ตอนที่แล้วTDGS ตอนที่ 6 : ระบบถูกปลดล็อค
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTGDS ตอนที่ 8 : เพื่อนเก่า

TGDS ตอนที่ 7 : เรื่องเซอร์ไพรส์ที่น่ายินดี


โดยไม่ต้องคิดอะไรเลยแม้แต่น้อย โมบี้เลือกจะยอมรับภารกิจนั่นพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง

ไม่เพียงแต่เขาจะสามารถแก้แค้นได้เร็วขึ้นมากด้วยระบบ แต่เขายังจะได้รับรางวัลมากมายสำหรับการทำเช่นนั้นอีกด้วย นี่มันเหมือนฝันที่กลายเป็นจริง

โชคดีที่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในห้องพยาบาล เพราะนี่ยังคงเป็นเวลาดึก ถ้าไม่อย่างนั้นเขาก็คงดูเหมือนคนโรคจิตที่บ้าคลั่งพร้อมกับเสียงหัวเราะอันร้ายกาจของเขาและบางครั้งเขายังพูดกับตัวเองด้วย แม้ว่าระบบและโมบี้จะสามารถสื่อสารผ่านทางโทรจิตได้ แต่ในบางครั้งโมบี้ก็มีความสุขมากจนเขาอดไม่ได้ที่จะคิดออกมาดัง ๆ

แผนการต่าง ๆ เริ่มถูกขบคิดอยู่ในหัวของโมบี้ เขารู้ว่าก่อนที่เขาจะเริ่มทำสิ่งใด เขานั้นต้องแข็งแกร่งขึ้นเสียก่อน

จากนั้นเขาก็จำได้ว่า เขานั้นมีภารกิจประจำวันของเขา ภารกิจจะรีเซ็ตเวลา 00.00 น. ของทุกวัน ดังนั้นเขาจึงมีเวลาอีกนานในการทำภารกิจให้สำเร็จ และด้วยความที่เขาไม่มีอะไรทำจนกว่าจะถึงตอนเช้า เขาจึงตัดสินใจทำสิ่งต่าง ๆ ในห้องพยาบาลที่เขาพักอยู่ หลังจากที่เขาเพิ่มแต้มสถานะพิเศษ เขาก็ไม่รู้สึกเหนื่อยอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากมันมีพลังที่เพิ่มขึ้นมาอย่างกะทันหัน นั่นหมายความว่าตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการจบภารกิจประจำวัน ตอนนี้เวลา 05.30 น. ชั้นเรียนจะเริ่มเวลา 8.00 น. และพยาบาลจะเข้ามาในห้องนี้เวลา 07.00 น. ดังนั้นเขาจึงควรพยายามทำให้เสร็จภายในเวลานี้เท่านั้น

การวิดพื้น ซิทอัพ และสควอชนั้นเขาสามารถทำมันอย่างง่ายดายและใช้เวลาเพียงแค่ 45 นาทีในการทำทั้งหมด ปัญหาที่แท้จริงคือ การที่เขาจะวิ่ง 10 กม. ในห้องพยาบาลได้อย่างไร

พอเปิดผ้าม่านออกไปดูห้องที่เหลือต่างก็โล่งทั้งหมด จริง ๆ แล้วห้องนี้นั้นไม่ได้เล็กเลย มันค่อนข้างใหญ่ซะด้วยซ้ำ สำหรับห้องพยาบาลธรรมดา ๆ

แต่ถึงกระนั้นก็แทบจะไม่มีที่ว่างพอสำหรับการวิ่ง โมบี้ตัดสินใจลองวิ่งเป็นวงกลม เพื่อดูว่าจะทำภารกิจให้สำเร็จได้หรือไม่ หลังจากวิ่งไม่กี่นาทีเขาตัดสินใจตรวจสอบความคืบหน้า:

679 ม. / 10 กม

มันสามารถทำได้! แม้ว่าการวิ่งเป็นวงกลมจะทำได้ไม่เร็ว แถมเหนื่อยและยังคลื่นไส้อีกด้วย แต่มันก็เป็นทางเลือกเดียวที่เขามี โมบี้ไม่สามารถยืนต่อไปให้เสียเวลาได้อีก ตอนนี้เขามีวิธีการที่ชัดเจนในการที่จะแข็งแกร่งขึ้นแล้ว มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะยอมเสียเวลาหลังจากค้นพบทางออกแบบนี้

*************************

45 นาทีต่อมา

[มุมมองของพยาบาล]

พยาบาลกำลังเดินไปตามทางเดินระหว่างทางไปที่ทำงานของเธอ เธอกังวลอย่างมาก เธอไม่ได้คาดหวังว่าจะมีคนไข้ตั้งแต่วันแรกเช่นนี้ สภาพของโมบี้นั้นกำลังอยู่ในระหว่างความเป็นความตาย หากทีมช่วยชีวิตพบเขาช้ากว่านี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน

ซี่โครงของเขาหักทิ่มเข้าไปในปอด เขาได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรง ขาหักและบาดเจ็บภายในอีกหลายแห่ง ส่วนที่แปลกที่สุดคือนิ้วทั้งหมดของเขาหัก เล็บของเขาถูกฉีกออกจนหมดและเขายังมีกลิ่นปัสสาวะของมนุษย์ลอยคละคลุ้ง

เธอรู้ว่านี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ เด็กชายต้องได้รับการทรมานมาอย่างคาดไม่ถึง เธอมีคำถามมากมายที่จะถามเขาเพื่อจะรายงานสิ่งที่เกิดขึ้น

แม้ว่าเขานั้นจะหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว แต่ร่างกายของเขาก็ยังคงบอบช้ำเกินกว่าจะขยับได้ เวทมนตร์รักษาสามารถรักษาความเสียหายทางกายภาพของบุคคล แต่ไม่สามารถรักษาเกี่ยวกับความแข็งแกร่งหรือจิตใจของพวกเขาได้ จากพื้นฐานทางการแพทย์ของเธอ เธอประเมินว่าเขาน่าจะฟื้นตัวได้หลังจากนี้อย่างน้อย 2 วัน ถ้าหากเขาโชคดีมากพอ

เมื่อเธอเปิดประตูห้องพยาบาลออก เธอก็ได้รับการต้อนรับด้วยสายตาที่ไม่สมเหตุสมผลที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา เด็กชายที่กำลังอยู่ระหว่างความเป็นความตายเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน กำลังวิ่งเป็นวงกลมเหมือนคนบ้าที่กินน้ำตาลมากจนเกินไป

เธอทิ้งข้าวของทั้งหมดลงด้วยความตกใจ ขณะที่เธอรู้สึกแปลกใจและตกใจอย่างมากกับสิ่งที่เธอเพิ่งเห็น

“คุณลุกขึ้นมาจากเตียงได้ยังไงกัน!” เธอกรีดร้องด้วยความกังวล

*************************

[มุมของโมบี้]

โมบี้รู้สึกได้ว่าเขานั้นวิ่งมาสักพักหนึ่งแล้ว แต่เขายังไม่ได้รับการแจ้งเตือนสำหรับการทำภารกิจสำเร็จ เขาไม่ได้จดจ่ออยู่กับเวลาจึงไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลา 7 โมงแล้ว ประตูค่อย ๆ ถูกเปิด แต่โมบี้นั้นยังคงมุ่งมั่นอยู่กับการพยายามทำภารกิจจนลืมสังเกตเรื่องอื่น ๆ จากนั้นเขาก็ได้รับการแจ้งเตือน

<เควสรายวันเสร็จสมบูรณ์>

<+3 แต้มสถานะ>

<+ 10XP>

โมบี้ไม่มีเวลาแม้แต่จะพักหายใจและเขาก็รู้สึกมีความสุขกับความสำเร็จของเขา ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงดังมาจากทางประตู

เมื่อเขามองไป เขาก็เห็นเด็กสาวหน้าตาดีสวมเสื้อคลุมสีขาวและแว่นตา บนพื้นข้างหน้าของเธอมีหนังสือมากมายกองอยู่ที่พื้น เธอมีผมสีน้ำตาลสั้นประบ่า ดวงตาสีฟ้าสดใสและใบหน้าที่ดูน่ารัก เธอดูอายุไม่น่าเกิน 25 ปี

“คุณลุกขึ้นมาจากเตียงได้ยังไงกัน!”

โมบี้มองดูเวลาอย่างรวดเร็วและสังเกตว่ามันเป็นเวลา 7:02 น. แล้ว เขาเริ่มที่จะบ่นกับตัวเองว่าเขานั้นประมาทมากเกินไป

“ผมเพิ่งตื่นนอนเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วครับ เลยลองตัดสินใจออกกำลังกายบ้าง มีอะไรผิดปกติหรือเปล่าครับ” โมบี้ถามขณะเกาศีรษะของเขาและแสดงสีหน้าเสแสร้ง

"ใช่! มีบางอย่างผิดปกติแน่ ๆ! อาการบาดเจ็บของคุณ คุณควรหลับไปอย่างน้อยสัก 2 วัน! แต่นี่คุณกลับสามารถวิ่งได้ปกติดีเหมือนไม่บาดเจ็บเลย!"

"บาดเจ็บ ?" โมบี้กล่าวขณะพยายามแสร้งว่าไม่รู้

"อะไรนะ คุณจำไม่ได้เหรอว่าเกิดอะไรขึ้น ?" พยาบาลถามด้วยความประหลาดใจ

พยาบาลคาดว่าผลลัพธ์อาจจะเป็นแบบนี้ เธอเกือบลืมไปว่าเด็กชายได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะสูญเสียความทรงจำ

“อย่างที่บอกครับ ผมตื่นขึ้นมาในห้องนี้เมื่อไม่นานมานี้ ผมสงสัยว่าตัวเองอาจได้รับบาดเจ็บและถูกพามาที่นี่ แต่ผมไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับสาเหตุที่ผมบาดเจ็บในหัวเลย ผมตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าไม่มีอาการบาดเจ็บ และยังรู้สึกแข็งแรงดีดังนั้นผมจึงตัดสินใจออกกำลังกายเหมือนที่เคยทำทุกเช้า” โมบี้พูดเหมือนไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

จากนั้นโมบี้ก็ได้ยินเสียงหัวเราะในหัวของเขา:

"เฮ้ เฮ้ เฮ้ เจ้าของ ฉันไม่เคยรู้เลยว่านายเป็นคนที่โกหกได้เนียนแบบนี้" ระบบกล่าว

“ตัวตนเก่าของฉันซื่อสัตย์อยู่เสมอ ก็ขอบคุณนะที่เธอช่วยดูดซับพลังงานเชิงลบของฉัน แต่นั่นทำให้ฉันไม่สามารถโกหกได้ ตอนนี้ฉันสามารถทำอะไรก็ได้ ตามที่ฉันต้องการโดยไม่มีอะไรมาคอยจำกัดอยู่ในสมองของฉัน ฉันบอกเรื่องเกี่ยวกับนาธานให้คุณพยาบาลรู้ไม่ได้เพราะมันจะเข้ามาขวางการแก้แค้นของฉันอย่างแน่นอน ดังนั้นนี่จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด หวังว่าเธอจะเชื่อฉัน ไม่งั้นฉันแย่แน่ ๆ เพราะความประมาทของฉันเอง” โมบี้ตอบกลับทางความคิดกับเอวิเลีย

“ฉันเชื่อว่าคุณอาจสูญเสียความทรงจำไปแล้ว ฉันจะไม่ถามเรื่องนี้อีก แต่ฉันไม่รู้ว่าคุณหายเร็วขนาดนี้ได้ยังไง แต่ฉันก็มีความสุขมากที่คุณไม่เป็นไร รู้ไหมคุณเกือบจะตายแล้วตอนที่คุณมาถึงที่นี่ ? นี่มันคือปาฏิหาริย์ชัด ๆ ที่คุณรอดชีวิตมาได้” พยาบาลกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ดูจริงใจ

"โอ้ จริงเหรอครับ ? ขอบคุณที่ช่วยชีวิตผม ผมขอโทษจริง ๆ ที่ทำให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น" โมบี้พูดพร้อมกับหัวเราะอย่างประหม่า

"ไม่ ไม่ คุณไม่ได้ทำเรื่องยุ่งยากหรอก ฉันก็แค่ทำงานของฉันเท่านั้น" พยาบาลตอบกลับอย่างประหม่าเช่นกัน

จากนั้นพยาบาลก็ไอออกมาสองครั้งและความสงบของเธอก็กลับคืนมา

“ฉันเตรียมชุดนักเรียนตัวใหม่ให้คุณแล้ว เสื้อผ้าเก่าของคุณนั้นขาดและสกปรก นอกจากนี้ทางทีมช่วยชีวิตก็ยังพบดาบของคุณที่วางอยู่ข้างๆตัวคุณด้วย เสื้อผ้าของคุณอยู่ที่ห้องถัดไป ในนั้นมีห้องน้ำอยู่ ฉันขอแนะนำให้คุณอาบน้ำซะก่อน เพราะคุณมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ติดตัวมาด้วยเมื่อมาถึงที่นี่ ขอโทษนะหากนั่นฟังดูใจร้าย นั่นไม่ใช่ความตั้งใจของฉันหรอก ฉันแค่พยายามจะบอกรายละเอียดของคุณให้ทราบเท่านั้น หลังจากเสร็จแล้วคุณก็ควรตรงไปที่ชั้นเรียน คุณจะได้รับแจ้งเกี่ยวกับการโฮมรูมของคุณผ่านนาฬิกาก่อนเข้าเรียน 20 นาที ฉันขอให้คุณปลอดภัยในโรงเรียน หากคุณจำสิ่งที่เกิดขึ้นได้ โปรดแจ้งให้เราทราบและฉันจะทำทุกอย่างด้วยพลังของฉันเพื่อที่จะช่วยเหลือคุณ” เธอกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ห่วงใยและเปี่ยมด้วยความเมตตา

โมบี้พยักหน้าด้วยรอยยิ้มและมุ่งหน้าไปยังห้องอาบน้ำ

ทันทีที่เขาออกจากห้อง รอยยิ้มของเขาก็หายไปทันที สีหน้าเขากลับมาจริงจังตามปกติ

“ฉันไม่เคยคิดว่าการแสร้งยิ้มจะทำให้เหนื่อยขนาดนี้” โมบี้ครุ่นคิดพร้อมกับถอนหายใจ

“ผู้หญิงคนนั้นดูเป็นคนดีจริง ๆ ไม่คิดงั้นเหรอ ?” ระบบกล่าว

“อย่าหลงเชื่อน่า เธอมีแรงจูงใจแอบแฝงแน่นอนจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของฉัน ฉันได้เรียนรู้ที่จะไม่เชื่อใจใครไม่ว่าภายนอกจะดูดีหรืออ่อนโยนแค่ไหนก็ตาม คนเดียวที่ฉันไว้ใจได้คือตัวฉันเอง”โมบี้ตอบกลับ

"นายเชื่อใจฉันไหม ?" ระบบถาม

“ตอนนี้เธอเป็นส่วนหนึ่งของฉันแล้ว ฉันก็คิดแบบนั้นนะ”

"นั่นเป็นเรื่องดีที่ได้รู้ เจ้าของ"

"และหยุดเรียกฉันว่าเจ้าของได้แล้วมันน่ารำคาญ เรียกฉันว่าโมบี้และฉันไม่รู้สึกไม่อยากเรียกเธอว่าระบบตลอดเวลา มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนหุ่นยนต์ ดังนั้นจากนี้ไปฉันจะเรียกเธอว่าเอวิเลีย"

"โอเค โมบี้ฉันเข้าใจ"

"ยังไงก็ตาม ทำไมเธอถึงต้องถามฉันด้วย ฉันคิดว่าเธออ่านใจฉันได้นี่" โมบี้ถาม

"ฉันเห็นแค่ความคิดที่ชัดเจนและความคิดทั่วไปของนาย ดังนั้นฉันคงไม่สามารถพูดได้ว่าฉันสามารถอ่านความในใจของนายได้อย่างสมบูรณ์หรอก" เอวิเลียตอบ

"นั่นก็ดีที่ได้รู้" โมบี้พูดพร้อมกับยิ้ม

*************************

ผ่านไป 20 นาทีตั้งแต่โมบี้ออกจากห้องพยาบาล โมบี้ออกจากห้องอาบน้ำโดยสวมชุดนักเรียนตัวใหม่ของเขา เครื่องแบบนี้เป็นเสื้อโค้ทกระดุมสีน้ำเงินเข้มที่มีเส้นสีขาวเน้นรูปร่าง กางเกงเป็นกางเกงจ็อกเกอร์ยืดหยุ่นที่เข้ากับโทนสีเดียวกัน และรองเท้านั้นเป็นรองผ้าใบสีดำล้วน ทั้งชุดมีความยืดหยุ่นและสวมใส่สบาย โมบี้ไม่เคยใส่เสื้อผ้าสวย ๆ แบบนี้มาก่อนในชีวิต

ตอนนี้เป็นเวลา 7:35 ดังนั้นจึงเหลือเวลาอีก 5 นาทีก่อนที่เขาจะได้รับแจ้งว่าเขาจะเข้าคลาสอะไร จู่ ๆ เขาก็นึกได้ว่าเขายังมีค่าสถานะ 3 แต้มที่สามารถอัพได้ จากการทำภารกิจประจำวันสำเร็จ

หลังจากครุ่นคิดเล็กน้อยเขาตัดสินใจเพิ่ม 1 แต้มให้ความอดทน 1 แต้มให้ค่าความแข็งแกร่ง และ 1 แต้มเป็นค่าความคล่องตัว เขาต้องการที่จะมีความแข็งแกร่งที่ครอบคลุมมากขึ้น แต่เขายังไม่มีเวลาทดลองค่าความฉลาดและพลังจิต ดังนั้นเขาจึงยังไม่สนใจพวกมันในตอนนี้

ค่าสถานะของโมบี้ มีดังนี้:

ค่าสถานะ

-------------------------------------

ชื่อ: โมบี้ เคน

เผ่าพันธุ์: มนุษย์

เลเวล: 1

XP ไปยังเลเวลถัดไป 10/100

ระดับพลัง: 890

พลังชีวิต: 100/100

พลังปีศาจ: 20/20

อัตราการฟื้นฟูพลังปีศาจ: 10 พลังปีศาจ / ชั่วโมง

ความแข็งแกร่ง: 23

ความคล่องตัว: 23

ความอดทน: 23

ความฉลาด: 20

พลังจิต: 10

แต้มสถานะที่สามารถใช้ได้: 0

-------------------------------------

ทันใดนั้นนาฬิกาของเขาก็เริ่มดังขึ้น

"RM 219"

นั่นคงเป็นหมายเลขห้องเรียนของเขา โมบี้ยังคงมีเวลา 20 นาทีก่อนเริ่มชั้นเรียน ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องรีบไปเข้าชั้นเรียน เขาตัดสินใจเดินไปที่ชั้นเรียนอย่างช้า ๆ พร้อมกับสำรวจโรงเรียนเพิ่มเล็กน้อย

ระหว่างทางไปชั้นเรียนเขาสังเกตเห็นการจ้องมองอย่างรังเกียจจากนักเรียนคนอื่น ๆ ทันทีที่พวกเขาเห็นระดับพลังของเขา พวกเขาจะมองเขาด้วยสายตาเกลียดชังที่เย็นชาราวกับว่าเหมือนเขาเป็นหนูที่ไม่พึงประสงค์ในโรงเรียน เขาเห็นเด็กผู้หญิงหลายคนที่พยายามเข้าใกล้เขา แต่แล้วก็เดินหนีไปอย่างรวดเร็วเมื่อสังเกตเห็นหมายเลขบนนาฬิกาของเขา โมบี้เคยเห็นฉากเหล่านี้หลายครั้งแล้วในช่วงที่เขาอยู่โรงเรียนเก่า แต่ตอนนี้เขาเข้าใจถึงความหมายที่แท้จริงของสิ่งเหล่านั้นแล้ว

โมบี้หัวเราะอย่างเข้าข้างตัวเองและเดินต่อไปโดยไม่สนใจการจ้องมองที่น่ากลัว ตอนนี้มันไม่เป็นปัญหากับเขาแล้ว เพราะในอนาคตเขาจะอยู่เหนือทุกคน เพื่อให้พวกเขาได้รู้ว่าพวกเขานั้นเคยดูถูกใครมาก่อน

หลังจากสำรวจโรงเรียนเพียงไม่กี่นาทีในที่สุด โมบี้ก็ตัดสินใจเข้าห้องเรียน

"ถึงห้อง 219" โมบี้คิด

เมื่อโมบี้เข้ามาในห้อง เขาเริ่มมองไปรอบ ๆ ดูเหมือนว่านักเรียนส่วนใหญ่จะอยู่ที่นี่แล้วและที่นั่งส่วนใหญ่ก็ถูกจับจองเรียบร้อยแล้ว

จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยซึ่งคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะลืม

"เฮ้ โมบี้มานี่! มีที่นั่งว่างอยู่ข้าง ๆ ฉัน!" คนๆนั้นตะโกนในขณะที่ยิ้มให้กับโมบี้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด