Ep.165 - ผลลัพธ์ของวันแรก
5/6
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.165 - ผลลัพธ์ของวันแรก
ฉินเฟิงหมุนตัว วิ่งฉีกหนีออกมาไกลกว่า 100 เมตร โดยมีมดเหล็กดำไล่ตามหลังอย่างบ้าคลั่ง
“งั้นก็เอาไปกินอีกครั้ง!”
พลังสมาธิพรั่งพรู เพลิงโลกันต์ปูพรมลงบนพื้นอีกครั้ง
บนถนน ฉินเฟิงวิ่งถอยไปเรื่อยๆจนเกินจากระยะ 300 เมตร พรมโลกันต์ที่ปลดปล่อยมันออกมาเมื่อครู่หลุดจากระยะการรับรู้ ไม่สามารถใช้พลังสมาธิเข้าควบคุมได้อีกต่อไป พวกมันเริ่มสลาย เปลวเพลิงเริ่มมอดดับลง
แต่นับว่าโชคยังดี เพราะในเวลานี้ มดเหล็กดำที่ไล่ตามฉินเฟิงมามีจำนวนลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด!
อย่างไรก็ตาม ทุกตัวที่ยังสามารถไล่ตามมา ล้วนเป็นกำลังรบระดับสุดยอด!
มันเหยียบย่ำผ่านกองทัพมดเหล็กดำ บุกฝ่าวงล้อมเข้ามาอย่างหนักหน่วง และทั้งหมดนี้ ทุกตัวเป็นนายพลสัตว์ร้าย!
มีทั้งสิ้น 7 ตัว
แต่ละตัวมีความสูงถึงต้นขาของฉินเฟิง ยาวกว่า 1 เมตร นอกจากนี้ด้านหลังของพวกมันยังติดปีก ทำให้สามารถบินในระยะสั้นได้
มดเหล็กดำตัวแรกโฉบบินเข้าหาฉินเฟิง พุ่งตรงเข้าใส่ร่างของเขา ทว่ามันมิได้กระแทกเข้าใส่ร่างของฉินเฟิง ที่ชนไปเป็นเพียงภาพติดตา
นั่นเพราะจู่ๆความว่องไวของฉินเฟิงก็พุ่งทะยานขึ้นอย่างกระทันหัน!
“ก้าวแห่งหมอก : ท่าร่างภูติพราย!!”
ฉินเฟิงหลบเลี่ยงภัยคุกคามร้ายแรง
โครม!
บังเกิดเสียงดังสนั่น นายพลสัตว์ร้ายกระทุ้งเข้าใส่รถที่จอดเกะกะอยู่บนท้องถนน ส่งมันปลิวกระเด็น ลอยเหวี่ยงไปชนเข้ากับตึกที่อยู่ข้างทาง
รถเก๋งแทบจะแหลกด้วยพลานุภาพอันมหาศาลนี้
ฉากนี้บ่งบอกชัดถึงพละกำลังอันมหาศาลของนายพลสัตว์ร้ายมดเหล็กดำ!
ปัจจุบัน อีก 3 นายพลสัตว์ร้ายบินเข้าหาฉินเฟิง
ฉินเฟิงใช้ออกด้วยท่าร่างทันควัน แทรกตัวผ่านช่องว่างของนายพลสัตว์ร้ายทั้ง 3 และเหวี่ยงสะบัดหลังมือออกไป
“ระบำดอกไม้ไฟ!”
ทักษะมีดผลาญสวรรค์ปะทุออก ท่ามกลางเปลวไฟ เริ่มผลิดอกเบ่งบานดั่งดอกไม้ไฟในช่วงเวลาระเบิดออก แสงจากใบมีดเฉือนเข้าใส่นายพลสัตว์ร้ายทั้งสาม
ฉัวะ ฉัวะ วิซซซ!
หนึ่งในสามมดเหล็กดำม้วนตัวกลับได้ทัน งัดเอาเปลือกแข็งของมันสวนกลับมา ฉินเฟิงไม่สามารถหลบเลี่ยงหรือยั้งมือได้ทัน ตัดสินใจเร่งเร้าพละกำลัง สับปะทะสวนกลับไป
เคร้ง!
มีดกษัตริย์ครามและเปลือกเหล็กกล้ากระแทกใส่กันและกัน บังเกิดเสียงอันคมชัด ฉินเฟิงสัมผัสได้ถึงพละกำลังมหาศาลถูกส่งผ่านมายังมือของเขา แต่ในวินาทีต่อมา มีดกษัตริย์ครามก็มีชัย สามารถเฉือนลึกลงเบื้องล่างเปลือกเหล็กกล้า แยกนายพลสัตว์ร้ายออกเป็นสองท่อน!
เจ็ดนายพลสัตว์ร้าย บัดนี้ตายลงไปแล้วสาม!
ไม่รอช้า ฉินเฟิงงัดอบิลิตี้ออกมาอีกครั้ง
“ลำแสงเปลวเพลิง!”
เปลวเพลิงระเบิดเป็นเส้นตรง ยามปะทะลุกพรึบ! ห่อหุ้มร่างของนายพลมดเหล็กดำ แต่ก็ยังไม่สามารถหยุดการพุ่งปะทะโจมตีของพวกมันได้
ฉินเฟิงใช้ออกด้วยท่าร่างภูติพรายอีกคราว หลบเลี่ยงการโจมตีของพวกมัน มีดกษัตริย์ครามกระพริบไหวอีกครั้งและอีกครั้ง
“มีดเปลวเพลิง!”
มีดสั้นลุกโชนกลายเป็นมีดยาว พริบตาเดียวตวัดผ่านเอวของนายพลสัตว์ร้าย
ก๊าซซซ!
มดเหล็กดำธรรมดาที่ตามมาชะงักฝีเท้า เริ่มทยอยกันถอยหลัง พวกมันไม่กล้าสู้กับฉินเฟิงอีกต่อไป นั่นเพราะ--
---เจ็ดนายพลสัตว์ร้ายล้วนถูกเขาสังหารลงจนสิ้น! แม้ในฝูงมดจะมีนายพลสัตว์ร้ายอยู่เป็นจำนวนมากก็ตาม แต่พวกมันมิอาจทานทนต่อการสูญเสียแบบนี้ได้ ฉะนั้นแมลงสัตว์ร้ายจึงตัดสินใจล่าถอย ไม่เผชิญหน้ากับปีศาจร้ายตนนี้
กลิ่นอายแห่งความตายทำให้พวกมันรู้สึกหวาดกลัว!
ฉินเฟิงรู้สึกแค่เพียงพละกำลังมหาศาลของนายพลสัตว์ร้ายท่วมทับเข้าไปในร่างกายของเขา
อย่างไรก็ตาม เวลานี้ความแข็งแกร่งทางกายของฉินเฟิงได้มาถึงเลเวล F7 แล้ว ดังนั้น หากต้องการยกระดับมัน จำเป็นต้องสะสมพลังงานให้มากยิ่งกว่านี้อีก!
ราวกับขานรับต่อการเรียกร้องของเขา บางสิ่งบางอย่างบินตรงเข้ามาจากบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
หึ่ง หึ่ง!
บนท้องฟ้า ปีกกระพือถี่รัวจนส่งเสียงแทรกมาตามสายลม ฉินเฟิงกวาดพลังสมาธิออกไป และค้นพบว่าเป็นด้วงกระหายเลือดอันมีชื่อเสียงฉาวโฉ่!
ด้วงกระหายเลือดแม้มิใช่สัตว์สังคม ไม่ชอบต่อสู้ร่วมกันแมลงสายพันธุ์อื่น แต่มันมักจะปรากฏตัวเป็นกลุ่ม ปัจจุบันมีกลิ่นเลือดลอยโชยออกมา พวกมันทั้งหมดที่อยู่ใกล้จึงตัดสินใจออกล่า
เห็นได้ชัดว่าพวกมันถูกดึงดูดมาเพราะการต่อสู้ และพวกมันไม่กินเลือดเนื้อของแมลง แต่กินเฉพาะเพียงของสัตว์ร้ายสายพันธุ์อื่นและมนุษย์!
“ไสหัวไปให้พ้น!”
ลำแสงเปลวเพลิงหลายเส้นระเบิดออก พุ่งทะลวงด้วงกระหายเลือดที่คิดเสนอหน้าร่วงตกตายลงไป
หลังจากนั้น ฉินเฟิงก็รีบเก็บเปลือกหัวของนายพลสัตว์ร้ายอย่างรวดเร็ว นำแก่นพลังงานของมันออกมา แล้ววิ่งย้อนกลับไปตามทิศทางเดิม
ปัจจุบัน บนพื้นตามทางที่เขาหลบหนีมา ไหม้เกรียมไปด้วยศพของมดเหล็กดำ พลังสมาธิของฉินเฟิงกวาดออกไป เก็บรวบรวมวัตถุดิบของพวกมัน
ยังไงก็ตาม การลงมือสามสี่ครั้งในคราวนี้ นับว่าปั่นป่วนพวกสายพันธุ์มดได้พอสมควรแล้ว
ฉินเฟิงยกอุปกรณ์สื่อสารในมือของเขาขึ้นมา ก้มลงมองดูเวลา
พบว่าตอนนี้เป็นเวลา 2 ทุ่ม
“พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน ไว้พรุ่งนี้จะกลับมาใหม่!” ฉินเฟิงโบกมือของเขา ม้าศึกทมิฬผลุบออกมายืนอยู่ข้างๆอย่างเงียบๆ ไป๋หลีที่หายไปตั้งแต่ต้นก็กลับมาด้วยเช่นกัน ฉินเฟิงอุ้มเธอนั่งข้างหน้าบนม้าศึก
จากนั้น ทั้งสองก็ออกจากเมืองหานอย่างรวดเร็ว การเดินทางในขากลับราบรื่นตลอดเส้นทาง ไร้ซึ่งอุปสรรคอย่างแมลงกีดขวาง
….
ณ สถานชุมชนชั่วคราวนอกเมืองหาน
เวลานี้สว่างไสวไปด้วยแสงจ้า โดยเฉพาะโถงเก็บสถิติแต้มสงคราม มันเต็มไปด้วยชีวิตชีวา เนื่องจากมีผู้คนที่ออกล่า เข้าๆออกๆทั้งวัน
สำหรับกลุ่มของสถานชุมชนเฉิงเป่ย ที่พักของพวกเขาถูกจัดให้อยู่ในพื้นที่เรียบง่าย ไม่ใกล้ไม่ไกลจากจอแสดงผลจัดอันดับสงคราม
เลยสามารถมองเห็นแต้มคะแนนต่างๆได้ชัดเจนในทุกครั้งที่มันเลื่อนขึ้น
“รุ่นพี่คะ ได้ข่าวว่าวันนี้ทีมของรุ่นพี่รับทรัพย์ครั้งใหญ่เลยใช่ไหม?” ลู่เหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เวลานี้ ฝูงชนกำลังล้อมวงกันย่างเนื้อรอบกองไฟ ในนั้นมีอย่างน้อยก็ 10 กว่าคน รวมไปถึงทีมของเกาหลิงฮานและหลี่เหยาเหยา ส่วนอีกฝั่งหนึ่ง เป็นทีมของลู่เหมิง , โจวฮ่าว , จางเทียน และจ้าวหยู
ผู้คนจากทุกชั้นปีมารวมตัวกัน ทั้งหมดเป็นเพราะลู่เหมิงเข้าร่วมทีมของโจวฮ่าว และหลี่เหยาเหยาเองก็เป็นเพื่อนสนิทของเธอ ดังนั้นทุกคนจึงมารวมตัวกันเพื่อแบ่งปันข้อมูลและกินอาหารร่วมกัน
“ก็แค่โชคดีน่ะ!” เกาหลิงฮานพยักหน้าอย่างสงวนท่าที ทว่ายังคงไว้ซึ่งประกายแห่งความภาคภูมิใจในแววตาของเขา
วันนี้เขานำทีมออกล่า และสังหารแมลงสัตว์ร้ายได้มากมาย รวมๆแล้วนับ 1,000 แต้ม
และอย่าดูถูก 1,000 แต้มที่ว่านี่เชียว เพราะกว่าพวกเขาจะมาถึง มันก็เป็นเวลาช่วงบ่ายคล้อยแล้ว เวลาล่าสัตว์ร้ายแทบจะไม่มี ดังนั้น 1,000 คะแนน ถือว่าเป็นแต้มสูงสุดในบรรดาผู้ใช้พลังของชุมชนทางตอนเหนือ
“ว่าแต่ฉินเฟิงอยู่ทีมของพวกเธอด้วยไม่ใช่หรอ ทำไมถึงไม่ไปด้วยกันล่ะ?” ในสายตาของเกาหลิงฮาน แฝงไว้ซึ่งร่องรอยของการสอบสวน
โจวฮ่าวที่กำลังกัดปีกไก่ กล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “เขาแยกตัวออกไปล่ากับไป๋หลีน่ะครับ ไอ้บ้านั่นมันชอบกดดันตัวเอง เลือกไปสู้กับสัตว์ร้ายเลเวล F เลยไม่มาร่วมวงกับพวกเรา!”
รอยยิ้มของเกาหลิงฮานอดไม่ได้ที่จะแข็งค้าง
หลี่เหยาเหยาขมวดคิ้ว กล่าวประชดประชัน “ฉินเฟิงทำไมถึงทำแบบนี้? เขาเลือกที่จะทิ้งพวกเธอไว้ข้างหลัง ถ้าเป็นรุ่นพี่เกาจะไม่ทำแบบนั้นแน่นอน!”
โจวฮ่าวยิ้มฝืนๆ แต่ตัดสินใจไม่ตอบโต้กลับไป
ในเวลานั้นเอง จางเทียนที่อยู่ใกล้ๆก็โพล่งขึ้นทันใด “ฉินเฟิงกลับมาแล้ว!”
“หือ? ไหน? เขาอยู่ไหน?” โจวฮ่าวคายกระดูกไก่ออกจากปาก เหลียวมองเบื้องหลัง และพบตำแหน่งของฉินเฟิงได้อย่างรวดเร็ว
อันที่จริงแล้วทุกคนก็แทบจะเห็นฉินเฟิงพร้อมๆกัน เพราะมันสะดุดตามากเกินไป แต่ที่โดดเด่นน่ะไม่ใช่เขา เป็นไป๋หลีที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาต่างหาก!
ปัจจุบันไป๋หลีสวมชุดสีขาวที่เปล่งประกายสีเงินเล็กน้อย ส่งผลให้ดูราวกับว่ามีแสงจันทร์มารวมตัวกันอยู่รอบกายเธอ ทั้งยังใบหน้าที่หมดจดงดงามชนิดล่มเมือง ไม่ว่าใครก็มิอาจละสายตาไปได้เลย!
“ฉินเฟิง นายกลับมาแล้วหรอ? ผลงานล่าวันนี้เป็นยังไงบ้าง?” โจวฮ่าวรีบเอ่ยทักทายเขา
ในขณะที่คนอื่นๆต่างหูผึ่งและเงี่ยฟัง
“ยังไม่ได้ตรวจสถิติเลย นายก็มาดูด้วยกันสิ” ฉินเฟิงส่งอุปกรณ์สื่อสารให้กับพนักงานผู้ดูแลโถงเก็บสถิติแต้มสงคราม
เครื่องจักรเริ่มทำงาน นับแต้มคะแนนสงครามอย่างรวดเร็ว
【ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด! ตรวจสอบเสร็จสิ้น แต้มสงครามปัจจุบันของคุณคือ : 2602!】
นี่มิได้เกินความคาดหมายของฉินเฟิงแต่อย่างใด เพราะเจ้าตัวบันทึกเอาแค่ตามข้อกำหนดการทดสอบผู้ใช้พลังในเลเวล F เท่านั้น ส่วนคะแนนที่เหลือก็คงได้มาจากสัตว์ร้ายตัวอื่นๆ และทั้งหมดสามารถเปลี่ยนเป็นแต้มสงครามได้
“นายมันร้ายกาจ!” โจวฮ่าวมองไปยังแต้มสงครามแล้วอุทานออกมา
อย่างไรก็ตาม ในหัวใจของเกาหลิงฮานกลับไม่ยินดีกับความสำเร็จของฉินเฟิง ปากเอ่ยพึมพำให้บางคนได้ยิน
“กลับมาเอาป่านนี้ แสดงว่าออกล่าตั้งหลายชั่วโมง ถ้าเป็นฉันนะ คงได้แต้มสงครามมากกว่านี้เยอะ!”
แต่สิ่งที่เกาหลิงฮานไม่ได้คิดก็คือ เจ้าตัวได้รับคะแนนมาในรูปแบบทีม และมีเพียงเขาที่ครอบครองเลเวล F ขณะที่สหายร่วมสถาบันคนอื่นๆล้วนมีระดับอยู่ในเลเวล G8 และ G9