ตอนที่แล้วตอนที่ 6 ข้าก็แค่ใช้ได้แต่เคล็ดวิชาขั้นสุดยอดได้ก็เท่านั้น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 8 จับฉลากนำโชคหรือจะร้านค้าดีนะ?

ตอนที่ 7 เริ่มสอนได้


ตอนที่ 7 เริ่มสอนได้

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย 

ลู่โจวได้ยืนอยู่ต่อหน้าศิษย์สาวกทั้งสี่ เขาได้จ้องมองไปที่ด้วนมูเฉิง หมิงซี่หยิน และศิษย์คนสุดท้ายอย่างจ้าวยู่

"หยวนเอ๋อ"

ด้วนมูเฉิงที่ถูกสายตาที่เต็มไปด้วยพลังแรงกดดันจ้องมองได้เรียกศิษย์อีกสองคนที่เหลือด้วยความหวาดกลัว

"คะ? ท่านอาจารย์" หยวนเอ๋อรีบตอบรับคำเรียกของลู่โจวอย่างรวดเร็ว

"เธอลุกขึ้นมาซะ"

"ค่ะท่านอาจารย์!"

ลู่โจวสังเกตเห็นได้ว่าค่าความจงรักภักดีของหยวนเอ๋อขึ้นมาถึง 65% แล้ว ส่วนด้วนมูเฉิง, หมิงซี่หยิน และจ้าวยู่เองมีค่าความจงรักภักดี 30%, 20% และ 40% ตามลำดับ ถึงแม้ว่าความจงรักภักดีของพวกเขาจะหยุดลดลงไปแล้ว แต่ยังไงซะค่าความจงรักภักดีก็ยังมีไม่พออยู่ดี

ลู่โจวที่เห็นแบบนั้นแล้วไม่ได้พูดอะไรกับศิษย์ทั้งสามอีกต่อไป เขาหันไปพูดกับหยวนเอ๋อ "ข้าเหนื่อยแล้ว กลับกันเถอะ"

หยวนเอ๋อแอบรู้สึกมีความสุขขึ้นมา เธอรีบลุกขึ้นมาก่อนที่จะก้าวเท้าออกมาพยุงลู่โจวกลับไปที่ภูเขาทอง ตอนนี้เธอเป็นเหมือนกับศิษย์ผู้จงรักภักดีไปแล้วนั่นเอง และเพราะแบบนี้เองด้วนมูเฉิงและศิษย์อีกสองคนที่เหลือจึงถูกทิ้งเอาไว้อยู่เบื้องหลัง

และเนื่องจากอาจารย์ของพวกเขายังไม่ได้สั่งให้ลุกขึ้น พวกศิษย์ทั้งสามเองจึงไม่กล้าที่จะขยับเขยื้อนไปไหน ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาทั้งหมดเองก็ยังได้รับบาดเจ็บจากพลังของลู่โจวอีกด้วย ดังนั้นแล้วพวกเขาในตอนนี้จึงรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก

"น้องสี่ เพราะแกนั่นแหละที่ทำให้พวกเราจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้..." ด้วนมูเฉิงพูดออกมาเพราะอยากให้ตัวเองดูดี

"ศิษย์พี่จะโทษข้าคนเดียวอย่างงั้นหรอ? ข้าได้คิดวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนแล้วว่าท่านอาจารย์ได้รับบาดเจ็บสาหัสน่ะ" หมิงซี่หยินพยายามแก้ตัว

"คิดอย่างถี่ถ้วนอย่างงั้นหรอ? ศิษย์พี่วิเคราะห์ได้ดีทีเดียวเลยล่ะ" จ้าวยู่ที่ได้ฟังทุกอย่างพูดตัดพ้อออกมาเช่นกัน ถ้าหากไม่ได้เป็นเพราะความคิดของศิษย์พี่คนที่สี่เปลี่ยนไป เธอเองก็คงจะไม่เข้ารวมก่อนก่อกบฏในครั้งนี้อย่างแน่นอน

"ใครจะไปรู้กันว่าเป็นแบบนี้? ข้าน่ะคำนวณทุกอย่างดีแล้ว แต่ข้ากลับมองข้ามสิ่งนี้ไป..."

"เจ้ามองข้ามอะไรกัน?"

