี จะโดนช่างฝีมือคนอื่นกลบจนมิดแน่ๆ

ความจริงในปี 2021 คิมแดโฮจะประสบปัญหาเรื่องการเงินอย่างหนัก

เมื่อซูฮยอนรู้ถึงความจริง เขาจึงตัดสินใจโอนเงินช่วยเหลือคิมแดโฮทันที

ติ๊ด

ทันใดนั้น มือถือในกระเป๋าของซูฮยอนด็ดังขึ้น

คิมแดโฮที่กำลังทำสีหน้าบูดบึ้งอยู่ ก็ไล่ซูฮยอนออกจากบ้านของเขาไป

“ทำไมฉันต้องมาเสียพลังงานต่อล้อต่อเถียงกับเธอด้วยเนี้ย ถ้าไม่มีสำคัญ เธอก็กลับบ้านไปได้แล้ว”

“ได้ครับ เดี๋ยวผมกลับมาหาใหม่”

“ถ้าไม่มีเรื่องสำคัญ อย่ามารบกวนฉัน”

ถึงแม้คิมแดโฮจะพูดจาโผผาง แต่เขาก็เดินมาส่งซูฮยอนถึงหน้าบ้านอยู่ดี

เขาช่างเป็นคนที่ปากไม่ตรงกับใจ จริงๆ

*******************************

มือถือของซูฮยอนยังคงสั่นอยู่อย่างต่อเนื่อง

ซูฮยอนค่อยๆหยิบมือถือขึ้นมา แล้วเช็คสายที่ไม่ได้รับ

สายที่ซูฮยอนไม่ได้รับมันเป็นสายของลีจุนโฮ

เมื่อเห็นดังนั้น ซูฮยอนจึงตัดสินใจโทรกลับไปทันที

ใช้เวลาไม่นานฝ่ายตรงข้ามก็รับสายอย่างรวดเร็ว

“ฮัลโหล”

“นายรับสายช้านะ ฉันรบกวนนายอยู่หรือป่าว”

“ไม่รบกวนเลย พอดีผมไปรับอาวุธจากช่างฝีมือมา ถ้าคุณไม่โทรมาผมกะว่าจะไปชั้น 20 แล้วเนี่ย”

“งั้นเหรอ.....จริงสิตอนนี้ใน อเวจีออนไลน์ มีข่าวน่าตกใจอยู่เต็มไปหมด” ลีจุนโฮกล่าว

ข่าวมาเร็วขนาดนี้เลย?

ซูฮยอนไม่ค่อยแปลกใจสักเท่าไหร่ เพราะในอเวจีออนไลน์ มีนักเขียนตัวยงอยู่มากมาย

เพราะฉะนั้นข่าวสารในอเวจีออนไลน์ จึงถูกเผยแพร่ออกมาเร็วกว่าสำนักข่าวอื่นๆ

ซูฮยอนเดินเกาหัว แล้วเดินไปที่รถของตัวเองอย่างช้าๆ

“แล้วที่ติดต่อมาหาผม มีเรื่องเกี่ยวกับดันเจี้ยนใช้ไหม”

“ใช่แล้ว พอดีผมเคลียร์ชั้นที่ 34 พึ่งเสร็จเลยมีเวลาพักผ่อน นายพอมีเวลาว่างไหม พวกเราข้าวกินกัน”

“ถ้านัดกินข้าวก็ไปได้อยู่ แต่ถ้านัดโจมตีดันเจี้ยนผมขอผ่านก่อนดีกว่า”

“ทำไมล่ะ มีเรื่องไม่สบายใจเหรอ”

“ผมกะว่าจะทดสอบชั้นที่ 20 ทันทีนะ”

ปรึ้น

เมื่อซูฮยอนขึ้นรถ เขาก็สตาร์ทรถสปอร์ตทันที

“มานัดเจอกันเถอะ ร้านไหนว่ามาเลย”

ซูฮยอนขับรถสปอร์ตของเขามุ่งหน้าไปที่ ยองดึงโพ

ซูฮยอนและลีจุนโฮนัดพบกันที่ใจกลางย่านยองดึงโพ

เมื่อลีจุนโฮมารับซูฮยอน เขาก็พาไปทยังร้านอาหารสุดหรูหรา ที่มีห้องส่วนตัวเป็นของตัวเอง

ภายในห้องประดับประดาไปด้วยแสงสี

บนโต๊ะอาหารมีอาหารเกาหลีที่มีราคาแพงๆอยู่เต็มไปหมด

เมื่อประตูห้องส่วนตัวถูกปิดลง ความเงียบงันก็ปกคลุมไปทั่วทั้งห้อง

ลีจุนโฮค่อยเปิดปากพูดอย่างช้าๆ

“ฉันรบกวนนายอยู่หรือป่าว?”

“ไม่หรอก พอดีผมก็พักผ่อนเพื่อเตรียมตัวเคลียร์ชั้นที่ 20 อยู่พอดี”

ถึงแม้ชั้นที่ 20 มันจะยาก  แต่ถ้าผ่านมันไปได้ ซูฮยอนเชื่อว่าของรางวัลที่ได้รับ มันต้องดีแน่ๆ

ฉะนั้นซูฮยอนจึงตั้งใจเคลียร์มันได้ให้อย่างสมบูรณ์

“นายดูลุกลี้ลุกลนนะ”

ในฐานะเพื่อนที่รู้จักกันมานาน

ทำให้ลีจุนโฮรู้ได้ทันทีว่า ซูฮยอนมีเรื่องกลุ้มใจรุมเร้าอยู่

“มีเรื่องอะไรกลุ้มใจอยู่หรือป่าว บอกฉันได้นะ”

“คือ..ผมมีเรื่องอยากให้นายช่วยหน่อย”

“เรื่องอะไรล่ะ”

“ชื่อของนายชอบโผล่ออกไปตามข่าวอยู่ประจำสินะ แถมนายยังมีแฟนคลับติดตามเพิ่มขึ้นแทบทุกวัน”

“ใช้แล้ว”

ตั้งแต่ปีที่แล้ว ลีจุนโฮได้กลับเข้าสู่หอคอยแห่งการทดสอบอีกครั้ง

แต่ผลงานที่ออกมา มันไม่ได้แย่ลงเลย แต่มันกลับดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เมื่ออันดับของเขาดีขึ้นเรื่อยๆ ทำให้แฟนคลับของลีจุนโฮเริ่มมีมาขึ้น จนแฟนคลับตั้งฉายาให้เขาว่า

[ผู้ตื่นขึ้นระดับผันแปร]

“นายพอรู้จักคนที่มีอำนาจมากหรือป่าว”

“ผู้มีอำนาจงั้นเหรอ”

“ก็พอรู้จักอยู่นะ”

“ผมขอฝากข้อความไปให้เขาหน่อย”

“ข้อความอะไรล่ะ ว่ามาเลย”

“ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า…”

ซูฮยอนเริ่มแบ่งข้อมูลของเขา

เมื่อลีจุนโฮได้ฟัง สีหน้าของเขาก็ถูกฉาบไปด้วยความประหลาดใจ

“นั่นมัน..เรื่องจริงเหรอ”

“ไม่รู้สิ แต่มันมีโอกาสเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น”

“แล้วนายไปรู้เรื่องนี้มาจากที่ไหน?”

“ผมรู้มาจากผู้อารักขาประตูของชั้นที่ 20 ถึงแม้ผมจะไม่รู้ว่าผู้อารักขาพูดจริงไหม แต่ระวังไว้ก็ไม่เสียหายอะไร”

ผู้อารักขา

เขาคือคนที่อาศัยอยู่ในหอคอยแห่งการทดสอบ ผู้ตื่นขึ้น ทุกคนสามารถพบเจอเขาได้ทุกๆ 10 ชั้น

ผู้อารักขา ไม่ใช้ตัวตนธรรมดา เขามีความรู้ของโลกต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โลกในหอคอยแห่งการทดสอบหรือโลกมนุษย์

จน ‘ผู้ตื่นขึ้น’ ตั้งฉายาให้ว่า เป็น 'ผู้สันทันกรณี'

คำพูดของผู้อารักขาไม่เคยผิดพลาด

แม้แต่ครั้งเดียวก็ไม่เคยเกิดขึ้น

แน่นอนเรื่องที่ซูฮยอนพูดมันจะเกิดขึ้นจริงๆ

แต่ข้อมูลที่บอกกับลีจุนโฮไปซูฮยยอนโกหก

มันไม่ได้มาจากปากของผู้อารักขา

แต่มันมาจากประสบการณ์โดยตรงของซูฮยอนเอง

“แบบนี่นี้เอง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมดันเจี้ยนพักหลังๆมานี้ถึงโผล่ออกมาเต็มไปหมด”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด