บทที่ 6: นางผู้รู้ทุกอย่าง (2)
x x x
“เมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรนะ?” หัวหน้าโจรเดินไปข้างหน้าเพียงก้าวเดียวและคว้าคอเจียงฮองกี๋
เธอหมุนเท้าและก็หลบเขาในทันที “ข้าไม่ชอบคนที่มาจับคอคนอื่นหรอกนะ”
หัวหน้าโจรตกตะลึงมาก เขาพยายามทำตัวให้สงบและก็คำรามออกมา จนเผยให้เห็นฟันเหลืองๆของเขา พอรวมเข้ากับเคราของเขาแล้ว ทำให้ยิ่งดูเหมือนปีศาจากนรกไปอีก
“เจ้าเป็นใครและเจ้ารู้อะไร?”
“ข้าเป็นใครไม่สำคัญ แม้ว่าข้าจะบอกเจ้าไป เจ้าคงไม่รู้จักข้าด้วยซ้ำ สิ่งที่เจ้าต้องเข้าใจคือข้ารู้มากกว่าที่เจ้ารู้”
หัวหน้าโจรผู้นี้จ้องมองไปที่เจียงฮองกี๋อย่างเย็นชา ซึ่งดาบในมือของเขาก็ไม่พ้นสายตาของเจียงฮองกี๋อยู่แล้ว
“ข้ารู้ว่าเจ้าเจ็บปวดเจียนตายยามเมื่อคนรักของเจ้าฆ่าตัวตายอย่างน่าละอาย ส่วนตัวเจ้าก็ได้ถูกตีตราว่าเป็นนักฆ่า แต่เจ้าได้หนีไประหว่างขนส่งตัวนักโทษ จากนั้นเจ้าก็ได้ไปที่มณฑลเหอเจียน ที่ซึ่งเจ้าเรียกว่าบ้านเก่าของเจ้า ข้าพูดถูกใช่ไหม?”
โจรคนอื่นต่างรู้สึกสับสน ส่วนสตรีชั้นสูงนางอื่นต่างสนอกสนใจกับการกระทำของเธอ พวกนางทั้งหมดต่างลืมเกี่ยวกับสถานการณ์ของพวกนางไปแล้ว
ว่าแต่…ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?
ระบบ:
บ้าเอ้ย เธอรู้เรื่องทั้งหมดนี้ได้ยังไงกัน? ระบบไม่ได้ให้ข้อมูลนี้แก่เธอไปเลยนะ
ในฐานะที่เป็นระบบถ่ายทอดสดมิติแล้ว ระบบของมันย่อมไม่มีข้อจำกัดอะไรอยู่แล้ว ซึ่งมันวางแผนที่จะค่อยๆเปิดระบบพวกนี้ให้ในภายหลัง หากเจียงฮองกี๋ต้องการข้อมูล สิ่งที่เธอต้องทำก็คือเชื่อฟังและถ่ายทอดสด ไม่ใช่การปฏิเสธหรือคุกคามระบบ ระบบมันวางแผนที่จะทำแบบนี้ก็เพื่อที่จะล่อเธอด้วยของพวกนี้ ดั่งเช่นแครอทห้อยไม้ที่ใช้ล่อกระต่าย
ซึ่งเจียงฮองกี๋จะต้องใช้เงินเพื่อที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลกับระบบ ถึงกระนั้นก็ตาม มีข้อมูลบางอย่างที่แม้แต่เงินก็ไม่สามารถซื้อได้ และนั่นรวมถึงประวัติของหัวหน้าโจร
ซึ่งถึงแม้จะมีหรือไม่มีเงิน ตัวระบบก็ไม่ต้องการใช้ทรัพยากรของเจียงฮองกี๋ในตอนนี้อยู่แล้ว แม้ว่ามันจะต้องการให้ความช่วยเหลือเธอก็เถอะ แต่มันนะทำอะไรหลายๆอย่างได้อย่างจำกัด ดังนั้นแล้วมันเองก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงรู้ข้อมูลของหัวหน้าโจรกัน
เหล่าโจรจ้องมองมาที่เธอพร้อมกับส่ายหัวและหัวเราะ “ช่างไร้สาระยิ่งนัก… “
“แม่ของเจ้า เจ้าคงไม่ได้พบนางมานานแล้วสินะ”เจียงฮองกี๋กล่าวต่อ “เจ้าเรียกตัวเองว่าเป็นคนกตัญญู แต่หลังจากที่เจ้าหนีไป เจ้าก็ไม่ได้กลับไปหานางอีกเลย นี่หรือคือความกตัญญูกตเวทีของเจ้า? “
เสียงหัวเราะของหัวหน้าโจรได้ติดอยู่ในลำคอพร้อมกับรอยยิ้มอันแสนเย็นชา เขาได้แต่กัดฟันและระบายความโกรธออกมา
“โห้? เจ้าคิดที่จะฆ่าข้า? เจ้าจะทุบตีข้าเหมือนกับแมวที่ถูกเหยียบหางเช่นนั้นเหรอ? แล้วเจ้าจะทำอะไรต่อล่ะ? รังแกสตรีอ่อนแอคนอื่นๆต่องั้นเหรอ? ถ้าเจ้าทำอย่างนั้น เจ้าจะเผชิญหน้ากับคนที่เจ้ารักได้อย่างไร? ก่อนที่เธอจะตาย เธอยังยินดีที่จะแต่งงานกับเจ้าเลย”
ทันใดนั้นทุกๆคนกลับเงียบลง ไม่มีใครกล้าหายใจหรือพูดอะไรเลย
ลูกน้องที่กล้าหาญคนหนึ่งได้พยายามลอบเข้าหาเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง แต่หัวหน้าของเขากลับชักดาบออกมา
หัวหน้าโจรไม่ใส่ใจลูกน้องของตนเลย เขาได้แต่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ใคร? ใครบอกเจ้ากัน?”
เจียงฮองกี๋หัวเราะราวกับว่าเธอเป็นราชินีน้ำแข็งบนบัลลังก์ของเธอ “นี่หรือคือวิธีที่เจ้าจะขอความช่วยเหลือ?”
“เจ้าคือนักโทษของข้า! ถ้าเจ้าไม่บอกข้า ข้าจะปล่อยให้เด็กๆของข้าไปสนุกกับเรือนร่างของพวกเจ้าทุกคน! ” หัวหน้าโจรตะโกนออกมาด้วยอารมณ์ที่ดีขึ้นกว่าตะกี้นี้
ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้รับผลกระทบจากคำขู่ของเธอ เจียงฮองกี๋จึงแค่หัวเราะเบาๆ มือของนางยังคงถูกมัดอยู่และนางก็ควรจะขอความเมตตา แต่เพราะอะไรนางถึงทำราวกับนางไม่ได้อยู่ต่ำกว่าเช่นนี้
“เจ้าหัวเราะอะไร?” หัวหน้าโจรพูดออกมาอย่างไม่สบายใจ
“คนที่เจ้ารักนั้น ในตอนนั้นนางเองก็ต้องประสบปัญหาเดียวกับตอนนี้ “
เจียงฮองกี๋นั้นมีชื่อเสียงว่าเป็นปีศาจแห่งหน่วยเจ็ด เธอเป็นที่รู้จักมาก ไม่เพียงแต่เรื่องความสามารถในการต่อสู้ของเธอ แต่ยังมีฝีปากอันแยบยล
ความสามารถในการต่อสู้สูง + คำพูดจิกกัดอันแสนรุนแรง = เครื่องสังหารมนุษย์
หากเธออารมณ์ดี ศัตรูอาจตายไปแค่ร่าง แต่ถ้าอารมณ์เสียเล่า? คนๆนั้นคงจะอยากตายแน่นอน
เมื่อเธอพูดออกมา หัวหน้าโจรก็ต้องพยายามอย่างหนักที่จะไม่โกรธ เขาผลักเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่อ้อมแขนของเขาออกไปทางเจียงฮองกี๋ หญิงสาวผู้นั้นล้มลงและเธอก็หน้าแดงมาก
“ ถ้าเจ้ากล้าโกหกข้า ข้าจะขายเจ้าให้กับซ่องหลังจากที่ข้าเสร็จกิจกับเจ้าแล้ว” เขาขู่ด้วยเสียงเบาๆ
“โกหก? ตั้งแต่ข้าพูดมาข้าได้โกหกด้วยงั้นเหรอ? ถ้าทั้งหมดที่พูดไปข้าโกหก แล้วเจ้าจะยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่ขยับทำไม? “
เจียงฮองกี๋ยังคงยิ้มเยาะ แม้ว่าผมของเธอจะยาวเพียงประบ่า แต่เสน่ห์ของเธอก็ยังดึงดูดผู้หญิงด้วยกันเองอีกด้วย ภาพลักษณ์ของเธอราวกับ “แบดเกิร์ล” ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเลวจริงๆ เพียงแค่เป็นคำที่บ่งบอกความหมายว่าเธอมักจะเล่นกับหัวใจของคนอื่น
แม้แต่อุยจิงเซียน ผู้ไม่คิดจะสนใจเธอก็ยังต้องหันมามองเธออย่างเงียบๆ สายตาของเธอเต็มไปด้วยความกังวล ความยุ่งเหยิงและความสงสัย
“ข้าทำตามที่เจ้าบอกให้ข้าทำแล้ว … คราวนี้ก็บอกมาเสียทีว่าใครเป็นผู้ทำมัน! ใครทำให้ซินเนียงต้องตาย! “
หัวหน้าโจรจับผมของเขาและใบหน้าของเขาตอนนี้ก็เจ็บปวดเป็นอย่างมาก ไม่มีใครกล้าที่จะขยับไปไหนเลย มีเพียงแค่เจียงฮองกี๋ที่กำลังยิ้มเยาะเขา
“นางเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาและเจ้าก็ลืมชื่อของนางแล้วงั้นเหรอ? นางชื่อ ซินเนียง เหรอ? “
ดวงตาของหัวหน้าโจรได้แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงและแข็งกระด้าง
ชื่อคนที่รักของเขาไม่ใช่ซินเนียงตามที่เขาแสดงออกมา เขานั้นไม่อยากที่จะเชื่อเจียงฮองกี๋เท่าใดนัก ในตอนนี้เขายิ่งสงสัยเธอมากขึ้นเข้าไปอีก เขาจึงคิดที่จะกล่าวชื่อเท็จออกไป เพื่อหวังว่าเธอจะพลาด
“เอาล่ะ … ” เขาลูบของเขาหน้าแล้วก็สูดหายใจเข้าลึกๆ “บอกข้ามาเถอะว่าไอ้สารเลวคนไหนสังหารโมเนียง และข้าสัญญากับเจ้าเลยว่าเจ้าจะได้ออกจากที่นี่อย่างปลอดภัย จะไม่มีใครกล้าแตะต้องตัวเจ้าเลย! “
“ข้าปฏิเสธข้อเสนอของเจ้า แค่นั้นมันไม่เพียงพอสำหรับข้อมูลสำคัญนี้หรอก “
“แล้วเจ้าต้องการอะไร?” เขาถาม ทันใดนั้นเขาก็กวาดามองผู้หญิงในเพิงทั้งหมดอย่างรวดเร็ว “โลภมาก…เจ้าต้องการให้ข้าปล่อยผู้หญิงที่นี่ไปทั้งหมดสินะ… ” เขาพูดออกมาพร้อมกับตระหนักถึงสิ่งที่เจียงฮองกี๋ต้องการ
“แน่นอนว่ามันก็ขึ้นอยู่กับเจ้าเองด้วย หากเจ้าไม่เชื่อข้า เจ้าก็สามารถปฏิเสธข้าได้ หรือจะลองใช้กำลังบังคับเอาข้อมูลจากข้าก็ได้นะ ” ใบหน้าของเจียงฮองกี๋พร้อมที่จะไฟต์ตลอดเวลา แสดงให้เห็นเลยว่าเธอไม่เกรงกลัวเลยสักนิดเดียว เธอมองไปที่เหล่าโจรด้วยสายตาเย็นชาและพ่นลมหายใจออกมา
ในวินาทีนั้นเอง ทุกๆคนต่างก็รู้สึกหนาวไปถึงกระดูกสันหลัง ใครกันนะที่เป็นผู้เสียเปรียบจริงๆ?
“หัวหน้า… ” แม้ว่าโจรบางคนจะได้รับอิทธิพลจากเจียงฮองกี๋บ้าง แต่ที่เหลือก็ยังคงมีความเคารพต่อผู้นำของพวกเขาอยู่เหมือนกัน
พวกโจรพวกนี้ได้ลักพาตัวลูกสาวของขุนนางเหอเจียนมา แล้วขุนนางพวกนั้นจะไม่ทำอะไรโจรอย่างพวกเขาหรือไง? พวกเขาในตอนนี้ก็ไม่ต่างไปกับคนตายแล้ว ยังไงก็ขอเพลิดเพลินก่อนตายไม่ได้หรือไง?