"บางทีนะ บางทีน่ะ ท่านอาจารย์เขา...ท่านอาจารย์เขาคงเบื่อที่จะทำอะไรเดิมๆ แล้ว ท่านก็เลยลองทำอะไรใหม่ๆ เข้า"

ด้วนมูเฉิงและจ้าวยู่ถึงกับพูดไม่ออก

"แล้วทำไมพวกเราไม่หนีท่านอาจารย์ไปเลยล่ะ?" จ้าวยู่พูดพึมพำออกมา

"หนีอย่างงั้นหรอ? ยังไงล่ะ? ศิษย์น้องไม่เห็นหรอว่าท่านอาจารย์มีพลังที่ยิ่งใหญ่มากแค่ไหน?"

"ในตอนที่ท่านอาจารย์ไล่ตามสิบยอดฝีมือไป ท่านใช้พลังร่างอวตารถึงสองครั้งด้วยกัน แถมท่านอาจารย์ยังใช้กระบวนท่ายุทธพันธ์ศักดิ์สิทธิ์ไปอีกหนึ่งครั้งด้วย และยังไม่พอท่านยังใช้จิตวิญญาณตามล่าอีกครั้งเช่นกัน ดูเหมือนความคิดของศิษย์น้องหญิงที่บอกว่าท่านอาจารย์บาดเจ็บสาหัสคงจะต้องถูกตัดทิ้งไปละนะ..." หมิงซี่หยินได้พูดไปพร้อมกับพยักหน้าเล็กน้อย

"ดูเหมือนกับผีสิ! ถ้าหากท่านอาจารย์ต้องการที่จะฆ่าพวกเราจริงๆ พวกเราก็คงไม่รอดมาถึงตอนนี้หรอก!"

ไม่ว่าหมิงซี่หยินหรือด้วนมูเฉิงจะพูดอะไรอีกต่อไป ในตอนนี้ก็ไม่มีใครที่จะกล้าเชื่ออะไรอีกแล้ว

ดังคำพูดที่เคยว่าเอาไว้ "ไม่เจ็บปวด ไม่เรียนรู้" ตอนนี้เนื่องจากท่านอาจารย์ยังไม่ได้ทำอะไรพวกเขาไป ดังนั้นพวกเขาจึงยังมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ ถ้าหากพวกเขาทั้งหมดคิดจะหนีไป พวกเขาก็คงจะเป็นเหมือนกับศิษย์พี่ใหญ่ที่คิดหนีไปแน่

ลู่โจวค่อยๆ นั่งลงอย่างช้าๆ ภายในศาลา แม้ว่าเรื่องทุกอย่างเพิ่งจะเกิดขึ้น แต่ตัวเขาเองก็ยังคงหายใจติดขัดอยู่ดี

ถึงแม้ว่าพลังทั้งหมดของลู่โจวจะหายไป ตัวเขาก็มีเคล็ดวิชาแห่งการผ่อนคลายร่างกายขั้นเก้าหลงเหลืออยู่ เพราะเคล็ดวิชานี้เองจึงทำให้ตัวเขาสามารถขึ้นลงภูเขาได้อย่างไม่มีปัญหา แต่ถึงแบบนั้นลูกศิษย์ทั้งหมดก็ยังคงสัมผัสได้ถึงพลังที่เปลี่ยนไปในตัวของลู่โจวอยู่ดี แต่เมื่อเห็นพลังที่แท้จริงของเขาแล้วก็ไม่มีลูกศิษย์คนไหนที่คิดสงสัยถึงพลังวรยุทธ์ของเขาอีกต่อไป หมิงซี่หยินได้เข้าใจผิดไปอย่างสมบูรณ์แบบ เขาคิดว่าผู้เป็นอาจารย์พยายามที่จะเล่นอะไรแปลกใหม่เท่านั้น

"หยวนเอ๋อ เจ้าน่ะเข้าร่วมสำนักมานานแค่ไหนแล้วอย่างงั้นหรอ?" ลู่โจวเอ่ยปากถาม

"ข้าได้ติดตามท่านอาจารย์มาถึงห้าปีแล้วค่ะ"

"ห้าปีอย่างงั้นหรอ...."

เธอคนนี้ได้บุกพิชิตดินแดนศักดิ์สิทธิ์เป็นเวลากว่าห้าปีแล้ว นี้จะต้องเป็นสัตว์ประหลาดประเภทไหนกันที่จะต้องทำให้จีเทียนเด๋ารับมาเป็นศิษย์แบบนี้ได้?

ลู่โจวหวังได้เพียงอย่างเดียวว่าจีเทียนเด๋าในอดีตคงจะต้องได้รับความช่วยเหลืออะไรมาจากระบบเพื่อรับศิษย์คนนี้อย่างแน่นอน

"แล้วเจ้าน่ะรู้ไหมทำอะไรผิดไป?" ลู่โจวพูดออกมาอย่างใส่อารมณ์

หยวนเอ๋อได้ย่อตัวลงคุกเข่าในทันทีก่อนที่จะพูดออกมา "ท่านอาจารย์ ศิษย์ผิดไปแล้ว ศิษย์ไม่ควรจะฟังพวกศิษย์พี่เลย! ท่านอาจารย์เชื่อศิษย์เถอะ ศิษย์น่ะเป็นศิษย์ที่ดีและเชื่อฟังอาจารย์มาโดยตลอด!"

"ข้าไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น"

"ฮะ?"

"เมื่อปลายปีที่แล้ว เจ้าแอบออกจากภูเขาทองไปโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากข้า และเจ้ายังขโมยหนังสืออะไรบางอย่างไปและส่งมันให้กับสำนักใหญ่สองสำนัก?"

"ศิษย์ผิดไปแล้วค่ะ!"

"ทำไมเจ้าถึงทำแบบนั้นกันล่ะ?" ลู่โจวพยายามค้นหาความทรงจำที่ตัวเขามี เขาพยายามหาเหตุจูงใจที่ทำให้หยวนเอ๋อทำแบบนั้น

หยวนเอ๋อได้แลบลิ้นออกมาก่อนที่จะพูดขึ้น "ศิษย์พี่สี่ได้บอกกับศิษย์เอาไว้ ถ้าหากศิษย์ไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีดำ ศิษย์ก็ไม่คู่ควรที่จะเป็นศิษย์สาวกของภูเขาทองลูกนี้! พะ...เพราะงั้นศิษย์ก็เลย"

"บัญชีดำอย่างงั้นหรอ?" ลู่โจวไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย

"บัญชีดำเป็นรายชื่อของผู้ฝึกยุทธ์ในโลกค่ะ มันเป็นรายชื่อผู้ฝึกยุทธ์ผู้ทำชั่ว ทั้งศิษย์พี่ชาย ศิษย์พี่หญิงเองล้วนแต่ติดอยู่ในบัญชีดำระดับต้นๆ และท่านอา...อาจารย์เองก็..."

"พูดสิ!"

"ท่านอาจารย์มีชื่ออยู่บนสุดของบัญชีดำนั้นค่ะ"

ลู่โจวไม่ได้พูดอะไรออกมา "..."

เมื่อหยวนเอ๋อเห็นอาจารย์ของเธอเงียบไป เธอก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมาต่อ แต่เธอแอบสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง บรรยากาศรอบตัวของผู้เป็นอาจารย์นั้นเปลี่ยนไป การเปลี่ยนแปลงนี้เองทำให้เธอไม่กล้าที่จะส่งเสียงหายใจออกมาเลยแม้แต่น้อย

หลังจากนั้นเองลู่โจวก็ได้พูดออกมา "ลืมไปซะเถอะ! มันเป็นความผิดของพ่อแม่เองของพวกเจ้าที่โชคร้ายไม่มีโอกาสอบรมสั่งสอนพวกเจ้า และมันก็เป็นความเกียจคร้านของข้าเองที่ไม่เข้มงวดกับลูกศิษย์ให้ดีพอ ข้าน่ะสอนเจ้าไม่ดีเอง"

เมื่อได้ยินแบบนั้นหยวนเอ๋อตัวน้อยก็รู้ได้ทันทีว่าอาจารย์ของเธอมีท่าทางที่แปลกไปอีกครั้ง แม้ว่าเธอจะเข้าร่วมสำนักได้ไม่นานมากนัก และเธอยังใช้เวลาอยู่ในภูเขาทองน้อยกว่าศิษย์พี่ชายศิษย์พี่หญิงของเธอมาก แต่ถึงแบบนั้นเธอก็รู้จักชายชราที่อยู่ตรงหน้าเธอเป็นอย่างดี

เกิดอะไรขึ้นกับท่านอาจารย์กัน?

ลู่โจมสัมผัสได้ว่าลูกศิษย์คนนี้กำลังแอบสงสัยอะไรบางอย่างอยู่จึงได้พูดอะไรออกไป "หยวนเอ๋อ เจ้าน่ะเป็นศิษย์คนโปรดของข้า เพราะงั้นจากนี้ก็เลิกทำชั่วซะ เจ้าน่ะทำได้ไหม?"

"ได้ค่ะท่านอาจารย์!"

"เอาล่ะลุกขึ้นยืนซะ!"

"ค่ะ ท่านอาจารย์"

หยวนเอ๋อตัวน้อยได้ลุกขึ้นยืนอย่างดีใจ เธอรู้สึกดีใจมากที่เธอได้รับการให้อภัย "ฮิฮิ! ท่านอาจารย์ใจดีที่สุดเลย...ให้ศิษย์นวดไหล่ให้นะคะท่านอาจารย์" หยวนเอ๋อรีบเดินไปด้านหลังของลู่โจว เธอกระโดดโลดเต้นดีใจเหมือนกับกระต่ายยังไงยังงั้น

ลู่โจวได้ถอนหายใจออกมาจากใจ แม้ว่าจีเทียนเด๋าจะรับศิษย์มหาวายร้ายมาถึงแปดคน อย่างน้อยก็ยังพอจะมีศิษย์คนหนึ่งที่จงรักภักดีกับตัวเขา ถ้าหากตัวเขาไม่ได้เดินทางข้ามมิติมาถึงตอนนี้ ลูกศิษย์คนสุดท้ายคนนี้ก็คงจะกลายไปเป็นปีศาจร้ายไปแล้วอย่างแน่นอน

คนรอบตัวมักจะมีอิทธิพลกับคนใกล้ตัวอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นความคิดอันชั่วร้ายก็แล้วแต่ ถึงแม้ว่าหยวนเอ๋อจะทั้งฉลาดและก็ซุกซน แต่จิตใจของเธอนั้นค่อนข้างที่จะอ่อนไหวง่าย เธออาจจะเปลี่ยนไปเมื่อไหร่ก็ถ้าหากได้รับการปลูกฝังสิ่งที่ไม่ดีมา

"ติ้งง! ภารกิจสำเร็จ ค่าความจงรักภักดีของหยวนเอ๋อเพิ่มมากถึง 80% คุณได้แต้มบุญ 100 แต้ม"

ลู่โจวเหลือบมองไปที่หยวนเอ๋อตัวน้อย ตอนนี้ค่าความจงรักภักดีของเธอมีมากกว่า 80% แล้ว ตัวเขาได้พยักหน้าออกมาอย่างพึงพอใจก่อนที่จะพูดออกมา "ไปเรียกศิษย์พี่ทั้งสามให้ข้าทีสิ"

"ได้ค่ะท่านอาจารย์" หยวนเอ๋อตัวน้อยรีบวิ่งลงภูเขาไปอย่างรวดเร็ว

ลู่โจวได้ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย

"ระบบ มีวิธีที่ดีกว่าการลงโทษลูกศิษย์พวกนี้ไหม?"

ในชีวิตก่อนหน้านี้ลู่โจวเคยเป็นผู้บริหารของบริษัทแห่งหนึ่งมา แม้ว่าเขาจะไม่มีประสบการณ์ของจีเทียนเด๋าที่มีมากกว่าหนึ่งพันปีก็ตาม แต่ตัวเขาก็มีประสบการณ์ในการควบคุมผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาได้เป็นอย่างดี เขาเชื่อว่าสิ่งที่ตัวเขามีคงจะใช้ได้ผลกับการสอนศิษย์ของเขาอย่างแน่นอน

ยิ่งศิษย์พวกนี้ถูกกดดันมากเท่าไหร่ พวกเขาก็คงจะต้องสะท้อนแรงกดดันกลับมามากเท่านั้น

ในตอนท้ายของวันนั้นเอง ลู่โจวก็รู้สาเหตุทั้งหมด เขารู้ดีว่าทำไมสาวกทั้งหมดนั้นถึงกลายเป็นปีศาจที่ชั่วร้ายแบบนี้ ที่พวกเขาทั้งหมดเป็นแบบนี้เป็นเพราะว่าการสั่งสอนของจีเทียนเด๋านั่นเอง จีเทียนเด๋าใช้ความเกลียดชังในการสั่งสอนพวกเขา แต่ลู่โจวที่มาแทนที่จีเทียนเด๋าไม่อยากที่จะใช้เส้นทางเดิมในการสั่งสอนพวกเขา

ไม่ว่าตัวเขาจะถามอะไรระบบที่คอยช่วยเขาก็ไม่ได้ตอบกลับมา

"ถ้าหากแกไม่ตอบฉัน ฉันก็จะใช้วิธีทางของฉันเอง!" ลู่โจวพูดในใจ

หลังจากนั้นไม่นานด้วนมูเฉิง, หมิงซี่หยิน และเจ้ายู่ก็ได้ขึ้นมาบนศาลากันหมดแล้ว พวกเขาทั้งหมดก้มหน้าก่อนที่จะคุกเข่าลงในทันที ตอนนั้นเองหยวนเอ๋อตัวน้อยได้แต่มองดูสถานการณ์ทั้งหมดอย่างเงียบๆ เท่านั้น

"ท่านอาจารย์ไว้ชีวิตศิษย์ด้วย!"

"ท่านอาจารย์ได้โปรดอภัยให้ศิษย์ด้วย!"

"ท่านอาจารย์ได้โปรดไว้ชีวิตศิษย์ด้วยเถอะค่ะ!"

ความจงรักภักดีตอนนี้เพิ่มมาถึง 40%, 35% และ 42% ตามลำดับแล้ว

ถึงแม้ว่าค่าจงรักภักดีจะเพิ่มขึ้นมาแต่ค่าของมันก็ยังคงต่ำอยู่ดี ค่าความจงรักภักดีระดับนี้สามารถตกลงไปอย่างง่ายดายอีกครั้งเมื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น

ความเงียบงันนั้นปกคลุมไปทั่วทั้งศาลา ไม่มีใครกล้าที่จะทำลายความสงบนี้ ลู่โจวเองก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปแม้แต่คำเดียว

ในเวลานี้คงไม่มีอะไรที่ทำให้พวกเขาทุกคนรู้สึกกลัวได้มากกว่าความเงียบอีกแล้ว ความเงียบนั้นเป็นอะไรที่ทำให้เหล่าสาวกทั้งสามรู้สึกไม่สบายใจมาก ความเหน็บหนาวกำลังเกาะไปทั่วกระดูกของพวกเขา ลู่โจวได้ปล่อยให้เวลาผ่านไปกว่าสิบห้านาทีโดยที่ไม่พูดออกมาแม้แต่คำเดียว ตัวเขาได้แต่ถอนหายใจพร้อมกับส่ายหัวเป็นครั้งคราวเท่านั้น

ในที่สุดศิษย์คนที่ห้าอย่างจ้าวยู่ก็ไม่สามารถทนอยู่ในบรรยากาศที่อึมครึมได้อีกต่อไป เธอทิ้งตัวลงบนพื้นพร้อมน้ำตาก่อนที่จะพูดออกมาว่า "ท่านอาจารย์ ศิษย์ผิดไปแล้ว! ศิษย์ก็แค่สับสนในหลงเดินทางผิดก็แค่นั้น นับตั้งแต่ที่ศิษย์เข้าร่วมสำนัก ศิษย์ไม่เคยคิดจะทรยศท่านอาจารย์เลย! ได้โปรดให้อภัยศิษย์ด้วยเถอะ ท่านอาจารย์!"

เนื่องจากมีคนเปิดปากพูดแล้ว ด้วนมูเฉิงและหมิงซี่หยินจึงรีบร้องขอความเมตตาจาอาจารย์ต่อไปในทันที

"ท่านอาจารย์ ศิษย์ใช้เวลาอยู่ในสำนักมากกว่าร้อยปีแล้ว! ตลอดเวลาหลายปีที่ศิษย์อยู่ที่นี่ศิษย์ตั้งใจอย่างเต็มที่ทำในสิ่งที่ท่านอาจารย์ได้สั่งสอนเอาไว้...ศิษย์ติดตามท่านอาจารย์มานานมากแล้ว ท่านอาจารย์ได้โปรดไว้ชีวิตศิษย์ด้วย!"

"ท่านอาจารย์ ถึงแม้ว่าศิษย์จะเข้าร่วมสำนักเพียงหกสิบปีเท่านั้น แต่ศิษย์ก็ไม่เคยฝ่าฝืนคำสั่งของท่านอาจารย์เลยแม้แต่ครั้งเดียว ครั้งนี้ศิษย์ได้ทำผิดไปแล้ว ได้โปรดท่านอาจารย์ ไว้ชีวิตศิษย์ด้วย!"

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด