ตอนที่แล้วตอนที่ 27: คนเรามันก็ต้องมีเรื่องที่ตัวเองไม่เก่งกันทั้งนั้นแหล่ะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 29: ภารกิจกู้ภัยที่น่ากลัดกลุ้ม

ตอนที่ 28: เจ้าชายกับเจ้าหญิงแห่งอัลบราโทร


มีเรือรบสามลำของอัลบราโทรกำลังเข้ามาใกล้พวกเรา

พวกมันเป็นเรือใบที่ติดตั้งปืนใหญ่สำหรับยิงกระสุนเวทมนตร์ ณ ตอนนี้พวกมันคือเรือรบรุ่นล่าสุด การต่อสู้ระยะใกล้นั้นมันก็เรื่องนึงแต่พวกเราคงจะทำอะไรไม่ได้เลยถ้าปะทะกันในการต่อสู้ระยะไกล

“ตามที่คาดเอาไว้, พวกนั้นไม่ได้มาที่นี่เพื่อโจมตีพวกเราสินะ”

“ถ้าพวกนั้นทำ, มันก็คงจะเป็นการเริ่มสงครามแล้วหล่ะครับ”

“ขอบใจที่พาเจ้านั่นไปส่งนะ แล้วสองคนนั้นที่อยู่บนเรืออีกลำเป็นยังไงบ้างหล่ะ?”

“หมดสภาพครับองค์ชาย ถ้าพวกเขาอยู่ในการแข่งขันท่านคงต้องเรียกให้กรรมการยุติการแข่งเลยหล่ะครับ”

หลังจากที่เขาพาลีโอไปส่งที่เรือของฉัน, อัศวินวัยกลางคนก็กลับมาอยู่ข้างฉัน มีแค่เขาที่รู้ว่าพวกเราสลับตัวกันดังนั้นมันคงจะช่วยได้มากถ้ามีเขาอยู่ด้วย

“ถ้าเอาสถานการณ์แบบนั้นมาอ้างอิ้งข้าจะไม่ถูกพิจารณาตัดสิทธิรึไง?”

“ตราบใดที่อีกฝ่ายไม่รู้ก็ไม่เป็นอะไรหรอกครับ”

เขาตอบกลับ

เขาเป็นคนที่ปรับตัวได้ดีมากจนไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทำงานภายใต้การบังคับบัญชาของเอลน่า พอเห็นแบบนี้, ฉันชักอยากได้ตัวเขามาเป็นลูกน้องแล้วสิ

“งั้นหรอ แบบนี้คงต้องแสดงให้เต็มที่สินะ”

“ขอให้ข้าติดตามไปด้วยนะครับ”

พอพูดจบ, พวกเราก็มุ่งหน้าไปรับเรือของอัลบราโทรที่กำลังแล่นเข้ามา

————–

“ขอบคุณที่ยอมรับคำขอเจรจาของพวกเรานะคะ ท่านทูต”

คนที่มาขึ้นเรือของเรานั้นเป็นเด็กสาวที่มีผมสีน้ำตาลอ่อน ผมยาวประบ่าของเธอปลิวไสวไปตามแรงลม

อายุของเธอน่าจะอยู่ที่ราวๆ 14 หรือ 15 ปี ดวงตาสีเขียวของเธอมองมาที่ฉันด้วยความสนใจ

ฉันไม่นึกเลยว่าจะต้องมาจัดการกับคนที่เด็กกว่าที่นี่, ดังนั้นฉันจึงค่อนข้างประหลาดใจ

เธอเองก็น่าจะรู้สึกตัวแล้วแน่ๆดังนั้นเธอจึงรีบก้มศรีษะในทันที

“ขออภัยสำหรับความไร้มารยาทของข้าค่ะ ข้าชื่อเอวาเจริน่า เดอ อัลบราโทร ข้าเป็นองค์หญิงของราชรัฐอัลบราโทรค่ะ ชื่อมันค่อนข้างยาวจะเรียกสั้นๆว่าเอวาก็ได้ค่ะ”

“โถ่, ท่านพี่, รอข้าด้วยสิครับ......”

“คนที่ดูหน้าตางี่เง่าตรงนั้นเป็นน้องชายของข้า, เขาชื่อจูลิโอ เดอ อัลบราโทรค่ะ

หน้าตาของจูลิโอกับเอวานั้นเหมือนกันจนแทบจะแยกไม่ออก มันไม่ใช่ว่าเอวาดูเหมือนผู้ชายแต่เป็นจูลิโอต่างหากหล่ะที่ดูเหมือนผู้หญิง

ถ้าพวกเขามายืนอยู่ข้างกันและยังไม่ได้แนะนำตัว, ฉันคงจะเชื่อว่าพวกเขาเป็นคู่พี่สาวน้องสาว

เอวาเป็นเด็กสาวที่งดงามแต่ฉันก็รู้สึกได้ถึงจิตใจที่แข็งแกร่งจากดวงตาของเธอ ในอีกด้านนึง, จูลิโอนั้นดูเหมือนจะขี้อายและไม่เด็ดขาด ถ้ามาถามฉันว่าใครดูเหมือนผู้หญิงมากกว่าก็คงต้องขอโทษสำหรับความไร้มารยาทของฉันด้วยแต่คำตอบคงเป็นจูลิโอแน่ๆ

ไม่อยากจะเชื่อเลยนะเนี่ยว่าเจ้าชายกับเจ้าหญิงของอัลบราโทรเป็นฝาแฝด ว่าแต่, ที่พวกเขามาขึ้นเรือเรานี่ต้องการอะไรกันแน่นะ?

ฉันทำความเคารพกลับด้วยท่าทีที่งดงามเหมือนกับลีโอในขณะที่คิดว่ามันเป็นเรื่องดีแล้วที่ฉันสลับตัวกับลีโอที่อาการไม่ดีแทนที่จะปล่อยให้เขาฝืนตัวเองมาที่นี่

ก่อนที่พวกเราจะออกเดินทางนั้น, อัลบราโทรได้รับแจ้งว่าลีโอถูกส่งไปที่รอนดิเน่ในฐานะทูตที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ

แน่นอนว่า, สองคนนี้ต้องรู้เรื่องนั้นอยู่แล้ว

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่พวกเขาขอเจรจาไม่ใช่หยุดพวกเรา ถ้าพวกเขาอยากจะหยุดพวกเราพวกเขาก็แค่ขวางเส้นทางเดินเรือของพวกเราในตอนที่พวกเรามาถึงน่านน้ำของอัลบราโทรก็พอแล้ว และถ้าอัลบราโทรตั้งใจยอมให้พวกเราผ่านดินแดนของพวกเขาแล้วมาเปลี่ยนใจทีหลังพวกเขาก็จะสูญเสียความเชื่อใจจากประเทศอื่น

ด้วยประการฉะนี้เอง, เอวากับจูลิโอต้องมาที่นี่ด้วยเหตุผลอื่นแน่ๆ

“ข้าได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับท่านมาค่ะ, เจ้าชายลีโอนาร์ด ในตอนที่เกิดสึนามิมอนส์เตอร์ในจักรวรรดิ, ท่านได้รับความภัคดีจากเหล่าอัศวินและเป็นผู้นำในการโจมตีมอนส์เตอร์ ช่างสมกับเป็นเจ้าชายของจักรวรรดิจริงๆ ท่านมีทั้งความกล้าหาญและพรสวรรค์ทางการทหาร”

“ไม่จริงหรอกครับ ทั้งหมดมันเป็นเพราะความพยายามอย่างแข็งขันของเหล่าอัศวิน ยิ่งไปกว่านั้น, ถ้าพวกเรากำลังพูดเรื่องพรสวรรค์ทางการทหาร, ท่านทั้งสองเองก็มีอยู่ไม่ใช่หรอครับ? องค์หญิงไม่ได้ส่งเรือรบมาที่นี่แค่เพียงเพื่อมาเจอข้าถูกไหม?”

พอได้ยินแบบนี้, สายตาของเอวาก็คมขึ้นเล็กน้อยในขณะที่จูลิโอดูลนลานหนักขึ้น

เป็นไปตามที่คาดเอาไว้, พวกเขามีเหตุผลอื่นในการมาพบพวกเรา

แทนที่จะเคลื่อนไหวเพื่อขัดขวางพวกเรา, พวกเขากลับออกมาที่นี่ด้วยวัตถุประสงค์ที่ต่างออกไปและพวกเราก็แค่จี้ตรงนั้นเลย

คำถามในที่นี่ก็คือเจ้าชายกับเจ้าหญิงคู่นี้มีเป้าหมายแบบไหนกัน ตัดสินจากนิสัยของพวกเขาทั้งคู่มันดูไม่เหมือนกับว่าสองคนนี้มีความเชี่ยวชาญในการต่อสู้เลย

เอวาอาจจะพอมีความรู้ในเรื่องนั้นอยู่บ้างแต่ฉันไม่สามารถรู้สึกจากจูลิโอได้เลยแม้แต่น้อย บางทีเขาอาจจะมีทักษะดาบแย่กว่าฉันด้วยซ้ำ ทำไมถึงพาคนแบบเขามาด้วยนะ?

ในตอนที่ฉันกำลังคิดที่จะแหย่พวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้, เอวาก็ส่งเสียงออกมา

“สีหน้าของเจ้าออกเกินไปแล้วนะ! ตาโง่เอ๊ย! ให้ตายเถอะ.....”

“ขะ, ขอโทษครับท่านพี่........”

“เห้อ..... องค์ชายลีโอนาร์ด ถ้าท่านเข้าใจถึงขนาดนั้นแล้วข้าก็ขอเข้าเรื่องเลยแล้วกันค่ะ พวกเราอยากให้ท่านเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือ พวกเราไม่ได้คิดจะห้ามท่านจากการไปรอนดิเน่แต่, ช่วยอ้อมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เถอะนะคะ”

“ช่วยบอกเหตุผลมาได้รึเปล่า?”

“.....เป็นไปได้ก็ไม่อยากบอกค่ะ ถึงยังไงพวกเราก็เชื่อใจท่านหรือจักรวรรดิไม่ได้”

“เข้าใจหล่ะ”

การที่สามารถแสดงความไม่ไว้ใจกับคนจากจักรวรรดิได้ชัดเจนขนาดนี้นั้น, เด็กสาวคนนี้เป็นคนที่ใจเด็ดใช้ได้เลย

ราชรัฐอัลบราโทรก็ไม่ต่างอะไรจากประเทศอ่อนแอประเทศนึงเมื่อเทียบกับจักรวรรดิ การค้าขายทางทะเลของพวกเขามีความเจริญรุ่งเรื่องดังนั้นถ้าจักรวรรดิโจมตีพวกเขา, ประเทศอื่นก็จะกลายเป็นพันธมิตรของพวกเขา อย่างไรก็ตาม, ถ้าจักรวรรดิตัดสินใจจะลุยจริงๆ, พวกเราก็มีอำนาจมากพอที่จะขยี้พวกเขา

อัลบราโทเองก็คงจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว

แม้กระนั้น, ถ้าเธอมาไม้นี้, มันก็หมายความพวกเขาจะมีปัญหาได้ถ้าพวกเรารู้เรื่องของพวกเขา

ฉันมองไปรอบๆอยู่พักนึง

จากนั้น

“เปลี่ยนเส้นทางเดินเรือ พวกเราจะใช้ทางอ้อมในการไปที่รอนดิเน่”

“อะ, องค์ชาย!? ถ้าพวกเราทำแบบนั้นมันจะทำให้พวกเราไปถึงช้ากว่าเวลาที่กำหนดเอาไว้หลายวันอยู่นะครับ!”

“ไม่เป็นไร พวกเรามีอาหารกับน้ำตุนเอาไว้เยอะอยู่, และทางฝั่งรอนดิเน่เองก็คงจะไม่ว่าอะไรเหมือนกันถ้าพวกเราไปถึงช้าสักหน่อย”

“แต่!”

“ข้าตัดสินใจแล้ว แบบนี้โอเคไหมครับ? องค์หญิงเอวา”

ฉันแอบขำอยู่ในใจในตอนที่เห็นสีหน้าตกตะลึงของเอวา

เข้าใจหล่ะ นี่คือปฏิกิริยาที่ฉันจะได้รับในตอนที่ทำตัวเหมือนลีโอสินะ หรือว่าที่ลีโอทำแบบนี้ก็เพราะเขามีความสุขกับการได้เห็นการตอบสนองแบบนี้?

ปฏิกิริยาของเอวานั้นน่าสนใจมากๆ

“.......สมแล้วค่ะที่เป็นคนที่เข้าร่วมในสงครามผู้สืบทอด ท่านช่างเป็นคนที่จิตใจกว้างขวางจริงๆ พวกเรารู้สึกยินดีกับการตัดสินใจที่ชาญฉลาดของท่านค่ะ, องค์ชายลีโอนาร์ด”

“ขะ, ขอบคุณมากครับ”

“ถ้างั้น, ตอนนี้พวกเราขอตัวลานะคะ”

“ขะ, ขอตัวลาครับ”

ในตอนที่ธุระของพวกเขาเสร็จสิ้น, เอวากับจูลิโอก็กลับไปที่เรือของพวกเขา

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง, พวกเราก็เริ่มเตรียมตัวออกเดินทางไปตามเส้นทางของตัวเอง ฉันอยากจะเลิกทำตัวเหมือนลีโอให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้แต่ฉันไม่สามารถทำอะไรที่น่าสงสัยได้เพราะพวกเขากำลังจับตามองพวกเราเพื่อดูว่าพวกเราเปลี่ยนเส้นทางจริงรึเปล่า

ในท้ายที่สุดนั้น, พวกเราก็ออกเดินทางไปในขณะที่ฉันยังปลอมตัวเป็นลีโออยู่

เอาเถอะ, มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรขนาดนั้น ถ้าอยู่แต่ในห้องก็ไม่เป็นที่สะดุดตาแล้ว แล้วมันก็ยังไม่มีงานให้ฉันหรือลีโอทำจนกว่าจะถึงฝั่งด้วย ปัญหาที่มีอยู่ ณ ตอนนี้ก็คือวัตถุประสงค์ของอัลบราโทร

“พวกเขาต้องการอะไรกันแน่ครับ?”

“ข้าเองก็อยากรู้เหมือนกัน”

สำหรับคำถามของอัศวินวัยกลางคนนั้น, ฉันเองก็กำลังสงสัยอยู่

พูดตามตรง, ฉันไม่มีเงื่อนงำอะไรเลย พวกเขาส่งเรือรบมาสามลำที่มีเจ้าชายกับเจ้าหญิงขึ้นมาด้วย ถ้าพวกเขาอยากจะสู้, เจ้าชายกับเจ้าหญิงก็คงไม่จำเป็นหรอก และถ้าพวกเขาไม่อยากสู้, การส่งเรือรบมาสามลำก็ดูจะเกินไปหน่อย

ถ้ามาคิดๆดูแล้วนี่อาจจะเป็นแค่กองเรือสืบข่าวของพวกเขา ถ้าสองคนนั้นมีความสามารถบางอย่างที่มุ่งเน้นไปที่การสืบข่าวมันก็พอจะน่าเชื่อถืออยู่

ว่าแต่, พวกเขากำลังสืบหาอะไรอยู่หล่ะ?

สถานที่แห่งนี้อยู่ในอาณาเขตของราชรัฐอัลบราโทรและฉันก็ไม่เคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับกองเรือโจรสลัดขนาดใหญ่ในแถบนี้เลยด้วย

หลังจากที่ครุ่นคิดเกี่ยวกับการเจรจาก่อนหน้านี้อยู่พักนึง, เรือก็โคลงเคลงขึ้นมาอย่างกระทันหัน

“เกิดอะไรขึ้น!?”

“รายงานครับ! ตอนนี้มีพายุเข้าครับ!”

“อะไรนะ!?”

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน

สภาพอากาศเป็นปกติดีจนถึงเมื่อสักครู่นี้, แล้วจู่ๆพายุมันมาจากไหนกัน

ด้วยความคิดนี้, ฉันก็รีบไปที่ดาดฟ้าเรือ

บนดาดฟ้าเรือ, มีลมกรรโชกแรงและคลื่นสูงกำลังโจมตีเรืออยู่

ยิ่งไปกว่านั้น, ในตอนที่หันไปด้านข้าง, ฉันก็เห็นอะไรบางอย่างที่ดูน่าจะมีปัญหากำลังจะเกิดขึ้น

“คุณกับตันเรือครับ! พวกเรากำลังจะแยกจากเรือของท่านพี่แล้วนะครับ!”

“ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย! แค่รักษาสภาพเรือให้ลอยอยู่ก็ตึงมือพวกเราแล้วครับ! พวกเราไล่ตามพวกเขาไม่ทัน!”

“ทำอะไรไม่ได้เลยหรอครับ!?”

“เป็นไปไม่ได้หรอกครับ! นี่มันไม่ใช่พายุที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ! จู่ๆมันก็ปรากฎขึ้นมาโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า! นี่ต้องเป็นฝีมือของมอนส์เตอร์ในทะเลแน่เลยครับองค์ชาย!”

พอได้ยินเสียงกรีดร้องของกัปตันเรือ, ฉันก็นึกถึงสิ่งที่ฉันพูดกับเอลน่าขึ้นมาได้

ฉันบอกเธอเรื่องมังกรทะเล

เรื่องราวที่มักจะวนเวียนอยู่บ่อยๆเกี่ยวกับมังกรทะเลก็คือว่าพวกมันสามารถจมเรือได้ด้วยการเรียกพายุออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ซึ่งนี่ตรงกับสถานการณ์ในตอนนี้พอดีเลย

และนอกจากนี้มันยังมีเรื่องท่าทีของราชรัฐอัลบราโทรเมื่อสักครู่นี้มาสนับสนุนอีก

เจ้าชายกับเจ้าหญิงเอาเรือรบมาสามลำและบอกให้พวกเราเปลี่ยนเส้นทาง

มันเป็นไปได้รึเปล่าว่าราชรัฐอัลบราโทรรู้ว่ามังกรทะเลจะโผล่มาในตำแหน่งใกล้ๆนี้ก็เลยเข้ามาสำรวจ

ถ้าเป็นแบบนั้นมันก็ไม่มีทางหรอกที่พวกเขาจะบอกพวกเราได้ อัลบราโทรเป็นประเทศที่เน้นเรื่องการค้าขายทางทะเล อย่างไรก็ตามถ้ามีข่าวหลุดไปว่ามีมังกรทะเลโผล่มาในน่านน้ำของพวกเขา, ก็คงไม่มีประเทศไหนที่จะร่องเรือมาประเทศของพวกเขาหรอก เพราะถ้าพวกเขาทำแบบนั้นมันก็ไม่ต่างอะไรจากฆ่าตัวตาย

ด้วยความคิดนี้, ฉันก็ใช้เวทย์ตรวจจับในทันที สิ่งที่ฉันกำลังตรวจสอบอยู่ก็คือขนาดของพายุ

ในตอนที่ฉันได้รู้ว่าพายุรุนแรงแค่ไหน, ฉันก็เดาะลิ้น

พายุนี้ใหญ่มากและพวกเราก็อยู่ที่ขอบของมัน พูดอีกนัยนึงก็คือ, จุดกำเนิดของพายุไม่ได้อยู่ที่นี่

บางที, ศูนย์กลางของมันน่าจะอยู่ในน่านน้ำของอัลบราโทร

และที่แย่ยิ่งกว่านั้นก็คือ, เรือของเรากำลังถูกดูดเข้าไปที่ศูนย์กลาง

ถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไป, อย่างเลวร้ายที่สุด, พวกเราก็จะต้องต่อสู้กับมังกรทะเลกลางมหาสมุทร

ถ้าถึงขั้นนั้นหล่ะก็ขอโทษแล้วกันนะ

“กัปตันเรือครับ! ไม่ว่ายังไงก็ต้องพาพวกเราออกไปจากพายุนี้ให้ได้นะครับ!”

“ตอนนี้พยายามอยู่ครับ!”

ด้วยเหตุนี้เอง, ฉันจึงยังต้องปลอมตัวเป็นลีโอต่อไปท่ามกลางพายุคลั่ง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด