ตอนที่แล้วตอนที่ 92 ร้านค้าสมาคมปิดตัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 94 ทุกคนมีคุณค่า

ตอนที่ 93 สกิลการทำอาหาร


ตอนที่ 93 สกิลการทำอาหาร

ในเกม The Era Online ยังคงมีความลับมากมายถูกซ่อนเอาไว้อยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง มีคลาสอาชีพลับหรือสกิลลับอีกมากที่ยังไม่เคยถูกเปิดเผย แม้แต่เจสเปอร์ที่เคยมีประสบการณ์การเล่นเกมมานานถึง 7-8 ปี ก็ยังไม่สามารถล่วงรู้ความลับที่ซ่อนอยู่ของเกมนี้ได้ครบ เหมือนเช่นสกิลลับของพี่สาวบับเบิ้ล ที่ชายหนุ่มเองก็ไม่รู้ว่าเธอไปปลดล็อคสกิลลับนี้มาได้ยังไงเหมือนกัน เพราะจากข้อมูลที่เขามี สกิลลับการทำอาหารที่พี่สาวบับเบิ้ลได้รับนั้น มีคนเขียนบรรยายการปลดล็อคเอาไว้น้อยมาก แถมยังเป็นข้อมูลที่คลุมเครือและไม่มีการยืนยันว่าทำได้จริงจากผู้เล่นคนอื่นๆเลยแม้แต่คนเดียว

พี่สาวบับเบิ้ลมองดูสกิลลับที่เพิ่มขึ้นมาด้วยใบหน้าที่เป็นสุข แต่เธอก็ยังค่อนข้างที่จะสับสนกับสกิลที่เพิ่มเข้ามาอยู่ดี ย้อนกลับไปก่อนหน้าที่จะได้สกิล พี่สาวบับเบิ้ลกำลังคัดแยกไอเท็มและเศษซากชิ้นส่วนร่างกายของออร์คที่ NPC ผู้ติดตามทั้ง 5 ของเจสเปอร์ได้เก็บรวบรวมมา ที่มีทั้งไขกระดูก เขี้ยวออร์คและรวมถึงเนื้อหนังของมันเป็นต้น

แม้เธอจะค่อนข้างแปลกใจว่าเหตุใด คลาซ่าและNPCผู้ติดตามถึงเก็บ เนื้อหนังที่กำลังส่งกลิ่นเหม็นของออร์คกลับมา แต่เธอก็ฝืนทนจัดการแยกเศษตามที่คลาซ่าได้บอกเอาไว้อยู่นานหลายชั่วโมง เนื้อหนังที่เน่าเสียถูกตัดแบ่งออกตามคำบอกของ NPC ทั้ง 5 จนสูงกองพะเนิน ในช่วงระหว่างที่เธอกำลังถลกหนังออร์คให้แยกออก มีเสียงเตือนจากระบบแจ้งเตือนเธอซ้ำไปมา มันกระพริบถี่เสียจนเธอรู้สึกรำคาน เธอเอื้อมมือที่กำชิ้นเนื้อออร์คที่กำลังรอการถลกหนังออกไปเพื่อที่จะปิดการแจ้งเตือนที่เด้งขึ้นรบกวน เมื่อเธอแตะลงที่หน้าแจ้งเตือน เนื้อออร์คที่เธอไว้ก็พลันหล่นลง มันตกลงไปบนสายพานไฟมรกตที่มาจากแร่ Geen Gemstone ระดับ A

เมื่อเศษซากเนื้อตกลงบนไฟมรกต มันก็ถูกไฟบนสายพานห่อหุ้มจมหายไปในทันที เธอที่เคยเป็นแม่ครัวมาในชีวิตจริงเคยเจอกับเรื่องผิดพลาดในห้องครัวมาแล้วหลายต่อหลายครั้งการรับมือของเธอจึงเป็นไปอย่างว่องไว บับเบิ้ลรีบมองสิ่งของรอบๆตัวที่พอจะใช้ได้ ก่อนที่จะคว้าเอาที่เขี่ยถ่านของช่างตีเหล็กที่วางอยู่บริเวณนั้นคีบชิ้นเนื้อที่ตกลงไปบนสายพานกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

มีควันร้อนๆลอยขึ้นมาจากเนื้อที่เธอทำตกลงไป ส่งกลิ่นหอมๆที่คล้ายกับเนื้อย่างชั้นดีไปทั่วบริเวณ

“พี่สาวบับเบิ้ลให้ยกไอเท็มพวกนี้ไปเก็บที่คลังเลยไหมครับ...เอ๊ะ!!เมืองนี้มีเนื้อย่างหอมแบบนี้ด้วยหรอครับ ผมขอชิ้มหน่อยได้ไหม!!”

“ดะ...เดี๋ยวว!!”

พี่สาวบับเบิ้ลยังไม่ทันได้ร้องห้าม ชิ้นเนื้อของออร์คที่ถูกย่างก็เข้าไปอยู่ในปากของสลิปเป็นที่เรียบร้อย เธอยกมือขึ้นป้องกันใบหน้าตามสัญชาติญาณเพราะคิดว่าชายหนุ่มคงต้องบ้วนเนื้อออร์คที่เหม็นสาบออกมาอย่างแน่นอน 1วิ...2วิ...3วิ... “แจ้บๆๆ”

ชายหนุ่มกับยังไม่มีปฏิกิริยาที่จะคายเศษอาหารออกมาเลยแม้แต่น้อย “อาหารเมืองอัลคาเดียนี้สุดยอดจริงๆนะครับ คิดไม่ผิดที่ตัดสินใจย้ายมา” สลิปเคี้ยวเนื้อที่อยู่ในปากด้วยความเอร็ดอร่อย ก่อนที่จิ้มชิ้นเนื้อที่เหลืออยู่กินต่อไปด้วยใบหน้าเพลิดเพลิน

“เนื้อนี้อร่อยหรอ??!!” พี่สาวบับเบิ้ลถามสลิปออกไปด้วยแววตาที่งุนงนระคนตกใจ

“อร่อยมาก!! เนื้อนี้หวานนุ่มเหมือนกับได้กินเนื้อเกรด A5 ชั้นดีจากประเทศ J เชียวละแต่มันเหนียวไปหน่อย สงสัยคงจะย่างนานไปจนกลายเป็นเวลดัน(*Well done) ไว้วันหลังพี่ลองย่างแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ (**Medium Rare) ดูนะครับ...เอ๊ะ!!ค่าสถานะบางอย่างของผมเพิ่มขึ้นมาด้วยละ ดูสิ”

[ท่านได้รับประทานเนื้อย่างชั้นที่ถูกทำให้สุกด้วยไฟมรกต ค่าพลังชีวิต+5%]

สลิปโชว์ค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นมาของตัวเองให้กับหญิงสาวที่ปรุงเนื้อย่างรสเลิศได้ดู โดยที่หารู้ไม่ว่าเนื้อที่ตัวเองกินเข้าไปนั่นเป็นเนื้อย่างที่มาจากออร์ค

“สลิปฉันยกเนื้อทั้งหมดให้เธอทั้งหมดนี้ก็ได้ แต่เธอช่วยไปตามเจสเปอร์ที่อยู่ด้านนอกให้หน่อยจะได้ไหม พอดีฉันมีเรื่องบางอย่างจะให้หมอนั่นช่วย”

พี่สาวบับเบิ้ลยกเนื้อออร์คที่เธอเผอิญทำตกเอาลงไปในรางไฟให้กับสลิปที่เหลือทั้งหมด เพื่อแลกกับการที่ให้สลิปช่วยออกไปตามเจสเปอร์เจ้านายของเธอให้มาดู สกิลลับสีทองที่กำลังส่องประกาย อยู่หน้าต่างแสดงสกิลของเธอ

................

“อือที่พี่สาวเล่ามาก็พอจะเป็นไปได้ เนื้อพวกนี้พี่เป็นคนแยกออกมาทั้งหมดใช่ไหม” เจสเปอร์ชี้ไปยังกองเนื้อที่มีผ้าคลุมปิดเอาไว้ พลางใช้ความคิด

“ใช่ ฉันเป็นคนทำทั้งหมดตามที่คลาซ่าแนะนำ พวกกระดูกนี้ก็ใช่! นี้อีก! นู้นอีก!” บับเบิ้ลชี้ไปยังกองกระดูกที่ถูกบด กองเคี้ยวที่แหลมคมและเศษซากหนังที่รอเอาไปทำเครื่องป้องกัน

เจสเปอร์เมื่อได้เห็นกองไอเท็มที่ถูกคัดแยกก็เริ่มพอที่จะเข้าใจอะไรได้หลายๆอย่าง และเมื่อนำข้อมูลจากอดีตมาเป็นตัวเปรียบเทียบ ทุกๆอย่างก็ดูจะลงตัว แต่เพื่อความแน่ใจเจสเปอร์จึงได้ถามคำถามเธอไปอีกข้อ

“พี่สาวพอจะจำได้ไหมว่า ข้อความที่เด้งแจ้งเตือนถี่ตอนที่พี่คัดแยกไอเท็มเป็นข้อความอะไร”

“จำได้!! มันเขียนว่า ท่านเรียนรู้สกิลคัดแยกวัตถุดิบอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ แล้วก็มีหลอดที่คล้ายกับหลอดค่าประสบการณ์เลื่อนขึ้นไปเรื่อยๆ ว่าแต่เธอถามทำไมหรอ?”

“ช่วยเช็คอีกทีได้ไหม ว่าหลอดนี้ยังอยู่หรือเปล่า?”

พี่สาวบับเบิ้ลเปิดข้อความที่เคยแจ้งเตือน พลางมองหาหลอดค่าประสบการณ์ที่เคยไหลเป็นน้ำตอนเธอคัดแยกซากออร์ค เธอมองเป็นจนทั่วหลอดที่เธอว่าก็ไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้ว

“เอ๊ะ!!มันไม่มีแล้ว พี่สาบานได้มันมีอยู่จริงๆ เจสนายต้องเชื่อพี่นะ!!” มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่คนไม่เคยเล่นเกมมาก่อนจะตกใจกับการหายไปของหน้าจอ UI (User Interface) มันเป็นเรื่องเล็กน้อยที่เกิดขึ้นได้บ่อยครั้งกับเกม MMORPG ซึ่งลักษณะที่พี่สาวบับเบิ้ลแสดงออกมามันก็ดูตลกไปอีกแบบดี

“ผมเชื่อครับ และผมก็สามารถบอกได้ด้วยว่าทำไมพวกมันถึงหายไปเพราะคำตอบของมันก็คือสกิลลับการทำอาหารสีทอง ที่พี่ได้รับมายังไงล่ะ!!”

ด้วยความบังเอิญ ความโชคดีหรือความอุตสาหะอะไรก็แล้วแต่ ของหญิงสาวที่ชื่อว่าบับเบิ้ลคลาสอาชีพนักเล่นแร่แปรธาตุ ที่เธอดันไปปลดล็อคสกิลลับการทำอาหารที่ถูกปกปิดเอาไว้ได้สำเร็จ จากการที่เธอคัดแยกวัตดุดิบซากออร์คอยู่นานหลายชั่วโมง

ซึ่งการคัดแยกวัตดุดิบดันเป็นพื้นฐานที่พ่อครัวแม่ครัวทุกคนต้องเรียนรู้ก่อนจะเริ่มทำอาหาร เธอเสียสละทั้งแรงกายแรงใจอดทนกับกลิ่นที่เหม็นคลุ้งของซากสัตว์ จนในที่สุดหลอดค่าประสบการณ์การคัดแยกก็เต็มโดยที่เธอไม่รู้ตัว

ส่วนข้อความที่เด้งกระพริบถี่ๆจนทำให้หญิงสาวรู้สึกรำคานก็คือข้อความบอกถึงสกิลลับการทำอาหารขั้นต้นระดับทั่วไปที่เพิ่มขึ้นมานั่นเอง แต่สิ่งที่ทำให้มันกลายเป็นสกิลลับระดับตำนาน(สีทอง)ได้นั่น ก็คงจะเป็นไฟมรกตที่มาจากแร่ Green Gemstone(A)และที่คีบถ่านของคลาซ่าที่ถูกหลอมขึ้นจาก NPC ระดับตำนาน

ไม่รู้ว่ากลิ่นสาบของออร์ค จะออกฤทธิ์กับเธอช้ากว่าคนปกติหรืออย่างไร เพราะในตอนนี้พี่สาวบับเบิ้ลดูจะมึนงงกับสิ่งที่ตัวเองได้รับจนยืนไม่ไหว ไอรีนที่ยืนอยู่ด้านข้างเห็นสีหน้าของพี่สาวบับเบิ้ลก็รีบเข้ามาช่วยพยุงตัวเธอไว้ ผิดกับเจสเปอร์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆที่หมุนตัวเดินหนีไปหาคลาซ่า

“พี่บับเบิ้ลนั่งพักก่อนนะคะ ฉันเองก็เคยมีอาการแบบนี้เหมือนกัน ตอนที่ได้รู้ว่าเควสที่ตัวเองทำอยู่เป็นเควสลับของผู้รักษา”

หากในเกม The Era Online มียาดม ยาอม ยาหม่อง ไอรีนก็คงจะควักให้กับพี่สาวบับเบิ้ลที่กำลังมึนงงอยู่ไปแล้ว แต่ทว่าในเกมไม่ใช่ชีวิตจริงสิ่งของที่เธอต้องการนั่น ล้วนแล้วแต่ไม่จำเป็น เพราะอาการที่พี่สาวบับเบิ้ลเป็นอยู่นั้น เป็นแค่อาการมึนงงของผู้เล่นเท่านั้นเอง

เจสเปอร์เดินกลับมาหา 2 สาวที่กำลังนั่งพักอยู่ในโรงตีเหล็ก ก่อนที่จะยื่นอุปกรณ์แผ่นเหล็กสีดำที่มีด้ามจับไปให้กับพี่สาวบับเบิ้ล “นี้เป็นน้ำใจเล็กๆน้อยจากผมครับ” พี่สาวบับเบิ้ลมองแผ่นเหล็กที่อยู่ในมือของเจสเปอร์ด้วยความสงสัย แต่ไม่ทันที่เธอจะได้อ้าปากถามถึงแผ่นเหล็กรูปร่างหน้าตาประหลาด ชายหนุ่มก็ได้วางของสิ่งนั้นลงบนรางไฟมรกต เป็นการตอบข้อสงสัยที่มีได้ทั้งหมด

เมื่อตรวจเช็คความร้อนของกระทะแล้ว พี่สาวบับเบิ้ลก็หยิบชิ้นเนื้อของออร์คที่ถูกคัดแยกออกมาจากกองเนื้อที่ตั้งวางอยู่ด้านหลัง พร้อมกับค่อยๆบรรจงวาง ชิ้นเนื้อลงไปยังแผ่นเหล็กที่กำลังร้อนจัด ‘ชี้ชชช’ เป็นเสียงของเนื้อที่ถูกความร้อนจากกระทะ มันหดตัวลงเล็กน้อยพร้อมกับเปลี่ยนสีที่เคยเป็นของสดให้กลายเป็นเนื้อย่างสีน้ำตาลเข้ม ควันที่ลอยฟุ้งส่งกลิ่นหอมไปทั่วโรงตีเหล็ก พลางเข้าไปกระตุ้นต่อมรับรสให้ช่างที่ทำงานอยู่บริเวณนั้นต่างกลืนน้ำลายลงคอด้วยความอยากอาหาร

“ผมจะไปเรียกคนอื่นให้มาลอง” ถ้าหากเขาไม่รู้ว่านี้คือเนื้อของออร์คแล้วละก็ เขาคงจะอดใจไม่ไหวที่ขอลองชิมลิ้มรสของเนื้อที่อยู่ตรงหน้าไปแล้ว เจสเปอร์พยายามข่มใจจากกลิ่นที่เย้ายวน พร้อมกับเตือนสติตัวเองอยู่ตลอดในระหว่างที่ออกไปตามคนอื่นที่อยู่ด้านนอก ‘เนื้อออร์คมันทำมาจากเนื้อออร์ค!!’

“พวกนายมีใครว่างหรือเปล่า พอดีฉันมีอาหารบางอย่างให้พวกนายลองชิ้มสักหน่อยนะ?” “ฉันๆๆ ฉันว่าง อาหารของพี่สาวบับเบิ้ลใช่ไหม ฉันว่าง ฉันไปเลยนะ!!” สลิปพุ่งตัวออกไปเป็นคนแรก ท่ามกลางความแปลกใจของทุกคน

“ไอ้หมอนี้ตั้งแต่โดนเจสแกล้งไปเมื่อคราวก่อน ก็แทบจะระวังตัวแจ้ห่างเจสเปอร์อยู่ตลอด วันนี้กินยาอะไรมาผิดหรือเปล่าถึงได้ตอบรับคำขอของเจสง่ายๆแบบนั่น”

“เออสิ!!พวกเราลองไปดูก่อนไหม หากเป็นแผนอะไรของเจ้าเจส พวกเราค่อยปฏิเสธทีหลังก็แล้วกัน” อามมี่และลูอิสต่างกระซิบคุยตอบโต้กันไปมา ก่อนที่จะออกเดินนำคนอื่นกลับเข้าโรงตีเหล็ก

ทุกคนที่อยู่ในโรงตีเหล็กล้วนว่างมือจากงานที่หนักอึ้งกลับเข้ามายังโรงตีเหล็กที่ตอนนี้ถูกแปลงให้เป็นโรงครัวไปเรียบร้อยแล้ว ทันทีที่ทุกคนก้าวเท้าเข้ามากลิ่นหอมของเนื้อย่างก็พุ่งเข้าปะทะรูจมูกของพวกเขาอย่างรวดเร็ว การป้องกันตัวเองจากแผนการของเจสเปอร์ที่อามมี่และลูอิสวางเอาไว้ก็ถูกพังทลายลงอย่างง่ายดาย

“เอาล่ะทุกคน...ล้อมวงกันเข้ามา ฉันมีเรื่องบางอย่างที่จะบอกพวกนายและขอความเห็นจากทุกคนๆหน่อย” เจสเปอร์ขึ้นไปยืนตรงหน้าก่อนที่จะเบี่ยงตัวออก เผยให้เห็นถึงที่มาของกลิ่นหอมๆที่โชยไปทั่วโรงตีเหล็กแห่งนี้ ให้ประจักษ์แกสายตาของทุกคน

“เนื้อย่างนี้มาจากฝีมือของพี่สาวบับเบิ้ลของพวกเรา ที่เผอิญโชคดีได้สกิลลับการทำอาหารมากจากงานของเธอเมื่อครู่ และนี้คือสิ่งที่ฉันอยากให้พวกนายลิ้มรสมัน”

ระหว่างที่เจสเปอร์พูดอยู่นั่น สติและสายตาของทุกคนก็จับจ้องลงบนเนื้อย่างที่กำลังถูกพี่สาวบับเบิ้ลแล่พวกมันออกมาเป็นชิ้นบางๆพอดีคำ เมื่อมีดแหลมคมกดลงบนเนื้อย่างที่สุกกำลังพอดี น้ำที่อยู่ด้านในก็พลันแตกออกไหลเจิ่งนองอยู่ด้านล่างเนื้อที่ถูกหันออกมา

ทุกคนทยอยต่อคิวเข้าไปรับชิ้นเนื้อที่ละคนๆ ก่อนที่จะลงมือกินเนื้อย่างที่พี่สาวบับเบิ้ลบรรจงย่างสุดความสามารถพร้อมๆกัน ซึ่งมีเพียง เจสเปอร์ ไอรีน พี่สาวบับเบิ้ล หิมะน้อยและเจ้ซันนี่ที่ไม่ได้ร่วมการกินเนื้อย่างสุดพิเศษนี้ โดยพวกเธอบอกเหตุผลง่ายที่เข้าใจได้อย่าง ‘กลัวอ้วน’ ออกมาก็แค่นั้นเอง

‘งืมๆง่ำ’ ทุกคนต่างเคี้ยวชิ้นเนื้อที่ได้รับไป เพียงไม่ถึงเสี้ยววินาที ความบ้าคลั่งก็เกิดขึ้น

“มีเหลืออีกไหม ฉันขออีกชิ้นเถอะ...ไม่ๆฉันขอทั้งหมดเลย”

“เจสฉันเป็นเพื่อนสนิทนายมาหลายปีนะนายตกยังมันให้กับฉัน”

“พี่เจสผมเป็นแฟนคลับพี่ตัวยงเลยนะ ให้เนื้อผมอีกเถอะ”

“. . . ฉันขออีกได้ไหม”

“ท่านเจสเปอร์ พวกผมขออีกชิ้นได้ไหมขอรับ พวกผมสัญญาจะเป็นผู้ติดตามที่ดีของท่านตลอดไป”

ทั้งเหล่าผู้เล่นและNPC เมื่อได้รับประทานเนื้อของพี่สาวบับเบิ้ลไปแล้ว ต่างก็พากันหยุดความอยากอาหารที่ว่านี้ไม่ได้เลยสักคนเดียว ทุกคนต่างเรียกร้องขอมันเพิ่มด้วยความบ้าคลั่ง “นี้สินะพลังของเนื้อที่สามารถทำให้คนฆ่ากันได้!!” เจสเปอร์ไม่อาจหยุดความหิวโหยนี้ได้เลย จึงจัดแจงแจกเนื้อย่างที่เหลืออยู่ให้กับทุกคนถึงจะควบคุมความสงบนี้เอาไว้ได้

“ฉันจะไม่ถามถึงเรื่องรสชาติก็แล้วกัน เพราะดูจากสิ่งที่ทุกคนแสดงออกมาฉันได้รับคำตอบแล้ว แต่ฉันอย่างให้พวกนายสังเกตความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังจากที่กินเนื้อนี้ให้ฉันหน่อยจะได้ไหม” นี้คือความสงสัยที่เจสเปอร์ใคร่รู้ ว่าศักยภาพของสกิลลับการทำอาหารระดับตำนาน นั่นจะส่งผลออกมาได้มากน้อยแค่ไหน

“ผมขอบอกก่อนเลยละกัน ผมได้กินเนื้อนี้เป็นครั้งที่สองแล้ว ครั้งแรกผมได้ค่าพลังชีวิตเพิ่มขึ้นมา 5เปอร์เซ็นต์ แต่นั้นเป็นเนื้อที่ค่อนข้างจะเหนียวไปหน่อย แต่หลังจากที่ได้กินเนื้อครั้งที่สองที่ได้ย่างมาอย่างดี ค่าพลังชีวิตของผมก็เพิ่มสูงขึ้นถึง 10% และแถมยังได้อัตราการฟื้นพลังชีวิตอีก 3%” สลิปที่ได้กินเนื้อย่างเป็นคนแรกรีบออกมาพูดถึงค่าพลังที่ได้รับจากการกินเนื้อย่างอย่างรวดเร็วโดยหวังที่จะได้รางวัลเป็นชิ้นเนื้อที่เหลือเป็นการตอบแทน

ซึ่งค่าสถานะของทุกคนที่ได้รับมาล้วนเหมือนกันทั้งหมด ซึ่งเจสเปอร์ก็ได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็วว่าค่าสถานะเหล่านั้นล้วนมาจากการทำอาหารของพี่สาวบับเบิ้ลและเนื้อของออร์คก็มีคุณสมบัติในการช่วยเพิ่มค่าพลังชีวิตอีกด้วย...

*เวล ดัน (Well Done) : เนื้อสุกทั่วถึงกันทุกส่วนเวลาเคี้ยวจะค่อนข้างเหนียว รสชาติเนื้อจะแห้งเพราะไม่เหลือความชุ่มชื้นอีกแล้ว แนะนำว่าไปซื้อเนื้อแดดเดียวมารับประทานจะดีกว่า

**มีเดียม แรร์ (Medium Rare) : (54.4° C) เนื้อกึ่งสุกกึ่งดิบ ด้านในยังเป็นเนื้อแดงประมาณ 50% รสชาติความสุกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเนื้อสเต๊ก! นุ่มชุ่มฉ่ำ ยิ่งกินยิ่งได้อรรถรส!

...โปรดติดตามตอนต่อไป...

หากใครอยากที่จะช่วยสมทบทุนค่าหน้าปกนิยายสามารถติดต่อได้ที่แฟนเพจน่ะครับ

www.facebook.com/writelazy

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด