ตอนที่แล้วตอนที่ 16 จิตใจของเหล่าสาวก 2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 18 ปัญหาของหมิงซี่หยิน

ตอนที่ 17 สั่งสอน


ตอนที่ 17 สั่งสอน

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย 

ทันทีที่หมิงซี่หยิงออกหุบเขาพยัคฆ์ ซู่ฮ่องกงที่ได้แต่ตัวสั่นก็ได้ปาดเหงื่อของเขาลง ในตอนนั้นเองขาของเขาก็ยังคงสั่นเครืออยู่

'นั่นสินะ...ดูเหมือนว่าศิษย์พี่เจ็ดจะพูดถูก! '

เมื่อเห็นแบบนั้นแล้วชายคนหนึ่งก็ได้ตะโกนถามขึ้น "ท่านหัวหน้า ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม? "

"ขะ...ข้าสบายดี ไม่ต้องเป็นห่วงไป ใจเย็นเอาไว้ทุกคน! "

ในตอนนั้นเอง...

ลู่โจวที่กำลังนั่งสมาธิอยู่บนศาลา

หลังจากที่ลู่โจวพยายามฝึกฝนวรยุทธ์มากว่าครึ่งวัน เขาก็พบว่าท้ายที่สุดแล้วการฝึกฝนวรยุทธ์ทั้งหมดก็คงจะเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ต่อหน้าศิษย์ของพวกเขา

ตัวเขานั้นไม่สามารถเดินพลังลมปราณได้เลย

เส้นพลังลมปราณของลู่โจวนั้นเก่าแก่จนเกินไป และตัวเขาเองยังมีจุดตันเถียนที่ยังมีพลังไม่เพียงพอ และเพราะแบบนั้นเองจึงทำให้ลู่โจวไม่สามารถรวบรวมพลังลมปราณเอาไว้ได้

ตัวเขาที่รู้สึกผิดหวังได้แต่ส่ายหัวออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ดูเหมือนว่าการฝึกวรยุทธ์ของตัวเขาจากประสบการณ์ก่อนหน้านี้ที่จีเทียนเด๋าเคยมีมาก็ไม่ได้ช่วยอะไรตัวเขามากนัก

ลู่โจวได้คาดเดาสาเหตุที่ทำให้ตัวเขาเป็นแบบนี้เอาไว้ ที่ตัวเขาไม่สามารถเดินพลังลมปราณได้คงจะเป็นเพราะพลังทางกายภาพที่ตัวเขามี อายุขัยที่มากขึ้นนั้นเป็นเหมือนกับขวากหนามอันสูงใหญ่ ยิ่งอายุขัยของผู้ฝึกยุทธ์นั้นมีมากขึ้น การที่จะสามารถฝึกยุทธ์ต่อไปได้นั้นก็จะยากขึ้นตามนั่นเอง ร่างกายที่แก่ชราจะยิ่งทำให้พลังจากจุดตันเถียนลดน้อยลง และเพราะแบบนั้นพละกำลังที่ตัวเขามีก็จะลดลงไปตามกาลเวลา ปัญหาที่ลู่โจวเจอในตอนนี้เป็นปัญหาเดียวกับที่จีเทียนเด๋าเคยพบเจอ

และนี่เป็นปัญหาที่คงจะเป็นปัญหาที่ยากที่สุดแล้วที่จะสามารถแก้ไขได้

จีเทียนเด๋าที่มีอายุเพิ่มมากขึ้น พละกำลังความแข็งแกร่งของตัวเขาก็เริ่มลดน้อยลงตาม เพราะแบบนั้นเองจึงทำให้จีเทียนเด๋าไม่อาจที่จะสั่งสอนลูกศิษย์ของตัวเขาได้ และเพราะแบบนี้นี่เองจึงทำให้ลูกศิษย์ของตัวเขาเลือกที่จะทรยศไปในท้ายที่สุด

'เฮ้อ สำหรับฉันที่เคยเป็นชายวัยยี่สิบมาก่อน ในตอนนั้นฉันได้แต่เสแสร้งแกล้งทำเป็นเข้าใจทุกสิ่ง ทำเป็นมีประสบการณ์ ความมั่นคงสำหรับชายวัย 20 นั้นเป็นความใฝ่ฝันของเหล่าคนหนุ่มคนสาว'

แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ลู่โจวในตอนนี้ก็มีแต่จะต้องลุยต่อไปเท่านั้น ไม่ว่าร่างกายของเขาจะแก่ชราหรือว่าจะเด็กลงกว่านี้มากก็ตาม

'ดูเหมือนว่าสิ่งที่ฉันจะต้องทำนั่นก็คือการสะสมพลังชีวิตให้เพิ่มมากขึ้น' ลู่โจวที่กำลังคิดย้อนไปถึงอดีตของจีเทียนเด๋า เขาได้แต่คิดว่าปรมาจารย์มหาวายร้ายคนนั้นจะต้องประสบปัญหาเดียวกับตัวเขาในตอนนี้อย่างแน่นอน

'เอาล่ะ แต้มบุญของฉันเหลือเท่าไหร่กัน'

ลู่โจวที่คิดได้ได้เปิดแผงเมนูขึ้นมา

ชื่อ: ลู่โจว

เผ่า: มนุษย์

วรยุทธ์: ขั้นสังหรณ์หยั่งรู้, ดวงตาแห่งการหยั่งรู้

แต้มบุญ: 1,004 แต้ม

อายุขัยที่เหลือ: 1,209 วัน

ของที่มี: การ์ดระเบิดพลังจุดสุดยอด x2, การ์ดประกันชีวิต x5, วิซซาร์ด

...

ในตอนนี้ลู่โจวยังคงมีแต้มบุญเหลือกว่าหนึ่งพันแต้มด้วยกัน แต่ถึงจะมีหลักพันแต่นั่นก็ยังคงน้อยเกินไปอยู่ดี ถ้าหากตัวเขาต้องการที่จะกลับกลายเป็นหนุ่มอีกครั้ง แต้มบุญเพียงเท่านี้ก็คงจะทำให้ตัวเขากลับไปเป็นหนุ่มไม่ได้

ลู่โจวที่อยากได้แต้มบุญได้คิดถึงตอนที่ลูกศิษย์คนที่สี่ของเขาสังหารพวกโจรภูเขาไป การสังหารโจรเพื่อช่วยผู้คนในตอนนั้นทำให้ตัวเขาได้รับแต้มบุญสะสมมามากมาย ดูเหมือนว่าภารกิจอะไรพวกนี้จะทำให้ตัวเขาได้รับแต้มบุญจำนวนมาก

"หยวนเอ๋อ! "

"ท่านอาจารย์มีอะไรรึเปล่าคะ? "

"นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถ้าหากเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นที่โลกภายนอก เจ้าจะต้องรีบรายงานข้าในทันที เข้าใจใช่ไหม" ลู่โจวพูดออกมาอย่างแผ่วเบา

หยวนเอ๋อที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้แต่แอบคิดอะไรบางอย่าง 'ท่านอาจารย์เนี่ยนะอยากจะรู้เรื่องราวของโลกภายนอก ปกติท่านอาจารย์ไม่เคยจะแยแสโลกภายนอกมาโดยตลอด แล้วทำไมกันเขาถึงรู้สึกสนใจเรื่องของโลกภายนอกขึ้นมาได้? '

"ท่านอาจารย์ ศิษย์เองก็อยู่ที่ภูเขาทองมาโดยตลอดเช่นกัน เพราะแบบนั้นแล้วศิษย์ก็เลยไม่รู้เรื่องของโลกภายนอกมากเท่าไหร่ เรื่องของข่าวคราวจากโลกภายนอกคงจะเป็นเรื่องถนัดของศิษย์พี่เจ็ดมากที่สุดแล้ว ศิษย์พี่เจ็ดมีหน่วยคราวกรองอัจฉริยะของเขาครอบคลุมอยู่ทั่วทั้งมุมโลก"

และนั่นแหละคือปัญหา

ลู่โจวที่ฟังแบบนั้นได้โต้ตอบกลับไป "มีจุดพักผ่อนอยู่แห่งหนึ่ง จุดพักผ่อนจุดนี้อยู่ใกล้ๆ กับเมืองถังซี เมืองแห่งนี้เองอยู่ไม่ไกลจากภูเขาทองมากนัก พวกผู้ฝึกยุทธ์ส่วนใหญ่มักจะมาแวะเวียนเพื่อมาพักผ่อนที่เมืองถังซี ถ้าหากเจ้าจ่ายเงินให้กับเจ้าพวกนั้น เจ้าพวกนั้นจะต้องยอมบอกข้อมูลเกี่ยวกับข่าวคราวของโลกภายนอกมาอย่างแน่นอน"

หยวนเอ๋อที่ได้ฟังแบบนั้นสะดุ้งขึ้นมาในทันที เธอไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเธอนั้นจะได้ออกไปจากภูเขาทอง หยวนเอ๋อที่ได้ฟังแบบนั้นจึงรีบถามท่านอาจารย์ของเธอในทันที "จริงๆ หรอคะท่านอาจารย์? "

"ทำไมเจ้าถึงทำท่าทางมีความสุขแบบนั้นกัน? การอยู่บนภูเขาทองทำให้เจ้ารู้สึกเศร้าเสียใจอย่างงั้นหรอ? " ลู่โจวที่ได้มองหยวนเอ๋อได้ถามออกมาอย่างไม่พอใจ

"ไม่ ไม่ใช่แบบนั่นค่ะท่านอาจารย์! ศิษย์ก็แค่รู้สึกเบื่ออะไรนิดหน่อย เพราะไม่ได้ออกไปข้างนอกนานแล้ว"

"เอาล่ะไปได้แล้ว...จำเอาไว้ล่ะว่าอย่าเปิดเผยตัวตนของเจ้ารวมไปถึงห้ามเจ้าฆ่าใครก็แล้วแต่ด้วย"

"แล้วถ้าหากมีคนกล้ามารังแกข้าล่ะท่านอาจารย์? " หยวนเอ๋อได้ถามด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา

ลู่โจวใช้มือของเขาเคาะไปที่หัวของหยวนเอ๋อก่อนที่จะพูดออกมา "ก็แค่จัดการไปตามที่ควร อย่ามาหาข้อแก้ตัวกับข้า! "

"โอ๊ย! "

"ไปซะ! " ลู่โจวคิดอยู่แล้วว่าคงจะไม่มีใครมารังแกหยวนเอ๋อคนนี้ได้

"ค่ะ ท่านอาจารย์! "

หยวนเอ๋อที่ได้รับคำสั่งมาได้บินลงจากภูเขาทองอย่างมีความสุข ลู่โจวที่เห็นแบบนั้นก็รู้สึกอิจฉาอะไรนิดหน่อย ตัวเขาที่ได้แต่เฝ้าดูได้แต่สงสัยว่าเมื่อไหร่กันที่ตัวเขาจะบินบนท้องฟ้าแบบนั้นได้

ศาลาแห่งนี้ได้เงียบสงบลงไปในทันที ลู่โจวได้อาศัยความเงียบนี้คิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ แม้ว่าภูเขาทองแห่งนี้จะเป็นถิ่นที่อยู่ของเหล่าวายร้ายทั้งหลาย แต่ที่แห่งนี้ก็ไม่ใช่ที่ที่ปลอดภัยเลย ลู่โจวได้นึกถึงโจวจี้เฟิงที่ได้ขึ้นมาลอบสังหารตัวเขาถึงศาลาปีศาจลอยฟ้าแห่งนี้ ถ้าหากโจวจี้เฟิงสามารถทำได้ คนอื่นๆ ก็คงจะสามารถทำได้เช่นเดียวกัน

ในตอนนั้นเองศิษย์คนที่สามของเขาอย่างด้วนมูเฉิงก็ได้ขึ้นมาบนศาลา เขาที่คุกเข่าอยู่หน้าศาลาได้รายงานอะไรบางอย่างออกมา "ท่านอาจารย์ ข้าซ่อมแซมแหล่งพลังงานของม่านพลังป้องกันไปแล้ว 3 จุด ตอนนี้เหลืออีก 5 จุดที่ข้าจะต้องซ่อมแซม..."

"5 จุดอย่างงั้นหรอ..." ลู่โจวพึมพำออกมาคนเดียว

เดิมทีแล้วตัวเขาได้วางแผนจะใช้ลูกศิษย์ทั้งสามคนในการซ่อมแซมม่านพลังป้องกัน แต่ถึงแบบนั้นลูกศิษย์ของเขาถึงสองคนก็ได้ออกไปทำภารกิจอยู่ก่อนแล้ว นี่คงจะเป็นเรื่องที่ยากสำหรับด้วนมูเฉิงที่ตัวเขาจะต้องซ่อมแซมแหล่งพลังงานของม่านพลังป้องกันตามลำพัง

การจะซ่อมแซมแหล่งพลังงานของม่านพลังป้องกันได้จะต้องใช้พลังงานมหาศาลในการซ่อมแซม และถึงแม้ว่าด้วนมูเฉิงจะมีวรยุทธ์สุดแกร่งกล้าอยู่ แต่ลำพังเพียงเขาคนเดียวก็คงไม่สามารถให้พลังกับแหล่งพลังงานทั้งแปดได้

"ท่านอาจารย์ ในตอนนี้ศิษย์เกรงว่าจะไม่สามารถซ่อมแซมแหล่งพลังงานทั้งหมดให้สำเร็จได้ด้วยตัวเองได้..." ด้วนมูเฉิงที่ทำท่าทีลังเลอยู่นานได้พูดออกมาอย่างตรงไปตรงมา ในขณะนั้นเองเขาก็เงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อที่จะจ้องมองสีหน้าของผู้เป็นอาจารย์

ลู่โจวที่ได้ฟังแบบนั้นจึงได้ถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ "เจ้าน่ะคิดว่าการลงโทษโดยการให้ซ่อมแซมแหล่งพลังงานนั่นเป็นการลงโทษที่ไม่สมควรอย่างงั้นสินะ? "

"ไม่ ศิษย์ไม่กล้าคิดแบบนั้นครับท่านอาจารย์! "

"ถ้าหากใช้เวลาหนึ่งปีซ่อมแซมไม่สำเร็จ เจ้าก็จงใช้เวลาต่อไป แม้ว่าจะใช้ถึงสองปีหรือสามปีก็ตาม เจ้าก็มีแต่จะต้องทำ! ถ้าหากเจ้ายังคงตั้งคำถามอยู่แบบนี้ เห็นทีการไว้ชีวิตเจ้าคงจะเป็นความคิดที่ผิดอย่างงั้นสินะ?"

"ศิษย์เข้าใจแล้วครับท่านอาจารย์! ศิษย์ก็แค่เกียจคร้านจนเกินไปโปรดยกโทษให้ศิษย์ผู้โง่เขลาคนนี้ด้วย! ศิษย์จะกลับไปซ่อมแซมแหล่งพลังงานต่อเดี๋ยวนี้"

ในตอนที่ลู่โจวจะต้องรับมือกับเหล่ายอดฝีมือทั้งสิบตามลำพัง ตอนนั้นลูกศิษย์คนนี้กลับยืนมองอยู่ที่เบื้องล่างโดยที่ไม่คิดจะช่วยตัวเขาเลยแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้การลงโทษของลู่โจวที่ขอให้ซ่อมแซมม่านพลังกลับถูกปฏิเสธไป เจ้าพวกเกียจคร้านพวกนี้ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาบ่นกับฉัน!

ในตอนนี้ลู่โจวรู้ตัวดี ตัวเขาจะมาทำตัวอ่อนแอในยามที่คับขันแบบนี้ไม่ได้ การสร้างวินัยให้กับพวกลูกศิษย์ของเขาก็เป็นเหมือนกับการจัดการกับคนในบริษัทในชีวิตก่อนหน้านี้

หลังจากที่ด้วนมูเฉิงจากไป ลู่โจวในตอนนี้ก็เปิดเมนูหน้าต่างของระบบขึ้นมาอีกครั้ง

"จับฉลากนำโชค"

"ติ้ง! คุณได้ใช้แต้มบุญ 50 แต้ม ของรางวัลของคุณคือค่าความโชคดี 1 แต้ม"

"จับฉลากนำโชค!!"

"ติ้ง! คุณได้ใช้แต้มบุญ 50 แต้ม ของรางวัลของคุณคือค่าความโชคดี 1 แต้ม"

"..."

ลู่โจวได้พยายามจับฉลากนำโชคกว่าหลายสิบครั้งติดต่อกัน แต่สิ่งที่ตัวเขาได้ทั้งหมดก็คือค่าความโชคดีที่เป็นเหมือนกับรางวัลปลอบใจ และเพราะแบบนี้ตัวเขาจึงได้ใช้แต้มบุญไปกว่า 500 แต้มแล้วนั่นเอง ลู่โจวในตอนนี้มีค่าความโชคดีทั้งหมด 18 แต้มแล้ว

ลู่โจวที่รู้สึกผิดหวังจึงได้พูดต่อว่าขึ้นมา "นี่แกยังมีจิตสำนึกอยู่บ้างไหม? ไม่รู้สึกผิดเลยหรอที่โกงแต้มบุญฉันแบบนี้อยู่? "

ระบบที่ลู่โจวกำลังต่อว่าไม่ได้ตอบอะไรกลับมา

และเมื่อจ้องมองไปที่แต้มบุญที่เหลือ 500 แต้ม ตัวเขาก็ล้มเลิกความคิดที่จะเสี่ยงโชคนี้ลง

"ฉันอยากจะซื้อการ์ดพลังชีวิต! "

"ติ้ง! คุณได้ใช้ 500 แต้มบุญ คุณได้รับการ์ดพลังชีวิต 1 ใบ"

ลู่โจวได้ใช้แต้มบุญทั้งหมดที่มีจนเหลือแต้มบุญเพียงแค่ 4 แต้มเท่านั้น

"ใช้การ์ดพลังชีวิต"

ก่อนหน้านี้ตัวเขาเคยใช้การ์ดพลังชีวิตมาแล้วหลายใบ ลู่โจวที่ในตอนนี้รู้สึกชินกับการเพิ่มพลังชีวิตแล้วได้แต่นั่งรออยู่อย่างสงบ ตัวเขาจ้องไปที่เมนูที่มี อายุขัยของเขาในตอนนี้เพิ่มขึ้นมาเป็น 1,509 วันแล้ว

"ถ้าหากใช้เงินจนหมดตัวแล้วก็คงจะไม่ต้องมานั่งห่วงอะไรอย่างงั้นสินะ! ตอนนี้ฉันได้ใช้แต้มบุญที่มีไปจนหมดแล้ว สิ่งที่ทำได้ก็คือการนอนรอความตาย!" อยู่ดีๆ ลู่โจวก็รู้สึกเบื่อหน่าย

การที่จะทำอะไรก็แล้วแต่ก็ล้วนแต่เป็นเรื่องยากทั้งหมดถ้าหากจะทำด้วยร่างกายที่แก่ชราแบบร่างกายนี้ ถ้าหากเป็นชีวิตในชาติก่อนของลู่โจว คนวัยชราส่วนมากในโลกใบนั้นก็คงจะทำได้เพียงเดินเล่นในสวนสาธารณะ, เล่นหมากรุก, เล่นไพ่ หรือไม่ก็เดินเล่นกับพวกสุนัขได้เพียงเท่านั้น

"ติ้ง! ภารกิจยุยงโจวจี้เฟิงสำเร็จ คุณได้รับแต้มบุญ 200 แต้ม"

"ติ้ง! ระดับความเป็นศัตรูของโจวจี้เฟิงเหลือ 0 % และค่าความภักดีของเขากำลังเพิ่มขึ้น 10%"

"ติ้ง! สังหารสองผู้เฒ่าสำเร็จ คุณได้รับแต้มบุญ 200 แต้ม"

อยู่ดีๆ ดวงตาของลู่โจวก็เบิกกว้างขึ้น

"จ้าวยู่ แกน่ะทำได้ดีจริงๆ! "

ในระหว่างที่ลู่โจวกำลังมีความสุขอยู่กับรางวัลที่ได้รับมา ในตอนนั้นเองก็มีใครคนหนึ่งลอยมาอยู่ที่เชิงเขา

ลู่โจวพยายามจ้องมองไปที่ใครคนนั้น ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นหมิงซี่หยินลูกศิษย์ของเขาเอง

"ท่านอาจารย์ ศิษย์คนนี้ทำงานสำเร็จแล้ว! "

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด