ตอนที่แล้วตอนที่ 80 ของรางวัลสำหรับผู้กล้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 82 ลูกผู้ชายที่กล้าพูดคำว่าขอโทษ

ตอนที่ 81 เรื่องที่คับข้องใจ


ตอนที่ 81 เรื่องที่คับข้องใจ

หลังจากที่เจสเปอร์เกลี่ยกล่อมลุงอัลบัสอยู่นานในที่สุดลุงอัลบัสก็ตกลงที่จะยอมมาดูแลบ้านให้กับพวกเขาโดยมีข้อแม้ว่าลุงอัลบัสจะต้องมีสิทธิในบ้านหลังนี้ครึ่งหนึ่งหรือพูดกันง่ายๆคือบ้านหลังนี้ ลุงอัลบัสสามารถจัดการด้วยตัวเองในฐานะเจ้าบ้านเทียบเท่ากับเจสเปอร์

แม้เจสเปอร์จะลังเลเล็กน้อยกับคำขอของลุงอัลบัสแต่สุดท้ายแล้วเขาก็ยินยอมที่จะตกลงในข้อเสนอนี้โดยมีข้อแม้ขึ้นมาคัดค้านบางอย่างเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่นถึงแม้ลุงอัลบัสจะมีสิทธิเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ครึ่งหนึ่ง แต่หากจะทำอะไรต้องได้รับความเห็นชอบจากเขาโดยตรงเสียก่อน ถึงจะดำเนินการได้

ไม่ใช่ว่าเขาไม่ไว้ใจลุงอัลบัส แต่เพื่อความปลอดภัยของตัวเขาและผลประโยชน์ อย่างน้อยก็ต้องมีบางอย่างเป็นหลักประกันต่อตัวเขาว่าจะไม่ถูกทรยศหักหลังเหมือนเช่นอดีตอีก

ตัวเขาเองอาจจะไม่คิดที่จะทรยศใครแต่เขาไม่อาจห้ามให้คนอื่นคิดต่อตัวเขาได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาทำได้คือ รู้จัก‘ปกป้องตัวเอง’

อามมี่และคนอื่นๆต่างหาเลือกซื้อไอเท็มที่เจสเปอร์ต้องการจนแทบจะเกลี้ยงตลาดในเมืองแซนนิกซ์หมดแล้วโดยมีสลิปเป็นไกด์นำทาง จนในที่สุดของที่พวกเขาตามหาก็ได้มาครบถ้วนแม้บางอย่างจะได้มาไม่ตรงตามเป้าแต่ถึงยังไงก็ยังได้มากกว่าที่เจสเปอร์หวังเอาไว้มาก ทุกคนกลับมารวมกลุ่มกันอีกครั้งด้วยสีหน้าเซ็งๆ เพราะเงินที่ได้รับมาเป็นของรางวัลจากภารกิจลับขององค์หญิงซีซีเรีย ถูกใช้จ่ายไปจนเกือบหมด พวกเขาสามารถพลิกจากเศรษฐีเป็นยาจก ได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง

“นี้ของที่นายต้องการ เล่นเอาเงินในกระเป๋าของพวกฉันหมดเกลี้ยง”

ถึงแม้แต่ละคนจะมีสีหน้าเซ็งๆที่ต้องกลายเป็นคนจนในชั่วพริบตา แต่พวกเขาก็รู้ดีว่าเงินที่พวกเขาเสียไปนั้นสุดท้ายแล้วจะได้กลับคืนมาเป็นเท่าทวีคูณ

มีเพียงสลิปผู้เล่นที่อาศัยอยู่ในเมืองแซนนิกซ์แห่งนี้มาตลอดแม้จะเคยได้ยินชื่อเสียงของกิลด์ Rising Sun มาก่อนจากข้อความประกาศของระบบ แต่ด้วยที่ว่าเขาเป็นผู้เล่นอิสระที่ไม่เคยคิดที่จะเข้ากิลด์หรือสังกัดไหน ข้อความจากระบบที่กิลด์น้อยใหญ่พยายามแย่งชิงมันมาครอบครอง เพื่อนประกาศความยิ่งใหญ่ สุดท้ายแล้วสำหรับผู้เล่นกลุ่มนี้ข้อความที่ว่าจึงเปรียบเสมือนตอนเด็กๆที่มีรถขายไอศกรีมขับผ่านหน้าบ้านแต่ไม่มีตังค์ซื้อก็เท่านั้น

แต่การกระทำของเพื่อนใหม่พวกนี้ล้วนแล้วแต่ทำให้เขาที่พึ่งเข้ามาร่วมกิลด์ได้ไม่ถึงวันอดที่จะสงสัยไม่ได้ กิลด์ Rising Sun ดูเป็นกิลด์ขนาดเล็กด้วยซ้ำไปหากเทียบกับกิลด์ชั้นนำของเมืองแซนนิกซ์

‘สมาชิกมีเพียงแค่ 12 คน แต่สามารถจับจ่ายใช้สอยได้ขนาดนี้กิลด์นี้มันยังไงกัน’

แล้วความสงสัยของสลิปก็ยิ่งปะทุหนักขึ้นไปอีก เมื่อได้เห็นว่าไอเท็มที่คนอื่นเสียเวลาไปซื้อหามาเกือบทั้งวันถูกยกให้กับหัวหน้ากิลด์ที่ชื่อเจสเปอร์ โดยไม่ได้รับเงินตอบแทนเลยแม้แต่น้อย

หากพูดถึงหัวหน้ากิลด์ที่ชื่อว่าเจสเปอร์ในหัวของสลิปมีเพียงแค่ ‘อวดเก่ง’ อยู่เพียงคำเดียว หากไม่ใช่เพราะเขาอยากเรียนรู้ทักษะจากชายที่ชื่อทวิสเต็ดแล้วละก็ หัวเด็ดตีนขาด ยังไงเขาก็ไม่มีทางเข้าร่วมกับกิลด์หรือสังกัดไหนแน่ๆ

‘แต่ทำไมนักฆ่าทวิสเต็ดที่มีนิสัยคล้ายกับตนเอง ถึงยอมที่จะเข้าร่วมกับหัวหน้าที่อวดเก่งคนนี้กันล่ะ?’

ในที่สุดแล้วความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ก็มักจะเอาชนะจิตใจได้เสมอ สลิปเดินเข้าไปใกล้ทวิสเต็ดก่อนที่จะกระซิบเพื่อขอพูดคุยกับนักฆ่าที่ตนยอมรับว่าแข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่เคยพบเจอมา

“ทวิสเต็ดฉันขอถามนายหน่อยได้ไหม ฝีมือของนายก็โดดเด่นเหนือคนอื่นๆแต่ทำไมนายถึงมาอยู่กับกิลด์เล็กแบบนี้กัน?”

ทวิสเต็ดหันมามองสลิป ชายผู้ที่ตนออกตามหาตามคำขอของเจสเปอร์ นิสัยของเขาแม้จะได้รับการเยียวยาด้วยคำว่ามิตรภาพมาบางแล้ว แต่กริยาและท่าทางที่แสดงออกบางครั้งก็ยังติดนิสัยเดิมเหมือนเช่นตอนนี้ที่เขากำลังจ้องหน้า สลิป ด้วยความดุดัน

สลิปผละถอยหลังเล็กน้อย เมื่อได้รับการตอบรับจากทวิสเต็ดด้วยสายตาที่เย็นชา คนผู้นี้และความแข็งแกร่งล้วนไม่ควรต้องยกอยู่ใต้คำสั่งของใครเลยจริงๆ

“หากนายสงสัยทำไม ไม่ลองไปหาคำตอบด้วยตัวเอง” ทวิสเต็ดตอบคำถามด้วยสีหน้าที่จริงจัง ความคิดของชายคนนี้ไม่ผิดหากสงสัยก็ควรจะไปหาคำตอบด้วยตัวเอง แต่เขากลับไม่รู้เลยว่าคำพูดของเขา กลับส่งให้สลิปผู้ที่เพิ่งเข้าร่วมไม่นานขึ้นเวทีไปพบกับเจสเปอร์ที่เป็นเสมือนเสาค้ำยัน ของกิลด์นี้ ด้วยตัวเอง

“ได้เลยฉันจะหาคำตอบด้วยตัวเองและฉันจะพิสูจน์ให้นายเห็น ว่าคนแบบนายไม่ควรจะต้องรับใช้กับคนนิสัยขี้อวดเก่งแบบนั้น”

ชายหนุ่มที่ชื่อว่าสลิปก้าวออกไปยืนข้างหน้ากลางวงสนทนาด้วยความหึกเหิมก่อนที่สูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอดและพูดคำพูดหนึ่งออกมาด้วยความมั่นใจ

“ฉันไม่รู้ว่านายข่มขู่ผู้เล่นเหล่านี้ให้มาร่วมกิลด์ของนายได้ยังไง แต่ฉันไม่ชอบที่นายเอาเปรียบคนอื่นด้วยกระทำแบบนี้ นายควรจะตอบแทนคนอื่นที่หาไอเท็มมาด้วยความยากลำบากในขณะที่นายนั่งรออยู่เฉยๆยังงั้นหรอ?”

สลิปยังคงจ้องหน้าเจสเปอร์ต่อไปในขณะที่พูด โดยที่เพื่อนสมาชิกในกิลด์ต่างงุนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น

‘ชิบหายแล้ว’

คำอุทานนี้เป็นของทวิสเต็ดที่หลุดออกมา ท่าทางคำพูดของเขาจะถูกแปรความหมายผิดไป ที่เขาหมายถึงให้ไปหาคำตอบด้วยตัวเองคือให้ลองไปถามคนอื่นด้วยตัวเองไม่ใช่ให้ไปพิสูจน์ด้วยกำลังแบบนี้

“ไอ้หมอนี้พูดบ้าอะไรของมัน”

อามมี่ตรงเข้าไปหมายจะดึงสลิปให้ออกมาแต่ก็ถูกห้ามเจสเปอร์ยกมือขึ้นห้าม

“พูดต่อสิ” เจสเปอร์ยังคงวางสีหน้าเรียบเฉย มันเป็นเรื่องธรรมดาที่คนเข้ามาใหม่จะมีเรื่องในใจหลังจากที่ได้เข้าร่วม เพราะฉะนั้นการที่ให้สลิปได้ระบายเรื่องที่คับข้องใจออกมาคงจะช่วยให้ ปรับตัวได้เร็วมากขึ้น

“ฉันขอท้าสู้กับนายตัวต่อตัว หากนายแพ้ นายต้องปล่อยคนอื่นๆให้เป็นอิสระ...!!”

“แล้วถ้าฉันชนะ ฉันจะได้อะไรเป็นการตอบแทน?”

สลิปยังคงอ้ำอึ้งๆก็คำถามที่ถูกเจสเปอร์ถามกลับมา เพราะดูยังไงอีกฝ่ายจะมาสู้กับตนเองที่เป็นเพียงสมาชิกในกิลด์ทำไม ‘ใช่แล้วลาออก’ ถ้าเราแพ้เราจะลาออกแล้วเราก็สามารถที่จะพาคนอื่นที่ๆสมัครใจไปกับเราด้วยได้ แต่ก่อนที่จะพูดคำตอบที่มีในหัว สลิปก็ถูกเจสเปอร์ชิ่งตัดหน้าพูดซะก่อน

“หากนายแพ้แล้วขอลาออกมันก็ดูไม่ค่อยเหมาะ งั้นเอายังงี้ หากฉันแพ้ฉันยินดีมอบตำแหน่งหัวหน้ากิลด์นี้ให้กับนายเลยก็ได้หรือจะทำอะไรกับสมาชิกพวกนี้ก็แล้วแต่นาย ส่วนถ้านายแพ้คำตอบของฉันมีเพียงข้อเดียว คือนายต้องอยู่กิลด์นี้ไปชั่วชีวิต”

“ได้ เอาตามที่นายว่า”

สลิปกล่าวอย่างมั่นใจ ก่อนที่จะเปิดหน้าต่างการต่อสู้เพื่อส่งคำขอท้าดวลไปให้เจสเปอร์

[คุณต้องการท้าดวล ผู้เล่นเจสเปอร์ ใช่หรือไม่] : [ใช่]

เจสเปอร์กดยินยอมท้าดวลตามความต้องการ แต่ถึงยังไงเขาก็ได้ปลดดาบอีเทอนัลวอร์เบลดและอุปกรณ์ทั้งตัวให้เหลือเพียง เซ็ตสลักอาคมเพื่อเป็นการต่อให้ เพราะถึงยังไงเขาก็ได้เปรียบกว่า สลิป หลายเท่าตัว ด้วยเลเวลที่เหนือกว่า ค่าสถานะและแต้มสกิลที่ได้รับมากกว่าคนทั่วไปจากฉายา ‘ผู้เลื่อนขั้นคนแรก’ ที่เขาได้รับมาจากตอนพิชิต การสอบเลื่อนขั้นตั้งแต่วันแรกๆที่เกมเปิด

สัญญาณนับถอยหลังเริ่มต้นขึ้น เพื่อนในกิลด์ที่ล้อมวงกระจายตัวออกจากพื้นที่ พลางมองสลิปด้วยความเป็นห่วง

อามมี่ : หมอนั่นช่างไม่รักตัวเองซะเลยถึงไปท้าสู้ เจสเปอร์แบบนั้น

ลูอิส : ว่าแต่ทวิสเต็ด นายไปพูดอะไรให้เจ้าคนใหม่กันถึงได้กล้าขนาดนี้

ทวิสเต็ด : ฉันแค่บอกว่า หากสงสัยอะไรก็หาคำตอบด้วยตัวเองก็แค่นั้น แต่ไม่คิดว่าหมอนั่นจะตีความผิดไปแบบนี้

“...”

ทุกคนที่ได้ยินต่างนิ่งอึ้งแม้การต่อสู้นี้จะไม่ถึงตายก็ตาม แต่เมื่อทุกคนนึกถึงรสชาติการได้ดวลกับเจสเปอร์ในการฝึกแบบนี้ ร่างของพวกเขาก็แทบจะสั่นสะท้าน ขนาดไอรีนที่เป็นผู้รักษาและเป็นถึงสาวสวยยังไม่รอดพ้นจากเงื้อมมือของเจสเปอร์ แล้วสลิปที่พึ่งเข้ามาจะเป็นยังไง

“พวกนายอย่าเพิ่งไปสนใจกับคำพูดของทวิสเต็ดเลย เป็นห่วงเจ้าหนูนั้นกันดีกว่า ดูสิ เจสเปอร์ถอดชุดเดิมและมาใส่เซ็ตสลักอาคมชุดเริ่มต้นนั้นอีกแล้ว”

“ซวยของแท้”

แทบจะเป็นคำพูดประโยคเดียวกัน ที่ทุกคนอยากจะพูดออกมา แต่ถึงพวกเขาจะร้องตะโกนจนสุดเสียงให้สลิปหนีไปและยกเลิกการต่อสู้ซะ แต่ระบบการต่อสู้ก็ได้ปิดกั้นเสียงภายนอกเอาไว้ทั้งหมดแล้ว

‘ดูสิคนพวกนี้กระโดดโลดเต้นเพื่อเชียร์ตนอยู่ทุกคนคงจะอึดอัดกับชายคนนี้มาสิน่ะถึงได้ตะโกนให้กำลังใจตน’

สลิปยิ้มกลับไปให้กับผู้ชมรอบสนามและนั้นเป็นรอยยิ้มสุดท้ายของวันนี้ที่คนอื่นๆจะได้เห็น

5

4

3

2

1... FIGHT!!

แส้ในมือของสลิปขยับออกไปแทบจะทันทีกับเสียงสัญญาณ มันลอยพุ่งตรงเพื่อจะโอบรัดร่างของเจสเปอร์ที่อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะ...

‘พรึบ’ เจสเปอร์เบี่ยงตัวเอี่ยวออกด้านข้างเล็กน้อย แส้ที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วก็ลอยผ่านร่างของเขาไปเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ

แต่ในมุมมองของสลิป เขาแค่พลาดเป้าไปนิดเดียวเท่านั้นหากครั้งหน้าโดนเขาเชื่อว่าจะสามารถเอาชนะคนผู้นี้ได้แน่ ชายหนุ่มยังคงไม่ย่อท้อ ก่อนที่จะใช้สกิล Hook ออกไปอย่างต่อเนื่อง แต่ผลที่ได้รับกลับมาทุกครั้ง คือการพลาดไปอย่างฉิวเฉียด

‘อีกนิดถ้าฉันปาเลี้ยวออกอีกนิด โดนแน่’

มันเหมือนจะเป็นการปลอบใจตัวเอง แต่ตัวสลิปเชื่อแบบนั้นจริงๆ

“ต่อให้นายขว้างมาเป็นร้อยเป็นพัน ก็ไม่มีทางถูกตัวฉันหรอก” เจสเปอร์ถอนหายใจ เขาไม่ได้ต้องการพูดข่มให้สลิปหัวเสีย แต่ความหมายที่เขาจะบอกก็คือ หากสลิปยังฝืนใช้เทคนิคเดิมซ้ำๆอยู่แบบนี้ไม่นานก็จะถูกอ่านทางออก ถึงแม้คู่ต่อสู้จะไม่ใช่เขาก็ตาม

จากความมั่นใจเริ่มเปลี่ยนเป็นความหงุดหงิด ยิ่งได้ยินคำพูดจากเจสเปอร์เมื่อครู่ด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้ผู้เบิกทางสลิป ร้อนรน

‘นี้สินะจุดเริ่มต้นของผู้เบิกทางชั้นยอดจากในอดีต ฉันต้องเร่งให้นายเติบโตขึ้นให้มากกว่านี้แล้วสินะ’

สกิล Hook ลอยมาทางเจสเปอร์อีกครั้ง แต่คราวนี้เขาเลือกที่จะไม่เอี่ยวตัวหลบอีกต่อไปเพราะขณะนี้ เจสเปอร์กำลังวิ่งสวนเข้าใส่แส้ตะขอที่ลอยมา ชั่วขณะก่อนที่ตะขอจะพันเข้ากับร่างผู้ควบคุมธาตุ เจสเปอร์ก็เร่งความเร็วของเขาขึ้นอีกขั้น

การกระทำของเจสเปอร์ไม่ใช่แค่หลบเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่รวมถึงการบุกโจมตีที่ทรงพลังควบคู่ประสานไปด้วยกัน

เพียงชั่วแวบเดียวเจสเปอร์ก็พุ่งทยานปรากฏขึ้นตรงหน้าผู้เบิกทางสลิปราวกับผี ก่อนที่จะทิ่งแทงดาบสลักอาคมเข้าใส่ร่างของสลิปจนกระเด็น ทุกอย่างๆเกิดขึ้นภายในไม่ถึงเสี้ยววินาที การโจมตีที่สองก็ตามมากระหน่ำซ้ำต่ออย่างรวดเร็ว

‘อั่ก!’ ค่าความเสียหายที่สลิปได้รับอาจไม่สูงมากนักแต่ชายคนนี้เป็นเพียงแค่ผู้ควบคุมธาตุเท่านั้นไม่ใช่หรือไง ทำไมถึงได้รวดเร็วขนาดนี้ ความเร็วนี้เทียบเท่ากับทวิสเต็ดเลยด้วยซ้ำ...ไม่สิ ชายคนนี้เร็วและยังทรงพลังมากกว่านักฆ่าคนนั้นมาก

เสต็ปการเคลื่อนที่เป็นสิ่งที่สำคัญมากในเกม The Era Online หากใครได้ฝึกฝนจนชำนาญและเชี่ยวชาญเหมือนกันกับเขา ความเร็วที่ว่านี้ก็เป็นเสมือนเรื่องกล้วยๆเท่านั้นเอง

การปะทะของเจสเปอร์และสลิปยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แต่มันเป็นเหมือนการสู้เพียงฝ่ายเดียว เพราะสลิปแทบจะไม่สามารถป้องกันดาบของเจสเปอร์ที่กระหน่ำ ฟาดฟัน ลงมาได้เลยแม้แต่ดาบเดียว

มันเป็นการบุกอยู่ข้างเดียว หากเปรียบเป็นกีฬาฟุดบอลคงจะถูกเรียกว่า พับสนามบุก ก็ว่าได้ สภาพของสลิปแม้เขาอยากตอบโต้ แต่ทันทีที่จะยกแส้ขึ้นฟาดมือของเขาก็ถูกเจสเปอร์เอา สันดาบทุบตีลงมา

สลิปไม่สามาถที่จะอดทนต่อการรับการโจมตีต่อไปได้แล้ว เขาอยากให้การต่อสู้นี้จบลงเสียทีและในที่สุดหลังจากที่พลังชีวิตของสลิปอยู่ในจุดอันตราย ระบบการดวลก็ประกาศผลผู้ชนะ เป็นอันสิ้นสุดการประลอง

“ทำไมนายถึงได้แข็งแกร่งแบบนี้” ล้มตัวลงนอนแนบไปกับพื้น พลางแหงนหน้ามองเจสเปอร์ที่เดินจากไป

“นี้มันแค่เริ่มต้นเท่านั้น ส่วนข้อตกลงที่ฉันบอกว่าหากนายแพ้ต้องอยู่กิลด์ฉันไปชั่วชีวิต ฉันพูดเล่น นายสามารถไปตามทางของนายตลอดเวลา”

เจสเปอร์ทิ้งคำพูดสุดท้ายเอาไว้ก่อนที่จะเดินจากไป เคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า ‘คนไม่มีใจถึงจะรั้งให้ตายยังไงก็ไปอยู่ดี’ กันบางไหม นั้นแหละคือสิ่งที่เจสเปอร์เลือกกระทำ ถึงสลิปจะแข็งแกร่งมากแค่ไหน มีอาชีพที่วิเศษมากเท่าใด หากสุดท้ายแล้วไม่มีใจที่จะอยู่กิลด์ Rising Sun เขาคนนี้ก็ไม่ขอเหนี่ยวรั้งไว้

“นายรีบเกินไปที่จะไปขอท้าประลองกับเจสเปอร์แบบนั้น นายอยากรู้ใช่ไหมว่าทำไมทวิสเต็ดถึงยอมมาอยู่กิลด์นี้ คำตอบก็คือ เจสเปอร์นั้นละ หากนายไม่เชื่อลองให้หมอนี้ตอบคำถามที่สงสัยก็แล้วกัน” อามมี่เดินมาดึงสลิปที่นอนอยู่กับพื้นด้วยความเห็นใจ ก่อนที่จะแยกตัวออกมาให้ ทวิสเต็ดเข้าไปเคลียข้อสงสัย

“หากนายคิดว่า นั้นคือฝีมือของชายคนนี้แล้วละก็นายคิดผิด เพราะนี้มันแทบจะไม่ถึงครึ่งหนึ่งที่ชายคนนี้ทำได้ด้วยซ้ำ หากฉันบอกว่าอาวุธและอุปกรณ์ที่หมอนั้นสวมใส่ตอนสู้กับนายคือชุดเริ่มต้นเลเวล 5 จะเชื่อไหม”

“จะเป็นไปได้ยังไงความเร็วและความแข็งแกร่งของหมอนั้นที่ไล่อัดฉันจบหมอบ คือของเลเวล 5 เนี่ยนะ”

“ฉันเองก็ถูกหมอนั้นฆ่าไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ จนสุดท้ายก็ต้องมาเข้าร่วมอย่างที่นายเห็น”

“...”

...โปรดติดตามตอนต่อไป...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด