ตอนที่แล้วบทที่ 63
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 65

บทที่ 64


ในระหว่างที่เนี่ยฟงและหยางเวยกำลังติดตามกลุ่มของฉีเจิงกวนไปนั้น วาบหนึ่งในความคิดก็แล่นเข้ามา ทำให้คิดแผนการบางอย่างได้ เนี่ยฟงกระซิบกล่าวต่อหยางเวยด้วยเสียงอันแผ่วเบา

“หยางเวยทันทีที่พบเจอกลุ่มขององค์ชายสี่ เจ้าหลบไปด้านข้างก่อน เมื่อเห็นว่ากลุ่มของฉีเจิงกวนคิดลงมือ รบกวนเจ้านำสัตว์อสูรของเจ้าออกมา ใช้แรงกดดันระดับสีส้มให้พวกองค์ชายสี่ตื่นตัวก็แล้วกัน”

“เหตุใดเราไม่ออกไปแจ้งละ”

“ข้าไม่อยากเผยความลับที่ว่า เราทั้งสองคนไม่มีจุดในแผนที่อักขระศักดิ์สิทธิ์ อีกอย่างเจ้าคิดว่าคนพวกนั้นจะเชื่อถือเราทั้งสองรึ”

“ได้ วางใจเถอะ หากคนขององค์ชายสี่รู้ตัวแล้ว ข้าต้องทำอย่างไรต่อ”

“เอาไว้เป็นหน้าที่ของข้าเอง เจ้าค่อยเฝ้าระวังเอาไว้ก็พอ”

“ได้”

หน้าไม้ถูกเรียกใช้ถือไว้ในมือขวาแน่นไม่นานก็ลั่นไกหน้าไม้ในมือ ฟิ้ว แทนที่ลูกศรหน้าไม้จะพุ่งเข้าหาฉีเจิงกวนกลับพุ่งเข้าหาองค์ชายสี่แทน ลูกศรหน้าไม้พุ่งเข้าเฉี่ยวหัวไหล่ด้านซ้ายขององค์ชายสี่อย่างรวดเร็ว ฉีเจิงกวนตื่นตกใจเล็กน้อยหันไปมองบนกิ่งไม้แต่ก็ไม่พบเจอผู้ใด องค์ชายสี่ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดหลังจากนั้นก็ล้มลงกับพื้น ในเวลาเดียวกันคนขององค์ชายสี่ก็ถูกลูกศรหน้าไม้พุ่งเข้าหา ไม่นานคนทั้งสามก็ล้มลงไปนอนกับพื้นเช่นเดียวกับองค์ชายสี่ ฉีเจิงกวนเอ่ยวาจาเสียงดังลั่น

“ไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดที่เข้าช่วยเหลือ”

ไร้ซึ่งเสียงกล่าวตอบ ได้ยินเพียงเสียงลูกศรหน้าไม้เสียดสีกับอากาศ ไม่ถึงสามลมหายใจฉีเจิงกวนและพวกอีกสามคนก็ล้มลงไปนอนกับพื้น เนี่ยฟงและหยางเวยทะยานลงมาจากกิ่งไม้ ไม่ต้องกล่าวสิ่งใดอันดับแรกหยางเวยรีบรูดทรัพย์คนทั้งแปดก่อน เนี่ยฟงทำได้เพียงส่ายศีรษะเท่านั้น

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า พิษของเจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนักออกฤทธิ์รวดเร็วยิ่งนัก”

“เจ้าปล้นเพียงแต่เม็ดยาและเงินก็พอ”

ชั่วน้ำเดือดหยางเวยก็รูดทรัพย์คนที่แปดเสร็จสิ้น

“เนี่ยฟง เราจะทำสิ่งใดต่อไป”

“ปล่อยคนของราชสำนักทิ้งไว้ที่นี่ สังหารศิษย์สำนักกิเลนไฟทั้งสามคนหลงเหลือฉีเจิงกวนไว้ ข้ายังไม่อยากให้เกิดปัญหาระหว่างสำนัก เจ้าแบกฉีเจิงกวนติดตามข้ามาก็แล้วกัน”

กล่าวจบเนี่ยฟงก็เรียกมีดสั้นมาถือไว้ในมือขวา เดินเข้าไปตวัดมีดผ่านลำคอของศิษย์สำนักกิเลนไฟทั้งสามคน ปล่อยให้นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น หลังจากนั้นเนี่ยฟงก็พุ่งทะยานออกไป หยางเวยแบกร่างของฉีเจิงกวนพุ่งติดตาม ผ่านไปสองชั่วยาม

“เจ้าจะนำมันผู้นี้ไปที่ใดกัน”

“ทิ้งไว้ที่นี่ เจ้ารูดทรัพย์มันแล้วใช่หรือไม่ เหลือดาบให้มันเพียงหนึ่งเล่มก็พอ หวังว่าจะมีชีวิตรอดไปจนถึงสิ้นสุดงานล่าอสูรก็แล้วกัน”

“ว่าแต่พิษที่เจ้าใช้ทาที่หัวลูกศรหน้าไม้ ออกฤทธิ์นานหรือไม่”

“คงราวๆสี่ชั่วยาม”

หยางเวยพุ่งทะยานลงไปด้านล่างโยนร่างของฉีเจิงกวนลงบนพื้น หลังจากนั้นก็พุ่งทะยานขึ้นต้นไม้ติดตามเนี่ยฟงออกไป ในระหว่างทางลุ่ยกงก็เอ่ยบางอย่างออกมา

“เหตุใดเจ้าไม่ปล้นดาบทั้งสองเล่มนั่น มันสามารถนำไปประมูลได้”

“อย่าเลยท่านลุ่ยกง ดาบถูกประมูลและทุกคนก็รับรู้แล้วว่าดาบทั้งหมดอยู่ที่ใคร หากข้านำไปประมูลอีก ข้าไม่อยากให้เรื่องปวดหัวเข้ามาเพิ่ม”

“ว่าแต่เจ้าจะตัดผ่านระดับสีส้มเมื่อไรกัน”

“ช่วงเวลาที่เหลือต่อจากนี้ข้าจะปิดด่าน ทรัพยากรที่ปล้นชิงมาได้คงมากพอที่จะทำให้ข้าตัดผ่านระดับได้แล้ว”

หลังจากนั้นเนี่ยฟงก็หันไปกล่าวบางอย่างกับหยางเวย

“หยางเวยข้าจะใช้เวลาอีกสิบวันที่เหลือก่อนออกจากงานล่าอสูรตัดผ่านระดับ หวังว่าเจ้าคงอยู่เพียงผู้เดียวได้”

หยางเวยได้ยินถึงกับขมวดคิ้วทั้งสองข้างขึ้น

“ได้ไม่มีปัญหาแต่ก่อนหน้านั้นละ”

“ทำตามที่ใจเจ้าต้องการ สังหารคนของศิษย์สำนักกิเลนไฟและปล้นชิงสมบัติของพวกมันมา”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไอ้บ้าเนี่ยฟง เจ้าช่างรู้ใจข้ายิ่งนัก ว่าแต่เจ้าต้องการที่จะตัดผ่านระดับ ข้ามีที่แนะนำ”

“เหอะคงเป็นสัตว์อสูรของเจ้าบอกกล่าวมาใช่หรือไม่”

“แน่นอน เป็นพี่ชายเสอไป๋บอกกล่าวต่อข้า”

ในระหว่างที่ทั้งสองพุ่งทะยานออกไปลุ่งกงก็เอ่ยบางอย่างออกมาอีกครั้ง

“เจ้าหนู เจ้าลองเปลี่ยนทิศทางขึ้นเหนือสิ รับรองว่าเจ้าจะต้องพบเจอกับเรื่องสนุกเป็นแน่”

“มีสิ่งใดหรือขอรับ”

“เมื่อเจ้าไปถึงก็จะรับรู้เอง”

เนี่ยฟงรีบเปลี่ยนทิศทางพุ่งทะยานขึ้นไปทางเหนือไม่นานแสงอรุณก็ค่อยๆสาดส่องเข้ามา เสียงคำรามของสัตว์อสูรดังขึ้นด้านหน้า เมื่อเข้ามาในใกล้บริเวณก็ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น ต้นไม้ขนาดใหญ่โค้นล้ม ด้านหน้าเป็นสัตว์อสูรสองตัวกำลังเข้าปะทะกัน เป็นสัตว์อสูรพยัคฆ์ตัวใหญ่ลำตัวมีขนสีเหลืองสลับสีดำส่วนหางสีขาว อีกตัวเป็นพยัคฆ์เช่นกันตัวเล็กกว่าขนสีฟ้ามีประกายสายฟ้าพุ่งออกมาจากหาง

“สัตว์อสูรระดับสีส้มขั้นกลาง”

เนี่ยฟงกล่าวออกมาอย่างแผ่วเบา ทั้งสองนั่งอยู่บนกิ่งไม้เพื่อเฝ้ามองการต่อสู้ด้านหน้า เกือบสองเค่อในที่สุดก็ได้ผู้ชนะเป็น พยัคฆ์ตัวใหญ่ขนสีเหลืองหลอกล่อพยัคฆ์ตัวเล็กสีฟ้าด้านหน้า มันพุ่งเข้ากัดไปที่ลำคออย่างรวดเร็ว เลือดสีแดงสดไหลนองเต็มพื้น ในระหว่างนั้นเนี่ยฟงก็สังเกตบางอย่าง ด้านหลังของพยัคฆ์ขนสีฟ้า มีพยัคฆ์ขนสีฟ้าอีกตัวที่คาดว่าจะเป็นลูก ยืนตัวสั่นสะท้านไปด้วยความกลัว เนี่ยฟงโบกสะบัดมือนำดาบออกมาถือไว้ในมือ พุ่งทะยานลงไป พร้อมกับฟาดฟันดาบในมือ ปราณดาบสีฟ้าพุ่งเข้าหาพยัคฆ์ตัวใหญ่สีเหลือง

ปราณดาบสีฟ้าปะทะลำตัวของพยัคฆ์ขนสีเหลืองอย่างถนัดถนี่ เลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูดมันรีบปล่อยพยัคฆ์ตัวเล็กขนสีฟ้า พร้อมกับหันมาจ้องมองเนี่ยฟงด้วยสายตาอำมหิต มันพุ่งเข้าหาเนี่ยฟงด้วยความโกรธแค้น เนี่ยฟงหาได้สนใจมัน หันไปมองพยัคฆ์ตัวเล็กขนสีฟ้าที่ในใช้แรงเฮือกสุดท้ายคลานไปยังพยัคฆ์ตัวน้อยที่ยืนสั่นสะท้านอยู่ เนี่ยฟงโบกสะบัดมือขวา เกราะสายฟ้าก็ปรากฏ เปรี้ยง เกราะสายฟ้าสกัดกั้นไว้ได้อย่างทันท่วงที เนี่ยฟงฟันดาบในมือออกไปอีกครั้ง ปราณดาบสีฟ้าที่มีประกายสายฟ้า พุ่งเข้าปะทะร่างของพยัคฆ์ขนสีเหลือง เลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูดออกมา เนี่ยฟงรีบพุ่งทะยานเข้าประชิดร่าง จ้วงแทงดาบในมือไปที่ลำคอ

หลังจากจัดการเสร็จสิ้น พยัคฆ์ตัวเล็กขนสีฟ้าก็หันมามองเนี่ยฟงด้วยสายตาอ้อนวอน แน่นอนว่าเนี่ยฟงรับรู้แล้วว่ามันต้องการสิ่งใด เนี่ยฟงยกมือมาลูปที่ศีรษะพร้อมกับเอ่ยบางอย่างออกมา

“เจ้าไม่ต้องห่วงข้าจะดูแลลูกของเจ้าเอง”

พยัคฆ์ตัวเล็กขนสีฟ้าประดุจว่าเข้าใจสิ่งที่เด็กหนุ่มด้านหน้ากล่าว มันหันไปมองพยัคฆ์ตัวเล็กพร้อมกับร้องคำรามออกมา ไม่ถึงสามลมหายใจมันก็สิ้นลมหายใจนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด