ตอนที่แล้วตอนที่ 11-12
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 15-16

ตอนที่ 13-14


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 13 : สิ่งที่เรียกว่าโคล่า

โฮก!

ในพริบตา อสูรหมาป่าสีม่วงจึงคำรามออกเสียงดัง ผลึกสีม่วงที่แผ่นหลังของมันขณะนี้กำลังทอประกายอย่างรุนแรง

“ฉิวหยิ่งระวังด้วย!” พบเห็นเช่นนี้ เว่ยฉิงจู่จึงต้องร้องอุทานออก

อาวุธของหลินว่านฉวงคือแส้ยาว ขณะนี้มันยับยั้งขาหน้าของอสูรหมาป่าสีม่วงไว้ได้ทันท่วงที

ซ่งฉิวหยิ่งต้องลอบถอนหายใจโล่งอก ขณะนี้คิดถอย แต่แล้วเสียงหนึ่งพลันดังผ่านอากาศปรากฏที่ด้านหลังของนาง!

ฉัวะ!

เสียงเลือดและเนื้อถูกฉีกกระชากออก หางผลึกสีม่วงได้ทะลวงผ่านหัวไหล่ของซ่งฉิวหยิ่ง เป็นผลให้นางต้องกรีดร้องออกอย่างเจ็บปวด!

พริบตานี้คราบเลือดสีแดงฉานจึงย้อมชุดนาง!

“ฉิวหยิ่ง!”

เว่ยฉิงจู่และหลินว่านฉวงต่างร้องออกเผยดวงตาแดงก่ำ

หลินว่านฉวงโบกสะบัดแส้ยาวในมือนางเพื่อรั้งอสูรหมาป่าสีม่วงเอาไว้ นี่จึงเป็นการเปิดโอกาสให้เข้าช่วยเหลือซ่งฉิวหยิ่ง

เว่ยฉิงจู่สูดลมหายใจเข้าลึก นางนำเอาห่อแท่งเครื่องเทศออกมา ฉีกมันออกพร้อมกัดเข้าปากอย่างไม่รีรอ

“แท่งเครื่องเทศ! ขอให้เถ้าแก่คนนั้นพูดจริงด้วยเถอะ!”

พริบตาจากนั้น ใบหน้าเว่ยฉิงจู่จึงแดงก่ำ พลังวิญญาณรุนแรงปะทุออกจากกายนาง ขณะนี้นางกลับกลายเป็นขอบเขตโชคชะตาระดับที่เก้า!

“ของจริง!” เว่ยฉิงจู่รู้สึกถึงพลังวิญญาณในร่างที่แข็งแกร่งขึ้น ภายในใจต้องบังเกิดความยินดี

“รับความตาย!”

ร่างนั้นกลับกลายเป็นภาพติดตา เว่ยฉิงจู่ปรากฏตัวข้างอสูรหมาป่าสีม่วงในพริบตา พร้อมกันนี้ดาบในมือได้ตวัดออกสับฟันลง

เพียงพริบตา ร่างของอสูรหมาป่าสีม่วงจึงแข็งค้าง ดวงตาของมันเผยออกซึ่งความรู้สึกว่าเรื่องราวไม่สมควรเป็นไปได้

มันไม่อาจเข้าใจ ว่าไฉนกำลังของมนุษย์ตรงหน้าถึงพุ่งพรวดได้อย่างกะทันหันเพียงนี้

น้ำพุเลือดกระเซ็นออกจากลำคอของอสูรหมาป่าสีม่วง หัวใหญ่โตนั้นร่วงหล่น ร่างล้มลงแน่นิ่งกับพื้น

“ฉิวหยิ่ง รีบดื่มนี่เร็วเข้า!” เว่ยฉิงจู่ส่งโคล่าให้ซ่งฉิวหยิ่งที่ยังคงอาการตื่นตระหนก

หลังปรับลมหายใจแล้ว นางค่อยรับชมบาดแผลที่ไหล่ของซ่งฉิวหยิ่งซึ่งถูกรักษา ดวงตาของสตรีทั้งสามขณะนี้มีแต่อาการตื่นตะลึงเผยให้เห็น

อาการบาดเจ็บนี้ไม่ใช่น้อย แม้ได้ยาวิเศษช่วยเหลือก็ยังต้องใช้เวลานับเดือนเพื่อรักษา

ขณะนี้ผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วลมหายใจ ต่อหน้าต่อตาคนทั้งสาม บาดแผลเสมือนไม่เคยเกิดขึ้น นี่มันยาจากตลาดมืดอันใด?

“น้องฉิงจู่ นี่ให้ข้าดื่มอะไรไป?” ซ่งฉิวหยิ่งกล่าวออกอย่างที่ตนเองยังแทบไม่เชื่อ “แล้วเมื่อครู่นั้นกินอันใดเข้าไป พลังวิญญาณถึงกับพุ่งทะยานได้เพียงนั้น!”

นึกย้อนกลับไป เว่ยฉิงจู่จึงค่อยจำได้ว่าลั่วฉวนบอกกล่าวว่าสิ่งนี้คืออะไร “นี่คือโคล่า...”

……

สามวันให้หลัง

ก็เหมือนเฉกเช่นทุกวัน ลั่วฉวนจะนอนอาบไล้แสงตะวันบนเก้าอี้หินที่หน้าทางเข้าร้าน

“เถ้าแก่อาบแดดอีกแล้ว!”

เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้น เสียงนี้คุ้นเคยขนาดไม่ต้องคาดเดา ปู้หลี่เกื๋อมาเยือนอีกครั้งแล้ว

ตลอดช่วงหลายวันมานี้ ปู้หลี่เกื๋อมาเยือนร้านลั่วฉวนทุกวี่วัน ทั้งยังซื้อหาขวดโคล่าและแท่งเครื่องเทศติดไม้ติดมือไปตลอด

ลั่วฉวนย่อมยินดี อย่างไรลูกค้าก็คือผู้นำเงินทองมาให้

ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่ทำเขาไม่ค่อยพอใจ คือปู้หลี่เกื๋อมาที่นี่หลายครั้งแล้ว แต่กลับไม่นำลูกค้าอื่นมาเยี่ยมเยือนร้านด้วย

พี่สาวของปู้หลี่เกื๋อ ปู้ฉืออีนั้นไม่มาเยือนหลายวันแล้ว ลั่วฉวนไม่ใช่คิดอยากพบเจอโฉมงาม ทว่าคิดอยากขายโคล่าและแท่งเครื่องเทศให้มากกว่านี้!

ทว่าจากมุมมองของปู้หลี่เกื๋อ ร้านของลั่วฉ้วนนั้นน้อยคนแทบรู้จัก หากให้ผู้คนมากมายทราบเรื่องแล้วสินค้าหมดขึ้นมาจะเป็นอย่างไร? ถึงตอนนั้นเขาก็ไม่มีแท่งเครื่องเทศและโคล่าให้ดื่มกินแล้ว!

“ทุกอย่างบนชั้น ไปหยิบด้วยตนเอง จำเอาไว้ว่าวางผลึกวิญญาณไว้บนโต๊ะก่อนออกจากร้านด้วย” ลั่วฉวนกล่าวออกอย่างที่แทบไม่คิดเปิดตารับชม

“แน่นอน!”

ปู้หลี่เกื๋อตอบสนองทันควัน ขณะนี้เข้าไปคว้าหยิบแท่งเครื่องเทศพร้อมขวดโคล่า จากนั้นจึงวางผลึกวิญญาณไว้บนโต๊ะ

“ให้มันได้อย่างนี้ ดื่มน้ำสุขสันต์นี่ทุกวันไม่ต่างอะไรกับขึ้นสวรรค์!”

หลังดื่มโคล่าจนหมดขวดใหญ่ ปู้หลี่เกื๋อก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

นาม “น้ำสุขสันต์” นั้นเป็นลั่วฉวนกล่าวออกไปโดยไม่ตั้งใจก่อนหน้า และปู้หลี่เกื๋อที่หูดีได้ยินเข้าจึงจดจำและนำมาเรียกตาม

ตอนที่ 14 : ขอซื้อทั้งร้าน!

“พูดเลยนะเถ้าแก่ กับร้านขายของแบบนี้ ไม่คิดว่ามีของแค่สองอย่างมันน้อยเกินไปงั้นหรือ?”

หลังกินโคล่าและแท่งเครื่องเทศเรียบร้อย ปู้หลี่เกื๋อจึงอดไม่ได้ที่จะกล่าวคำออก

แท่งเครื่องเทศและโคล่าทั้งอร่อยและมากประโยชน์ ทว่ามีบาดแผลของปู้หลี่เกื๋อนั้นมีเพียงหนึ่งและรักษาหายดีแล้ว ดังนั้นที่กินไปจึงเป็นความชอบส่วนตัว!

เจ้าของร้านไม่ทราบว่ามีผลิตภัณฑ์ขายน้อยมีปัญหาอะไร และมีผลิตภัณฑ์ขายมากกว่านี้จะได้อะไร?

ลั่วฉวนจึงอดไม่ได้ที่จะกลอกตามองต่อคำถามของปู้หลี่เกื๋อ

ทว่าคำเหล่านั้นก็ได้เพียงคิดในใจ กล่าวออกจึงต้องเปลี่ยนคำพูด “ผลิตภัณฑ์ใหม่จะมีในไม่ช้า”

“นี่เถ้าแก่พูดแบบนั้นมาสามครั้งแล้วนะ” ปู้หลี่เกื๋อบุ้ยปาก

ลั่วฉวนไม่ตอบคำใดกลับแล้ว

หลังพูดกล่าวสัพเพเหระกับลั่วฉวนไปพักหนึ่ง ปู้หลี่เกื๋อจึงกลับออกจากร้านไป

และขณะนี้เองที่รถลากหรูหราจึงค่อยเคลื่อนเข้าสู่ด้านในนครจิ่วเหยาจากทางประตูตะวันออก

รถลากนี้ใช้กิเลนต่างม้า กล่าวได้ว่าน่าเกรงขามแก่ผู้พบเห็น

กิเลนคือสายเลือดของมังกรแห่งตำนาน กล่าวขานกันว่ากำลังนั้นทัดเทียมขอบเขตโชคชะตาเมื่ออยู่วัยกำลังเติบโต!

ผู้ฝึกตนและประชากรเมืองตามทางต่างต้องหลบเลี่ยงเส้นทางและมองตาม

ที่ตรงด้านหน้ารถลาก มันมีสัญลักษณ์อันต้องตาประดับเอาไว้ เป็นดวงจันทราสีเงิน

ผู้คนของนครจิ่วเหยาหาได้แปลกใจไม่ เพราะนี่คือตราของตำหนักจันทราสีเงิน!

ตำหนักจันทราสีเงิน เป็นหนึ่งในขั้วอำนาจใหญ่ซึ่งอยู่ใกล้จักรวรรดิเทียนชิง กระทั่งว่าทรงอำนาจเสียยิ่งกว่าจักรวรรดิเทียนชิง!

“ชิชิ ไม่นึกเลยว่านายน้อยผู้นี้จะต้องมาเยือนสถานที่เช่นนครจิ่วเหยา”

“จ้าวตำหนักกล่าวเอาไว้ พวกเราเพียงมาหาสถานที่พำนัก กำลังของจักรวรรดิเทียนชิงช่วงนี้ดีเยี่ยม หวังว่านายน้อยจะเก็บงำตัวตนไว้”

“ข้าทราบแล้ว ข้าทราบ...”

นั่นคือบทสนทนาภายในรถลาก

รับชมรถลากเข้าสู่ในเมือง ทหารยามที่ประตูเมืองจึงออกคำสั่งเคร่งเครียด “เร่งรีบรายงานต่อองค์เหนือหัว คนของตำหนักจันทราสีเงินต้องการเข้านครจิ่วเหยา!”

“รับทราบ!”

……

ขณะมองฝูงชนผ่านทางหน้าต่างของรถลาก สายตาของชายหนุ่มในรถลากนั้นเผยออกแต่ความรังเกียจเดียดฉันท์

รถลากเคลื่อนตัวผ่านตรอกแห่งหนึ่ง เมื่อชายหนุ่มได้เห็นสภาพภายในตรอก ดวงตานั้นพลันต้องเผยประกาย

“หยุด!”

ด้วยเหตุนี้รถลากจึงหยุดชะงักโดยทันที

“จ้าวตำหนักน้อยมีอะไรหรือขอรับ?” ชายชราผู้บังคับรถลากพลันเปิดหน้าต่างถามด้วยความงุนงง

“จุ๊จุ๊ ถึงกับเปิดร้านในสถานที่เช่นนี้ ให้ข้ารับชมหน่อยแล้ว”

นายน้อยผู้นั้นก้าวเดินลงจากรถลาก จากนั้นจึงเดินเท้าต่อไปในตรอก ข้ารับใช้ชราจึงเร่งรีบตามติด

ไม่ช้าชายหนุ่มจึงมาหยุดตรงหน้าร้าน

“ร้านต้นตำรับ!”

หลังได้เห็นชื่อร้าน ชายหนุ่มจึงชะงักไปครู่ แต่ไม่ช้ารอยยิ้มเหยียดหยันก็ปรากฏ “เหอะ วาจาใหญ่โตนัก!”

จากนั้นสายตาจึงหันมองไปทางลั่วฉวนที่นอนเอกเขนก ด้วยรับรู้ถึงตัวตน กระนั้นกลับไม่ทราบความผันแปรทางพลังวิญญาณ เขาส่ายศีรษะอย่างผิดหวัง “ก็แค่คนทั่วไป”

แต่สำหรับคนธรรมดาที่ใช้ชีวิตสามัญเช่นนี้ ก็ถือได้ว่าเลือกเส้นทางได้ชาญฉลาด

แต่แล้วขณะคนหนุ่มหันสายตากวาดมองภายในร้าน นัยน์ตานั้นพลันต้องหดแคบลง

“เครื่องแก้ว! ทั้งยังเป็นแก้วสีสันงดงาม!”

สีหน้าชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะเผยออกซึ่งความยินดี

ขณะนี้เขารู้สึกว่าการมาเยือนที่แห่งนี้ก็มีโชคอยู่บ้างเช่นเดียวกัน!

แม้เครื่องแก้วเป็นเพียงสิ่งของทั่วไป ทว่ารูปลักษณ์ของมันวิจิตร บรรดาผู้ร่ำรวยและผู้ฝึกตนต่างก็รักชอบได้ครอบครองพวกมัน

หากเป็นแก้วอันบริสุทธิ์เช่นนี้ ขนาดเพียงฝ่ามือย่อมมีมูลค่าทัดเทียมหลายร้อยผลึกวิญญาณ!

หากสามารถได้รับเครื่องแก้วทั้งร้านแห่งนี้ เช่นนั้นก็ไม่ต้องห่วงหาเรื่องการอวดร่ำรวยในภายหน้าอีกต่อไป!

“ตื่นได้แล้ว ข้าขอซื้อทั้งร้าน!” ชายหนุ่มตะโกนบอกกล่าวกับลั่วฉวนเสียงดัง

......

ไม่พลาดการอัพเดตตอนใหม่ ติดตามได้ที่ : https://bit.ly/32ciG6V

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด