ตอนที่แล้วตอนที่ 13 มอบหมายงาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 15 จิตใจของเหล่าสาวก 1

ตอนที่ 14 ภารกิจเสร็จสิ้น


ตอนที่ 14 ภารกิจเสร็จสิ้น

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย 

เช้าวันถัดไป...

ที่หุบเขาทองคำในช่วงเดือนสิงหาคม ในตอนนั้นเองอากาศที่อยู่ในหุบเขานั้นร้อนมากกว่าเดือนไหนๆ ลู่โจวในตอนนี้เองจึงเดินเล่นอยู่บนศาลาลอยฟ้าเพื่อที่จะรับลมเย็นๆ

เนื่องจากตัวเขาไม่จำเป็นต้องฝึกฝนตัวเอง ดังนั้นวันเวลาที่ผ่านพ้นไปจึงทำให้ตัวเขารู้สึกเบื่อมากยิ่งขึ้น ลู่โจวในตอนนี้รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเขาเป็นเหมือนกับชายชราที่กำลังนั่งอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่แบบหมดหวัง เขาทำได้เพียงนั่งรอคนหนุ่มคนสาวเติบโตต่อเพียงเท่านั้น

ศิษย์คนที่สามและศิษย์คนที่เก้าของเขากำลังนั่งเฝ้าอยู่ที่ทางขึ้นภูเขาทองลูกนี้ ตั้งแต่ที่มีเหตุการณ์ที่โจวจี้เฟิงได้เข้ามารอบสังหารลู่โจว ตั้งแต่ตอนนั้นศิษย์ทั้งสองคนก็ไม่กล้าที่จะประมาทอีกต่อไป

แม้ว่าลูกศิษย์ทั้งสองจะคิดว่าลู่โจวนั้นแข็งแกร่งมากพอที่จะจัดการกับมือสังหารเองได้ แต่ถึงแบบนั้นถ้าหากไม่เฝ้าระวังความปลอดภัยให้กับผู้เป็นอาจารย์ บางทีอาจจะมีอันธพาลหรือคนจรที่ไหนหลุดเข้าไปในภูเขาทองอีกก็เป็นได้

"ท่านอาจารย์คะ ศิษย์พี่สี่จะช่วยพวกเขาได้จริงๆ อย่างงั้นหรอคะ?" หยวนเอ๋อตัวน้อยอดไม่ได้ที่จะถามออกมา

ลู่โจวได้ยิ้มออกมาก่อนที่จะพูดตอบหยวนเอ๋อ "ไม่ต้องห่วงไปหรอก!"

"ศิษย์น้องหญิง ถึงแม้ว่าเจ้าสี่จะเป็นคนขี้เล่นและไม่น่าเชื่อถือในบางเวลา แต่ถ้าหากเจ้านั่นพยายามอย่างเอาจริงเอาจังขึ้นมาแล้ว เจ้านั่นจะต้องสะสางงานที่ได้รับมอบหมายมาได้อย่างแน่นอน เจ้าน่ะไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก" ด้วนมูเฉิงที่เห็นหยวนเอ๋อกังวลพูดขึ้น

"ข้าแค่กลัวว่าศิษย์พี่สี่จะมัวแต่เล่นจนลืมงานที่ได้รับมอบหมายไปแล้ว"

"ถ้าหากเจ้านั่นกล้าที่จะทำแบบนั้นจริงๆ ข้าในฐานะศิษย์พี่ของเจ้านั่นจะลงโทษเจ้าสี่ก่อนที่จะถึงมือท่านอาจารย์เอง" ด้วนมูเฉิงที่ได้ฟังแบบนั้นพูดออกมาอย่างจริงจัง

"ถ้าหากศิษย์พี่เจ็ดอยู่ที่นี่ด้วยก็คงจะดีไม่น้อย..." หยวนเอ๋อตัวน้อยพึมพำออกมาพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่

"ศิษย์น้องหญิง ระวังคำพูดหน่อยสิ!"

คนที่กล้าแม้แต่จะทรยศอาจารย์ของตัวเองนั้นเป็นกบฏผู้ชั่วร้ายอย่างไม่ต้องสงสัย และในตอนนี้หยวนเอ๋อก็ได้พูดถึงลูกศิษย์ผู้ชั่วร้ายที่กล้าทรยศท่านอาจารย์ต่อหน้าท่านอาจารย์คนนี้

หยวนเอ๋อรู้ตัวทันทีว่าทำผิดไปแล้ว

แต่ลู่โจวที่ได้ฟังแบบนั้นได้ส่ายหัวออกมาก่อนที่จะพูดขึ้นอย่างไม่แยแสอะไร "ไม่เป็นไรหรอก เจ้าเจ็ดน่ะมันเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ที่หาได้ยาก เจ้านั่นน่ะมีมันสมองที่ฉลาดหลักแหลม และเพราะมันสมองที่ฉลาดหลักแหลมของมันทำให้มันเชี่ยวชาญในการวางแผน และนอกจากนั้นเจ้านั่นก็ยังเชี่ยวชาญในการเล่นกับจิตใจของผู้อื่น เจ้านั่นมักจะใช้ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากความบาดหมางสร้างปัญหาขึ้นมายังไงล่ะ"

คนที่เฉลียวฉลาดมักจะมีเล่ห์เหลี่ยมอยู่เสมอ คนเหล่านี้แน่นอนว่ามักจะควบคุมและจัดการได้ยาก

"ศิษย์พี่หญิงส่งจดหมายกลับมาแล้ว!" หยวนเอ๋อพูดออกมาในระหว่างที่เธอกำลังจ้องมองไปยังท้องฟ้า ในตอนนั้นเองมีนกตัวหนึ่งกำลังโบยบินอยู่

นกตัวนี้คือนักสื่อสารนั่นเอง แต่แน่นอนว่ามันไม่ใช่นกสื่อสารธรรมดาๆ มันเป็นนกที่ถูกเลี้ยงดูด้วยพลังจิตวิญญาณที่มีอยู่ในภูเขาทองลูกนี้ และตอนนี้นกตัวนั้นก็ได้กลายพันธุ์ไปเป็นที่เรียบร้อย มันเป็นนกสื่อสารที่ทรงพลังที่สุดแล้ว นอกจากนี้มันยังกลายเป็นหนึ่งในสัตว์ร้ายที่มีอยู่นับหมื่นตัวภายในโลกแห่งนี้อีกด้วย แต่ถึงแบบนั้นก็ยังมีสัตว์ร้ายตามธรรมชาติบางตัวที่ยังบินได้รวดเร็วกว่านกตัวนี้อยู่ดี ถ้าจะให้ยกตัวอย่างก็คงจะเป็นห่านหงส์และมัจฉาแห่งท้องนภา

ในตอนนั้นเองนกสื่อสารได้ปล่อยจดหมายออกมาจากตัวมัน จดหมายฉบับนั้นได้อยู่ในมือของหยวนเอ๋อไปเป็นที่เรียบร้อย

"ท่านอาจารย์จดหมาย!"

"อ่านจดหมายนั่นซะ!"

"ค่ะท่านอาจารย์!"

หยวนเอ๋อได้คลี่จดหมายฉบับนั้นที่อยู่ในมือก่อนที่จะเริ่มอ่านมันขึ้น "ท่านอาจารย์ นับตั้งแต่เหล่ายอดฝีมือทั้งสิบได้ปิดล้อมภูเขาทองคำของพวกเราเอาไว้ เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ลู่ฉางเฟิงได้ตายจากไป สำนักดาบสวรรค์ที่เดิมทีอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาจึงตกอยู่ในความสับสน เจ้าพวกนั้นล้วนต่อสู้กันเองเพื่อแย่งชิงสิทธิ์ในการเป็นเจ้าสำนักคนใหม่"

"โจวจี้เฟิงที่ได้กลับไปยังสำนักไม่ได้ขึ้นเป็นเจ้าสำนักดาบสวรรค์แต่อย่างใด ในตอนนั้นเองเจ้าสำนักคนก่อนอย่างลู่เซียงคงก็เริ่มฝึกยุทธ์บำเพ็ญเพียรอีกครั้ง ศิษย์สงสัยว่าเจ้านั่นคงจะใช้โอกาสนี้เพื่อที่จะฝึกฝนฝีมือจากขั้นเต๋าผสมผสานไปยังขั้นมหาภัยศักดิ์สิทธิ์จนสำเร็จได้"

"ศิษย์ได้เฝ้าสังเกตการณ์ต่อไปจนถึงกลางดึก ตอนนั้นเองโจวจี้เฟิงก็เริ่มคิดไม่ซื่อกับสำนักดาบสวรรค์ของเจ้านั่นเอง"

เมื่อหยวนเอ๋ออ่านจดหมายจบ เธอก็ได้ส่งจดหมายฉบับนั้นให้กับลู่โจวไป ลู่โจวที่ได้รับจดหมายมาส่ายหัวก่อนที่จะเริ่มต้นพูดขึ้น "นี่ดูเหมือนจะช้าไปกว่าที่ข้าคิดเอาไว้ บอกจ้าวยู่ให้คอยผลักดันเจ้านั่นเมื่อถึงยามจำเป็นซะ!"

"ได้ค่ะท่านอาจารย์!"

ด้วนมูเฉิงที่ยืนฟังเนื้อความจดหมายอยู่ด้วยรู้สึกงงงวย เขากำหมัดแน่นก่อนที่จะเริ่มเอ่ยปากถาม "ท่านอาจารย์ ทำไมพวกเราถึงจะต้องช่วยโจวจี้เฟิงกันด้วยล่ะ? เจ้านั่นเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่เพิ่งจะฝึกฝนตัวเองไปจนถึงขั้นศักดิ์สิทธิ์ได้ก็เท่านั้น เจ้านั่นไม่คู่ควรแม้แต่จะเป็นศัตรูของพวกเราด้วยซ้ำไป"

ลู่โจวไม่ได้ตอบคำถามด้วนมูเฉิง ก่อนที่ค่าความภักดีของเขาจะสูงขึ้นไปถึง 80% ได้ การที่ลู่โจวจะตอบโต้อะไรกับลูกศิษย์คนนี้ตัวเขาจะต้องระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น

เมื่อเห็นว่าอาจารย์ของเขาไม่พูดอะไรกลับมา ด้วนมูเฉิงก็ทำได้เพียงหันหน้าหนีไปอย่างอับอายเท่านั้น ตัวเขาไม่กล้าที่จะถามอะไรลู่โจวอีกต่อไป

"ติ้ง! หมิงซี่หยินทำงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จสิ้นแล้ว"

"ติ้ง! งานที่ได้มอบหมายไปลุล่วง สามารถช่วยเหลือสมาชิกของครอบครัวตระกูลซีได้ถึง 105 คน คุณได้รับรางวัลเป็น 1,050 แต้มบุญ"

"ติ้ง! งานที่ได้มอบหมายไปลุล่วง คุณได้เพิ่มผู้ศรัทธาคนใหม่ถึง 105 คน คุณได้รับรางวัลเป็น 1,050 แต้มบุญ"

"ติ้ง! งานที่ได้มอบหมายไปลุล่วง คุณได้สังหารกลุ่มโจรผู้ชั่วร้ายไป 82 คน คุณได้รับรางวัลเป็น 820 แต้มบุญ"

ลู่โจวรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือน

นี่คงจะเป็นวิธีการใช้ระบบอันแปลกประหลาดอย่างถูกต้องอย่างงั้นสินะ?

เพียงแค่ภารกิจเพียงภารกิจเดียวตัวเขาก็ได้รับแต้มบุญมากมายมหาศาลมาแล้ว เมื่อรวมเข้ากับแต้มบุญที่ลู่โจวมี ตอนนี้ตัวเขาก็มีแต้มบุญถึง 2,904 แต้มแล้วนั่นเอง

"ท่านอาจารย์ ศิษย์พี่สี่ก็ส่งจดหมายมาเหมือนกัน!" หยวนเอ๋อได้บินขึ้นไปบนฟ้าอย่างรวดเร็วก่อนที่จะหยิบจดหมายลงมา

"อ่านจดหมายซะสิ!"

"ท่านอาจารย์ ข้าได้ช่วยเหลือสมาชิกครอบครัวตระกูลซีและสังหารกลุ่มโจรทั้งหมดได้แล้วครับ ดูเหมือนว่าเบื้องหลังของโจรพวกนี้จะมีผู้ฝึกยุทธ์อยู่ ผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นมีความเกี่ยวข้องกับศิษย์น้องแปดแห่งหุบเขาพยัคฆ์ ศิษย์จะรับผิดชอบตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไปเอง"

ครึ่งแรกของจดหมายนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับงานที่ลู่โจวมอบหมายไปทั้งหมด ส่วนเนื้อความของจดหมายครึ่งหลังเป็นเนื้อความที่มีแต่ข้ออ้างที่จะทำให้ศิษย์คนนี้เที่ยวเล่นต่อไปโดยใช้เวลาสองวันที่เหลือได้

ลู่โจวในตอนนี้อารมณ์ดี เขาจึงไม่ได้สนใจการเล่นลิ้นของลูกศิษย์คนนี้เท่าไหร่นัก

"ท่านอาจารย์ ที่ศิษย์พี่สี่บอกมาว่าเรื่องในครั้งนี้เกี่ยวข้องกับศิษย์พี่แปด ศิษย์พี่แปดกล้าที่จะทำแบบนี้ได้ยังไงกัน!" หยวนเอ๋อที่ได้ฟังแบบนั้นพูดออกมาอย่างโกรธแค้น

"เจ้าแปดน่ะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นศักดิ์สิทธิ์ ลำพังตัวเจ้านั่นเพียงคนเดียว ข้าไม่คิดว่าเจ้านั่นจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลกอะไรเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้หรอกนะ ข้าว่ามีความเป็นไปได้มากกว่าที่จะมีผู้ฝึกยุทธ์แอบใช้ชื่อเสียงของเจ้านั่นทำเรื่องชั่วแทน..." ลู่โจวได้พยักหน้าออกมาก่อนที่จะพูดต่อไป "ไม่ว่าเรื่องในครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับเจ้าแปดไหม ปล่อยให้ศิษย์พี่ของเจ้าเป็นคนสืบสวนต่อไปจะดีกว่า"

เมื่อลู่โจวได้สรุปความแล้ว ศิษย์ทั้งสองก็ไม่อาจที่จะตั้งคำถามได้อีกต่อไป

ในช่วงบ่ายของวันนั้น...

ลู่โจวไม่ได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับภารกิจของโจวจี้เฟิงอีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงเดินกลับไปที่ศาลาปีศาจลอยฟ้า เขามองไปที่แต้มบุญที่มีเพื่อที่จะเช็คแต้มบุญให้แน่ใจอีกครั้ง ตอนนี้ลู่โจวมีแต้มบุญทั้งหมด 2,904 แต้ม

"เปิดร้านค้า"

"ฉันอยากจะซื้อร่างอวตารพลังสองร่าง"

"ติ้ง! ใช้แต้มบุญ 1,000 แต้มเรียบร้อย คุณได้รับพลังอวาตารสองร่าง"

ช่วงเวลาที่ลู่โจวได้รับพลังร่างอวตาร ลู่โจวก็รู้สึกได้ว่าวรยุทธ์ของเขานั้นเพิ่มสูงขึ้น วรยุทธ์ของเขาเพิ่มอย่างรวดเร็วจากขั้นหัวใจแห่งการหยั่งรู้จนไปถึงปากแห่งการหยั่งรู้ได้

แน่นอนว่าพลังร่างอวตารร่างนี้นั้นมันทรงพลังกว่าพลังร่างเดิมของเขามาก พลังงานบางอย่างที่ไหลออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุดได้ไหลไปตามเส้นพลังลมปราณของตัวเขา พริบตาเดียวเท่านั้นขั้นปากแห่งการหยั่งรู้ก็ได้ถูกเลื่อนขั้นไปยังจมูกแห่งการหยั่งรู้ ตอนนี้มันเข้าใกล้ถึงขั้นดวงตาแห่งการหยั่งรู้มากขึ้นทุกที

ขั้นวรยุทธ์ของขั้นสังหรณ์หยั่งรู้มีทั้งหมด 5 ขั้นตอนแห่งการหยั่งรู้ด้วยกัน ขั้นแรกคือหัวใจแห่งการหยั่งรู้, ปาก, จมูก, ดวงตา และขั้นสุดท้ายนั่นก็คือหูนั่นเอง และตอนนี้ลู่โจวก็ได้มาถึงขั้นที่สี่แล้ว

ลู่โจวได้พยักหน้าออกมาอย่างพึงพอใจเมื่อรู้สึกถึงพลังในร่างกายได้ ดูเหมือนว่าวรยุทธ์ของเขาจะเพิ่มขึ้นมาก มากกว่าที่ตัวเขาจะคาดการณ์เอาไว้ซะอีก

"ฉันจะซื้อการ์ดพลังชีวิตสองใบ"

"ติ้ง! ใช้แต้มบุญ 1,000 แต้ม คุณได้รับการ์ดพลังชีวิต 2 ใบ"

"ใช้การ์ดทันที"

ในตอนนั้นเองคลื่นพลังที่ดูคล้ายดุจดั่งกระแสน้ำวนได้ปรากฎขึ้นเหนือศาลาปีศาจลอยฟ้า พลังแห่งธรรมชาติโดยรอบได้ถูกดูดมาสู่ร่างกายของลู่โจว พลังทั้งหมดนั้นถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นพลังชีวิตของร่างกายอันแก่ชราไป ตัวเขารู้สึกกระปรี๊กระเปร่ามากยิ่งขึ้น ในตอนนี้ผมของเขาเริ่มมีสีเข้มดำเหมือนกับผมของคนหนุ่มมากขึ้นแล้ว

การ์ดพลังชีวิตสองใบทำให้ตัวเขาได้รับอายุขัยเพิ่มขึ้นถึง 600 วัน

บางทีมันอาจจะเป็นเพราะตัวเขาได้ชินชากับร่างกายอันแก่ชราแบบนี้แล้ว ตอนนี้ตัวเขารู้สึกสดชื่นขึ้นมากทั้งๆ ที่มีอายุน้อยลงเพียง 600 วันเท่านั้น ถึงแม้ว่าความต่างจะไม่ได้มากมายอะไรแต่ลู่โจวก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาสบายตัวมากขึ้น

ไม่มีใครในโลกที่สามารถรู้สึกชื่นใจกับประสบการณ์ในแบบที่ลู่โจวได้รับได้ คงจะไม่มีใครมีการ์ดพลังชีวิตที่จะทำให้พลังชีวิตของผู้ใช้เติบโตแบบไหลย้อนกลับไปเช่นนี้ได้

"แต้มบุญกว่า 2,000 หายไปในพริบตา... ฉันคงไม่ได้ใช้แต้มพวกนี้ไปอย่างไม่คุ้มค่าสินะ?"

"จับฉลาดนำโชค"

"ติ้ง! คุณใช้ 50 แต้มบุญ ยินดีด้วยคุณได้รับค่าความโชคดี 1 แต้ม"

"จับฉลาดนำโชค"

"ติ้ง! คุณใช้ 50 แต้มบุญ ยินดีด้วยคุณได้รับค่าความโชคดี 1 แต้ม"

ลู่โจวไม่หยุดอยู่เพียงแค่นั้น ตัวเขาได้ของปลอบใจถึงห้าครั้งติดต่อกัน ลู่โจวที่รู้สึกสิ้นหวังจึงหยุดเสี่ยงโชคไป

ชื่อ: ลู่โจว

เผ่า: มนุษย์

วรยุทธ์: ขั้นดวงตาแห่งการหยั่งรู้ของขั้นสังหรณ์หยั่งรู้

อวตาร: อวตารพลังสองร่าง

แต้มบุญที่เหลือ: 654 แต้ม

อายุคงเหลือ: 1,209 วัน

ของที่มี: การ์ดระเบิดจุดสุดยอด x2, การ์ดประกันชีวิต x5, วิซซาร์ด

"ดูเหมือนว่าแต้มบุญที่ได้จากการทำภารกิจจะไม่ได้เยอะอย่างที่ฉันได้คิดเอาไว้สินะ" ลู่โจวพึมพำออกมาเมื่อเห็นแต้มบุญของเขาหมดลงไปอย่างรวดเร็ว

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด